รีวิวเที่ยวฮ่องกง-มาเก๊า 5 วัน 4 คืน: พร้อมข้อมูลกินเที่ยวช๊อปและเวลาเดินทางอย่างละเอียด Part 1 รีวิวเที่ยวฮ่องกง-มาเก๊า 5 วัน 4 คืน: พร้อมข้อมูลกินเที่ยวช๊อปและเวลาเดินทางอย่างละเอียด Part 1
ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมไปฮ่องกง แต่เป็นครั้งแรกที่ผมจะไปฮ่องกงแบบสบายกว่าครั้งที่แล้วมา แน่นอนว่าความสบายก็ต้องแลกกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น โดยทริปนี้เสียค่าใช้จ่ายไปทั้งหมด คนละ 23,000 บาท สำหรับ 5 วัน 4 คืน (ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าเรือไปมาเก๊า ค่าตั๋ว Disneyland) ไม่รวมค่าช๊อปปิ้งซึ่งจ่ายมากกว่าค่ากินอยู่เสียอีก การหาตั๋วเครื่องบินที่เวลาดีราคาถูกเป็นปัญหาสำหรับผม เนื่องจากทริปนี้เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน โชคดีที่ได้โปรโมชั่นของ Cathay Pacific ซึ่งราคารวมภาษีอยู่ที่ 10,xxx บาทต่อคน มาช่วยไว้ (ราคาพอๆ กับหางแดงที่รวมทุกอย่างแล้ว) ดูรีวิวโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินและการเดินทางไปกลับฮ่องกงกับ Cathay Pacific คลิ๊กที่นี่ครับ เวลาจริงที่ใช้ท่องเที่ยวฮ่องกงมาเก๊าในวันแรก The Peak, Avenue of stars (Thu 26 May 2011) 8:10 – 8:30 (20นาที) เขียนใบ ตม.ไทย รอคิวตรวจ Passport 8:30 – 10:20 (1 ชั่วโมง 50นาที) นั่งกินบะหมี่และเล่นเน็ตฟรีที่ King Power Lounge 10:20 – 10:50 (30นาที) เดินไปที่ Gate รอขึ้นเครื่อง 15:00 – 15:33 (33นาที) เครื่องลงจอด ผ่านตม.ฮ่องกง รอกระเป๋า ซื้อ Octopus Card และเดินออกไปรอ รถเมล์ S1 15:33 – 15:53 (20นาที) ขึ้นรถเมล์ S1 ไป MTR Tung Chung หรือ City Gate 15:53 – 16:35 (42นาที) ถึง MTR Tung Chung เดินเข้าไปรอ MTR (3 นาที) MTR ไป Nam Cheong (21นาที) รอเปลี่ยนขบวน (7นาที) MTR ไป Hung Hom (11นาที) 16:35 – 16:45 (15นาที) ถึง MTR Hung Hom ออก Exit C2 ไปโรงแรม Habour Plaza Metropolis (5นาที) Check-in และเข้าที่พัก (5นาที) 17:51 – 18:27 (36นาที) ออกจากโรงแรมไป MTR ไป Hung Hom (5นาที) MTR ไปลงที่ East Tsim Sha Tsui แล้วจึงเดินไปที่ MTR Tsim Sha Tsui แล้วขึ้น MTR ไปลง Central (31นาที) 18:30 – 18:44 (14นาที) ออก MTR Central Exit J2 เดินไป Lower Peak Tram Terminal (เดินแบบคนไม่ค่อยรู้ทาง) 18:44 – 19:00 (1ชั่วโมง16นาที) รอรถรางขึ้น The Peak คิวยาวมาก (ไม่ต้องต่อคิวซื้อตั๋วเนื่องจากใช้ Octopus Card รูดได้เลย) 19:00 – 19:13 (13นาที) นั่งรถรางขึ้น The Peak 19:13 – 19:26 (13นาที) เดินขึ้น Sky Terrace แบบชิวๆ 19:13 – 20:10 (57นาที) ถ่ายรูป ชมวิวกลางคืน ดู Symphony of Life แบบไม่มีเสียงเพลง (คนเยอะมาก) 20:10 – 20:20 (10นาที) ลงจาก Sky Terrace มา Upper Peak Tram Terminal แต่เนื่องจากคนเยอะเลยหาอะไรกินก่อน 20:20 – 20:39 (19นาที) เดินหาอะไรกิน นั่งกิน McDonalds 20:39 – 20:45 (6นาที) เดินลงมาต่อแถวขึ้นรถรางลงไปด้านล่าง 20:45 – 21:16 (31นาที) รอรถรางลงจาก The Peak (ไม่ต้องต่อคิวซื้อตั๋วเนื่องจากใช้ Octopus Card ได้) 21:16 – 21:26 (10นาที) นั่งรถรางมาถึงด้านล่าง 21:26 – 21:50 (24นาที) เดินออกจาก Lower Peak Tram Terminal และรอรถเมล์สาย 15C (8นาที) นั่งรถเมล์สาย 15C ไป Pier 7 (18นาที) 21:50 – 21:56 (6นาที) รอเรือ Star Ferry ซึ่งปิดบริการตอนสี่ทุ่ม (คาดว่าได้นั่งเที่ยวสุดท้าย) 21:56 – 22:08 (12นาที) นั่งเรือ Star Ferry ไป Avenue of Star 22:08 – 23:04 (56นาที) เดินเล่นที่ Avenue of Star ตามหาฝ่ามือเฉินหลง เครื่องลงจอด ใช้เวลาเอากระเป๋าและผ่านตม.