ฮันนีมูนรับลมหนาว in เชียงใหม่ ... ตอนที่ 3
lozocat


สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ วันนี้ได้ฤกษ์มาอัพบลอกกันต่อซะที
อัพทริปฮันนีมูนที่ค้างเติ่งไว้ที่ตอนที่ 2
แต่ก่อนอัพขอบ่นนิดนึงเหอะค่ะ แบบว่าหมู่นี้กระเพาะลำไส้ไม่่ค่อยดีเอาซะเลย
อาหารเป็นพิษอีกแล้วค่ะ เซ็งๆ ตั้งกะกินยาคูลท์หมดอายุ 7 วันไปนี่แหละ
คราวนี้ไปหม่ำส้มตำกะคุณแฟนค่ะ แต่สุดที่รักไม่เป็นไรเลย
แต่เราสิ ตื่นเช้ามาก็ปวดท้อง ถ่ายกันแต่เช้า คลื่นไส้อาเจียนอีกด้วย
ทรมานมาก เพราะเช้าวันนั้นมีแต่งแฟชั่นโชว์ที่คลอง 6
นัดเจอกับเพื่อนๆ ที่ MTI ตอน 6 โมงเช้า
รีบหายาแก้ปวดท้อง แก้อาเจียน พร้อมกะแก้ท้องเสียมากิน
แล้วนั่งรถไปทันที แต่พอไปถึง เพื่อนๆ ในทีมเห็นหน้า
ไล่กล้บบ้านแทบไม่ทัน บอกว่าหน้าซีดมาก กลัวจะไปเป็นอะไรตอนทำงาน
พอพี่แป๋ม -ผจก รร มาถึง ก็เลยลากขึ้นรถ ขับพาไปส่ง รพ
สรุปว่าเลยอดไปทำงาน 1 วัน เพื่อนๆ บอกไม่ต้องเป็นห่วงงาน ห่วงตัวเองก่อนเหอะ
ตอนแรกว่าจะนั่งแท็กซี่กลับเอง แต่พี่แป๋มกลัวไปเป็นลมบนรถ
พอไปถึง รพ หมอตรวจไปตรวจมา จะให้อิชั้นเป็นไส้ติ่งอักเสบซะงั้น
คุณแฟนเลยบอกงั้นขอเอายากลับมากินดูอาการก่อนแล้วกัน
เพราะอิชั้นว่ามันไม่น่าจะเป็นไส้ติ่งอ่ะ มันปวดท้องคนละอย่างกันนะ
คือจริงๆ ก็ไม่รู้หรอกว่า ไอ้ปวดไส้ติ่งเนี่ยมันเป็นไงนะ แต่ก็คิดว่าไม่ใช่อ่ะ
ได้พักกินยา 1 วันก็ดีขึ้นค่ะ อาการปวดท้องหายแล้ว หยุดถ่ายแล้วด้วย
แต่ยังเพลียๆ อยู่บ้าง มีปวดเมื่อยตามตัวนิดหน่อย แต่คิดว่าอีกวันสองวันคงจะหายแหละ





บ่นเสร็จก็มาเข้าเรื่องทริปฮันนีมูนกันต่อ เป็นวันที่ 3 ของทริปค่ะ
วันนี้เราวางแผนไว้ว่าขึ้นดอยสุเทพ และแวะไปดูน้องหลินปิงซะหน่อย
เช้าวันนี้อากาศเย็นใช้ได้เลยค่ะ ก็คิดอยู่ว่าขึ้นดอยคงจะหนาวพอสมควร
เลยเตรียมเสื้อกันหนาวไปเผื่อด้วย แล้วก็จริงอย่างที่คิดค่ะ
ลงรถที่ทาง รร ขับมาส่ง ก็เจอกับลมเย็นที่พัดโกรกมาปะทะเลยค่ะ



