"ต รั ง" ความงดงามของธรรมชาติ และในความนึกคิดของผม ถ้าจะให้เลือกเดินทางท่องเที่ยวมาซักหนึ่งจังหวัด ตรัง คงจะไม่ใช่เป้าหมายในลำดับต้นๆ ในความรู้สึกนัก... ........แต่แล้วความคิดของผมก็ต้องเปลี่ยนไปเมื่อได้มาเยือน ตรัง อย่างจริงจัง.......... ![]() อีกหนึ่งพื้นที่การเดินทางในแบบฉบับของผม ม่วงมหากาฬ LIFE FOR TRAVELhttps://www.facebook.com/PEESAT.PANTIP อีกหนึ่งพื้นที่การเดินทางในแบบฉบับของผม บันทึกการเดินทางฉบับนี้ของผมเริ่มต้นที่ ต.วังมะปราง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง สู่แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แห่งใหม่ที่มีชื่อว่า วังผาเมฆ เส้นทางจากถนนใหญ่สู่ถนนลูกรังที่สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นปาล์มและยางพารา บ่งบอกถึงอาชีพของชาวบ้านในแถบนี้ ![]() ที่นอนสำหรับเราในคืนนี้เมื่อพวกเรามาถึงในช่วงเย็นย่ำ อาจจะไม่เลิศหรูแต่แฝงไว้ด้วยความจริงใจและน้ำใจอันใสสะอาด ![]() วังผาเมฆ เป็นการรวมกลุ่มกันของชาวบ้านที่จัดตั้งกลุ่มอาสาเพื่อพิทักษ์ผืนป่า ควบคู่ไปกับการจัดการด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยมียอดเขาวังผาเมฆเป็นจุดเด่น ที่นี่ไม่มีเงินเดือน มีเพียงเงินทุนที่เรี่ยไรจากความรักในผืนป่าแห่งนี้เพื่อก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่นี่ไม่มีไฟฟ้า ที่นี่ไม่มีบ้านพัก มีเพียงศาลากันฝน มีเต็นท์ให้ค้างแรม มีห้องน้ำที่สะดวกสบาย และมีรอยยิ้มด้วยความดีใจเมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมเยือน... อาหารเย็นสำหรับวันนี้ถูกจัดเตรียมปรุงกันสดๆ ด้วยวัตถุดิบพืชผักที่หาได้ในท้องถิ่นเพื่อให้พวกเราได้ลิ้มลอง ![]() สำรับถูกจัดตั้งบนโต๊ะหินอ่อนในศาลาบริเวณที่ทำการฯ วังผาเมฆ ศาลาที่เป็นทั้งห้องประชุม ที่ทำการ ที่ทำอาหาร ที่ทานอาหาร และที่รวมเอาไว้ซึ่งความผูกพันของชุมชน ![]() ต้มส้มใบส้มม่าวอาหารพื้นบ้านของภาคใต้ที่รสชาติออกเปรี้ยวนิดๆ เป็นเมนูแนะนำที่ผู้ใหญ่บ้านชักชวนให้พวกเราลองทาน ![]() อรุณรุ่งของวันใหม่ท่ามกลางความหนาวเย็นประหนึ่งเหมือนได้อยู่ในภาคเหนือ ตี 5 เป็นเวลานัดหมายที่พวกเราจะได้เริ่มต้นเดินเท้าไต่ระดับความสูงสู่ยอดเขาวังผาเมฆกัน เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นชาวบ้านเปลี่ยนหน้าที่จากพ่อครัวมาเป็นคนนำทาง เป็นเส้นทางที่ค่อนข้างลำบากและลื่นเพราะสายฝนที่ตกลงมาตั้งแต่เมื่อวานเย็น ![]() ระยะทางเดินเท้าราว 700 เมตรแต่ใช้เวลาร่วมหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ คงเพราะต้องปีนป่ายไต่ไปตามเชือกที่ค่อนข้างชัน ทำให้รู้สึกเหนื่อยพอสมควร