ฮ่องกงไม่นาน ผมก็มุ่งตรงไปยัง Counter ของ MTR เพื่อซื้อบัตร Octopus ที่ดาวสีชมพูบนแผนที่ จากนั้นเลี้ยวขวาไปจุดจอดรถเมล์ ตามป้ายที่เขียนว่า Airbus เพื่อขึ้นรถเมล์สาย S1 ไป MTR Tung Chung แล้วขึ้นรถไฟฟ้า MTR ไปสถานี Hung Hom ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทาง ![]() วิธีที่ผมใช้เดินทางเข้าตัวเมืองฮ่องกงเป็นวิธีที่ประหยัดที่สุดซึ่งเสียค่าโดยสารเพียง 20 HKD เดินทางถึงสถานี MTR Hung Hom (ถัดจากสถานี East Thim Sha Thui ไป 1 สถานี) ประหยัดไปได้ถึงคนละ 50 – 60 HKD เลยทีเดียว (เมื่อเทียบกับ Airport Express) แต่อาจเสียเวลาเดินทางมากกว่าอยู่ประมาณ 10 – 20 นาที ![]() เดินทางถึงสถานี Hung Hom ซึ่งเป็นสถานีที่ค่อนข้างใหญ่เนื่องจากเป็นสถานีที่สามารถต่อรถไฟฟ้าไปยังกวางโจวและเซินเจิ้นได้ รถเมล์และรถแท็กซี่มากมายจอดอยู่บริเวณโดยรอบ ตึกที่เห็นฝั่งตรงข้ามสถานีก็คือ Habour Plaza Metropolis ที่พักของผมใน 3 คืนต่อจากนี้นั่นเอง ![]() บรรยากาศภายในห้องพักครับ ![]() ผมชอบวิวจากห้องพักที่นี่มากเลยครับ ดูแล้วสบายตาดี ![]() หลังจากเอนกายพักผ่อนได้สักชั่วยาม ก็เริ่มต้นท่องเที่ยวฮ่องกงในเวลาเกือบหกโมง จุดหมายแรกคือ The Peak ยามค่ำคืน ![]() การเดินทางไป The Peak ผมใช้บริการของ Peak Tram หรือรถราง แต่การเดินทางไป Lower Peak Tram Terminalของผมคราวนี้อาจจะแปลกกว่าคนทั่วไปสักหน่อย เพราะใช้วิธีเดินเท้าจาก MTR Central ไปยัง Lower Peak Tram Terminal สาเหตุที่ไม่นั่งรถสาย 15C จาก Pier 7 เหมือนครั้งก่อนๆ เนื่องจากระยะทางในแผนที่บอกผมว่าเดินจาก MTR Central ไป Pier 7 เพื่อขึ้นรถสาย 15C ระยะทางใกล้เคียงกับเดินไป Lower Peak Tram Terminal ช่วงแรกๆ ก็หลงๆ แต่พอจับทางได้ก็สบาย มีป้ายบอกอยู่ตลอดเวลา ถ้าใครอยากเดินตามรอยผม มีวิธีง่ายนิดเดียวครับ ถึง MTR Central เดินออก Exit J2 จากนั้นเดินขนานกับถนนตรงไปจนเจอสี่แยก (เดินตามเส้นสีชมพูบนแผนที่) ที่สี่แยกนี้จะมีสะพานลอยซึ่งเชื่อมต่อกันจนเหมือน sky walk บ้านเรา (สะพานลอยแทนด้วยเส้นสีเทาในแผนที่) หาทางขึ้นสะพานลอยให้ได้ครับ แล้วเดินตามสะพานลอยไปเรื่อย ๆ จะเจอตึกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของฮ่องกงหรือ Bank of China Tower ให้เดินเลียวไปทางขวามือ จากนั้นจะมีป้ายบอกอยู่ตลอดทางว่า The Peak ไปทางไหน ![]() มองจากสะพานลอยที่อยู่บนถนน Garden Road ก็จะเห็นตึกสูงเรียวซึ่งเป็นที่ตั้งของ Lower Peak Tram Terminal ด้านล่างของตึกจะเขียนด้วยตัวหนังสือสีขาวบนแถบสีน้ำเงินว่า Private Banking ![]() เมื่อสุดเส้นทางสะพานลอย เดินลงมาฟุตบาท หันไปทางขวามือจะเจอโบสถ์คริสต์อยู่ฝั่งตรงข้ามของถนน เดินมาอีกนิดแล้วข้ามถนนด้วยสะพานลอยอีกครั้ง ก็ถึงแล้วครับ ![]() เห็นคนต่อแถวที่ Lower Peak Tram Terminal แล้วตกใจมากครับ ทำไมคนถึงเยอะอย่างนี้ ทั้งที่วันนี้เป็นวันพฤหัส ผมจึงตัดสินใจจ่ายค่ารถรางโดยการรูดบัตร Octopus แทนการต่อคิดซื้อตั๋วจาก Counter เพื่อลดเวลารอคิวให้น้อยลง (แต่ก็ไม่ได้ใช้ส่วนลด 10% ที่ได้มาจาก Tourist Day Pass หรือ Airport Express Travel Pass) แต่ถึงกระนั้นก็ยังรอคิวชั่วโมงกว่า ใครจะมาช่วงเย็นๆ แบบนี้ เผื่อเวลาไว้บางนะครับ ช่วงเวลาที่คิวน้อยคือหลังสามทุ่มเป็นต้นไปครับ (เท่าที่ผมเห็นตอนผมลงมา) The Peak และรถราง Peak Tram เปิดให้บริการถึงเที่ยงคืนครับ ![]() ถึงสถานีด้านบนก็เดินขึ้นไปชั้นบนสุด รูดบัตร Octopus อีกครั้งเพื่อขึ้นไปที่ Sky Terrace ซึ่งเป็นจุดชมวิวสูงที่สุดของ The Peak ภาพที่เห็นคือคนมหาศาลเลยครับ ไม่มีแม้ที่จะเข้าไปเกาะราวถ่ายรูปกับวิวสวยๆ คราวที่แล้วมาถึงตอนห้าโมงเย็นวันเสาร์เดือนเมษายังถ่ายรูปสบายๆ อยู่เลย ![]() ด้วยความอดทนก็รอจนกว่าจะได้ราวเกาะชมวิว ก็เลยได้ถ่ายวิวสวยๆ อย่างที่เห็น ![]() ตอนนี้ด้านล่างมี Symphony of Life ก็เห็นไฟกระพริบๆ แต่ไม่มีเสียงเพลง เลยไม่สนุกตื่นเต้นเท่าไรนัก ![]() ช่วงที่ผมไป มีมุมให้เขียนข้อความให้คนรักแล้วเอาไปห้อยไว้ที่หัวใจรูปใหญ่ซึ่งตรงกลางหัวใจเขียนไว้ว่า “Say I love you at The Peak” ![]() ขากลับเดินผ่านชั้นสองของตึกซึ่งมีตั๋วดิสนีย์ขาย ถ้าซื้อ 2 ใบจะแถมร่มให้ฟรี 1 คัน (หมดเขต Oct 11) แต่ไม่สามารถใช้ส่วนลดที่ได้จาก Tourist Day Pass หรือ AE Travel Pass ได้ ถ้าจะใช้ส่วนลดต้องไปซื้อหน้าประตูทางเข้าดิสนีย์ครับ ลงต่อแถวขึ้นรถรางกลับไปด้านล่างก็เจอคนมหาศาลอีกแล้วครับ เลยไปหาอะไรกินแถวนั้นก่อนเพื่อให้คนน้อยกว่านี้ มื้อนี้เลยฝากท้องไว้ที่นี่ ซึ่งผมคิดว่าเป็นอาหารที่ถูกที่สุดในฮ่องกงแล้ว ถูกกว่าอาหารข้างทางอีก (แต่มาเมืองไทยกลับเป็นอาหารที่แพงไปได้) ![]() เดินกลับมาคิวก็ยังเยอะอยู่ดี ครั้นขึ้นรถเมล์สาย 15 ลงไปด้านล่างก็เกรงว่าสิ่งที่กินไปเมื่อครู่จะออกมาก่อนเวลาอันควร ![]() รอคิวประมาณครึ่งชั่วโมง รถรางของผมก็มาเทียบท่า ![]() เมื่อลงถึงด้านล่างจึงรอรถเมล์สาย 15C เพื่อเดินทางไปยัง Pier 7 วันนี้โชคดีครับ ได้ขึ้น 15C ชมเมืองฮ่องกงยามค่ำคืน ซึ่งปกติแล้วไม่ใช่ 15C ทุกคันที่เปิดประทุน (ใช้บัตร Octopus ในการจ่ายเงินค่ารถเมล์) ![]() บรรยากาศบนรถเมล์ 15C เปิดประทุน ผู้คนต่างตื่นเต้นถ่ายรูปกันยกใหญ่ ![]() ผ่านตึกน้อยใหญ่ ![]() และตึกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของฮ่องกง Bank of China Tower ![]() ถึง Pier 7 ก็รูดบัตร Octopus นั่นเรือ Star Ferry เที่ยวสี่ทุ่มข้ามจากฝั่งฮ่องกงมายังฝั่งเกาลูน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเรือเที่ยวสุดท้าย ด้านล่างคือวิวบนเรือ Star Ferry ![]() เดินเล่นที่ Avenue of Star ที่ฝั่งเกาลูนก่อนกลับเช้าที่พัก คราวนี้ตั้งใจจะหาฝ่ามือเฉินหลงให้เจอ เดินไปเดินมาเจอเรือสำเภาสีแดง Duk Ling ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อันโด่งดังของฮ่องกง ถ้าใครอยากนั่งเรือ Duk Ling ก็มีบริการครับ ลองเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ //www.dukling.com.hk/ ![]() เดินมาเกินครึ่งทางก็ยังไม่เจอฝ่ามือเฉินหลงซักที เจอแต่เทพีดวงดาว (ผมตั่งชื่อเอง) ![]() มาจนสุดทาง Avenue of Star ถึงจะเจอฝ่ามือเฉินหลง เฮ้อหลอกให้เดินซะทั่วเลย วันนี้เจอฝ่ามือเฉินหลง สมใจ นอนหลับฝันดีแล้วครับ ![]() เวลาจริงที่ใช้ท่องเที่ยวฮ่องกงมาเก๊าในวันที่สอง Disneyland, Shopping @ Mong Kok (Fri 27 May 2011) 8:30 – 8:57 (27นาที) เดินจากโรงแรมไป MTR Hung Hom นั่งกิน Mc ที่สถานี และไปรอขึ้น MTR 8:57 – 9:32 (35นาที) นั่ง MTR ไป MTR Disneyland Resort 9:32 – 9:41 (9นาที) เดินเข้า Disneyland แวะถ่ายรูปแบบชิลๆ (7นาที) ชื้อตั๋วแบบไม่มีคิวเลยแม้แต่คนเดียว (2นาที) 9:41 – 9:53 (12นาที) ถ่ายรูปตรงน้ำพุหน้าทางเข้า 9:53 – 10:00 (12นาที) เดินไปรอที่ประตูทางเข้า เป็นวันที่คนน้อยไม่เยอะเหมือนเสาร์อาทิตย์และช่วง Star Guest 10:00 – 10:29 (29นาที) เข้าประตูสิบโมงตรง ถ่ายรูปหน้าทางเข้าและเดินดูของตามร้านค้าต่างๆ เนื่องจากพื้นที่ส่วนเครื่องเล่นเปิดให้เข้าตอนสิบโมงครึ่ง 10:29 – 10:34 (5นาที) หลังจากเข้าส่วนเครื่องเล่นได้ก็รีบวิ่งไปต่อแถวเล่น Autopia (ขับรถตามราง) ที่ Zone Tomorrow Land ซึ่งคราวที่แล้วไม่ได้เล่น 10:34 – 10:45 (11นาที) ต่อคิว (4นาที)ขับรถ Autopia ราวกับว่าเป็นเด็กอีกครั้ง (7นาที) 10:45 – 10:57 (12นาที) เดินไปเล่น เล่น Astro Blasters ได้ทันทีโดยไม่มีคิว (8นาที) 10:57 – 11:12 (14นาที) ต่อคิว (5นาที) เล่น Space Mountain (รถไฟเหาะ) (7 นาที) 11:12 – 11:23 (11นาที) เดินไป Zone Fantasy Land (5นาที) รอคิว (2นาที) เล่น Mad Hatter Tea Cup (ถ้วยหมุน) (4นาที) 11:23 – 11:41 (18นาที) เดินไป Small world (4นาที) รอคิวเพราะอยากนั่งหน้าเรือ (ที่จริงไม่มีคิว) (3นาที) นั่งเรือที่ Small world (ชมตุ๊กตานานาชาติ) (11นาที) 11:41 – 11:51 (10นาที) เดินเล่น ถ่ายรูป 11:51 – 12:15 (24นาที) เข้าคิว (7นาที) ดู Mickey’s Philhar Magic (หนังสี่มิติ) (17นาที) 12:15 – 12:23 (8นาที) ดูของที่ระลึก เดินเล่น 12:23 – 13:18 (55นาที) เข้าคิว (20นาที) ดู The Golden Mickeys (โชว์การแสดงประกอบเพลง) (35นาที) 13:18 – 13:30 (12นาที) ใช้ Fast Pass เข้าคิว(4นาที) ชม The Many Adventures of Winnie the Pooh (นั่งรถเข้าบ้านหมีพูห์) (5นาที) 13:30 – 13:40 (10นาที) เดินดูของที่ระลึก 13:40 – 13:02 (22นาที) ทานอาหารกลางวัน 14:02 – 14:16 (14นาที) เดินไปถ่ายรูปกับ Minnie Mouse แต่เธอดันหายตัวไป เลยอดถ่าย 14:16 – 14:36 (20นาที) ซื้อของที่ระลึกที่เล็งๆไว้ 14:36 – 15:08 (32นาที) รอคิว (12นาที) นั่งรถไฟชม Disneyland เต็มรอบ (20นาที) 15:08 – 15:26 (18นาที) เดินเล่นมาถ่านรูปที่ Sleeping Beauty castle 15:26 – 16:01 (35นาที) นั่งรอ(19นาที) ดูขบวน Parade ดูขบวน Parade Disney’s Flights of Fantasy (16นาที) 16:01 – 16:20 (19นาที) รีบวิ่งมาต่อแถวเพื่อ รอคิว(10นาที) เล่น Orbitron (ยานอวกาศหมุนๆ) (5นาที) 16:20 – 16:35 (15นาที) เดินไปมา ถ่ายรูป ดูโชว์เคาะกระป๋องให้เป็นเพลง 16:35 – 16:47 (12นาที) ต่อคิว(5นาที) เล่นม้าหมุน Cinderella Carousel (7นาที) 16:47 – 16:52 (5นาที) เดินชิวๆ ไปถ่ายรูปกับดาราที่ Fantasy Gardens 16:52 – 17:44 (52 นาที) ต่อคิวถ่ายรูปกับหมีพูห์ Pooh (15นาที) มินนี่ Minnie Mouse (21นาที) ตุ๊กตาหมีของมินนี่ (ไม่ดังเลยไม่มีคิว) (3นาที) กูฟฟี่ Goofy (อันนี้ก็ไม่ดังเลยไม่มีคิว) (2นาที) และมิกกี้ Micky Mouse (11นาที) 17:44 – 17:57 (13นาที) เดินไปที่ Zone Adventure Land แวะกินวาฟเฟิลฮ่องกงที่ไม่ค่อยอร่อย 17:57 – 18:12 (15นาที) ต่อคิว (3นาที) ล่องเรือ Jungle River Cruise (ล่องเรือ ส่องสัตว์ เข้าป่า จำลอง) (12นาที) 18:12 – 18:41 (29นาที) เมื่อย นั่งพักที่ร้านฟาสฟู้ด พร้อมกันกินเบอร์เกอร์รองท้องที่Zone Tomorrow Land 18:41 – 18:49 (8นาที) เล่น Astro Blasters อีกรอบ (ไม่มีคิว) 18:49 – 19:25 (36นาที) เลือกซื้อของที่ระลึก 19:25 – 19:40 (15นาที) ต่อคิว (4นาที) ขับรถ Autopia ในเส้นทางที่ไม่ซ้ำกับเมื่อเช้า (7นาที) 19:40 – 19:51 (11นาที) เดินไปเล่น Astro Blasters เป็นรอบที่ 3 (ไม่มีคิว) 19:51 – 19:58 (7นาที) เล่น Astro Blasters เป็นรอบที่ 4 (ไม่มีคิว) เล่นยังไงคะแนนก็น้อยคนข้างๆ ตลอดเลย 19:58 – 20:05 (7นาที) รีบวิ่งออกไปที่ Sleeping Beauty castle ดู Tinker Bell Castle Illumination (5นาที) 20:05 – 20:43 (38นาที) รอดูพลุ (25นาที) (ระหว่างรอก็ดูปราสาทเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ) ดูพลุ "Disney in the Stars" Fireworks (13นาที) **ตามโปรแกรมข้างต้นยังไม่ได้เล่น Rafts and Tarzan’s Tree House, Dumbo the Flying Elephant, Stitch Encounter และเข้าชม The Lion King 20:43 – 21:03 (20นาที) เดินออกจาก Disneyland มาที่ MTR 21:03 – 21:50 (47นาที) นั่ง MTR มาที่ Mong Kok 21:50 – 22:13 (23นาที) ทานบะหมี่ฮ่องกงแถว Mong Kok 21:13 – 22:25 (12นาที) ทานลูกชิ้นเนื้อร้านโปรดใต้ตึก Sincere 22:25 – 23:11 (46นาที) เดิน Shopping แถว Mong Kok เนื่องจากไม่ได้เตรียมรีวิวของร้านอาหารย่านนี้ ประกอบกับเกรงว่าจะเสียเวลาหาร้านอาหาร ผมจึงมี 2 ตัวเลือกคือ McDonald และ Maxim’s Express แต่เสียดายที่ตอนเช้าอย่างนี้ Maxim’s Express ไม่ขายข้าวมันไก่ของโปรด และไม่มีอะไรที่เราอยากทาน เลยจำใจกิน McDonald เหมือนเคย ![]() นั่งรถไฟฟ้าข้ามเกาะทะลุภูเขา ![]() เพื่อมาขึ้นรถไฟขบวนนี้ โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ทั้งภายนอก ![]() และภายในห้องโดยสาร ![]() และแล้วรถไฟก็จอดที่ชานชาลาสุดคลาสสิก ก่อนเวลาประตูเปิดเกือบครึ่งชั่วโมง ![]() เดินเล่น ซื้อตั๋วแบบไม่ต้องกลัวเข้าคิว มาทีไรก็ไม่เคยมีคิว ผมเลือกซื้อตั๋วหน้าทางเข้าเนื่องจากต้องการใช้คูปองส่วนลดที่ได้จาก Tourist Day Pass ซึ่งลดไปทั้งหมด 30 HKD + 5 HKD (เมื่อจ่ายด้วย VISA) ซึ่งทำให้ผมซื้อตั๋ว Disneyland ได้ในราคาเพียง 315 HKD หรือประมาณ 1200 บาทเท่านั้น (ตั้งแต่สิงหาคม 2011 เป็นต้นไปราคาตั๋วปรับขึ้นจาก 350 เป็น 399 HKD) ![]() คิวรอเข้าสวนสนุก ซึ่งถือว่าน้อยมากครับ คราวที่แล้วมาวันเสาร์ในช่วง Star Guest ซึ่งตรงกับปิดเทอมของฮ่องกง คิวยาวมาก แต่ก็สนุกไปอีกแบบ เนื่องจากได้ลุ้นในโปรแกรม Star Guest ![]() พอเข้าประตูมาได้ เกือบทุกคนก็ต้องมาถ่ายรูปตรงนี้ ผมก็เช่นกัน ![]() เมื่อเข้ามาแล้ว ยังต้องรอส่วนที่เป็นเครื่องเล่นเปิดตอนสิบโมงครึ่ง เลยเดินดูตามร้านขายของที่ระลึกไปเรื่อยๆ ![]() เดินมาเจออยู่ร้านนึง ขายโมเดลที่ทำจากแก้ว สวยมากๆ แต่ก็แพงมากๆ ด้วย ตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งตก 5200 บาทเลยทีเดียว ![]() ดาราใหม่ของที่นี่ครับ Tinker Bell สนนราคาอยู่ที่ 8000 บาท กลางคืนวันนี้เธอจะบินรอบปราสาทให้ผมดูครับ ![]() ตัวละครสุดคลาสสิกของ Disney, Snow White ![]() หลังจากบริเวณเครื่องเล่นเปิดให้เขา ผมก็วิ่งอย่างไม่คิดชีวิตเพื่อไปขับรถ Autopia ![]() ที่จริงแล้วก็เป็นเครื่องเล่นแบบเด็กๆ ขับรถตามราง ถ้าขับออกนอกเส้นทาง รางก็จะดึกตัวรถกลับมาเอง ความสนุกของมันอยู่ที่ได้ขับรถโดยไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเจออะไร บางคนก็ได้รอดอุโมงค์ บ้างก็ขึ้นภูเขา บ้างก็ขึ้นสะพาน เนื่องจากมีเส้นทางให้เลือก 3 เส้นทาง ![]() ขับด้วยความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตลอดเวลา !! ![]() เส้นทางที่ผมได้คราวนี้คือเข้าป่าและขึ้นเขา ![]() หลังจากขับรถ Autopia สมใจอยากแล้ว เดินออกมาอีกนิดเพื่อเข้าไปยิงปืนแข่งกันใน Astro Blasters ซึ่งเครื่องเล่นนี้ปกติคิวน้อยอยู่แล้วเนื่องจากสามารถเล่นได้หลายๆ คนพร้อมกัน แต่วันนี้ไม่ต้องต่อคิวเลยแม้แต่คนเดียว ![]() บรรยากาศภายในสนามยิงปืนซึ่งจะมีที่นั่งเลื่อนไปเรื่อยๆ จนออก ระหว่างนั้นก็ต้องยิงให้โดนเป้ามากที่สุด และคะแนนจะขึ้นเรื่อยๆ ![]() วันนี้ผมเล่น Astro Blasters ถึงสี่รอบ โดยสองรอบแรกผมอยู่ทางซ้ายมือ แฟนผมอยู่ทางขวามือ คะแนนออกมาแบบนี้ครับ ![]() รอบที่สามและสี่ ผมขอแฟนผมเปลี่ยนฝั่งไปนั่งฝั่งขวามือ เนื่องจากคิดว่าอีกฝั่งคงยิงได้ดีกว่า คะแนนก็ออกมาแบบนี้ครับ สรุปว่าเกมนี้อยู่ที่คนยิงครับ แพ้แฟนตัวเองทั้งสี่รอบเลยครับ ![]() หลังจากนั้นรอคิวเล็กน้อยเพื่อเข้าไปนั่งรถไฟเกาะ Space Mountain ![]() มันคือรถไฟเหาะ (แต่ไม่ตีลังกา) ในความมืด เหมือนเรานั่งยานอวกาศอยู่เลย สนุกและหวาดเสียวดีเนื่องจากมองไม่เห็นว่าข้างหน้าทางเป็นอย่างไร ![]() ระหว่างสนุกและหวาดเสียวนั้น มีการแอบถ่ายรูปไว้โชว์ว่า พอเวลาคุณเสียว หน้าตาคุณเป็นอย่างไร ฝรั่งเสื้อเขียวด้านหลังแสดงอาการเสียวได้ตลกมาก ![]() หลังจากนั้นเดินไป Zone Fantasy Land นั่งถ้วยหมุน Mad Hatter Tea Cup ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ เหมือนผมก็เคยเล่นถ้วยหมุนๆ แบบนี้ที่เมืองไทย ![]() เดินต่ออีกนิดในโซนเดียวกันไปนั่งเรือชมตุ๊กตาน่ารักๆ ใน Small world อันที่จริงไม่ต้องรอคิว แต่อยากนั่งหน้าเรือและเป็นส่วนตัว เลยเสียเวลารอเรือเล็กน้อย ![]() ราวกับว่าได้เที่ยวรอบโลก มีทั้งีอียิปต์ ![]() ชนเผาอินเดียแดงในอเมริกา ![]() ทัชมาฮาลในอินเดีย ![]() และเมืองฮ่องกง ![]() ถ่ายรูปสวนหน้า Small World เล็กน้อยก็เดินไปต่อแถวดูหนังสี่มิติ Mickey’s Philhar Magic ![]() ใส่แว่นตาสำหรับดูหนัง และใช้เวลาดูประมาณ 20 นาที ที่ว่าสี่มิติคือ คนดูโดนน้ำกระเด็นใส่ โดนลมเป่า แบบเดียวกับที่โดนัลด์ ดั๊ก โดนในเรื่องนั่นเอง มา Hong Kong Disneyland คราวที่แล้วผมก็มีโอกาสได้ดูหนังสี่มิตินี้เช่นกัน แต่คราวนี้เนื้อเรื่องบางส่วนเปลี่ยนไปเนื่องจาก Hong Kong Disneyland พึ่งมีดาราใหม่ นั่นคือ Tinker Bell นั่นเอง ![]() หลังจากนั้นรีบเดินไปต่อแถวเพื่อดูโชว์การแสดงประกอบเพลง The Golden Mickeys ![]() อีกตั้ง 20 นาทีการแสดงถึงจะเริ่ม แต่ผู้คนก็มาต่อแถวกันยาวอย่างที่เห็น ![]() เมื่อเวลาผ่านไป แถวด้านหลังผมยาวสุดลูกหูลูกตา ![]() มีทั้งการแสดงโชว์ของครอบครัวโดนัลดักและ Goofy ![]() Toy Story ก็มา ![]() Stitch โต้คลื่น ![]() Beauty and The Beast ![]() อสูรกลายร่างเป็นเจ้าชาย ![]() และโชว์อื่นๆ เช่น มู่หลาน ทาร์ซาน ![]() เดินมาอีกหน่อยในโซนเดียวกันเพื่อใช้ Fast Pass (บัตรสำหรับจองเวลาเล่นเครื่องเล่น สามารถนำบัตรเข้าสวนสนุก ไปรูดเพื่อจองเวลาเล่นได้ แต่มีเครื่องเล่นไม่กี่เครื่องที่มี Fast Pass) เข้าคิว นั่งรถเข้าบ้านหมีพูห์ใน The Many Adventures of Winnie the Pooh ![]() ทำให้คุณรู้จักหมีพูห์และผองเพื่อนมากขึ้น ![]() ได้เวลาอาหารกลางวันในยามบ่าย มือนี้ฝากท้องไว้กับบะหมี่หมูและบะหมี่เนื้อตุ๋นที่สวนอาหารข้างบ้านหมีพูห์ รสชาติอร่อยดี