ตอนนั่งรถขึ้นมาบนดอย ต้องบอกว่าคาดไม่ถึงว่าทางคดเคี้ยวขนาดนี้
แต่ใครๆ ก็บอกว่าทีนี่ยังไม่เท่าไหร่ เด็กๆ เท่านั้น
สำหรับอิชั้นกะคุณแฟนนี่ก็เอาการแล้วล่ะ ลงรถมาได้ก็ยืนไม่ติดพื้นสักพักเลยทีเดียว
ก็เลยตัดสินใจว่าเด๋วคงต้องกินยาแก้เมาไว้สำหรับขาลง ไม่งั้นได้ตายแน่ๆ
คุยกะพี่นัน - คนขับรถ ตอนนั่งรถมา พี่เค้าบอกว่าถ้ากลัวเหนื่อยกระเช้าก็มี
แต่ถ้าอยากสัมผัสพระธาตุของจริง ต้องเดินขึ้นเอง เหอ เหอ เหอ
ครั้นมายืนตรงบันไดทางขึ้นเรากะคุณแฟนก็คิดว่า ไหนๆ ก็มาถึงแล้วน่า
จะมานั่งกระเช้าก็เสียบรรยากาศกันพอดี เลยจูงมือกันเดินขึ้นบันไดคะ
แต่ก่อนขึ้นก็ถ่ายภาพเป็นที่ระทึกกันซะหน่อย





แล้วก็ไม่อยากจะโม้นะคะ เพราะอิชั้นกะคุณแฟนเดินขึ้นบันไดได้แบบรวดเดียว
ไม่ต้องหยุดพักระหว่างทาง แถมไม่เหนื่อยหอบอะไรมากมายด้วยล่ะ อิอิ
แถมระหว่างเดินยังแวะแซวคนนู้นคนนี้ที่นั่งพักกลางทางด้วยอีกตะหาก (นิสัยดีมากเลยกรู)
พอเดินขึ้นไปถึงขั้นสุดท้ายยังแอบ งงๆ ว่าสุดแค่นี้เหรอ เพราะยังไม่เหนื่อยเท่าไหร่
ฟังใครต่อใครเล่ามาว่ามันเหนื่อยมาก สูงมาก พอมาเดินเองเลยไม่มั่นใจ
เอ่ยปากลอยๆ ขึ้นมาว่า สุดแค่นี้เหรอ จนท ที่ประตูได้ยินเข้าเลยบอกว่า
มีอีก 300 ขั้นด้านใน อิชั้นก็เลยจูงมือคุณแฟนเข้าไปเดินหา
แต่เดินให้ตายยังไงก็ไมเจอบันไดซะที เลยคิดว่างานนี้โดน จนท อำเข้าซะแล้ว
วันที่อิชั้นไปอยู่ในช่วงบูรณะพระธาตุพอดี เดินเข้าไปเจอนั่งร้านเต็มไปหมด
เลยถ่ายภาพกลับมาได้นิดเดียว แถมไหว้พระได้ไม่ครบด้วย
เพราะบางส่วนก็ปิดไม่ให้คนเดินเข้าไปอ่ะ เสียดายชะมัดเลย







เหลือบไปเห็นระฆังเล็กๆ ที่คนมาเขียนแล้วแขวนไว้ น่าจะเป็นการเขียนขอพร
อยากจะเขียนบ้างค่ะ แต่ไม่รู้ไปเอาระฆังจากที่ไหนอ่ะ...ก็เลยอดไป



ขากลับออกมาเห็น เอ่อ เรียกว่าฆ้องใช่มั้ยคะ แบบว่าใหญ่มาก
เลยขอถ่ายเก็บไว้หน่อย ใหญ่จริงๆ ยิ่งเมื่อเทียบกะตัวอิชั้นเนี่ย



