นิราศเขาพระวิหาร ![]() พระวิหารกันดารถิ่นฐานเรา เสียให้เขาครั้งสิบสี่สุดพอเพียง ๒)ฝรั่งเศสชักใยอยู่เบื้องหลัง รับคำสั่งศาลโลกตกลงเสียง เก้าต่อสามถูกหามออกน็อกคาเตียง แพ้พี่เลี้ยงน้ำท่วมปากยากต้านทาน ๓)สองพันห้าร้อยห้าตีตราไว้ อธิปไตยไทยสละ เขาพระวิหาร เรื่องเล่าบอกตอกย้ำเป็นตำนาน รุ่นลูกหลานจารจดเป็นบทเรียน ๔)ขวานทองไทยพสุธาเหลือเท่านี้ ใครอัปรีย์ยุแหย่แยกแปรเปลี่ยน ตาต่อตาฆ่าริปูผู้เบียดเบียน ไม่อยากเขียน......ขอรวบรัดตัดขึ้นภู อัตคัดคนเคียงใกล้ใจอดสู เกิดหินตำคะม้ำล้มใครก้มดู ไร้โฉมตรูอยู่ข้างว้างกมล ![]() ต่อเท้าเดินจ้ำอ้าวเข้าถนน แดดร้อนอาบอบอ้าวก้าวขึ้นบน นิดเดียวพ้นลาดยาง...เหยีบบลูกรัง ![]() ไปตามดวง...คนกล้า..ช้าตามหลัง ฟิตกันหน่อยชมของนอกออกกำลัง ซากหักพังหวังยืนหยัดทัศนา ![]() ไทยสองต่อเพื่อดูแลและรักษา ที่เขมรขึ้นเขาค่าสายตา เรื่องเงินตราเหมากลุ่มจ่ายท้ายขบวน ๙)เข้าเขมรมิรู้สึก...นึกสยาม กั้นเขตคามคลองน้ำนั้นผันผวน ยาวแค่วาสะพานข้าม เขต...ไม่ควร แผนที่ส่วนแบ่งขาดชาติเผ่าพงศ์ ๑๐)เห็นข้าวของทองหยองกองกลาดเกลื่อน กระซิบเตือนของย้อม ปลอม...อย่าหลง สร้อยทองคำกำไลน่าใส่องค์ อยากเงินปลงไร้คนฝากออกปากคราง ๑๑)เขาเดินปาดตัดหน้ามาเป็นคู่ เรามองดูไต่ตรองยิ่งหมองหมาง เทพอุ้มสมงมอยู่ไหนหนอทิศทาง นอนอ้างว้าง ทานแห้วท้อ ลิ้นคอพอง ![]() ไม่ทักทายถึงคนรักจักเสียของ เสพสุราไร้กลับแกล้มจืดชืดลอง ต่อตอนสองต้องวันหลังตั้งตาตาม (โปรดติดตามตอนต่อไปเร็ว ๆ นี้) ขอขอบคุณ น้องยามะราตรี , น้องพิกุลสด ผู้ให้ข้อมูล สวัสดีคะศิษย์พี่ใหญ่
เข้ามาตามไปแอ่วเขาพระวิหารเป็นคนที่สอง สวยงามมากคะ ![]() ท่านพี่อย่าคิดมากนะคะ เรื่องแห้วเดี๋ยวนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ คนกินแห้วเยอะกว่าคนไม่กินแห้วหลายเท่าตัว ![]() อันว่าคู่ตุนาหงันนั้นถึงเวลาเทพก็จะอุ้มสมมาให้เองแหละ ![]() ![]() ![]() รออ่านตอนต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้ศิษย์พี่ใหญ่ซาเหมอค่ะ ![]() ![]() โดย: sandhurst IP: 58.136.93.34 วันที่: 6 ธันวาคม 2550 เวลา:13:57:50 น.
