Project ศัลยกรรมทำหน่มน้ม 3 : วันผ่าจริง 12 เมษายน 2552 วันนี้ตื่นแต่เช้าค่ะ พาแม่ไปตลาด และจริงๆตั้งใจว่าจะตื่นมากินให้หนำ ก่อนที่จะอดอยากตอนบ่ายสอง แต่เอาเข้าจริงๆ เรากินข้าวเช้าไปได้จานเดียวก็รู้สึกเหมือนกินอะไรไม่ลงแล้วอ่ะ-_-'' หและสุดท้ายก็หยุดกินทุกอย่างรวมทั้งน้ำด้วย ไปตั้งแต่บ่ายโมงครึ่ง หลังจากนั้นเราก็เป็นบ้าบอ ลุกขึ้นมาเก็บกวาดห้อง ขัดห้องน้ำ เปลี่ยนผ้าปูที่นอน ถูพื้น เก็บตู้เสื้อผ้าสารพัด ตอนนั้นรู้สึกว่าต้องรีบทำซะ ก่อนที่จะไม่ได้ทำไปอีกนาน เผื่อว่าสลบแล้วไม่ตื่นด้วย 5555 พอสี่โมงกว่าก็ออกจากบ้านค่ะ ไปไหว้ศาลหลักเมืองขอพรเล็กน้อย ่ก่อนจะขับรถไปหลงไป-_-'' กว่าจะถึงที่โรงพยาบาลก็หกโมงสิบนาที ทั้งๆที่ถ้าไม่ได้หลงคงถึงตั้งแต่5โมงนิดๆแล้วอ่ะ นี่แหละเราล่ะ ขับรถไปไหนต้องหลงซักนิดพอเป็นพิธี-_-'' พอไปถึง พี่พยาบาลด้านล่างก็รออยู่แล้ว เอาเราไปชั่งน้ำหนัก วันนั้นชั่งได้ 39.5กิโลค่ะ เพราะก่อนผ่าตัดเรากลัวว่าจะบวมน้ำเกลือ กลัวว่าซิลิโคนจะทำให้น้ำหนักเราขึ้น เราเลยลดๆๆๆๆๆ ยิ่งวันนี้ไม่ได้กินอะไรเข้าไปเท่าไหร่ น้ำหนักเลยลงจนเกือบเท่าตอนม.ปลายแน่ะ 5555 (เราสูง150นิดๆเท่านั้นเองค่ะ แต่หนัก39นี่ก็เกือบแห้งแล้วแหละ แขนขาเป็นเส้นๆเชียว-_-'') แล้วก็มีบุรุษพยาบาลเอารถเข็นมาให้เรานั่งขึ้นไปที่ชั้นสี่ เราอยู่ห้อง411^^ ห้องที่โรงพยาบาลได้เป็นห้องเดี่ยว Super Deluxeหรือไงนี่อ่ะค่ะ ห้องค่อนข้างกว้างขวาง วิ่งเล่นสะดวกเชียว-_-'' วันนั้นเราขอให้น้ามาอยู่เป็นเพื่อนแม่ เพราะเราจะหายไปจากห้องนานพอสมควรช่วงผ่าตัด กลัวแม่จะเหงาค่ะ เราสามารถขอเตียงเสริมได้ คืนละ 150บาทต่อ1เตียง ห้องนั้นน่าจะวางเตียงเสริมได้อีกซัก3-4อันเลยแหละเราว่านะ- -'' หลังจากเข้าห้องมาแล้ว เราก็ต้องถอดให้หมด แหวน นาฬิกา สร้อย เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเตรียมเข้าผ่าตัด จะมีพี่พยาบาลคนนึงน่ารักมากๆ จะมีอายุนิดนึงนะคะ เค้ามาช่วยเราเปลี่ยนเสื้อ แล้วช่วยโกนขนรักแร้ออกจนเกลี้ยงเลย ทั้งๆที่จริงๆเราก็โกนมาบ้างแล้วนะ พี่เค้าบอกว่าเวลามีแผลจะได้ทำความสะอาดง่ายๆ แล้วซักพักก็มีพยาบาลเข้ามาเจาะเลือดกับให้น้ำเกลือค่ะ ฮือๆT_T เรากลัวเจ็บมากเลยแหละ เพราะเข็มยาวมากๆ แถมดูอ้วนๆด้วยT_T แต่เราก็นึกถึงแมวที่บ้าน เพราะเมื่ออาทิตย์ก่อนมันไม่สบาย มันก็โดนเจาะให้น้ำเกลือเหมือนกัน