หลังจากไหว้พระธาตุเสร็จก็ลงมาเที่ยวสวนสัตว์ต่อค่ะ
โดยเหมารถแดงลงมา คนละ 100 บาท ... อิชั้นว่าแพงนะ แต่ก็ขี้เกียจรอรถเต็มอ่ะ
อีกอย่างคือ ไม่อยากไปนั่งแถวยาวด้านหลัง เพราะรู้สึกว่ามันชวนเมารถง่ายมาก
ถึงแม้จะกินยาแก้เมาไปแล้วก็เหอะนะ ก็ไม่อยากเสี่ยงอยู่ดีอ่ะ



หน้าสวนสัตว์มีสตรอเบอร์ีรี่คลุกน้ำตาลขายเป็นถ้วยๆ น่ากินดี
จะว่าไปก็เห็นมีทุกทีอ่ะนะ แต่ตอนนั้นอารมณ์อยากกินอะไรเปรี้ยวๆ หวานๆ แก้เมารถ
เลยซื้อมากิน 1 ถ้วย อร่อยดีนะ สตรอเบอร์รี่ไม่เปรี้ยวเกินไปด้วยอ่ะ



ว่าแล้วก็ไปเดินเที่ยวในสวนสัตว์ซะหน่อยดีกว่า ถ่่ายรูปมาได้ไม่เยอะเท่าไหร่
เพราะรู้สึกว่าสัตว์ดูน้อยๆ สภาพกรงอะไรก็ดูเน่าๆ ไงชอบกล
เหมือนขาดการดูแลเอาใจใส่เลยแฮะ นี่ถ้าไม่มีหลินปิง เราคงผิดหวังมากเลยอ่ะ
เพราะเขาดินที่ กทม ยังน่าดูกว่าเยอะเลยอ่ะ





















เดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงส่วนแพนด้า น้องหลินปิงที่รัก แต่ก็ผิดหวังอย่างแรง
เพราะเพิ่งรู้ว่าเค้าเอาน้องออกโชว์โฉมเฉพาะตอนเช้า และแค่ชั่วโมงเดียว
เหอเหอเหอ งานนี้ไปก็เลยได้ดูแค่แม่หลินฮุ่ย กะ พ่อช่วงช่วง
แต่ก็อ่ะนะ เต็มตาอยู่เหมือนกัน เพราะเดินเข้าไปแล้ว
เห็นชัดเจนมาก ใกล้ชิดเหลือเกิน ภาพแรกที่เจอน้องหลินฮุ่ยก็นั่งรับแขกสุดฤทธิ์











ส่วนพ่อช่วงช่วงก็นั่งหันหลังแทะไม้แบบไม่สนใจใครทั้งนั้น
ที่เห็นอีกด้านของกรงเหล็กนั่นก็แม่หลินฮุ่ยที่กำลังกินน้ำอยู่พอดี











แล้วก็นับว่าอิชั้นนี่โชคดีอยู่ เพราะอย่างน้อยๆ ก็ได้เห็นทั้งพ่อทั้งแม่
แต่คนที่เข้าไปทีหลังสิ จะได้เจอแต่ช่วงช่วงเท่านั้น
เพราะเป็นเวลาที่หลินฮุ่ยต้องเข้าไปดูแลน้องหลินปิงแล้ว
ก็เลยปลอบใจตัวเองว่า ก็ยังดีแหละน่ะ เหอ เหอ เหอ
ออกจากส่วนแพนด้าก็ไปเดินเล่นกันต่อค่ะ ตั้งใจว่าจะเดินให้ทั่วอยู่เหมือนกัน
แต่รู้สึกมึนๆ เหมือนง่วงนอน คาดว่าอาจจะมึนเพราะยาแก้เมานี่แหละ
เพราะเพิ่งสังเกตว่ากินทีไรเป็นทุกที แต่อย่างว่านะ ไม่กินก็ไม่ได้อ่ะ
งานนี้ก็เลยได้ไปเดินต่ออีกนิดหน่อย ดูเสือกะสิงโต ที่นอนอุตุไม่สนใจไรเลยอ่ะ 555