สวัสดีครับน้องรอง และน้องน้อย ก็ขอบคุณน้องทั้งสองที่แวะเข้ามาให้กำลังใจ
กำลังใจมาปากกาเขียนไม่มีหมึกหมด กำลังใจลด ปากกาไม่มีแม้หยดหมึกจะเขียน ความจริงพี่ยังแต่งกลอนได้ไม่จบหรอกครับ พึ่งจะเดินก้าวขึ้นบันไดเขา ถึงบทที่ ๑๖ แค่นั้นเอง ยังไม่ได้ผ่านโคปุระซักแห่ง พี่จึงคิดว่าถ้าโอ้เอ้ลังเลใจอยู่ เห็นทีจะแต่งไม่จบเป็นแน่ คนเราส่วนมากชอบการบังคับ ถ้าไม่โดนบังคับก็ไม่มีแรงกระตุ้น ทำให้เฉื่อยชา ขาดความกระปรี้กระเปร่าลง จึงขอดัดนิสัยตนเองลงไว้ก่อน เพื่อเรียกเพาเวอร์หรือว่าไฟที่ริบหรี่ กลับคืนมา ไม่รู้ว่าจะช่วงโชติชัชวาลตระการตาเหมือนเดิมอีกหรือเปล่า ถ้าเปรียบเป็นมวย ก็ร้างเวทีนานแล้ว คงจะออกอาทิตย์ละครั้งเป็นอย่างน้อย น้องน้อย พี่ว่าจะขอให้ไปเกี่ยวข้าวช่วย ทำเป็นหรือเปล่าเอ่ย? เรื่องผ้าห่มตราคนนั้นผ่านมา ๔๑ ร้อน ๔๑ฝน ๔๑หนาวแล้ว ชินชาไปแล้วจ้า ก็เป็นเอกลักษณ์ของการแต่งนิราศต้องมีคร่ำครวญหาหญิงอันเป็นที่รัก ของพี่อาจจะประเภทน้ำท่วมทุ่งไปซักหน่อย เนื้อหาคงโหรงเหรงน่าดู เอาเป็นว่ายืดบทกลอนตั้งแต่เริ่มแต่งก็แล้วกัน แต่ยังไงก็ต้องหาทางจบลงให้ได้จ้า ศิษย์น้องรอง ก็กลอนพาไป ก็มีเสริมเติมแต่งกันไปบ้างเล็ก ๆ น้อย ใส่เปรียว หวาน มัน เค็ม เอากันให้ครบทุกรส ด้วยอยากจะให้ถูกปากคนชิมจ้า เรื่องแห้วมีให้ทานเยอะแยะ จนต้องนำมาใส่กระบุง ใช้ไม้คานขึ้นหาบแล้วครับ เรื่องเนื้อคู่กระดูกคู่ คนเราอายุมากแล้วทำใจได้เป็นปรกติแล้วครับ เห็นน้องสาวกับน้องเขย ขนาดมีอาชีพมั่นคงด้วยกันทั้งสองฝ่าย ยังมีเรื่องระหองระแหงกัน ก็ดีที่มีหลานสาว ๒ คนเป็นกาวใจเชื่อมให้ดีด้วยกัน นอกเรื่องไปซะแล้ว ช่วงนี้จะพยายามแวะเข้ามาดูแลบ้านน้อยหลังนี้ทุกวันครับ โดย: ปฏิทิน IP: 222.123.218.94 วันที่: 6 ธันวาคม 2550 เวลา:19:47:54 น.
หุหุหุ จะมาชวนเค้าไปเกี่ยวข้าวเหรอ?
![]() ถ้าไปช่วยแล้วจะให้ข้าวกี่กระสอบล่ะค่ะคุณพี่ ![]() โดย: ยามะ IP: 202.28.62.245 วันที่: 6 ธันวาคม 2550 เวลา:23:24:03 น.