ราคาก็ชามละ 70 HKD แพงตามประสาอาหารในสวนสนุก ![]() เดินไปต่อแถวถ่ายรูปกับ Minnie Mouse แต่จู่ๆ ก็ได้เวลาพักของเธอ เลยออกจากแถวเพราะนึกว่าเธอพักนาน ที่ไหนได้ อีกเพียงแค่ 3 นาทีเธอก็ออกมาให้ถ่ายรูปเหมือนเดิม ขี้เกียจต่อแถวใหม่เลยไปรอขึ้นรถไฟชม Disneyland ดีกว่า รอซักพักรถไฟก็มา ![]() ขึ้นรถไฟมาถึงสถานีหน้าประตูทางเข้า (รถไฟมีแค่ 2 สถานีคือ หน้าประตูทางเข้าและ Zone Fantasy Land) แต่มีเพียงไม่กี่คนที่ลงจากขบวน เพราะเกือบทุกคนอยากนั่งรถไฟให้ครบรอบ ![]() หลังจากได้นั่งรถไฟครบรอบสมใจ ก็ได้เวลารอดูขบวน Parade Disney’s Flights of Fantasy เริ่มต้นจาก... รถขายน้ำ นำหน้าขบวนเลยครับ ที่จริงก็เตรียมตัวมาดีโดยการนำน้ำขวดใหญ่ใส่กระเป๋ามาดื่มกันแล้ว แต่ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการจึงต้องเสียเงิน 20 HKD ซื้อน้ำที่ Disneyland อยู่ดี ![]() ตามมาด้วยช้าง Dumbo มาโชว์ว่า Hong Kong Disneyland ครบ 5 ขวบแล้วนะ มุมที่ผมดูไม่ค่อยดีเท่าไรเนื่องจากได้เห็นแค่ข้างๆ ขบวน ![]() และเหล่าเพื่อนพ้อง Mickey Mouse ![]() Winnie the Pooh ซึ่งคราวที่แล้วที่ผมมา Pooh และเพื่อนไม่ได้ออกมาโชว์ตัว ![]() Lion King ![]() ดาราคนใหม่ของ Hong Kong Disneyland, Tinker Bell ![]() Stitch ![]() หลังจากชมพาเหรดเสร็จก็รีบวิ่งมาที่ Zone Tomorrow Land เพื่อต่อแถวเล่นขับยานอวกาศ Orbitron ซึ่งไม่เคยเล่นมาก่อน แต่พอเล่นแล้วก็รู้สึกว่าแบบนี้เมืองไทยก็มี ![]() ถือซะว่าขึ้นมาถ่ายรูปมุมสูง ![]() เดินผ่าน สวนน้ำ (สวนที่มีน้ำฉีดออกมา) เด็กๆ เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ![]() ฟังเพลงที่บรรเลงจากถังและกระป๋อง ![]() เล่นม้าหมุน Cinderella Carousel ปีที่แล้วก็เล่น ปีนี้มาก็ยังไม่เบื่อ ทำเป็นเด็กไปได้ ![]() ต่อคิวถ่ายรูปกับดาราดังของ Disney โดยเฉพาะ Pooh หนึ่งในดวงใจผมเลย ![]() เดินไปที่ Zone Adventure Land เพื่อนั่งเรือ Jungle River Cruise ราวกับว่าไปผจญภัยในป่าแอฟริกา มีทั้งช้าง เสือ จระเข้ คนป่า ซึ่งเป็นของปลอมแต่สามารถหลอกเด็กหลายคนว่ามันคือของจริงได้ ![]() ตอนสุดท้ายของการล่องเรือ จบด้วยภูเขาไฟระเบิด ![]() เดินเที่ยวเล่นทั้งวัน ขอนั่งพักซักหน่อยที่ร้านฟาสฟู้ด Zone Tomorrow Land อาหารขยะยังคงเป็นอาหารที่ถูกที่สุดในฮ่องกง ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน รวมทั้งที่นี่ด้วยซึ่งแฮมเบอร์เกอร์ถูกกว่าบะหมี่ ![]() เลือกซื้อของที่ระลึกในร้านอยู่พักใหญ่ เนื่องจากเจอของถูกใจราคาไม่แพงนัก เป็นตุ๊กตาต่างๆ อยู่ในแคปซูล ลูกละ 16 HKD ![]() รอเวลาดูพลุโดยการ ขับรถ Autopia อีกรอบเพราะอยากขับไปอีกเส้นทางที่รอดใต้ภูเขา และแข่งยิงปืนกันอีก 3 รอบใน Astro Blasters ![]() ใกล้สองทุ่มแล้ว จึงรีบวิ่งออกไปที่ Sleeping Beauty castle เพื่อดู การแสดงแสงสีเสียง Tinker Bell Castle Illumination คนมารอกันดูกันเยอะมาก ![]() ภาพที่เห็นราวกับว่า Tinker Bell บินอยู่รอบปราสาท Sleeping Beauty castle การแสดงนี้ใช้เวลาเพียงแค่ 5 นาที ![]() ระหว่างรอดูพลุตอนสองทุ่มครึ่ง ก็ดู Sleeping Beauty castle เปลี่ยนสีไปพลางๆ ![]() ![]() ![]() พลุมาแล้วครับ จุดอยู่ประมาณสิบห้านาที ของจริงสวยมาก แต่ถ่ายภาพออกมาไม่สวยเลย ![]() กลับมาหาอะไรทานแถว Mong Kok แวะร้านราเมนแชงการีล่า สั่งแค่ชามเดียวก่อนครับ เพราะคราวที่แล้วสั่งคนละชามแล้วทานไม่หมด เป็นราเมนที่ต้องเลือกเครื่องเอง ก็ชี้ๆ เอาครับว่าจะใส่อะไรบ้าง อร่อยดีครับ ราคาประมาณชามละ 30 HKD ดูดดูรวบรวมรีวิวร้านอาหาร ในฮ่องกง มาเก๊า พร้อมแผนที่ คลิ๊กที่นี่ครับ ![]() น้ำเตาหู้ขวดนี้อร่อยดีครับ ผมชอบ มีขายตาม 7-11 ทั่วไป ตลอดทริปนี้ ซื้อดืมอีกหลายขวดทีเดียว ![]() มาย่าน Mong Kok ทั้งที ต้องไม่ลืมแวะชิมลูกชิ้นเนื้อใต้ตึก Sincere ร้านนี้ครับ เนื้อแน่นน้ำจิ้มอร่อยได้ใจจริงๆ สนนราคาไม้ละ 13 HKD ![]() หลังจากอิ่มท้องแล้วก็ได้เวลาช๊อปปิ้งตอนห้าทุ่ม ร้านส่วนใหญ่จะปิดประมาณเที่ยงคืน ![]() ได้กระเป๋าคิตตี้, ฟองน้ำ และ Bioderma เช็ดเครื่องสำอาง สำหรับใช้ทั้งปี ![]() วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยสุดๆ เที่ยวตั้งแต่เช้ายันมืดเลยครับ แต่ก็สนุกสุดๆ เหมือนกัน 3 วัน 2 คืนแบบนี้เหมือนได้เที่ยวแค่วันเดียวเองนะครับ ถ้ายังไม่จองอะไร แนะนำให้หาเวลาใหม่ครับ เอาแบบไปเ้ช้ากลับดึก หรือไม่ก็เป็น 4 วัน 3 คืน