คิดว่าจะขอเดินไปดูโคอาล่าอีกซะหน่อยแล้วค่อยกลับ
แล้วก็กล้าหาญมากที่ใช้วิธีเดินเอา แบบว่าอากาศตอนอยู่ในสวนสัตว์นี่ร้อนชะมัดเลย
เดินมาถึงส่วนจัดแสดงสัตว์น้ำ แต่ไม่ได้เข้าไปดูอ่ะ แบบว่าขี้เกียจ



และแล้วก็เดินมาจนถึงส่วนโคอาล่าจนได้ เรียกว่าเล่นเอาแทบหมดแรงเลยทีเดียว
เพราะทางเดินมันเป็นเนินด้วยอ่ะ บวกกับอาการง่วงนอนเลยหมดแรงง่ายมาก
แต่พอได้เห็นโคอาล่าก็หายเหนื่อยนะคะ น่ารักเชียว ถึงแม้จะหลับอยู่ก็เหอะ





พอออกจากส่วนโคอาล่าก็ตั้งใจว่าจะไปดูเพนกวินต่อ แต่พอกางแผนที่ออกดู
อ่ะโห อีกไกลเลยว่ะค่ะ งานนี้เลยถอดใจขอกลับเลยดีกว่า
อ้างกะคุณแฟน ว่าเคยเห็นตอนเด็กๆ ที่พาต้าปิ่นเกล้าแล้ว
55555555 นานมากกกกกกกกกกกกก

..
..
..

ขากลับพี่นันขับรถมารับหน้าสวนสัตว์ค่ะ แต่ก่อนเข้ารีสอร์ทก็ขอแวะนิดนึง
แบบว่าอยากกินบลูเบอร์รี่ชีสพาย ของเวียงจูมออน อีกสักที
ก็เลยแวะไปซื้อ แต่ห่อกลับมารีสอร์ทแทนค่ะ
แต่พอได้ชิมแล้ว อืมมม เราว่ายังเฉยๆ อ่ะนะ แต่เครปกล้วยอ่ะอร่อยจริงๆ





ข้ามช็อตมาที่มื้อดินเน่อร์ของเย็นวันนั้นเลย
เพราะว่าพอกลับมารีสอร์ทแล้วอิชั้นก็นอนหลับทันทีค่ะ 5555
ตื่นมาอีกทีก็มื้อเย็นแระ แถมมื้อเย็นวันนั้นเป็นเซ็ทที่อยู่ในแพคเกจด้วย
โดยเราเลือกไปนั่งที่ศาลาไทยติดกับเรือนดูทีวี ซึ่งจะเห็นแม่น้ำปิงชัดแจ๋ว
แต่มืดแล้วมันก็มองไรไม่เห็นเท่าไหร่หรอกนะ 5555





อาหารมื้อนี้ก็สั่งเอาจากเมนูได้เลยค่ะ โดยเลือกสั่งได้ 3 อย่าง
แถมไวน์อีก 1 ขวด แต่เนื่องจากอิชั้นกะคุณแฟนไม่ดื่มแอลกอฮอล์
พนักงานเลยให้เปลี่ยนเป็นอะไรก็ได้ที่อยู่ในงบไวน์ขวดนั้น
ซึ่งดิชั้นเปลี่ยนไวน์เป็นน้ำ เชอร์รี่เทมเบิ้ล ส่วนคุณแฟนเป็นน้ำพันช์ค่ะ
อยากบอกว่าเชอร์รี่เทมเบิ้ลเนี่ยอร่อยมากๆ เลยอ่ะ



อาหารจานแรกเลยที่สั่งไปก็หนีไม่พ้นของโปรดเราสองคนค่ะ
"หมูทอดกรอบน้ำจิ้มแจ่ว" เพื่อนๆ ไม่ต้อง งง ว่าไม่เบื่อเหรอกินกันทุกวัน
อยากบอกว่าไม่เบื่อเลยค่ะ แขกทุกคนที่ได้ชิมจะสั่งกันหลายครั้งอย่างนี้เสมอ