เช้านี้คิวว่างเลยถือโอกาสแวะมาคุยเล่นกับน้อง
เรื่องราวของครอบครัวพี่ คุณแม่ท่านเป็นชาวชนบทบ้านนา ส่วนท่านพ่อเป็นคนจังหวัดร้อยเอ็ด อาชีพเป็นครู ได้มาสอนหนังสือที่ชนบทจังหวัดอุบลราชธานี จึงได้มาพบรักและตั้งหลักปักฐานกันที่แดนดอกบัวงาม พี่จึงได้มีโอกาสได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบท้องทุ่งบ้านนา สมัยเรียนมัธยม วันหยุดเสาร์อาทิตย์ ยังเคยได้เกี่ยวข้าว แต่ก็เก้งก้างน่าดูเชียว ปัจจะบันคุณยายท่านเสียชีวิตไปแล้ว คุณแม่ท่านก็แบ่งเอาเฉพาะที่ดิน ส่วนที่นายกให้คุณน้า แต่วิถีชีวิตปัจจุบันเปลี่ยนไป ที่หมู่บ้านพี่ ความเจริญกำลังทะลักเข้ามา การลงแขกเกี่ยวข้าวไม่มีให้เห็นแล้ว จากควายเทียมเกวียนเปลี่ยนไปเป็นควายเหล็ก การเคาะข้าวเปลี่ยนเป็นการสีข้าวแทน มีการว่าจ้างกันไปเกี่ยวข้าวแทนการเก็บเกี่ยวเอง ครอบครัวพี่ก็ไม่ได้ทำนามานานแล้ว หาซื้อข้าวมาทาน พี่คิดว่าวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ ไม่ได้ปรามาสหรือสบประมาทแต่อย่างไร คงทำนากันไม่เป็น จึงแกล้งชวนน้องน้อยเล่น ๆ ไปอย่างงั้นเองจ้า โดย: ปฏิทิน IP: 222.123.219.115 วันที่: 7 ธันวาคม 2550 เวลา:5:55:15 น.
อยากจะไปช่วยคุณยามะฯเกี่ยวข้าว แต่เกรงว่าสังขารจะไม่อำนวย อิอิอิ แต่ถ้าท่านพี่อนุญาติ ก็อยากไปดูการทำนาและเกี่ยวข้าวที่เมืองอุบลฯจัง
จริงค่ะ สังคมสมัยนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เราซึมซับวัฒนธรรมและกระแสของต่างชาติมาก มากจนจนลืมวิถีที่แท้จริงของตัวเองไปแล้วว่าเราคนไทย คือชนชาติเกษตรกรรม และเกษตรกรก็คือกระดูกสันหลังของชาติ ซึ่งตอนนี้ชาติไทยเราก็มีปัญหามากมายเหลือเกินกับกระดูกสันหลัง ไม่มีรัฐบาลไหนเลยที่ให้ความสำคัญและต้องการเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรของเราอย่าจริงจัง ทุกคณะรัฐบาลมุ่งเน้นแต่การสร้างและพัฒนาอุตสาหกรรมจนลืมรากเหง้าที่แท้จริงของตัวเราเองไปหมดแล้ว ตามที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านฯทรงตรัสไว้เมื่อวันพ่อที่ผ่านนี้เองค่ะ ว่าประเทศไทยเราจริงๆแล้วไม่จนนะแต่ที่ยังเป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ก็เพราะผู้นำที่ผ่านๆมามองข้ามจุดรากเหง้านี้ไปแล้วไปมุ่งหวังทางด้านอื่นพราะอยากมีชื่อเสียง เฮ่อ !! ก็ได้แต่บ่นๆไปค่ะ อย่าเพิ่งเบื่อกันก็แล้วกัน อยากเห็นบ้านเมืองดี สงบสุข สิ่งที่ตัวเองทำได้และทำอยู่ตอนนี้คือเป็นคนดีของครอบครัว ของสังคม ไม่คดโกง ไม่เบียดเบียนผู้อื่น จริงๆนะ น้องรองเป็นคนดีจริงๆนะพี่ใหญ่ ![]() ![]() ![]() ![]() แล้วจะเข้ามาบ่นให้ฟังอีก แต่ยังรอลำนำรักเขาพระวิหารบทต่ไปอยู่นะคะ ![]() ![]() โดย: sandhurst IP: 58.136.93.34 วันที่: 7 ธันวาคม 2550 เวลา:10:30:07 น.