มันยังไม่ร้องซักแอะ เราจะร้องได้ไง ใช่มะ-_-'' แต่จริงๆตอนที่เค้าเจาะเข็มลงไปในเส้นเลือดหลังมือ มันปวดๆค่ะ ปวดหนึบๆ เราก็หันมาดูพี่พยาบาลเค้ากำลังดึงๆsyringeเพื่อสูบเลือดออก แต่รู้สึกว่าเลือดมันจะไม่ออกมาอ่ะ ยังไงไม่รู้ เค้าต้องเอาเข็มออกเพื่อไปหาเส้นเลือดเส้นอื่น เจาะใหม่ กรี๊ดดดดดดดดT___T เราก็ต้องทนปวดแปล๊บบบอีกรอบที่เส้นเลือดข้างๆกัน และพี่เค้าเปลี่ยนเข็มให้เล็กลงเพราะเราบอกว่ามันปวด ก็ยังปวดอยู่แม้จะไม่มากเท่าเดิม แต่เส้นเลือดเจ้ากรรมก็ไม่รู้อะไรนักหนา เค้าบอกว่าเจอเส้นล้วนะ แต่เลือดมันไม่ออกมา ไม่รู้ทำไม ก่อนจะตีมือเราเพียะๆๆ เพื่อให้เส้นเลือดมันขึ้น แต่ก็ยังไม่สำเร็จอีก (ส่วนอิชั้นหน้าซีดแล้วค่ะ จะเป็นลม-_-'') พี่พยาบาลเค้าว่า เดี๋ยวต้องให้พี่อีกคนมาทำแล้วล่ะ เค้าก็ขอโทษเราใหญ่เลยนะ ที่ทำให้เจ็บแล้วยังสอดเข็มเข้าไปไม่ได้อีก ว่าแล้วก็ดึงเข็มออก เลือดมันก็ไหลปุดๆออกมาหยดลงเตียงไปเลย กรี๊ด โหดมากT_T กลายเป็นว่าเราโดนเข็มเจาะสามหน หนที่สามที่สำเร็จ มีพี่พยาบาลที่ดูก็รู้ว่าเป็นsenior เค้ามาเลือกเส้นเลือดตรงใกล้ๆนิ้วโป้งซ้ายของเรา คนนี้เจาะเร็วมากค่ะ ยังไม่ทันได้ปวดเลยเข็มก็เข้าไปแล้ว แต่ที่โหดคือ เค้าพยายามเอาsyringeมาดูดเืลือดเราไปตรวจ แต่มันดูดไม่ค่อยออก เค้าเลยบิดเข็มให้กรวยเล็กๆที่ครอบเข็มอยู่เทลงด้านล่าง แล้วบอกให้เรากำมือ เลือดมันก็เลยหยด แหมะๆๆๆ ไหลลงหลอดที่เค้าเอามารองเตรียมไว้ ตอนนั้นบอกอาการไม่ถูกเลยอ่ะ-_-'' มันดูโหดมาก เพราะเข็มเส้นยาว เราเห็นมันเป็นเส้นๆอยู่ตรงข้อมือเรานี่เองอ่ะ เหมือนถ้าขยับแรงๆมันคงทะลุเนื้อออกมาได้ยังงั้นเลย-_-'' แต่ปกติแล้ว คนทั่วไปเคาคงไม่โดนอะไรโหดงี้หรอกมั้งคะ เราซวยเองที่เลือดมันไม่ค่อยจะอยากจะออกจากตัว พอเสร็จสิ้นขั้นตอนการเอาเลือดไป เค้าก็มาแปะผ้าแปะสก็อตเทปที่เข็ม ก่อนจะเอาสายน้ำเกลือมาต่อให้ ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นพอสมควร เพราะไม่รู้สึกหิวเหมือนจะเป็นลมแล้ว ที่เหลือก็คือนั่งรอเวลาค่ะ ประมาณทุ่มครึ่งจะมีเตียงมารับเราไปOR ซึ่งก็ค่อนข้างตรงเวลาเลยล่ะค่ะ แม่กะน้าเราก็บอกขอให้โชคดีเจ็บน้อยๆ สวยๆสมใจนะ เราก็บ๊ายบายขึ้นเตียงไปล่ะ อิอิ ไปถึงที่หน้าห้องผ่าตัด เราต้องไปนอนเฉยๆ แว่นก็ไม่ได้ใส่ นอนตาบอดตาใสรอหมอพีซึ่งยังเดินทางมาไม่ถึง จำไม่ได้ว่ารอนานเท่าไหร่เพราะตาก็มองไม่เห็นนาฬิกาอีก (สายตาเราสั้นเยอะค่ะ-_-'') คิดว่าน่าจะใกล้ๆสองทุ่มมั้ง คุณหมอพีสุดหล่อก็มาถึงเพื่อมาวาดแบบ เค้าก็จะเอาปากกาpermanentมาวาดเป็นรูปนมบนหน้าอกเรา แล้วคุณหมอก็ได้กลุ้มใจอีกรอบเพราะเค้าไม่มั่นใจว่า ฐานหน้าอกเรานี่มันยังไงกันแน่นะ-*- คุณหมออกอาการลังเลเลยแหละ ว่าจะเอายังไงดีนะ เราก็บอกคุณหมอว่า หนูไม่มีไซส์ที่อยากได้อ่ะค่ะ เอาเป็นว่าให้คุณหมอเลือกให้ก็แล้วกัน ให้มันพอดีตัวก็โอเคแล้ว คุณหมอเลยบอกว่างั้น เด๋วขอหมอผ่าดูก่อนนะ แล้วจะได้รู้ว่าต้องใส่สองข้างไม่เท่ากันมั้ย ถ้าไม่เท่า ข้างนึงจะเป็น275cc อีกข้างก็300-325cc แต่ถ้าเท่ากัน หมอใส่300ccทั้งคู่เลยนะ เอาให้เต็มคัพซีก็แล้วกัน จะได้สวยๆ^^ เราก็ว่าไงว่าตามกันค่ะ จากเอไม่เต็มคัพมาเป็นคัพซี แค่นั้นก็หรูแล้วสำหรับคนตัวเท่าหอยเม่นอย่างเรา-_-'' และแล้วเราก็ถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัด แต่ด้วยความที่สายตาสั้น เลยมองไม่เห็นเยอะว่าในห้องเป็นยังไงบ้าง รู้ต่ว่ามีดวงไฟอันโตๆอยู่บนหัว ผนังห้องขาวๆ แล้วก็มีคนมายกตัวเราย้ายลงเตียงผ่าตัด (เค้าแซวกันว่าตัวเบามาก จนพี่ผู้ช่วยหมอต้องถามว่านี่หนักเท่าไหร่เนี่ยด้วย-_-'') ติดที่วัดชีพจรที่นิ้วชี้ด้ายซ้าย เอาอะไรไม่รู้หนักๆมาวางไว้บนหน้าแข้งด้านซ้าย มีนางพยาบาลมาถอดเสื้อออกให้ (โป๊แล้ว><) เอาผ้ามาคลุมให้ แล้วก็เอาแขนเราไปล็อคไว้กับที่วางแขน แต่ล็อคไม่แน่นอะไรอ่ะค่ะ ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไรทั้งสิ้น หลังจากนั้นคุณหมอวิสัญญีก็มาเอาขวดน้ำเกลือออก (ปบ้วน่าจะเอายานอนหลับใส่เข้าไปทางเข็มที่เจาะน้ำเกลือแทนอ่ะค่ะ) แล้วก็เอาฝาครอบมาให้ครอบหน้าเรา เค้าบอกว่านี่คืออ๊อกซิเจนนะ หายใจเข้าไปลึกๆเยอะๆเลย นี่อ๊อกซิเจนจากถังนะ ไม่ใช่อ๊อกซิเจนกระป๋อง แล้วก็หัวเราะ สิ่งสุดท้ายที่เราได้ยินคือ เค้าคุยเล่นกันว่าที่ญี่ปุ่นมีอ๊อกซิเจนกระป๋องขายด้วยนะ แล้วหลังจากนั้นโลกก็มืดไปเลยค่ะ-_-'' เราไม่รู้สึกไม่รู้เรื่องอะไรละ แต่เหมือนเราไม่รู้ตัวว่าหลับไปแล้วอ่ัะ เหมือนเรายังมีสติ ในความมืดเห็นอะไรวูบวาบๆไปหมด (ก่อนเข้าห้องผ่าตัดเราดันนั่งดูทีวีตอนที่ม๊อบเสื้อแดงทุบรถนายกพอดีอีก ตอนสลบไปเราเลยเหมือนฝันร้ายว่ามีพวกเสื้อแดงมารุมๆเลยอ่ะ บ้าที่สุด-*-) แล้วในความรู้สึกที่เหมือนมันเพิ่งผ่านไปแป๊บเดียวเองอ่ะค่ะ เราได้ยินเสียงนางพยาบาลบอกกับเราว่า คุณคะ การผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะ พยักหน้าได้มั้ย ได้ยินรึเปล่า เราก็สลึมสลือ หัวหมุนไปหมด พยักหน้าตอบเค้าว่า ค่ะ ดีจัง-_-'' ก่อนจะหลับไปอีกรอบ.. โดยที่ไม่รู้หรอกว่านรกรออยู่ข้างหน้าในอีกไม่กี่ชั่วโมงนี้แล้ว กรี๊ดดด-_-'' ^