จานต่อมาก็ "ปลาราดพริก" ค่ะ อร่อยอีกเช่นกัน



ส่วนแกงก็หนีไม่พ้น "ต้มยำกุ้ง" ค่ะ



เนื่องจากน้ำที่สั่งไปแทนไวน์ราคายังไม่ถึง ก็เลยสั่งกับข้าวมากินเล่นๆ อีกอย่างนึง
คุณแฟนอยากกินเม็ดมะม่วง อิชั้นเลยสั่ง "ยำเม็ดมะม่วง" มานั่งกินเล่นค่ะ



หลังจากกินข้าวเสร็จก็มีให้ปล่อยโคมลอยด้วยค่ะ โดยมีคำแนะนำจาก จนท ที่ของ รร





และหมดไปอีก 1 วัน ด้วยการยก "ยำเม็ดมะม่วง" มานั่งกินไปดูบอลไปที่เรือนทีวี
ต้องบอกว่าเป็นอีกมื้อที่ประทับใจค่ะ ถึงแม้จะแอบใจหาย ที่วันรุ่งขึ้นต้องเดินทางกลับแล้วก็เหอะ
เฮ้อออออออออ ว่าแล้วก็คิดถึงหมูทอดกรอบน้ำจิ้มแจ่วจัง
แต่ในส่วนของรีวิวยังมีต่ออีกตอนนึงนะคะ โดยตอนหน้าจะเก็บภาพห้องต่างๆ มาให้ชมกัน
ซึ่งอิชั้นก็เพิ่งรู้ตอนวันกลับนี่แหละว่า แต่ละห้องเค้าตกแต่งไม่เหมือนกันเลย
ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อนะคะ






Create Date : 19 มกราคม 2553
Last Update : 19 มกราคม 2553 23:13:48 น.
Counter : 2493 Pageviews.

17 comments
  
ศาลาโรแมนติคมากเลยค่ะ...อิจฉาตาร้อนผ่าว อยากไปบ้าง

คุณปลา พู่ว่าอาหารโปรดของคุณปลากับแฟนเนี่ย
พู่จับไต๋ได้แล้วหนึ่งอย่าง คือปลาราดพริก ราดซอส ราดอะไรก็ได้ แต่ขอให้เป็นปลา...ใช่หรือเปล่าค่ะ

หมีแพนด้าน่ารัก น่ากอดมากเลย ท่าทางจะเต็มไม้เต็มมือดี
แต่ถ้าไปกอดจริง ๆ อาจจะโดนตบหัวหลุดได้นะเนี่ย
โดย: ชมพู่แก้มแหม่มของแม่ตุ๊กตา วันที่: 19 มกราคม 2553 เวลา:14:01:03 น.
  
เป็นทริปแห่งความสุขจริงๆ นะคะคุณปลา
ฝนอ่านแล้วก็สุขใจไปด้วย ทั้งสถานที่
อาหารการกิน รวมถึงบรรยากาศน่ะค่ะ

ฝนว่าคุณปลาคงจะโดนพนักงานอำจริงๆ ล่ะ

น้องแพนด้า หลินปิง น่ารักจริงๆ ค่ะ

ส่วนบลูเบอร์รี่ชีสพายก็น่ากินมากๆ

ขอให้คุณปลามีความสุขมากๆ นะคะ
อาการของใส้ติ่งอักเสบดีขึ้นแล้วฝนดีใจด้วยค่า
โดย: CeciLia_MaLee วันที่: 19 มกราคม 2553 เวลา:14:10:46 น.
  
555 หมีนั่งท่ารับแขกได้น่ากระโดดเข้าไปกอดจริงๆ ค่ะ
โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 19 มกราคม 2553 เวลา:14:17:05 น.
  