แต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าทำให้ผมรู้สึกหายเหนื่อยขึ้นมาทันที ![]() ครั้งหนึ่งในชีวิตเราคือผู้พิชิตวังผาเมฆ ป้ายบอกความภูมิใจเมื่อได้มาถึงยอดเขาสุดปลายทาง ในความรู้สึกตอนนี้มันเป็นความสุขผสมไปกับความภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก ![]() ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าตรังจะมีทะเลหมอก ไม่เคยคิดว่าตรังจะมีที่เที่ยวในแบบที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักนัก เพียงเพราะโบรชัวร์ใบหนึ่งที่พี่คนหนึ่งส่งมาให้... ![]() ในโบรชัวร์เป็นภาพของทะเลหมอกที่งดงามจนผมต้องตกอยู่ในภวังค์ ภาพใบนั้นได้จุดประกายความรู้สึกให้อยากเข้าไปสัมผัส ภาพความฝันที่ในวันนี้ได้กลายเป็นความจริงและสัมผัสได้จริง ![]() พี่เจ้าหน้าที่นำทางเล่าให้พวกเราฟังว่าผืนป่าแห่งนี้แต่ก่อนมีอาณาเขตที่กว้างขวางกว่าปัจจุบัน บ่อยครั้งที่โดนบุกรุกตัดไม้เพื่อเอาพื้นที่มาทำสวนยางพาราและสวนปาล์ม ![]() ชาวบ้านที่รักและเห็นผืนป่าแห่งนี้มาตั้งแต่เกิด เล็งเห็นความสำคัญและคุณประโยชน์ของผืนป่า จึงได้รวมตัวกันจัดตั้งเป็นกลุ่มอาสาพิทักษ์ผืนป่าวังผาเมฆขึ้นมา ทำให้ปัญหาการบุกรุกป่าลดน้อยลง ![]() พี่เจ้าหน้าที่ยังเล่าต่ออีกว่า ปัจจุบันผืนป่าวังผาเมฆมีเนื้อที่ประมาณ 700 กว่าไร่ มีสัตว์ป่าชุกชุมและมีพืชพรรณที่หายากอยู่หลายชนิด ![]() พี่เดินขึ้นมาบนนี้แทบทุกวัน แล้วแต่ว่ามีนักท่องเที่ยวหรือไม่ บางทีก็ขึ้นมาปรับแต่งทางเดินเท้า ถามว่าเหนื่อยไหมก็รู้สึกเหนื่อยเหมือนกัน ทางมันไม่ดี อยากทำทางเดินให้ดีๆ มีราวจับดีๆ แต่ก็ไม่มีงบประมาณ ที่เห็นสภาพทางขึ้นแบบนี้ก็ทำกันเอง ออกค่าใช้จ่ายกันเอง บางทีก็มีรายได้บ้างจากค่านำทางที่นักท่องเที่ยวหยิบยื่นให้ แต่บางครั้งก็ไม่มี ไม่ให้ ก็ไม่ได้ว่าอะไร พี่เจ้าหน้าที่เล่าให้พวกเราฟังขณะกำลังชมวิวอยู่ด้านบน ![]() จริงแล้วก็อยากให้หน่วยงานของรัฐเข้ามาดูแลบ้าง จัดตั้งเป็นวนอุทยานฯ ก็ว่ากันไป แต่ก็ไม่คืบหน้า ทุกวันนี้ก็ดูแลกันตามมีตามเกิด พี่เจ้าหน้าที่เล่าให้ฟังต่อ ![]() ฝากน้องช่วยประชาสัมพันธ์ด้วยนะ อยากให้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันเยอะๆ ที่นี่มันสวยจริงๆ แต่ไม่มีใครรู้จัก และไม่ค่อยมีใครมาเที่ยว บรรยากาศที่งดงาม กับการสนทนาที่กลั่นออกมาจากใจ ทำให้ผมรับรู้ถึงความรู้สึกได้เป็นอย่างดี ![]() ด้านบนของวังผาเมฆในวันนี้อากาศค่อนข้างเย็น มีหมอกไม่มากนักเพราะลมค่อนข้างแรง แต่ก็งดงามเพียงพอที่จะทำให้รู้สึกประทับใจ ![]() เมื่อหันหลังกลับมามองในอีกด้านหนึ่งทางฝั่งทิศตะวันตกจะเห็นทิวเขาหินปูนที่มีรูปทรงสวยงาม