การเมือง-การทหาร ตอน มองเกมส์การเมืองในกรณีพายุไซโคลนนาร์กิสที่พม่า มันเป็นเรื่องการเมืองล้วน ๆ ครับ บทความนี้จะพูดถึงในแง่ของการเมือง เพราะถ้าพูดถึงในแงของมนุษยธรรม ไม่มีประเด็นอื่นนอกจากรีบช่วยเหลือโดยเร็ว แต่เหตุการนี้คือสถานการณ์ทางด้านมนุษยธรรมที่มีการเมืองเจือปนในทุกแง่มุม ... ... ... ความจริง จีนก็ไม่รับความช่วยเหลือจากตะวันตกนะครับ จีนรับสิ่งของช่วยเหลือจากทั่วโลก แต่จีนปฏิเสธทีมกู้ภัยจากตะวันตก รับแต่ทีมกู้ภัยจากประเทศที่จีนอยากรับ จีนต้องการแสดงศักยภาพในการกู้ภัยของตน ซึ่งจีนก็ทำได้ดีมาก วันแรก ๆ ที่เกิดเหตุจีนก็ระดมทหารจากกองทัพปลดปล่อยเข้าไปช่วยได้แล้วเกือบ 50,000 คน กลุ่มแรกที่เข้าไปคือทหารพลร่มด้วยนซ้ำครับ กระโดดร่มลงไป เพราะเส้นทางบนถนนถูกตัดขาด ผู้นำของจีน นายกรัฐมนตรีของจีน ออกมาประกาศว่า เราจะช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้ถึงที่สุด ทุก ๆ วันนายกรัฐมนตรีของจีนจะออกมาแถลงข่าวว่า ไม่ว่ายังไงเราก็จะไม่มีทางหยุดค้นหาผู้รอดชีวิต จนมาประกาศหยุดเมื่อวันสองวันก่อนเนื่องจากเห็นว่าไม่น่าจะมีผู้รอดชีวิตแน่นอนแล้ว โอ้โห งานนี้รัฐบาลจีนได้ใจคนจีนไปเยอะมากครับ เหตุการณ์ตอนนี้คล้าย ๆ กับเหตการณ์ตอนสึนามิบ้านเรา คนจีนรวมตัวกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มีความรู้สึกร่วมกัน แต่ด้วยเหตุผลเดียวกัน พม่ากลับทำไม่ได้แบบจีน นี่สิครับเรื่องใหญ่ คล้ายจีนมาก พม่าไม่รับความช่วยเหลือจากตะวันตก ไม่รับทีมกู้ภัยจากต่างชาติ แต่การช่วยเหลือผู้ประสบภัยของรัฐบาลทหารพม่า ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เมืท่อบวกกับแรงประชาสัมพันธ์ที่หวังผลทางการเมืองจากตะวันตก เรื่องนาร์กิสจึงดังไปทั่วโลกในแง่ลบมาก ๆ แต่ก็ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า หลาย ๆ อย่างที่ตะวันตกพูด มันก็คือเรื่องจริง มองไปอีกด้าน ตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐและฝรั่งเศสต้องการจะเข้าไปช่วยเหลือในพม่ามาก ๆ มันมีวาระซ้อนเร้นทั้งนั้นครับ ไม่ว่าจะเป็นการวิจารณ์รัฐบาลทหารพม่าให้กระทบไปถึงการพัฒนาประชาธิปไตย พูดไปจนถึงการเอาเรื่องการกักบริวเณนางออง ซาน ซูจี เข้ามาเกี่ยว ถึงขนาดปล่อยข่าวแผนการบุกเข้าไปทิ้งสิ่งของทางอากาศ เมื่อไม่กี่วันมานี้รัฐสภายุโรปถึงกับลงมติให้เอานายพล ตาน ฉ่วยขึ้นศาลอาญชกรสงครามระหว่างประเทศ กองทัพสหรัฐลงทุนลดสเกลการฝึก Cobra Gold โดยส่งเรือรบ USS Essex ซึ่งเป็นเรือบัญชาการยกพลขึ้นบก (หน้าตาคล้าย ๆ เรือจักรีของเรา แต่ใหญ่กว่ามาก) วิ่งอ้อมแหลมมลายูไปลอยลำในอันดามัน เครื่องบินขนส่งเข้าวางกำลัง ณ กองบิน 4 ตาคลีเพื่อรอขนส่งของช่วยเหลือ ทุก ๆ หน่วยเตรียมพร้อมเข้าไปทั้งสิ้น แต่คนที่ได้เข้าไปคนแรกกลับเป็นประเทศไทย ตามมาด้วยอินเดีย จีน สิงคโปร์ และประเทศอื่น ๆ ที่พม่า "เลือกแล้ว" สหรัฐทุกวิถีทางอยู่เป็นอาทิตย์ ใช้ทั้งกลไกการฑูต องกรณ์ระหว่างประเทศ และสื่อ กว่าที่พม่าจะยอมให้เข้าไป ที่ยอมให้เข้าไป ก็มีแต่เครื่องบินที่เอาสิ่งของไปลงที่สนามบินเท่านั้น ไม่มีการเข้าไปแจกจ่ายถึงตัวแบบในอินโดนิเซีย ถ่ายของลงมา พม่าจะเอารถมารับเอง แต่สำหรับประเทศที่พม่าเลือกแล้ว นอกจากขนส่งสิ่งของบรรเทาทุกไปที่สนามบิน ยังได้รับอนุญาตให้ส่งหน่วยแพทย์และหน่วยกู้ภัยลงพื่นที่ ไม่ใช่ว่าผมเห็นด้วยกับพม่า ..... แต่ถ้าผมเป็นพม่า ผมก็จะทำอย่างนี้ มองในแง่การเมือง ...... การปล่อยให้ประเทศตะวันเข้าไปช่วย มันจะสั่นคลอนสถานะของรัฐบาลทหารพม่าที่ประชาชนพม่าจะมองว่ารัฐบาลทหารพม่ายอมให้ตะวันตกอดีตเจ้าอาณานิคมเข้ามาอีกครั้ง ตะวันตกจะได้มีโอกาสเก็บภาพและข้อมูลแบบ "First Hand Experience" ในพม่า ซึ่งสามารถนำไปขยายผลในอนาคตได้ว่ารัฐบาลทหารพม่าเลวร้ายแค่ไหน นอกจากนั้นตะวันตกยังสามารถเข้าไปสื่อสารกับประชาชนของพม่าซึ่งไม่ค่อยชอบรัฐบาลทหารพม่าเท่าไหร่โดยตรงได้ มองในแง่การทหาร ...... แค่เอาเครื่องบินบินผ่านพื้นที่ประสบภัย แค่นี้ก็ได้อะไรเยอะแล้วครับ ระบบลาดตระเวนทางอิเล็กทรอนิคต์สมัยนี้สามารถตรวจจับและระบุตำแหน่งที่ตั้งของระบบเรด้าร์และระบบเครื่องข่ายอิเล็กทรอนิคต่าง ๆ ได้ รูปถ่ายที่ถ่ายกลับมามีค่ามากมาย ทำได้ถึงขนาดให้สายลับแฝงตัวเข้าไปกลับกลุ่มทีมกู้ภัยเพื่อเก็บข้อมูลก็ได้ พม่าคิดแล้ว ไม่คุ้มเสีย ไม่เอาดีกว่า พม่าคิดว่า สู้ให้ประเทศที่ไว้ใจได้เข้าไปดีกว่า เพราะอย่างน้อยก็ยังไม่น่าจะมีเรื่องหยุมหยิมตามมามากนัก ความจริง คนผิดงานนี้ ผมอยากโทษอาเซียนมากกว่าด้วยซ้ำครับ อาเซียนช้ามาก ... อาเซียนปล่อยให้ชาติตะวันตกวิจารณ์พม่าฉอด ๆ ปล่อยให้จีน อินเดียเข้าไปช่วยเป็นเจ้าแรก ๆ ... ไทยที่เข้าไปช่วยเป็นประเทศแรกก็เข้าไปในนามประเทศไทย สิงคโปร์ก็เข้าไปในนามสิงคโปร์ไม่ใช่อาเซียน อาเซียนไปไหนครับ? พม่าคือหนึ่งในสมาชิกอาเซียน แต่กว่าอาเซียนจะประชุมก็ล่วงเข้าไปวันจันทร์ที่ผ่านมา ต้องปล่อยให้คนอื่นโจมตีสมาชิกอาเซียนอย่าพม่าก่อนหรืออาเซียนจึงรู้สึกตัว? .... ทุกคนในระดับที่ประสานงานระหว่างประเทศรู้ดีว่าทำไมพม่าถึงทำอย่างนี้ แต่ก็ยังขยับตัวช้ามาก สมาชิกอาเซียนด่ากันเองยังไม่เป็นไร เพราะเราอยู่ในองค์กรเดียวกัน การวิจารณ์กันจึงเป็นสิ่งที่ทำได้ แต่ยิ่งชาติตะวันตกเอาแต่ด่าพม่าอย่างนี้ อาเซียนยิ่งเสียเครดิต ......... ถ้าอาเซียนยื่นมือเข้าแทรกแทรงตั้งแต่ต้น โดยติดต่อกับพม่าให้อาเซียนเป็นแกนกลางในการรับความช่วยเหลือเข้าสู่พม่าจากทุกประเทศ ให้ไทยเป็นฐานการส่งความช่วยเหลือหลักแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เรื่องมันจะจบเร็วมาก เพราะวันจันทร์ที่ผ่านมาพม่าก็พูดชัดในกระประชุมอาเซียนว่าด้วยวิกฤตในพม่าว่า ถ้าความช่วยเหลือใด ๆ ที่มาจากอาเซียนพม่าจะถือว่าไม่มีวาระซ้อนเร้น (No Hidden Agenda) ถ้าทำอย่างนี้ตั้งแต่ต้น พม่าตอบรับความช่วยเหลือทุกอย่างตั้งแต่วันสองวันแรกแน่นอน อาเซียนก็ทำหน้าที่เลือกทีมกู้ภัยที่จะเข้าไปซึ่งอาเซียนก็สามารถเลือกตามใจพม่าก็ได้คือเลือกทีมจากกลุ่มอาเซียน จีน อินเดีย ฯลฯ ตะวันตกก็หมดสิทธิ์บ่น เพราะงานนี้อาเซียนทำเอง ไม่ใช่พม่า นี่เป็นอีกครั้ง ที่อาเซียนแสดงให้เห็นถึงความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารงาน กลไลอาเซียนเป็นกลไลที่ดีและน่าภาคภูมิใจของชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่อาเซียนต้องปรับปรุงตัวให้มากกว่านี้ครับ หลังจากเราได้กฏบัตรอาเซียน (ASEAN Charter) แล้ว ขั้นต่อไปคือพยายามตั้งชุมชนอาเซียน (ASEAN Community) ให้ได้โดยเร็ว เพื่อรวมกลุ่มกันสร้างความเข้มแข็งแข่งกับดาวรุ่งในภูมิภาคอื่นอย่างจีนและอินเดีย เมื่อ ASEAN Community ประสบความสำเร็จ หนทางที่จะไปสู่ ASEAN Union แบบสหภาพยุโรปก็อยู่ไม่ไกลเกินไป แต่ถ้ายังทำงานแบบนี้อยู่ อาเซียนก็ยังเป็นองค์ที่ภูมิภาคอื่นหัวเราะใส่ต่อไป ปรับตัวครับ ทุกอย่างคือการติเพื่อก่อ เราต้องปรับตัวเพื่อแข่งขันกับภูมิภาคอื่น การร่วมมือกันของสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ชาติเท่านั้นจึงจะเป็นหนทางไปสู่การลดความขัดแย้งระหว่างกัน และสร้างองค์กรที่จะนำภูมิภาคนี้ให้แข็งขันกับโลกได้ ขอเอาใจช่วยให้ ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียนทำงานให้เต็มที่ครับ จ่อย เจิม เหม่ง
โดย: นางน่อยน้อย วันที่: 24 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:09:28 น.
^
^ ^ คราวนี้มาทันแฮะ ^ ^Y .... เราไปแระนะ จะออกไปกินข้าวฟรีกับหมอ JFK อิอิ โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 24 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:14:02 น.
