Four Seasons Tented Camp Golden Triangle เชียงรายเป็นรีสอร์ทที่ตั้งอยู่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำใกล้กับจุดที่สามประเทศมาบรรจบกันคือไทย ลาวและพม่า  แขกที่เข้าพักจะได้นั่งเรือหางยาวเพื่อเข้าไปยังรีสอร์ท ซึ่งเป็นอีกประสบการณ์หนึ่งของการเข้าพักที่นี่ ได้ชมบรรยากาศสองข้างทางของแม่น้ำโขงและแม่น้ำรวก ภายในรีสอร์ทมีบรรยากาศเป็นธรรมชาติและห้องพักของที่นี่เป็นเต็นท์หรูที่ตั้งอยู่บนเชิงเขาและมีเพียง 15 หลังเท่านั้น จึงทำให้ที่นี่มีความเป็นส่วนตัวสูง ห้องพักหลายห้องเห็นวิวแม่น้ำรวกและอีกฝั่งของแม่น้ำที่เป็นส่วนของประเทศพม่า ที่สำคัญภายในเต็นท์ตกแต่งได้สวยงาม  มีสไตล์ ได้บรรยากาศของการพักเต็นท์กลางธรรมชาติแต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหราในสไตล์ซาฟารี ราคาห้องพักที่นี่จะเป็นแบบ All inclusive เป็นราคาที่รวมทุกๆอย่างไม่ว่าจะเป็นอาหารทุกมื้อรวมทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล สปา กิจกรรม เครื่องดื่มที่บาร์ มินิบาร์ในห้อง การเดินทางรับส่งจากสนามบิน และสิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับแขกที่นี่คือได้ใกล้ชิดกับช้าง ได้ให้อาหารช้าง ได้เรียนรู้วิธีการขี่ช้างจากควาญช้างที่ชำนาญ และได้ขี่ช้างออกไปในป่า เป็นครั้งแรกของผมที่ได้ใกล้ชิดและเห็นความมหัศจรรย์ของเพื่อนตัวใหญ่ในป่าจริงๆ 

 

ลองมาชมภาพความประทับใจที่เกิดขึ้นในช่วงเวลา 3 วัน 2 คืน ในรีสอร์ทที่ได้ชื่อว่าเป็นรีสอร์ทที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งที่สร้างความประทับใจให้กับผมในทุกๆด้าน ผมขอวางแผงนิตยสาร online ชานไม้ชายเขา ฉบับเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นฉบับที่ 116 กับ  Four Seasons Tented Camp Golden Triangle เชียงราย รีสอร์ทหรูสไตล์ซาฟารีติดชายแดนพม่าที่ได้บรรยากาศธรรมชาติ

 

ตัวรีสอร์ทเหมือนถูกซ่อนอยู่ในป่าที่อุดมสมบูรณ์ มองเห็นแม่น้ำรวกซึ่งเป็นชายแดนไทย พม่า

การเดินทางเข้าไปยังรีสอร์ทใช้การเดินทางทางเรือที่ทำให้เห็นวิถีชีวิตผู้คนสองฝั่งแม่น้ำ  ภาพน้องตุ้ย พนักงานของรีสอร์ทที่มารับที่ท่าเรือเพื่อพาไปยังรีสอร์ท

ท่าเรือของรีสอร์ทอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำคือประเทศพม่าเลยครับ

ขึ้นมาจากท่าเรือก็มานั่งพักที่ Mai Pai Lounge ที่นั่งเล่นชมวิวแม่น้ำรวกและชายแดนฝั่งพม่า

จะมีพนักงานมาต้อนรับและชี้แจงเกี่ยวกิจกรรมต่างในช่วงเวลาที่อยู่ที่รีสอร์ท พนักงานที่นี่มี service mind ที่ดีมากๆครับ