แนวทิวเขาลักษณะแบบนี้คงมีให้เห็นที่ภาคใต้ที่เดียวเท่านั้น ![]() เป็นความรู้สึกประทับใจที่ได้เห็นความสวยงามของธรรมชาติทั้งสองรูปแบบ ด้านฝั่งทิศตะวันออกงดงามด้วยทะเลหมอกสีทอง ส่วนด้านฝั่งทิศตะวันตกอลังการด้วยทิวเขาหินปูน ![]() พี่เจ้าหน้าที่ยังเล่าต่ออีกว่า ที่มาของชื่อ วังผาเมฆ คือแนวทิวเขาในภาพนี้ วันไหนที่ทุกอย่างเป็นใจเราจะได้เห็นสายหมอกสีขาวนวลเข้าไปอยู่ในแอ่งภูเขาจนเต็มแอ่ง อันเป็นที่มาของชื่อ วังผาเมฆ และจากจุดนี้ถ้าวันไหนฟ้าเปิดเราก็ยังสามารถมองเห็นทะเลอันดามันได้อีกด้วย ![]() ส่วนทางด้านฝั่งทิศตะวันออกถ้าสายหมอกเจือจางลง เราจะสามารถมองเห็นตึกรามบ้านช่องของตัวเมืองตรัง ![]() นอกจากความสวยงามของธรรมชาติแล้ว ประสบการณ์อันมีค่ากับชีวิตที่คลุกคลีอยู่กับผืนป่าแห่งนี้ ได้ถูกถ่ายทอดจากพี่เจ้าหน้าที่ส่งต่อสู่คนต่างถิ่นอย่างพวกเรา ทำให้พวกเราได้รับความรู้เป็นอย่างมาก ![]() หนึ่งชั่วโมงกว่าที่เดินขึ้นมากับความรู้สึกที่ได้อยู่บนนี้ไม่กี่นาที ต่อให้ต้องใช้เวลาเดินกันเป็นวันผมก็ยังคิดว่ามันคุ้มค่าอยู่ดี ![]() สายหมอกยังคงหนาแน่นมากขึ้นสวนทางกลับเวลาแห่งความสุขที่กำลังจะหมดลงไป ผมใช้เวลาอยู่ที่นี่ราวๆ ชั่วโมงเศษและคงต้องรีบลงไปข้างล่าง ทางลงยังคงใช้เส้นทางเดิมแต่มีความรู้สึกว่าลงง่ายและไวกว่าตอนขาขึ้น ![]() หลายสิ่งที่พวกเราได้รับนอกเหนือไปจากธรรมชาติที่สวยงาม คงเป็นความรักความสามัคคีในชุมชนที่มีต่อผืนป่าแห่งนี้ ต้องขอขอบคุณกลุ่มอาสาพิทักษ์ผืนป่าวังผาเมฆที่ทำให้เราได้ประสบการณ์อันมีค่าที่สุด ถ้ามีโอกาสผมคงได้กลับมาเยือนที่นี่อีกครั้ง อาจจะเป็นวันที่มีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น หรืออาจจะเป็นวันที่วังผาเมฆได้กลายเป็นวนอุทยานฯ สมดังความตั้งใจ ![]() แผนที่การเดินทางของผมทั้งหมดตลอดการเดินทางที่อยู่ตรัง จากวังผาเมฆไปยังเขื่อนคลองท่างิ้วสู่น้ำตกต่างๆ และไปชมตะวันลับขอบทะเลที่แหลมหยงสตาร์ ก่อนวกกลับเข้ามาในตัวเมืองตรัง ผ่านสวนพฤกษศาสตร์สากลภาคใต้ ![]() ตรังในช่วงวันที่ผมไปเยือน สายฝนโปรยปรายชุ่มฉ่ำอยู่ตลอดทั้งวันทั้งคืน ภาพของสวนยางพาราที่มีให้เห็นโดยทั่วไปรอบๆ จังหวัดตรังยามเมื่อได้รับสายฝน ดูสดชื่นชุ่มฉ่ำและสบายตาสบายใจในความรู้สึกของผม ![]() เขื่อนคลองท่างิ้วอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ที่ ต.