My Gig Gear Part 1: Digitech Crossroads ที่กำัลังจะพูดถึงเป็นตัวแรกก็คือเอ็ฟเฟ็กต์กีตาร์จาก Digitech ที่ชื่อว่า Crossroads ครับ เป็นหนึ่งในซีรีส์ Artist ของดิจิเทคครับ นับถึงตอนนี้ออกมา 4 รุ่นแล้ว คือ Jimi Hendrix Experience, Crossroads, Scott Ian Black-13 และ The Weapon ตัว Crossroads นี่ผมได้มาเล่นประมาณห้าหกเดือนแล้วล่ะครับ ก็ได้แต่ต่อแอ็มป็เล่นแจมกับเอริค แคล็ปตันอยู่ที่บ้านคนเดียว เพิ่งได้เอามาเล่นกับวงเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง Digitech Crossroads เป็นกีตาร์เอ็ฟเฟ็กต์ที่จำลองเอาเสียงกีตาร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเอริค แคล็ปตัน 7 แบบมาใส่ไว้ในเอ็ฟเฟ็กต์ตัวเดียว เรียกได้ว่า เอากีตาร์โปเกอะไรมาเสียบ ดีดออกมาบึ้มเดียวนี่เป็นเอริค แคล็ปตันเลย (อย่างน้อยก็เฉพาะเสียงกีตาร์) เจ็ดเสียงที่ว่านี่ก็มีเสียงจากเพลงต่างๆเหล่านี้ครับ Sunshine of Your Love Badge Lay Down Sally Reptile Crossroads Layla Layla (Acoustic) Reptile ก็เป็นเรื่องของ digital signal processing ล้วนๆเลยครับ ใช้เทคโนโลยีจำลองเสียงกีตาร์-เอ็ฟเฟ็กต์-แอมป์ที่เอริค แคล็ปตันใช้ (และเคยใช้)--ดิจิเทคเรียกเทคโนโลยีนี้ว่า Production Modelling โดยทั้งหมดนี่ ดิจิเทคบอกว่า ได้ปรึกษากับเอริค แคล็ปตันและลี ดิคสัน (Lee Dickson) ซึ่งเป็นช่างกีตาร์ประจำตัวอย่างใกล้ชิด ผลออกมา...เสียงเหมือนที่เอริค แคล็ปตันเล่นเด๊ะๆเลยล่ะครับ แม้กระทั่งเสียงน้อยส์ที่ออกมาจากแอมป์ก็จำลองมาด้วย (ซึ่งผมว่าค่อนข้างน่ารำคาญถ้าเล่นอยู่คนเดียว หรือซ้อมโดยใช้หูฟังต่อกะแอมป์ แต่ถ้าเล่นกับวงก็โอเคครับ เสียงเบสเสียงกลองและอื่นๆกลบหมด) นี่ว่าจะเอา Noise Suppressor มาลองใช้ดู ที่ชอบที่สุดในบรรดาโมเดลเสียงทั้งเจ็ดแบบนี้ เห็นจะเป็น Layla ครับ และก็เป็นโมเดลที่มีเสียงฮัมออกมารบกวนมากที่สุดเหมือนกัน รองลงมาเห็นจะเป็น Sunshine of Your Love และ Badge (อันหลังนี่จำลองเอาเสียงลำโพงโรตารีมาด้วยเลย) ที่ไม่ชอบที่สุดเห็นจะเป็น Layla (Acoustic) ซึ่งผมว่า เสียงมันไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ ไม่เหมือนเสียงที่ได้จากกีตาร์โปร่งเท่าไหร่ (แต่ถ้าไปเปิดฟังนี้จากอัลบั้ม Unplugged จะเห็นว่าค่อนข้างเหมือนทีเดียว ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันผมถึงไม่ค่อยชอบเสียงนี้จากเอฟเฟ็กต์ตัวนี้เท่าไหร่ ใช้กีตาร์โปร่งธรรมดาๆยังจะเพราะกว่า) การใช้งาน...จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่าไม่สะดวกก็ไม่สะดวกครับ ที่ว่าง่ายก็คือ มันมีปุ่มหมุนแค่สี่ปุ่ม คือเป็น Volume ซะปุ่มนึง Tone Control สองปุ่ม และปุ่มเลือกโมเดลอีกปุ่มนึง แล้วก็เป็นสวิทช์เท้าสำหรับปิด-เปิดเอ็ฟเฟ็กต์ เท่านั้นเอง ที่ว่ามันไม่สะดวกก็คือ เวลาจะเปลี่ยนเสียงเอ็ฟเฟ็กต์ทีก็ต้องก้มลงมาหมุนปุ่มทีนึง เปลี่ยนเสียงกลางเพลงโดยใช้เท้าเหย๊ยบไม่ได้ (ผมว่ากลุ่มเป้าหมายหลักคงจะเป็นสตูดิโอมากกว่า) เอ็ฟเฟ็กต์ตัวนี้ใช้ได้ทั้งอะแด๊ปเตอร์ 9 โวลต์ หรือถ่านอัลคาไลน์ 9 โวลต์ครับ แต่ถ้าใครจะหามาเล่นแนะนำว่าใช้อะแด๊ปเตอร์จะดีกว่า เพราะค่อนข้างเปลืองถ่านพอสมควร เพราะมันมีวงจร DSP อยู่ข้างใน โดยรวมผมชอบเอ็ฟเฟ็กต์ตัวนี้ค่อนข้างมากครับ หลังจากได้ตัวนี้มา มัลติเอ็ฟเฟ็กต์ที่มีอยู่นั่นก็แทบไม่ได้ใช้เลย (เอามาใช้กับกีตาร์โปร่งแทน ใช้แค่เป็นรีเวอร์บเท่านั้นเอง) เดี๋ยวอาทิตย์หน้าคงได้ Noise Suppressor มาลองใช้ดู ถ้ามันช่วยได้เยอะผมคงดีใจน่าดู ![]() ไอ้หยา กีต้าร์ โปเก กลายเป็น ลุง clapton ได้เชียวรึ...แต่ผมอยากได้ แบบที่ทำให้ ฝีมือ โปเก กลายเป็น ฝีมือแคลปตัน ได้มากกว่าครับ อิอิ
![]() โดย: สาหร่าย (แร้ไฟ
![]() หวัดดีมด โธ่ นึกว่าใคร สบายดี? ได้ข่าวว่า ถอยรถแล้วที่นั่น
![]() โดย: BigNose IP: 221.128.109.177 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2548 เวลา:12:43:45 น.
ไม่ได้ถอยอย่างเดียว ขัีบไปข้างหน้าก็ได้ด้วย (ซื้อมาขับได้สิบสี่เดือนแล้วล่ะ)
....แล้วใครล่ะเนี่ย โดย: บูมเมอร์ IP: 61.14.140.67 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:9:55:27 น.
อ้อ นึกออกละ เป็นไงมั่งล่ะ ได้ข่าวว่าออกหนังสือขายแล้วนี่นา ไม่เลว ไม่เลว
โดย: บูมเมอร์
![]() ซีรี่นี้อยากได้ Wha Wha Jimi Hendrix Experience แต่ตัวนี้ก็น่าสน แฮ่ ๆ พูดไปงันแหละครับหาเงินก่อนเป็นสำคัญ
![]() โดย: slowboy2525
![]() อ้อหาทางออกใหฟ้ชีวิตได้แล้วต่อ Effect เอง
โดย: slowboy2525
![]() เขียนหนังสืองานอดิเรก ตอนนี้ธุรกิจขายกล้วยแขกไปได้ดี น่าจะลงตัวแล้ว เลยมีเวลาหนีงานมาเขียน blog
![]() โดย: BigNose IP: 58.11.41.36 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2548 เวลา:12:36:02 น.
ถ้ามาช่วงหกเจ็ดเดือนก่อนหน้านี้ก็คงไม่เจอเพราะเพิ่งย้ายกลับมาจากเมลเบอร์นเมืื่อสองอาทิตย์ก่อนนี่เอง
โดย: บูมเมอร์ IP: 147.10.219.205 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2548 เวลา:22:03:03 น.
|
บทความทั้งหมด |