ที่นี่เป็นรีสอร์ทเล็กๆที่ดูอบอุ่น มองเห็นต้นไม้เขียวๆทั่วทั้งรีสอร์ท

มุมนั่งเล่นที่เลาจ์ เห็นวิวแม่น้ำรวกที่สวยงาม บรรยากาศสงบมาก

ของประดับตกแต่งที่สวยงาม  ที่นี่จะเน้นของประดับที่เป็นช้าง

อีกมุมหนึ่งของเลาจ์ ขนาดไปหน้าร้อน อากาศยังดี ไม่ถึงกับร้อนมาก ถ้าเป็นหน้าหนาว ไม่ต้องพูดถึงครับ

หลังจากนั้นน้องตุ้ยก็พาไปห้องพักซึ่งต้องเดินผ่านสะพานนี้ สะพานนี้จะเชื่อมเนินเขาสองลูกไว้ด้วยกัน

ก่อนที่ผมจะเข้าห้องพัก ผมพาไปที่บาร์ของรีสอร์ทก่อนเลยครับ เพราะพนักงานแนะนำว่าช่วงเย็นๆควรแวะมาที่นี่

บาร์แห่งนี้เรียกว่า Burma Bar บรรยากาศดีมากๆ แต่ก็ต้องเดินมาไกลพอสมควร

เป็นบาร์ที่ติดกับแม่น้ำรวก และเห็นฝั่งที่เป็นประเทศพม่า

ไฮไลท์ของบาร์แห่งนี้คือการมารอชมระอาทิตย์ตกที่สวยงาม

พักอยู่ที่นี่สองคืน ได้มาที่บาร์นี้ช่วงเย็นของทั้งสองวัน และได้เห็นพระอาทิตย์ตกสวยๆทั้งสองวันเลยครับ

บริเวณนี้ยังไม่ไกลจากแคมป์ช้างที่ต้องมาทำกิจกรรมในวันรุ่งขึ้น

ถึงพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าไปแล้ว แต่บรรยากาศที่บาร์ยังคงสวยงาม น่านั่งเล่นพักผ่อน

อาหารทานเล่นที่บาร์ เนื่องจากราคาห้องพักที่นี่เป็นแบบ all inclusive เครื่องดื่มทั้งผสมหรือไม่ผสมแอลกอฮอล์และอาหารทานเล่น ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มครับ

อีกมุมหนึ่งของ Burma Bar ที่ตกแต่งได้สวยงาม

บาร์ที่สวยงามท่ามกลางธรรมชาติบริเวณชายแดนพม่า

บรรยากาศดีๆหลังพระอาทิตย์ตก เก้าอี้และโต๊ะยังออกแบบให้เป็นขาช้างครับ

บริเวณ Burma Bar ยังมีร้านขายของที่ระลึก

 หลังจากดื่มด่ำกับบรรยากาศที่บาร์ ชมพระอาทิตย์ตกเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มหิวทันที ใช้บริการรถจี๊ปจาก Burma Bar มายังห้องอาหารนงเยาว์ใกล้ๆกับเลาจ์และท่าเรือ

บริเวณเลาจ์ใกล้ๆกับห้องอาหาร

ภายในห้องอาหาร มีการตกแต่งสไตล์ซาฟารี  

บรรยากาศที่โต๊ะอาหาร อาหารที่นี่ก็สั่งได้ทุกอย่าง ราคารวมอยู่ในห้องพักแล้วครับ

ห้องเก็บไวน์ใกล้ๆกับห้องอาหาร

บริเวณ lobby ส่วนมากไม่ได้มาเช็คอิน หรือนั่งเล่นที่นี่ จะอยู่ที่เลาจ์เสียมากกว่า

ภาพจากบริเวณเลาจ์อีกมุมหนึ่ง

เลาจ์ช่วงกลางคืน ได้บรรยากาศไปอีกแบบซึ่งต่างจากช่วงกลางวัน

ต่อไปผมจะพาไปชมห้องพัก เต็นท์ที่ผมจะพาไปชมเป็น Tent #2 ครับ

ภายในเต็นที่ตกแต่งได้สวยงาม ถูกใจมากๆครับ

ที่นี่นอนนุ่มน่านอน ไม่นึกว่าจะมีเต็นท์ที่ออกแบบได้สวยงามกลางป่าอย่างนี้
ระเบียงของเต็นท์หมายเลข 2 เห็นวิวแม่น้ำรวก และมีเตียงทำสปา เต็นท์บางหลังจะไม่เห็นวิวแม่น้ำอย่างนี้ครับ