ท่างิ้ว อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ![]() ด้วยความที่เงียบสงบ และวิวทิวทัศน์ที่สวยงามล้อมรอบไปด้วยทิวเขา ทำให้เขื่อนคลองท่างิ้วกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เริ่มได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น ![]() วัตถุประสงค์หลักของเขื่อนคลองท่างิ้วอันเนื่องมาจากพระราชดำริ คือเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ทำการเกษตรในช่วงฤดูแล้งให้กับชาวบ้านในพื้นราบ และยังเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ นั่งเรือเที่ยวชมความงดงามของขุนเขาและสายน้ำซึ่งเป็นวัตถุประสงค์รองลงไป ![]() หลังสายฝนหยุดตกสายหมอกก็เริ่มต้นชโลมขุนเขาซึ่งเป็นของคู่กัน คงเหมือนกับคนไทยที่ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ก็ไม่เคยห่างหายจากน้ำพระทัยของพ่อ ![]() เส้นทางสายน้ำตกของจังหวัดตรังที่มีแนวเทือกเขาบรรทัดขนานไปกับเส้นทางหมายเลข 4264 ระยะทางห่างจากตัวเมืองตรังราว 20 กว่ากิโลเมตร เราจะพบเห็นน้ำตกอยู่หลายแห่งทีเดียว หนึ่งในน้ำตกที่สวยงามไม่เป็นรองที่ไหนๆ คือ น้ำตกสายรุ้ง ![]() ในวันที่อากาศดีๆ เราจะเห็นละอองน้ำที่ฟุ้งกระจายเกิดเป็นสายรุ้งที่สวยงาม อันเป็นที่มาของชื่อน้ำตกสายรุ้ง ![]() ากน้ำตกสายรุ้งห่างออกไปอีกราว 28 กิโลเมตรบนเส้นทางหมายเลข 4264 จะเป็นที่ตั้งของราชินีน้ำตกแห่งภาคใต้ที่มีชื่อว่า น้ำตกโตนตก ![]() น้ำตกโตนตก เป็นน้ำตกที่ไม่ใหญ่มากนัก จุดเด่นคงเป็นบริเวณโดยรอบที่ค่อนข้างจะร่มรื่น ตัวน้ำตกไม่ห่างจากลานจอดรถมากนัก ไม่ต้องใช้เวลาเดินไกล ![]() มาถึงจุดนี้ความคิดของผมก็เริ่มเปลี่ยนไป จากเดิมที่คิดว่าตรังมีแต่ทะเลที่สวยงาม ตั้งแต่วังผาเมฆผ่านเขื่อนคลองท่างิ้วเข้าสู่เส้นทางสายน้ำตก ทุกๆ การเดินทางได้ค่อยๆ เปลี่ยนความคิดของผม ถ้าจะมีที่เที่ยวในจังหวัดหนึ่งที่เพียบพร้อมไปหมด ทั้งป่าเขา ทะเล อาหารการกิน ตรัง คงเป็นคำตอบสำหรับผมในตอนนี้ไปเสียแล้ว ![]() ห่างจากน้ำตกโตนตกออกไปเพียง 1 กิโลเมตรเป็นที่ตั้งของ น้ำตกโตนเต๊ะ น้ำตกที่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล ![]() ด้วยความยิ่งใหญ่ของน้ำตกโตนเต๊ะ สายน้ำใสสะอาดที่ไหลจากหน้าผาสูงราว 300 กว่าเมตร ทำให้ได้รับสมยานามว่าเป็นราชาแห่งน้ำตกแดนใต้ ![]() โดยรอบบริเวณที่ค่อนข้างร่มรื่น น้ำที่ใสราวกระจก ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนกันอย่างไม่ขาดสาย ![]() จากน้ำตกโตนเต๊ะผมใช้เส้นทางหมายเลข 4125 ระยะทางราว 42 กิโลเมตร สู่แหลมหยงสตาร์ อ.ปะเหลียน ![]() แหลมหยงสตาร์เป็นแหลมที่ยื่นออกไปในทะเลตามลักษณะของภูมิประเทศ กว่า 95 เปอเซ็นต์ของชาวบ้านที่แหลมหยงสตาร์จะเป็นชุมชนมุสลิม ที่เหลือจะเป็นชาวจีนที่อพยพมาอยู่ตั้งแต่บรรพบุรุษ โดยส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพประมงรวมไปถึงการทำสวนยางพารา ![]() หลายๆ บ้านประกอบอาชีพการทำปลาเค็มแดดเดียวโดยใช้วิธีแบบดั่งเดิม ไม่มีการใส่สารใดๆ ตากแดดแล้วนำออกจำหน่ายเลย