ถึงฮ่องกงสองทุ่ม วันแรกก็คงเดินเล่นแถวโรงแรม ไม่แน่ใจว่าพักโรงแรมอะไรครับ วันที่สองตอนเช้าไปวัดหวังต้าซินกับวัดนางชีก็ได้ครับ แล้วค่อยไป Disneyland อยู่จนดูพลุตอนสองทุ่มแล้วก็กลับโรงแรม ลองดูวิธีไปวัดทั้งสองด้านล่างครับ https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=poohphawaree&date=01-07-2010&group=24&gblog=3 วันที่สามก็คงไม่ได้ทำอะไร เตรียมตัวกลับบ้านครับ โดย: Pooh (ภูผาวารี
![]() ขอบคุณมากค่ะ
เรื่องวันคงไม่สามารถเปลี่ยนได้แล้วค่ะ จองแอร์เอเชียตอน 0 บาท ได้แค่ช่วงนี้อะค่ะ โรงแรมยังไม่ได้จองเลยค่ะ แต่ที่ดูไว้ก็ขอให้ใกล้สนามบินมากที่สุดค่ะ เพราะวันกลับเช้ามากค่ะ แล้วไม่เคยเที่ยวต่างประเทศแบบครอบครัวด้วยค่ะ จุดประสงค์ก็คืออยากพาลูกๆไปดิสนีย์แลนด์ กับไปไหว้พระขอพรเทพเจ้าโชคลาภอยู่ติดทะเล แต่ไม่รู้จักชื่อว่าอะไรค่ะ (เคยไปแล้วกลับมารู้สึกการเงินดีมากๆค่ะ) กลัวเรื่องการเดินทางค่ะ ไม่ทราบว่าที่ฮ่องกงจะมีรถเช่าพร้อมคนขับไหมค่ะ โดย: nonglex IP: 124.120.249.130 วันที่: 21 สิงหาคม 2554 เวลา:17:43:52 น.
อืม ถ้าไปเจ้าแม่กวนอิมที่ Repulse Bay นี่อาจจะเสียเวลานิดนึงเพราะต้องเดินทางด้วยรถเมล์ แต่ถ้าไม่เกี่ยงเรื่องค่าเดินทาง ก็ไปแท็กซี่ได้ครับ
เปลี่ยนโปรแกรมให้ใหม่ครับ วันที่สอง เช้าไป Repluse Bay บ่ายไป Disneyland ส่วนเรื่องโรงแรม ถ้าไม่เกี่ยงเรื่องราคา ก็อยู่ Disneyland Resort เลยก็ได้ครับ เพราะ Disneyland ใกล้สนามบิน โดย: Pooh (ภูผาวารี
![]() ขอบคุณค่ะ
ถ้าพักที่ดิสนีย์รีสอร์ท ห่างจากสนามบินไม่มาก แล้วช่วงเย็นหาอาหารทานง่ายหรือเปล่าค่ะ ที่ดูไว้ก็มี โนโวเทล ซิตี้เกจ ค่ะ แต่รู้สึกหองพักจะเต็มแล้ว ดิสนีย์รีสอร์ทห้องพักพร้อมบัตรเข้าสวนสนุกด้วยใช่ไหมค่ะ โดย: nonglex IP: 161.246.39.14, 161.246.254.167 วันที่: 22 สิงหาคม 2554 เวลา:13:17:16 น.
ก็คงต้องทานในรีสอร์ทอย่างเดียวเลยครับ เพราะแถวรีสอร์ทนี่มีแต่ป่าและทะเล
ถ้าต้องการหาอะไรทานง่ายด้วย อยู่ตัวเมืองก็ได้นะครับ วันสุดท้ายก็ตื่นเช้าหน่อย ทันบินแน่นอนครับ โดย: Pooh (ภูผาวารี
![]() ถ้าตัวเมืองพอจะแนะนำโรงแรมได้ไหมค่ะ มีเด็ก 2 คนด้วย กลัวลูกจะกินอะไรไม่ค่อยได้
แล้วรถจะติดหรือเปล่าค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ โดย: nonglex IP: 161.246.39.14, 161.246.254.166 วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:9:54:34 น.
ระดับราคาประมาณไหนครับ?
ลองเข้าไปดูรวบรวมรีวิวโรงแรมด้านล่างนะครับ https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=poohphawaree&month=16-06-2010&group=24&gblog=8 โดย: Pooh (ภูผาวารี
![]() คิดว่าจะพักในตัวเมืองแล้วค่ะ เพราะต้องเอาอาหารเป็นหลัก อยากทราบว่าเมืองไหนเดินทางสะดวกที่สุดค่ะ ถ้าจะกลับสนามบิน ช่วยบอกวิธีการขึ้นรถให้ด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
โดย: nonglex IP: 161.246.39.14, 161.246.254.163 วันที่: 29 สิงหาคม 2554 เวลา:11:35:06 น.
เมืองไหน? ย่าน Tsim Sha Tsui น่าจะ ok ที่สุด ส่วนการขึ้นรถกลับสนามบินก็นั่ง Airport Express ต่อเดียวถึงสนามบินเลยครับ โดยที่ Airport Express จะมีรถ Shuttle bus คอยรับตามโรงแรมต่างๆ ด้วยครับ
โดย: Pooh (ภูผาวารี
![]() Mickey’s Philhar Magic นี่เนื้อเรื่องเปลี่ยนไปจากของเก่าเยอะไหมคะ
โดย: mumuu IP: 223.207.19.194 วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:15:10:21 น.
เนื้อเรื่องส่วนใหญ่เหมือนเดิมครับ มีเนื้อเรื่องของ Tinker Bell เพิ่มขึ้นไม่เยอะ
โดย: Pooh (ภูผาวารี
![]() อยากทราบว่าพักย่านไหน แหล่งช้อบปิ้งถูกๆเยอะคะ ^_^
โดย: Rain IP: 110.169.207.127 วันที่: 23 กันยายน 2554 เวลา:15:03:59 น.