ภายในเต็นท์มีอ่างอาบน้ำ มินิบาร์ก็ทานได้ทั้งหมด ไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มรวมอยู่ในค่าห้อง

 ที่หัวเตียงจะมีโต๊ะทำงาน ภายในเต็นท์มีสัญญาณ Wi-fi ใช้ได้ฟรี

ได้บรรยากาศนอนเต็นท์กลางป่า แต่เป็นเต็นท์ที่หรูมากครับ

อีกด้านของเต็นท์ที่เห็นเป็นประตูสองประตูคือห้องอาบน้ำและห้องสุขา

ภายในเต็นท์มีเครื่องปรับอากาศเย็นสบาย และยังมีพัดลมเพดาน

ภายในห้องสุขา

เฟอนิเจอร์ทุกชิ้นผ่านการคิดและออกแบบมาเป็นอย่างดี เข้ากับบรรยากาศของเต็นท์

อ่างอาบน้ำในเต็นท์  

ห้องพักของที่นี่สามารถเลือกห้องพักที่มีเตียงใหญ่เตียงเดียว หรือเตียงเล็กสองเตียงก็มีเหมือนกันครับ

วิวแม่น้ำและธรรมชาติที่สวยงามจากอ่างล้างหน้า

ถ้าตื่นมากเจอวิวสวยๆอย่างนี้จากบนที่นอน คงไม่อยากลุกไปไหน วิวจากเต็นท์หมายเลข 2 ข้อดีของเต็นท์หลังนี้อีกอย่างคืออยู่ไม่ไกลจากห้องอาหารและเลาจ์

ออกมาสูดอากาศที่สดชื่น ชมวิวสวยๆที่ terrace นอกเต็นท์

ภายในห้องนอนมีเสื้อกางเกง ผ้าขาวม้าสำหรับเป็นชุดขี่ช้าง โดยมีให้เลือกหลายขนาด ในกระเป๋าเสื้อจะมีกระดาษแผ่นเล็กๆ เป็นคำสั่งพื้นฐานในการขี่ช้าง อย่าลืมพากระดาษแผ่นนี้และผ้าขาวม้าไปด้วยนะครับตอนไปขี่ช้าง

ภาพนี้จาก tent หมายเลข 6 ซึ่งเป็นเต้นท์ที่มีเตียงเล็กสองเตียง ห้องนี้ไม่เห็นวิวแม่น้ำครับ แต่ได้วิวพระอาทิตย์ขึ้นมาทดแทน

เป็นยามเช้าที่เงียบสงบและได้บรรยากาศธรรมชาติมากๆ ถ้าเป็นหน้าหนาวอากาศคงหนาวมากๆ ขนาดช่วงที่ผมไปหน้าร้อน อากาศตอนเช้ายังเย็นสบาย

ภาพพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆจากเต็นท์หมายเลข 6 อีกซักภาพ มาทริปนี้ได้เห็นทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกเลยครับ

ถ่ายรูปช่วงเช้าจุใจแล้วก็มารับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารนงเยาว์ ขนาดหลอดดูดยังใช้เป็นวัสดุธรรมชาติ

ไฮไลท์สำคัญของช่วงทานอาหารเช้าคือการให้อาหารช้าง

มีโอกาสได้สัมผัสถึงความน่ารักของสัตว์ชนิดนี้

แต่ละวันช้างที่แวะมาจะมาพร้อมครับคนที่ดูแล

เป็นกิจกรรมที่แขกทุกคนชอบมากครับ โดยเฉพาะชาวต่างชาติ

ช้างแต่ละเชือกจะมีชื่อเรียก 

หลังจากอิ่มอร่อยกับอาหารเช้าและเพลิดเพลินไปกับการให้อาหารเช้าแล้วก็ถึงเวลาทำกิจกรรมที่เป็นจุดเด่นที่สำคัญของ Four Seasons Tented Camp ก็คือการขี่ช้าง