บทความนี้เขียนได้ดี
และมีวุฒิภาวะสูงมากครับพี่โย ขอชมเชยนะครับ ผมก็คิดแบบพี่โยครับ การเมืองระหว่างประเทศมันเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนบนผลประโยชน์ บ้านเราเองก็เป็นครับ ครั้งที่เกิดสึนามิ หลายประเทศให้ความช่วยเหลือแบบมี "เงื่อนไข" และมีการ "ทวงบุญคุณ" ผ่านสัญญาอันไม่เป็นธรรมและเอารัดเอาเปรียบ ผมไม่แน่ใจว่านักปกครองของเราตระหนักในความจริงข้อนี้หรือไม่ หลายคนจบจากอมเริกา อังกฤษ ถามว่าประเทศเหล่านั้น ได้หล่อหลอมแนวคิดแบบตะวันตกจ๋าๆแบบนี้ กลับมาบ้านเราหรือไม่ ? ทุกวันนี้เราเดินตามรอยเท้าของเขา แต่ทำไมไ่ด้อย่างเขา เราได้แต่หลักการ แต่ไม่รู้จักพลิกแพลงเพื่อให้เหมาะกับการปกครองของตนเอง นี่ต่างหากที่น่ากลัวกว่าการปกครองด้วยระบบ จะเป็นระบอบใดไม่สำคัญ เท่ากับผู้ปกครองมีความสามารถหรือไม่เท่านั้น ยิ่ งในโลกยุคที่ต้องการ "พลัง" และ "ความรวดเร็ว" อย่างมาก เราต้องถามตัวเองดังๆว่าผู้นำของเรา เข้มแข็งพอหรือยัง โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) วันที่: 24 พฤษภาคม 2551 เวลา:18:58:11 น.
พี่ว่าแกเปลี่ยนมาเรียนแถวๆ คณะที่พี่จบมาดีกว่าไหม
comment รอบด้านดีนะ พี่เห็นด้วยอย่างแรงเรื่องความแตกต่างของจีนและพม่าในเรื่องวิฤตการณ์ครั้งนี้นะ จีนมี "ปัญญา" ช่วยเหลือตัวเองได้ การไม่รับความช่วยเหลือ ก็ไม่แปลก แต่พม่าไม่ใช่ ส่วนเรื่องเขาจะตัดสินใจเพราะเหตุผลอะไร มันคืออีกเรื่อง ไม่ใช่เรื่องความสามารถของตัวเองแล้วมั้ง ปล. ว่าแต่ครั้งนี้ รีบร้อนพิมพ์ไปป่ะ สะกดผิดเพียบเลย เช่น "สหรัฐทำทุกวิถีทางอยู่เป็นอาทิตย์ ใช้ทั้งกลไกการทูต องค์กรระหว่างประเทศ และสื่อ" โดย: picmee วันที่: 25 พฤษภาคม 2551 เวลา:2:17:12 น.
ดีใจด้วยจ้าคุณโย
ที่จะหายเปื่อย เอ๊ยพี่หมีขอโทษค่ะ ที่จะหายป่วยแล้ว โดย: หมีสีชมพู วันที่: 25 พฤษภาคม 2551 เวลา:3:59:26 น.
แวะมาเยี่ยมคนเปื่อย
แล้วก็ทำบล๊อกใหม่แล้ว จริงๆน้าก้อยของหลานๆพิมพ์ให้ ไม่งั้น ก็คงไม่ได้อัพ 555 โดย: เพลงเสือโคร่ง วันที่: 25 พฤษภาคม 2551 เวลา:4:50:57 น.
ว่าแต่....เราหารูปตอนพม่าโดนพายุถล่มนี่ไม่ค่อยเจอเลยเนอะ
คุณโยพอจะมีภาพ หรือคลิป มาฝากบ้างป่าวค๊ะ โดย: unsa วันที่: 25 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:07:47 น.
ดูข่าวพม่าเห็นแววตาประชาชนพม่ารู้สึกอย่างเดียวหดหู่
โดย: นางน่อยน้อย วันที่: 25 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:34:04 น.
|
บทความทั้งหมด
|