งานศิลปกรรมที่เลือนลับหาย พอดีไปค้นตู้หนังสือและเอกสา่รเก่าๆมาดูหาข้อมูลเขียนหนังสือเลยเจอภาพเก่าซึ่งหาดูได้ยากอัดเก็บไว้นานมากแล้วงานชิ้นนี้เป็นงานสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น จำได้เลาๆว่า เป็นงานเขียนจิตรกรรม เมืองอสูร ที่วัดราชบูรณะ(วัดเลียบ ) ตรงข้ามเพาะช่าง แต่ขอบอกนะครับว่าเป็นงานเขียนในอุโบสถเก่า ซึ่งปัจจุบันไม่มีแล้วครับเนื่องจากเสียหายจากระเบิดในสมัยสงครามโลกครั้งที่๒ พร้อมกับภาพเขียนหายไปทั้งหลัง บางท่านบอกว่าเป็นฝีมือการเขียนของพระอาจารย์นาค ผมก็ว่าใกล้เคียงเพราะฝีมืองดงามเทียบเท่าพระที่นั่งพุธไธศวรรย์ เลยครับ สาเหตุที่ได้รูปนี้มาเพราะ บังเอิญไปเห็นภาพๆหนึ่งในบทความของวรสารเมืองโบราณเป็นรูปพระจันทร์ทรงรถหรืออะไรนี่เหละ และเขียนว่าเอามาจากกองจดหมายเหตุหอสมุดแห่งชาติ อาจเป็นเพราะ ชอบงานแบบนี้อยู่แล้วก็ได้เลยไปหาภาพที่ว่า ปรากฎว่าไมมีภาพนั้นแต่เจอภาพนี้ที่เอามาลงให้ดูแทนครับ ปัจจุบันไปค้นอีกทีไม่รู้เขาเอาไปเก็บไว้ไหนแล้วไม่มีเหลือร่องรอยแล้วครับ สิ่งนี้เองคือความสะท้อนใจในการรักษาวัฒนธรรมทางจิตรกรรมของประเทศของเรานับวันจะหมดและสาบสูญลงไปทุกที เช่นงานจิตรกรรมเรื่องรามเกียรติรอบระเบียงคตตรงมณฑปวัดพระเชตุพน ผมยังเสียใจอยู่ทุกวันนี้ จำได้ว่าวันนั้นเดินออกจากเพาะช่างมาที่วัดพระเชตุพนกับเพื่อน ตอนนั้นมีการซ่อมมณฑปกันอยู่ โดยคนงานยึดเอาพื้นที่รอบๆระเบียงคตตีสังกะสีเป็นที่อยู่ส่วนหนึ่ง เก็บปูนและวัสดุก่อสร้างส่วนหนึ่ง ที่ซ้ำร้ายกว่านั้นคือการตอกตะปูลงไปบนงานจิตรกรรมสวยๆและเขียนข้อความเละไปหมด แน่นอนครับแม้จิตรกรรมตรงนั้นอาจเหลือน้อยเต็มที แต่มันก็เป็นงานชุดรามเกียรติในสมัยรัชกาลที่๓ที่งามจับตาเหลือเกิน ผมจำได้ว่าเป้นรูปทศกัณฐ์ชลอเขาไกรลาส และ ตอนที่ทศกัณฐ์อุ้มพระอุมาสวยมากๆเป็นท่าครูที่งามจับใจมาก ด้วยความกลัวว่างานจะถูกฝุ่นควันและความเค็มของปูนทำลายเสียเลยนัดกันว่าจะถ่ายรูปเก็บไว้ (สมัยนั้นยังใช้ฟิมล์ถ่ายภาพอยู่เลย) แต่ก็ติดโนน่ติดนี่อยู่เกือบอาทิตย์ กว่าจะพร้อมไปถ่ายงานด้วยความอยากมาก แต่สิ่งที่เจอทำเอาทรุดอยากจะร้องไห้ ทำไมนะหรือครับ ขาวครับ สะอาดตามาก คนงานรื้อสังกะสีออกหมดรอบระเบียงคตมีแต่สีขาวเนื่องจากทาปูนขาวทับหมดครับ นี่เเหละครับความไม่รู้และเสียหายของงานศิลปะไทย ทุกวันนี้สิ่งที่รู้อย่างหนึ่งคือการรักษาศิลปไทยให้ดีที่สุดคือการเก็บข้อมูลครับดีที่สุดแล้ว ก็คงได้แต่หวังพวกเรานี่เเหละครับที่จะช่วยกันถ่ายช่วยกันเก็บ เพราะไม่รู้ว่าของจริงๆจะถูกทำลายเมื่อไหร่ อ้อแล้วถ้าใครมีรูปรอบระเบียงคตมณฑปวัดพระเชตุพนถ่ายเก็บไว้บ้าง ก็ขอความเมตตาแบ่งปันบ้างนะครับ ได้อ่านเรื่องแล้ว...น่าเสียดายจริงๆครับ..