โดยมีควาญช้างที่ชำนาญสอนการใช้คำสั่งพื้นฐาน มีการซ้อมบริเวณแคมป์ช้างก่อนจะออกไปขี่ช้างเข้าป่าจริงๆ

ช้างเชือกนี้ชื่อว่าทองคำ ซึ่งแสนรู้มากๆเวลาเดินไปในป่า เจ้าทองคำชอบหยุดหาหญ้าเป็นอาหารว่างอยู่เสมอ น่ารักดีครับ

และที่สำคัญจะมีไกด์ที่คอยให้คำแนะนำทั้งสองภาษา ไกด์วันนั้นชื่อไกด์สมคิดครับ สามารถฝากกล้องไว้ที่ไกด์สมคิดเพื่อฝากถ่ายภาพตอนขี่ช้างเพราะบางช่วงจะขี่ช้างลงในแม่น้ำ ฝีมือการถ่ายภาพใช้ได้เลยครับ

หลังจากสนุกสนานกับการขี่ช้างก็เข้าสปาต่อเลยครับ เป็นการนวดเพื่อผ่อนคลายหลังการขี่ช้าง สปาที่นี่เป็นสปาเล็กๆครับ ได้บรรยากาศธรรมชาติมากๆ

ในแต่ละวันได้ออกกำลังกายเดินเล่นจากห้องพักไปห้องอาหาร ไปบาร์ ชอบเดินผ่านสะพานนี้มากๆ

บรรยากาศของเต็นท์ห้องพักที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ

ต่อไปผมจะพาไปชมบริเวณสระว่ายน้ำส่วนกลางที่อยู่ริมแม่น้ำรวกใกล้ๆห้องอาหารนงเยาว์

เป็นสระว่ายน้ำบรรยากาศดี เนื่องจากที่นี่มีเพียง 15 เต็นท์ แขกที่มาใช้บริการไม่เยอะครับ 

ได้ว่ายน้ำท่ามกลางธรรมชาติ สดชื่นมากๆครับ

เตียงนอนเล่นชมวิวแม่น้ำ

ได้บรรยากาศที่เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนจริงๆ

กลับมาที่ Mai Pai Lounge ช่วงหัวค่ำ บรรยากาศต่างจากช่วงกลางวัน แต่ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ

 อากาศช่วงหัวค่ำ ไม่ร้อนมากครับนั่งเล่นสบาย แต่ถ้าเป็นหน้าหนาวคงจะหนาวได้บรรยากาศมากๆ

ชอบไอเดียการนำเอาหยวกกล้วย มาใส่เทียนไว้ตรงกลาง ให้แสงออกมาสวยมากครับ

บรรยากาศของเลาจ์ที่ดูอบอุ่นจากแสงเทียนและการตกแต่ง

และก็ปิดท้ายด้วยภาพจากปก วิวจากที่นอนเล่นตรงระเบียง บรรยากาศดีมากๆครับ เต็นท์ห้องพักที่นี่ได้บรรยากาศธรรมชาติ เป็นอีกรีสอร์ทครับที่ไม่อยากกลับเลย ประทับใจกับทุกๆอย่างของที่นี่ประทับใจมากครับกับการมาเยือน  Four Seasons Tented Camp Golden Triangle Chaing Rai ครั้งนี้ของผม ประทับใจกับเอกลักษณ์หลายๆอย่างของที่นี่ไม่ว่าจะเป็นทำเลที่ตั้งของรีสอร์ทที่อยู่ติดแม่น้ำและป่าที่อุดมสมบูรณ์ ห้องพักที่เป็นเต็นท์หรู การบริการที่ไม่มีที่ติ อาหาร และกิจกรรมในรีสอร์ทโดยเฉพาะกิจกรรมขี่ช้าง  ราคาห้องพักของที่นี่เป็นแบบรวมทุกอย่างครับ ทั้งอาหารทุกมื้อ เครื่องดื่มที่บาร์ กิจกรรมทุกอย่างทั้งขี่ช้าง สปา ทัวร์ไปยังสถานที่ต่างๆ มินิบาร์ในห้องพัก และการเดินทางรับส่งสนามบิน เต็นท์ห้องพักของที่นี่มีสองแบบคือ Superior Tent และ Deluxe Tent ซึ่งจะคล้ายๆกันต่างกันที่เต็นท์ Deluxe จะมีอ่างอาบน้ำที่ระเบียงห้อง ในขณะที่ เต็นท์ Superior จะเป็นเตียงทำสปา
 