กลายเป็นสินค้าขึ้นชื่อของชุมชนแหลมหยงสตาร์ที่ใครผ่านไปผ่านมาต้องแวะหาซื้อเป็นของฝาก ![]() คุณลุงคุณป้าเล่าให้ฟังว่าตั้งแต่จำความได้ก็เห็นอาชีพนี้มาตั้งแต่เกิด สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ![]() เป็นความผูกพันในวิถีชีวิตบนพื้นฐานของความพอเพียง แม้ปลาตัวจะไม่ใหญ่มากนัก มีทั้งปลาอินทรีย์และปลาทู ขายกันกิโลละ 150 บาท หรือจะเป็นมัดที่มีอยู่ประมาณ 3-4 ตัว ก็เพียงมัดละ 20 บาทเท่านั้น ![]() นอกจากการทำประมงและการทำสวนยางพาราแล้ว บางบ้านก็ยังมีการเพาะเลี้ยงกุ้งให้เห็นอยู่เป็นระยะๆ ![]() ยามเย็นวันนี้ที่แหลมหยงสตาร์บรรยากาศดูงดงามตระการตา มีความรู้สึกว่ายิ่งดวงตะวันเริ่มคล้อยต่ำลง ความสวยงามกลับยิ่งเพิ่มมากขึ้น ![]() สะพานที่เป็นท่าเรือทอดยาวออกไปสู่ทะเลอันดามันกลายเป็นศูนย์รวมของความสุข ผู้คนจำนวนไม่น้อยมารวมตัวกันบริเวณนี้ บ้างก็มาปั่นจักรยาน บ้างก็มานั่งปูเสื่อรับประทานอาหาร กินลมชมวิว ![]() แสงสุดท้ายของที่นี่บางทีความงดงามอาจจะไม่แตกต่างจากที่อื่นๆ แต่ความพิเศษสำหรับที่นี่จะมีเทือกเขาบรรทัดทอดตัวเป็นแนวยาวที่ดูแล้วรู้สึกสวยงามอย่างยิ่ง ![]() ดวงตะวันค่อยๆ ลาลับ เหลือไว้เพียงแสงสีทองสะท้อนผืนน้ำ ผมไม่แน่ใจนักว่ากลางทะเลเค้าทำการประมงเกี่ยวกับอะไร แต่ที่ผมแน่ใจในตอนนี้ที่สุดคือภาพที่อยู่เบื้องหน้ามันช่างสวยงามจับใจดีเหลือเกิน ![]() ห้องพักในราคาเพียงครึ่งพันเป็นที่นอนของพวกเราในคืนนี้ น่าแปลกใจตรงที่บริเวณแหลมหยงสตาร์จะไม่ค่อยมีที่พักมากนัก เท่าที่เห็นก็มีเพียง 2-3 รายเท่านั้นในราคาที่แสนถูกแบบซีวิวมองเห็นทะเลเลย แต่ก็ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเข้ามาพัก ![]() เช้าวันนี้ผมวกกลับเข้ามาในตัวเมืองตรังอีกครั้งหลังจากในวันแรกไม่ได้แวะเยี่ยมเยือนอย่างจริงจัง แต่ก่อนจะถึงตัวเมืองอีกราว 12 กิโลเมตร พวกเราแวะที่สวนพฤกษศาสตร์สากลภาคใต้(ทุ่งค่าย)กันก่อน ![]() สวนพฤกษศาสตร์สากลภาคใต้(ทุ่งค่าย) จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2529 ในสมัยที่คุณชวน หลีกภัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นสถานที่ซึ่งรวบรวมอนุรักษ์เอาไว้ซึ่งพันธุ์ไม้พื้นเมืองที่หายาก ที่นี่เป็นที่เดียวในประเทศไทยที่มีสะพานเรือนยอดไม้ให้เดินชมธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ![]() เส้นทางศึกษาธรรมชาติโดยรอบของ สวนพฤกษศาสตร์สากลภาคใต้(ทุ่งค่าย) จะแบ่งออกเป็นช่วงๆ รวมระยะทางราว 3 กิโลเมตร หากแต่เป็น 3 กิโลที่ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยเท่าไรนัก คงเพราะมีความรู้สึกเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติทั้งสองข้างทางเสียมากกว่า ![]() ระหว่างทางเดินศึกษาธรรมชาติเรายังสามารถพบเห็นดอกไม้นานาชนิด ในภาพเป็นดอกยี่โถปีนังที่พบเห็นได้อย่างมากมายระหว่างทางเดิน ![]() ตัวเมืองตรังในวันนี้ยังคงชุ่มฉ่ำไปด้วยสายฝนเหมือนกับในวันแรกที่ได้มา บ้านเรือนในแบบโบราณสไตล์ชิโนโปรตุกีสมีให้เห็นโดยทั่วไปรอบตัวเมืองรวมไปถึงต่างอำเภอ มีความรู้สึกว่าเมื่อได้มายืนอยู่ในตัวเมืองตรังเหมือนได้ย้อนอดีตไปในสมัยก่อน ![]() โบสถ์โบราณคริสตจักรตรัง ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบนถนนห้วยยอด สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1915 จวบจนถึงปัจจุบันก็ครบ 100 ปีพอดี เป็นสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และเป็น 1 ใน 20 โบราณสถานของจังหวัดตรัง ที่นักท่องเที่ยวควรแวะเยี่ยมชม ![]() ในตัวเมืองเรายังสามารถพบเห็นรถตุ๊กๆ หัวกบได้โดยทั่วไป จนกลายเป็นเอกลักษณ์และเสน่ห์อย่างหนึ่งของการมาเยือนตรัง ![]() หากจะไม่กล่าวถึงหมูย่างเมืองตรังที่ขึ้นชื่อก็คงจะดูว่ามาไม่ถึงเมืองตรังซักทีเดียวนัก หมูย่างเมืองตรังมีร้านทำขายกันอย่างมากมายไม่เฉพาะในตัวเมือง ต่างอำเภอก็ยังพบเห็น รสชาติอาจจะแตกต่างกันไปแต่ยังคงไว้ซึ่งความหอมของเครื่องเทศและความอร่อย ![]() ติ่มซำหลากหลายเมนูเสริฟมาพร้อมกับน้ำชาร้อนๆ ที่หอมกรุ่น เป็นเอกลักษณ์และเสน่ห์อย่างหนึ่งสำหรับอาหารเช้าของคนเมืองตรัง ![]() อนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี อดีตเจ้าเมืองตรัง บิดาแห่งยางพาราไทย ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะเขตเทศบาลเมืองตรัง ห่างจากศาลากลางจังหวัดราว 1 กิโลเมตร โดยรอบบริเวณอนุสาวรีย์จัดเป็นสวนไม้ดอกไม้ประดับที่ร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ ![]() ทุกย่างก้าวที่ได้สัมผัสเมืองตรัง มันเหมือนชีวิตที่เดินไปอย่างช้าๆ บนพื้นฐานของความสุข จากจุดเริ่มต้นของการเดินทางจนสุดท้ายที่ปลายทางได้เปลี่ยนแปลงความคิดและความรู้สึกของผมไปอย่างสิ้นเชิง ตรังเมืองแห่งความสุข และมันก็เป็นความสุขในแบบที่ครบทุกรสชาติของการท่องเที่ยวจริงๆ ![]() ม่วงมหากาฬ LIFE FOR TRAVEL ภาพในสายตาคุณม่วงมหากาฬงดงามมากค่ะ อยู่ตรังยังไม่สามารถเห็นภาพสวยๆได้แบบนี้เลยค่ะ ประทับใจค่ะ
โดย: auau_py
![]() ชอบการเดินทางไปเที่ยวชมธรรมชาติแบบนี้นะคะ
ไปง่ายๆ อยู่ง่ายๆ กินนอนง่ายๆ ![]() โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า
![]() ![]() คิดถึงตอนเด็กๆมากค่ะ ธรรมชาติบริสุทธิ์ ของกินอร่อย พ่อแม่ส่งไปอยู่กับญาติๆที่ตรังช่วงปิดเทอม ประทับใจทุกทีที่คิดถึง
โดย: sorahoshii
![]() |
บทความทั้งหมด
|