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

มาตามชมหนุ่มสาวเค้าไปฮันนี่มูนที่เชียงใหม่ครับ

แบบว่า หวาน จังเลยเนอะ ... แอบอิจฉาอ่ะ

อิอิ
โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) วันที่: 19 มกราคม 2553 เวลา:20:41:35 น.
  
ดูรูปแล้วเพลินไปกับน้องปลาคนสวยเลยค่ะ ยิ่งตอนถ่ายรูปคู่กันน่ารักจริงๆ

พี่วิสกี้จำได้ว่าสมัยพี่ยังสาวๆ อายุประมาณน้องปลาเนี่ยแหละขึ้นบรรไดพระธาตุยังหอบแล้วหอบอีกเลย คิคิ น้องปลาแข็งแรงมั่กๆ

สวนสัตว์ทันสมัยน่าเที่ยวจังเลยค่ะ เอาไว้ต้องไปเยือนบ้างแล้ว

ปล อ่านตรงที่คุณหมอวินิจฉัยว่าเป็นไส้ติ่งเนี่ย ทำให้นึกถึงหลานพี่วิสกี้ค่ะ ปวดท้องคุณหมอจับผ่าไส้ติ่ง แล้วก็ยังปวดท้องอยู่ดี เฮ้อ ปรากฎตอนหลังว่าไม่ใช่ไส้ติ่งอักเสบ แหมทำไปได้เนอะคุณหมอ
โดย: วิสกี้โซดา วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:0:23:12 น.
  
จะหวานกันไปถึงไหนค่ะคุณลูกปลา...(^ u ^)

ดิฉันนั่งอ่าน Love Stories อยู่อะป่าวอะไรจะได้ Sweet วี๊ดวิ๊ว..กันขนาดนี้..ขอให้ได้ลูกน้อยน่ารักไวไวนะคะ

มีความสุขกายสุขใจมากๆ ยิ่งๆ ขึ้นตลอดปี ตลอดไปเด้อคะเด้อ...แวะมาทักทายสวัสดีปีใหม่ใจดีสู้เสือจ๊า
โดย: น้ำผึ้ง (^ u ^) IP: 125.25.124.75 วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:10:03:11 น.
  
ไปเชียงใหม่ตั้งหลายรอบ
ไม่เคยแวะเข้าสวนสัตว์เลยค่ะ


อาหารน่าทานจังเลยนะคะ
ไม่ดื่มแอลกอฮอล์
แต่ยำเม็ดมะม่วงนี่กับแกล้มของนักดื่มเลยนะคะ
โดย: chenyuye วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:13:20:42 น.
  
สวัสดีค่ะ คุณปลา...
ขอบคุณมากๆที่เอารูปมาฝากเยอะแยะเลย
เป็น Trip ที่สนุกมากๆ (โดยเฉพาะของกิน) ...

วันอาทิตย์ที่แล้ว 17/1/53 เกดก็ไปเรียนนะค่ะ นั่งอยู่ด้านหน้า ไม่ได้ยินที่มีคนถามชื่อค่ะ สงสัยจะตั้งใจมองแต่อาจารย์มากไปหน่อย ช่วงบ่ายมีรุ่นพี่มาช่วยพี่แป๋ม สอนทำความสะอาดหน้า นวดหน้า พี่แป๋มก็แนะนำชื่อ มีชื่อพี่ลูกปลาด้วยละ แต่หันไปไม่รู้คนไหนอ่ะค่ะ ไม่กล้าถาม จากนั้นก็พยายามมองๆๆทุกคนที่เดินผ่านไปมา แต่คิดว่าไม่ใช่คุณปลา เพราะหน้าไม่เหมือนในรูปเลยค่ะ 555 เอาไว้คราวหน้าคงได้เจอกันจ๊ะ
โดย: เกดเองจ้า nukate2525 IP: 202.57.177.80 วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:14:11:22 น.
  