ส่วนอาหารเช้าจะเป็นแบบสั่งจากเมนูซึ่งสั่งได้เรื่อยๆ มีทั้งอาหารไทยและนานาชาติ อาหารทุกมื้อของที่นี่จะมาทานที่ห้องอาหารนงเยาว์ซึ่งบรรยากาศดีเห็นวิวของแม่น้ำรวก ลองมาดูสรุปจุดเด่นจุดด้อยของที่นี่ในมุมมองของผม

 

- ทำเลของรีสอร์ทอยู่กลางธรรมชาติที่สวยงาม ติดแม่น้ำรวกซึ่งเป็นชายแดนพม่า ใช้การเดินทางทางเรือเข้าไปในรีสอร์ท ได้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่

- ห้องพักเป็นเต็นท์ที่ตกแต่งได้สวยงาม มีความเป็นส่วนตัว ได้วิวธรรมชาติจากระเบียงห้อง

- ห้องอาหารบรรยากาศดี อาหารรสชาติอร่อย

- กิจกรรมขี่ช้างและให้อาหารช้าง เป็นกิจกรรมที่สร้างความประทับใจมากๆ ที่นี่มีการดูแลช้างเป็นอย่างดี 

- บาร์ของรีสอร์ท Burma Bar เป็นบาร์ที่บรรยากาศดีและเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม

- พนักงานของที่นี่มีใจบริการที่ดีเยี่ยมทุกคน เรียกว่าแทบไม่มีที่ติเลยครับ

- มีกิจกรรมหลายอย่างเช่น นวดผ่อนคลายที่สปา ทัวร์ล่องแม่น้ำโขง หรือทัวร์ไปยังสถานที่ต่างๆ ขึ้นกับจำนวนวันที่เข้าพัก ในรีสอร์ทยังมีสระว่ายน้ำส่วนกลางบรรยากาศดี 

 

- ห้องพักบางห้อง อาจจะต้องเดินไกลหน่อยครับ ที่นี่มีบริการรถจิ๊ปรับส่งแต่ถนนจะอยู้ด้านล่างส่วนห้องพักอยู่ด้านบน ยังคงต้องเดินขึ้นเนินอยู่บ้างครับ

 

สำหรับที่นี่ไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีเข้าพัก ส่วนราคาห้องพักที่นี่สูงทีเดียวครับ อย่างถ้าพัก 3 วัน 2 คืน ราคาจะอยู่ที่ประมาณแสนกว่าบาทซึ่งเป็นราคาที่รวมทุกอย่าง ผมคงแนะนำว่า สำหรับคนที่จำนวนเงินแสนสองแสนไม่ใช่เงินจำนวนมาก นี่คือรีสอร์ทที่ให้ประสบการณ์การพักผ่อนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งซึ่งต่างจากที่อื่นๆ ใครที่ชอบบรรยากาศธรรมชาติ อยากลองขี่ช้าง อยากลองพักเต็นท์หรูที่เห็นวิวของประเทศพม่า ที่นี่น่าจะเป็นอีกตัวเลือกนอกเหนือจากเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ผมสังเกตว่าแขกที่มาพักที่นี่ส่วนมากเป็นชาวต่างชาติ แล้วเขาจะมาคุยกันที่ห้องอาหารถึงความประทับใจจากการขี่ช้าง จากการไปทัวร์ ซึ่งเป็นความประทับใจเช่นเดียวกันกับที่ผมได้รับ ต้องขอขอบคุณ GM พนักงานของรีสอร์ททุกๆคนที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี  ไว้เจอกันใหม่ในนิตยสารฉบับหน้านะครับ