โดย: ค่ำคืนหน้าหนาว วันที่: 6 พฤษภาคม 2552 เวลา:0:30:02 น.
สวัสดีครับ
...ยอดเยี่ยมเลยครับผม โดย: นายนุ 1991 (nai-nu-19 ) วันที่: 7 พฤษภาคม 2552 เวลา:14:27:58 น.
ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณปุราณแวะมาทักทาย ขออนุญาติaddไว้เป็นเพื่อนบ้านเลยนะคะ ถ้ามารบกวนบ่อยๆอย่าเบื่อกันนะคะ
สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่ โดย: เกศสุริยง วันที่: 12 พฤษภาคม 2552 เวลา:18:41:16 น.
ขอบคุณมากที่แวะไปเยี่ยมนะคะ ดีใจที่ได้รู้จักคนที่รักศิลปะไทย ๆ เหมือนกัน
อ่านแล้วยิ่งกว่าเสียดายจริง ๆ ค่ะ งานจิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่หลายแห่งขาดการบูรณะหรือบำรุงรักษาให้ดี สุดท้ายก็มีสภาพไม่ต่างจากงานที่อยู่ในบล๊อค อันนี้จะโทษว่าเป็นความผิดของคนไทยที่ไม่ค่อยรู้ค่าของงานศิลปะ หรือว่ารัฐไม่ให้การสนับสนุนอย่างเพียงพอดีหนอ พูดแล้วก็นึกถึงประเทศญี่ปุ่นนะคะ ถึงจะเป็นประเทศที่ร่ำรวย อุดมไปด้วยเทคโนโลยี่ แต่งานด้านศิลปะและวัฒนธรรมก็เดินคู่กันไปแบบไม่เคอะเขิน ประชาชนก็ให้ความร่วมมืออย่างดีด้วย โดย: haiku วันที่: 13 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:16:54 น.
โดย: เกศสุริยง วันที่: 14 พฤษภาคม 2552 เวลา:9:11:46 น.
การชำรุดทรุดโทรมของศิลปะไทยตามวัดวาอาราม คงเป็นไปอย่างต่อเนื่องครับ นอกจากอากาศร้อนชื้นของเราไม่เป็นใจแล้ว ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของคนดูแล ย่อมทำให้สูญหายไปอย่างรวดเร็ว
ได้แต่ภาวนาครับว่าให้คนที่มีหน้าที่ดูแลสมบัติของชาติได้ตระหนักถึงความสำคัญ และช่วยกันรักษาอย่างถูกวิธี ส่วนชาวบ้านอย่างเราก็ทำได้เพียงเก็บภาพที่เหลือก่อนที่จะหายไป อย่างที่คุณปุราณว่าครับ โดย: Insignia_Museum วันที่: 14 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:02:55 น.
สวัสดีค่ะ
อ่านแล้วรู้สึกใจหายนะคะ เคยไปฟังสัมมนาที่มีนักวิจัยทำงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องศิลปะถ้ำค่ะ ฟังเพลินมากๆ เกร็ดเล็กเกร๊ดน้อยเต็มไปหมด ดำดิ่งไปกับช่วงเวลานั้นเลยนะ เคยไปดูศิลปะปูนปั้นที่เพชรบุรี ทึ่งอีกเหมือนกันค่ะ ไปอุทธยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ชอบองค์พระวัดศรีชุมมากๆ แต่เสียดายที่เห็นจากในหนังสือไม่เหมือนกับของจริง ในหนังสือดูขลังมาก สีองค์พระออกเขียวๆ พอไปถึงที่จริงขาวสะอาดเลยค่ะ ก็งามนะคะ แต่มันรู้สึกใหม่ไปรึปล่าวไม่รู้สิ ที่สำคัญงานจิตรกรรมในนั้น ที่ตั้งใจไปดู ปิดค่ะ เพราะสภาพเก่ามาก หลายที่เลยค่ะ ที่เคยไป แล้วก็ตื่นตาตื่นใจ บางที่ก็เสียดายนิดๆ ว่าแล้วก็อยากไปวัดพระแก้วอีกค่ะ โดย: oanotai วันที่: 14 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:23:51 น.