สวัสดีตอนเที่ยง วันนี้เข้ามาเผอิญไม่มีงานอะไรทำช่วงนี้
ก็แวะเข้ามาคุยกันเล่นตามประสาพี่น้อง ช่วงนี้ส่วนมากเขาทำกันเกือบเสร็จแล้วครับ แต่ข้าวสมัยนี้ไม่ได้เอาข้าวขึ้นเล้า(ยุ้งฉางที่เก็บข้าว) เหมือนแต่ก่อน แทนการเคาะ สีเสร็จใส่สอบปุ๋ยไปขายกันเลย เหลือไว้เพียงแค่พอกินกันเท่านั้น ที่ชาวอีสานยังยากจนกันอยู่ส่วนมาก ก็นึกถึงเพลงราชาเงินผ่อน "ก็อยากจะใช้แต่สิ่งของจำเป็น ทีวีตู้เย็นจำเป็นต้องใช้... ได้มาก็เอามาซื้อของฟุ่มเฟือย สมัยนี้มีโทรศัพท์มือถือพกติดตัวแทบทุกคน แม้กระทั่งเด็กเลี้ยงควาย สรุปก็อยากจะบอกว่ามือเติบใช้เกินโตมากเกินไป นี่ก็ถือว่าเป็นอีกส่วนหนึ่งในค่านิยมฟุ้งเฟ้อเกินตัวที่ชอบทำกัน สำหรับโครงการเศรษฐกิจพอเพียงที่พระองค์ทรงแนะนำถ้าใครทำตามได้ประโยชน์มหาศาลครับ บ่นกันมาบ่นกันไป เล่าสู่กันฟัง ก็ดีกว่าเก็บไว้ค้างคาใจ คงต้องสามัคคีร่วมด้วยช่วยก้นทุกฝ่ายครับ พูดถึงดีน้องรองเคยทานดีหรือเปล่า (มันเป็นอวัยวะภายในของสัตว์) มีรสขม ชาวอีสานชอบเอามาใส่น้ำพริก ทานแล้วขมอร่อยดี ที่พี่พูดถึงดี ก็เพราะอยากจะบอกว่า อย่าให้ดีแตกก็แล้วกัน (ถ้าดีแตกมันก็ขมนั่นสิครับ) นิราศเขาพระวิหารคาดว่าน่าจะเป็นวันอังคาร ช่วงนี้หยุดยาวคงหาเวลาแต่งเพิ่มเติมได้อีก โดย: ปฏิทิน IP: 222.123.219.115 วันที่: 7 ธันวาคม 2550 เวลา:13:02:52 น.
ดูของเก่ากับคน(ไม่)แก่จ้า
พูดแบบนี้จะร้องเพลง สุรพล สมบัติเจริญ พี่ยังไม่แก่หรอกน้อง ให้น้องน้อยฟัง แหม! ถ้าเกิดร้องไปคนสมัยใหม่คงไม่เคยผ่านหู คงต้องรู้ว่ารุ่นเก่าลายความขนาดไหนเป็นแน่ โดย: ปฏิทิน IP: 117.47.74.173 วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:19:58:38 น.
ดูรูปเขาพระวิหารแล้วใจหาย เสียดายที่ไม่ได้เข้าไปชมสัมผัสใกล้ๆ คงไม่มีบุญวาสนาพอ
โดย: ครูหนองกันเกรา IP: 125.25.250.92 วันที่: 30 สิงหาคม 2551 เวลา:13:42:56 น.
|
อ่านแล้วก็ชวน...เศร้าสอยใจ ไฉนพี่ชายเราจึ่งได้คร่ำครวญเยี่ยงนี้ พี่ทินคร้าบ ถ้าเหงาขนาดนั้นก็ให้แม่มาขอยามะ เอ๊ย ไปขอสาวให้สิคร้าบ หนาว ๆ แบบนี้ มีสาวอยู่ข้างกายคงช่วยให้หายหนาวได้ (ดี)