^ 5555 ใช่ค่ะ ไม่น่าไปดูเลยจริงๆ-_-'' ขวัญเสียไปเล็กน้อยก่อนเข้าผ่าตัด เราไม่เคยดูเลยอ่ะค่ะว่าเค้าผ่ากันยังไง แต่เราก็ว่าน่าจะเสียเลือดเยอะจริงๆด้วย เพราะแม่บอกว่าตอนที่เค้าเข็นรถเราเข้าห้องมา หน้าเราเหลืองซีดมาก คิดว่าน่าจะเพราะเสียเลือดไปเยอะจริงๆแหละค่ะ^^' โดย: pAmp@m วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:15:29:59 น.
ว้าวๆๆ
รออ่านต่อนะคะ อยากทำเหมือนกัน แต่กลัวมากค่ะ โดย: That's m3 วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:21:12:48 น.
ตามติดสถานการณ์ค่ะ อ่านไปลุ้นไปค่ะ น่าตื่นเต้น และน่ากลัวไปด้วย (เป็นคนขี้กลัวเรื่องหมอ เรื่องเข็ม เรื่องยาสลบค่ะ )
โดย: Little pearl วันที่: 28 เมษายน 2552 เวลา:19:36:35 น.
สรุปแล้วได้กี่ซีซีคะจากที่ดูเป็นทรงสูงใช่ใหมค่ะหายไวๆๆนะจ้ะแต่สวยดีจังชิดด้วย
โดย: บี IP: 62.203.196.211 วันที่: 14 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:43:35 น.
จขบ.
เวลาเจาะเลือด เราเคยโดนทั้งสองแบบนะ ทั้งใช้ไซริงค์ดึง กับใช้ เข็มเจาะลงกรวยแล้วลงบีกเกอร์อีกที ที่สุดๆเลยคือ มีครั้งนึง พยาบาลทำเส้นเลือดเราแตกค่ะ กลายเป็นจ้ำใหญ่มากต้องหลังมือ สีเขียวอ่ะค่ะ โดย: marina_rain IP: 61.90.24.176 วันที่: 26 สิงหาคม 2552 เวลา:19:07:35 น.
ขอบคุณมากๆเลยนะคะข้อมูลเป็นประโยชน์มากมากกกเลยค่ะ บรรยายได้ละเอียดและสนุกทุกตอนเลยค่ะ อยากทำบ้างจัง สู้ตายค่ะ ^^
โดย: Baby Junior IP: 222.151.138.1 วันที่: 19 กรกฎาคม 2553 เวลา:8:46:02 น.
แวะมาเยี่ยมจ้า สู้ๆ นะค่ะ
ศัลยกรรม vaser เสริมหน้าอก เสริมจมูก ตัดปีกจมูก ห้องสมุด สุขภาพ ผู้หญิง ศัลยกรรม แม่ตั้งครรภ์ ทารกแรกเกิด เด็ก ครอบครัว โดย: teawpretty วันที่: 25 กรกฎาคม 2557 เวลา:13:02:59 น.
|
บทความทั้งหมด
|
ไม่งั้นคงจะฝันดีกว่านี้น๊ะ ....
เคยดูสารคดีที่เคาทำศัลยกรรมแบบนี้อ่ะค่ะ ...
แต่ดูตอนเค้าทำนี่แอบเสียว ...เลือดกระจาย ...
เรากลัวเลย .. แต่ถ้าเป็นคนไข้คงไม่กลัว
เพราะสลบไป . ตื่นเดียวก็ตูม ตูมแว้ว.