ตอบคำถามคุณ Rain ไม่ถูกเลยแฮะ ก็น่าจะทุกย่านที่อยู่ในตัวเมืองแหละครับ Tsim Sha Tsui, Yau Ma Tei, Jordan, Mong Kok, Wan Chai, Causeway Bay
โดย: Pooh (ภูผาวารี
![]() อยากจะลองไปเที่ยงฮ่องกงดูบ้าง ไม่เคยไปเลยค่ะ คุณ Pooh คิดว่า การไปครั้งแรกซื้อเป็น Package หรือว่า ลุยเองเลยดีค่ะ แต่ใจอยากจะลุยเองเลยค่ะ ส่วน disney land พอเสียค่าบัตรเข้าไปแล้ว ไปข้างในต้องเสียค่ะเล่นอีกมั้ยค่ะ ขอบคุณมากคะ
โดย: giftsy IP: 58.181.130.170 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2554 เวลา:11:09:16 น.
คิดว่าจะไป 5 วัน 4 คืน นี่ กำลังดีมั้ยค่ะ
โดย: giftsy IP: 58.181.130.170 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2554 เวลา:11:10:30 น.
ซื้อ Package กับลุยเองไม่ต่างกันเท่าไรนะครับ เพราะ Package ก็ได้แค่รถรับส่งโรงแรมเพิ่ม ที่เหลือก็เที่ยวเองอยู่ดี ถ้าหาตั๋วถูกๆ ได้ก็แนะนำให้ไปเองดีกว่า เพราะประหยัดกว่าแน่นอน
Disneyland เสียค่าบัตรแล้วไม่ต้องเสียค่าอะไรเพิ่มแล้วครับ ดูโชว์ เล่นเครื่องเล่น กี่รอบก็ได้ แต่จากประสบการณ์ไม่เคยเล่นเครื่องเล่นและดูโชว์ต่างๆ ครบภายในวันเดีัยว อาจจะต้องเลือกที่อยากดู อยากเล่นน่ะครับ ไป 5 วัน 4 คืนกำลังดีเลยครับ โดย: Pooh (ภูผาวารี
![]() สวัสดีค่ะ ขอคำแนะนำหน่อยนะค่ะ จะเดินทางเดือน ตค ค่ะ เดินทางด้วยตัวเองครั้งแรกนะค่ะ ภาษาอังกฤษไม่เก่งสามารถจะเดินทางด้วยตัวเองจะรำบากในการสื่อสารไหมค่ะ ช่วยแนะนำโปรแกรมเที่ยวฮ่องกงและที่พัก(ย่านช็อปปิ้งค่ะ)ให้หน่อยค่ะ จะเดินทาง 26 ตค 2ทุ่มกลับ 31 ตอนเช้า 10โมงค่ะ ขอบคุณนะค่ะ
โดย: minnie IP: 171.4.135.239 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:16:55:54 น.
ภาษาอังกฤษไม่เก่ง ไม่ลำบากหรอกครับ พกแผนที่และรูปใส่มือถือไปเยอะๆ อันที่คนฮ่องกงก็ไม่ได้พูดอังกฤษได้ทุกคนครับ ผมเข้าร้านข้าวยังต้องชี้รูปอยู่เลย
ไปนานจัง อิจฉาๆ ถ้าอยากได้ที่พักย่านช๊อปปิ้งก็ JJ Hotel เลยครับ ถูกและดี แต่มักจะไม่ค่อยว่าง ต้องรีบจอง จองที่ Booking.com จองแล้วยกเลิกได้ ไม่เสียตังครับ ส่วนที่อื่นลองดูตามนี้เลยครับ https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=poohphawaree&group=24&month=20-06-2011&gblog=15 ส่วนโปรแกรมก็ตามนี้เลยครับ www.bloggang.com/viewblog.php?id=poohphawaree&date=14-08-2011&group=24&gblog=16 ปล พฤษภานี้ผมก็ไปพักที่ JJ Hotel ขอโทษที่ตอบช้าไปหน่อยนะครับ พึ่งกลับจากฮ่องกง โดย: Pooh (ภูผาวารี
![]() คือจะไปเที่ยวฮ่องกงกับเพื่อนๆ ครั้งแรกเลยที่จะไปเที่ยวต่างประเทศกันเอง
ควรจองที่พักใกล้ mrt ป้ายรถเมล์ ประมาณนี้ป่ะคะ อยากเน้นสะดวกเดินทาง ใกล้ที่ท่องเที่ยว ไปกลับสนามบินง่าย ราคาไม่แพงมาก (เยอะ 5555) กะข้ามไปเที่ยวมาเก๊าเช้าไป เย็นกลับ ดีไหมคะ คาดว่าไป 5วัน 4คืนอะค่ะ รบกวนช่วยแนะนำหน่อยนะคะ เดินทางกุมภาค่ะ โดย: skr IP: 171.100.40.147 วันที่: 2 มกราคม 2556 เวลา:19:48:12 น.
คือจะไปเที่ยวฮ่องกงกับเพื่อนๆ ครั้งแรกเลยที่จะไปเที่ยวต่างประเทศกันเอง
ควรจองที่พักใกล้ mrt ป้ายรถเมล์ ประมาณนี้ป่ะคะ อยากเน้นสะดวกเดินทาง ใกล้ที่ท่องเที่ยว ไปกลับสนามบินง่าย ราคาไม่แพงมาก (เยอะ 5555) กะข้ามไปเที่ยวมาเก๊าเช้าไป เย็นกลับ ดีไหมคะ คาดว่าไป 5วัน 4คืนอะค่ะ รบกวนช่วยแนะนำหน่อยนะคะ เดินทางกุมภาค่ะ โดย: skr IP: 171.100.40.147 วันที่: 2 มกราคม 2556 เวลา:19:48:12 น.
|
บทความทั้งหมด
|
พอดีช่วงเดือนพ.ย.นี้ มีแพลนพาครอบครัวไปเที่ยวฮ่องกง 3 วัน 2 คืน โดยวันแรกไปถึงฮ่องกงประมาณ 2 ทุ่ม และวันกลับต้องขึ้นเครื่องตอน 10 โมง
อยากให้ช่วยแนะนำโปรแกรมและการเดินทางในฮ่องกงค่ะ เพราะเป็นทริปต่างประเทศครั้งแรกของครอบครัว และพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยเก่งค่ะ ที่ๆอยากไปมากๆคือ ดิสนีย์แลนด์ กับไหว้พระขอพรเทพเจ้าโชคลาภค่ะ
รบกวนด้วยนะค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