ตามมาเที่ยวต่อ อิอิ

อ่า..ลำไส้เราก็มีปัญหาอยู่ค่ะ แต่ถ้ารู้สึกไม่สบายท้อง ตอนนี้เราใช้วิธีกินขมิ้นชันเอาค่ะ ก็จะดีขึ้นนะคะ ลองดูนะคะ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:18:28:07 น.
  
อิ่มเอมกับทริปวันสุดท้ายจังค่ะ และพี่จะบอก
น้องปลาว่าไม่ต้องเป็นห่วงน๊า หมูทอดน้ำจิ้มแจ่ว
พี่จะจัดการแทนเองค๊า
โดย: JewNid วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:20:29:20 น.
  
เป็นทริปฮันนี่มูนที่น่ารัก ดูอบอุ่นจังค่ะ ที่สำคัญอาหารน่าอร่อยมาก ๆ บ้านนี้รีวิวอาหารเก่งอยู่แล้วเนาะ ... ลูกปลาชวนชิม ?? :)) ...
โดย: Tristy วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:22:17:32 น.
  
สวัสดีค่ะ น้องปลา

ขอตามไปเที่ยวด้วยคนน่ะค่ะฆ้องใหญ่มาก ๆ เลยเนอะ เห็นด้วยเมื่อน้องไปเทียบแล้วใหญ่กว่าน้องหลายเท่า คงหนักมากๆ เลยเนอะ

สำหรับอาการเมารถพี่บางครั้งก็เป็นค่ะ เวลาไปเที่ยวไม่อยากเมารถเลย

ศาลาโรแมนติกมากๆ เลย แล้วอาหารน่าทานทุกจานเลยค่ะ

สำหรับโรคอาหารเป็นพิษทรมานมาก ๆค่ะ แต่แปลกเนอะทำไมหมอบอกว่าเป็นไส้ติง ขอให้หายเร็วๆ น่ะค่ะ
โดย: สวยตลอดกาล วันที่: 21 มกราคม 2553 เวลา:1:48:04 น.
  
สวัสดีจ๊ะคุณปลา
เกดนั่งแถวหน้าติดกับตรงแท่นที่อาจารย์เค้าบรรยายค่ะ วันนั้นใส่เสื้อสีแดง-ดำจ๊ะ ตอนนี้ไปทำไฮไลท์ผมมาด้วย ดีนะที่คุณปลาไม่ทักคนใส่เสื้อเหลือง อิๆ
โดย: nukate2525 วันที่: 21 มกราคม 2553 เวลา:9:44:51 น.
  
อิจฉาตาร้อน เจ้าของบล็อคนี้มากเลยค่ะ
โดย: nompiaw.kongnoo วันที่: 21 มกราคม 2553 เวลา:17:12:23 น.
  
ดีจ้าน้องปลามาดูรูปก่อน เฟดริกมันจะใช้คอมเดี๋ยวพี่มานะ
รําคาณเฟดริกมันแหล่ะ
โดย: bagarbu วันที่: 22 มกราคม 2553 เวลา:4:50:48 น.
  
มีความสุขมากๆนะคะพี่ปลา
................


(◡‿◡✿) ข้อคิดจากท่าน ว.วชิรเมธี 。


น่าเสียดาย ที่เรามีหนังสือมากมายหลายพันเล่มในห้องสมุด

แต่สถิติสูงสุดคือเราอ่านหนังสือกันปีละ 8 บรรทัด

❃❂❁❀✿✾✽✼✻✺✹✸✷


ฝันดีค่ะ

โดย: ญามี่ วันที่: 23 มกราคม 2553 เวลา:1:41:39 น.
  
พี่ตามมาดูคนสวยเที่ยวต่อจ๊ะ
น่าอิจฉาจัง ...พี่อยู่แต่บ้าน อิอิ
โดย: ann_269 IP: 124.122.98.174 วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:20:55:23 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Rosyheart.BlogGang.com

หัวใจสีชมพู
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]

บทความทั้งหมด