อ่านแล้วก็ได้แต่หดหู่หัวใจ
แต่ก็ยังรู้สึกดีใจที่ได้เห็นภาพเก่าที่หาไม่ได้แล้ว และมีคนอื่น ๆ ที่เห็นคุณค่า การสร้างจิตสำนึกและเห็นคุณค่าของมรดกทางวัฒธรรมนี่ใช้เวลาหลายสิบปีค่ะ ทำได้ยาก ตอนนี้มีกำหนดในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ แล้ว แต่ครูทุกคนก็บอกว่าทำได้ยาก ก็ได้แต่ถามไปว่าของมันยาก เลยไม่ทำรึไง? ก็ทำตั้งแต่วันนี้ไปไง เริ่มจากตัวเองก่อน แล้วสอนเด็กไปทีละนิด อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่ทำอะไร แล้วก็ได้แต่บ่นว่ายาก ยาก ยาก แล้วทุกอย่างก็หายไป โดย: อันต้า วันที่: 15 พฤษภาคม 2552 เวลา:14:57:29 น.
โดย: เกศสุริยง วันที่: 16 พฤษภาคม 2552 เวลา:22:03:04 น.
รูปที่ควรค่า ได้เลือนลางหายไป..
น่าเสียดายมาก ๆ นะค่ะ.. มาบล็อคนี้แล้ว..รู้สึกถึงความเป็นไทยมากเลย.. โดย: Prettymaew วันที่: 17 พฤษภาคม 2552 เวลา:3:45:05 น.
สวัสดีค่ะคุณปุราณ ชื่อเพราะจังเลยค่ะ
เสียดายด้วยจริงๆค่ะ แต่ว่าเวลารื้อสิ่งที่มีค่าอย่างนี้ ไม่มีผู้รู้งานศิลปมาคอยคุมเหรอคะ เสียดายๆ โดย: ปูขาเก เซมารู วันที่: 18 พฤษภาคม 2552 เวลา:22:24:14 น.
แวะมาเยียมเยียนครับ
เป้นบทความที่มีคุณค่าต่อสังคม เป็นกำลังใจให้ แล้วจะแวะมาเรื่อยๆครับ โดย: night prayer88 วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:13:31:21 น.
โดย: เกศสุริยง วันที่: 20 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:57:08 น.
สวัสดีครับ
วันนี้ได้อัพบล็อกเกี่ยวกับภาพวาดขนาดโปสการ์ดครับ ถ้าว่างขอเชิญนะครับ โดย: Insignia_Museum วันที่: 21 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:29:31 น.
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนนะครับแล้วว่างๆจะแวะไปอีกครับ
โดย: ปุราณ (ปุราณ ) วันที่: 23 พฤษภาคม 2552 เวลา:23:22:15 น.
โดย: เกศสุริยง วันที่: 25 พฤษภาคม 2552 เวลา:9:38:47 น.
อ่านแล้วก็สะท้อนใจ ก็ต้องพยายามให้ความรู้แก่เยาวชนของชาติ คงต้องช่วยกันหลายๆ ทาง คนรุ่นปัจจุบันนี้ก็คงต้องมีลุ้นว่าใครจะเห็นคุณค่าหรือไม่ (เพราะมาแก้ตอนนี้ก็คงยากมาก) แต่หวังใจว่าเด็กรุ่นใหม่จะเห็นคุณค่ามากขึ้น(ซึ่งถึงตอนนั้นอาจจะไม่เหลืออะไรให้เก็บรักษาแล้วก็ได้) ฝากความหวังไว้กับครูศิลปะรุ่นใหม่ ๆ ให้สอนนักเรียนในโรงเรียนให้เห็นคุณค่าศิลปะตั้งแต่เด็ก ๆ อย่ามัวแต่ให้เด็กเพลิดเพลินกับกิจกรรมอย่างเดียวแบบที่ผ่านมา
โดย: อันต้า วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:40:15 น.
ชื่นใจจังกับความคิดและการกระทำของคุณปุราณ
แต่ก็เสียใจและเสียดายกับความไม่รู้ประสาของคนที่ทำลายสิ่งดีๆที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของชาติไทย แต่ก้ยังเชื่อว่ามีอีกหลายคนที่คิดแบบเดียวกับคุณปุราณ ขอบคุณที่เข้าไปชื่นชมผลงานกัน โดย: หัตถศิลป์ดินแก้ว วันที่: 2 มิถุนายน 2552 เวลา:18:08:36 น.
โดย: เกศสุริยง วันที่: 9 กรกฎาคม 2552 เวลา:0:27:13 น.
โดย: เกศสุริยง วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:14:40:50 น.
|
ดีใจจริงๆค่ะที่ยังมีบล็อกนี้ช่วยเผยแผ่ศิลปะของไทย เอกลักษณ์ที่ภาคภูมิใจของเรา
เป็นกำลังใจให้สร้างสิ่งดีๆต่อไปนะคะ