~@-@~ สะบายดีปะเทดลาว - 6 ~@-@~ สวัสดีค่ะ เที่ยวลาวทางบล็อกเรื่อยๆ กับโอ้โฮแทรเวลมาถึงบล็อกที่ 6 แล้วนะคะ ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะโพสต์รูปเยอะขนาดนี้ ตั้งใจว่าจะแปะสถานที่ละรูป แต่ทำๆ ไปแล้วเกิดอาการเสียดาย เลยเรื่อยเปื่อยมาเรื่อยและคาดว่าจะเรื่อยไปจบที่บล็อกที่ 9 ค่ะ ไม่พูดมากแล้วววว ไปเที่ยวลาวกันต่อดีกว่าค่ะ **ชื่อเรื่องนั้น ไม่ได้สะกดผิดนะคะ แต่สะกดให้เหมือนกับที่ประเทศเขาใช้อ่ะค่ะ ** ** สะบายดี แปลว่า สวัสดี ** ** ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวประกอบในบล็อกวันนี้ นำมาจากกระทู้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ป้าหนอน รวบรวมไว้ และหนังสือเล่มนี้ค่ะ คู่มือนักเดินทาง - ลาว โดย มัทรียา ธาราทรัพย์ สำนักพิมพ์อทิตตา (ในเครือนิตยสารเที่ยวรอบโลก) ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ค่ะ  ==================== เที่ยวกำแพงนครเวียงจันทน์ต่อ วันที่ 21 [ 5 ธ.ค. 48 ] เอาจักรยานไปคืน เพราะจะเรียกตุ๊กตุ๊กจัมโบ้ไปเชียงควนที่อยู่ไกลออกนอกเมืองไปทางสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ประมาณ 30 กิโลเมตร ปั่นจักรยานในเวียงจันทน์ยากกว่าที่หลวงพระบางค่ะ รถเยอะ ขับเร็ว และเราก็ไม่ชินทางเพราะต้องชิดขวา แต่โชคดีไม่มีแผลมาเป็นของฝากค่ะ เชียงควน หรือ "สวนพุทธ" ออกแบบและสร้างโดยหลวงปู่บุญลือศุลีรัตน์ โยคีพราหมณ์ผู้เลื่อมใสศาสนาพุทธ เมื่อ พ.ศ. 2501 ภายในสวนกลางแจ้งจัดแสดงพระพุทธรูปคอนกรีตปางต่างๆ เทพเจ้าในศาสนาฮินดู พระอวโลกิเตศวร      ภายในเชียงควน  กลับจากเชียงควน ก็ให้ตุ๊กตุ๊กพาไป พิพิธภัณฑ์และอนุสาวรีย์ไกสอน พมวิหาน แต่น่าเศร้า เขาปิดวันจันทร์ เลยได้แต่เกาะรั้วถ่ายอาคารมาแบบไกลๆ วันที่ 22 [ 6 ธ.ค. 48 ] ชมสถานที่สำคัญในเขตเมือง ก็มี วัดสีสะเกด หอพระแก้ว พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติลาว เป็นต้น  หอคำ เรือนรับรองแขกสำคัญของชาติ เดิมเป็นพระราชวังของพระเจ้ามหาชีวิต ไม่เปิดให้เข้าชมค่ะ ได้แต่เก็บภาพมาจากด้านนอก วัดสีสะเกด เจ้าอนุวงศ์โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2316 ในบริเวณวัดเก่าที่อยู่ติดกับพระราชวัง ที่มาของชื่อวัดนี้คือ วัดตั้งอยู่ทาง "ทิศหัวนอน" คือ วัดหันหน้าเข้าหาพระราชวังหรือทิศหัวนอนของเจ้าอนุวงศ์ เพื่อว่าเมื่อทรงบรรทมตื่นหรือเข้าบรรทมก็สามารถไหว้พระในวัดได้เลย  ภายในวัดสีสะเกด   หอไตรของวัดสีสะเกด เนื่องจากมีการขยายถนนล้านช้าง ตามโครงการปฏิรูปเมือง แล้วความกว้าง ของถนนไปผ่าตรงกลางหอไตรพอดิบพอดี ผลก็ออกมาเป็นแบบในภาพ โชคดีที่ไม่ทำลายหอไตรทิ้งซะดื้อๆ หอพระแก้ว เดิมเป็นวัดที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตที่พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชอัญเชิญมาจากเชียงใหม่ เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชโปรดให้ยกทัพไปตีเมืองเวียงจันทน์ เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (ต่อมาคือ รัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรี) แม่ทัพไทยในคราวนั้นได้เผาหอพระแก้วและอัญเชิญพระแก้วมรกตมายังกรุงธนบุรี และปัจจุบันก็ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพฯ หอพระแก้วที่เห็นนี้เป็นหอที่สร้างขึ้นใหม่ ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงของโบราณของชาติลาว     หอพระแก้ว และบริเวณโดยรอบ ภายในห้ามถ่ายภาพค่ะ ตอนเย็นลองนั่งรถเมล์ไปสถานีขนส่งสายใต้ แถวดงโดรง มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว เพื่อซื้อตั๋วไปปากเซ รถไปปากเซมีทุกวันๆ ละหลายเที่ยว และมีหลายแบบค่ะ ทั้งรถธรรมดา รถปรับอากาศ และรถ VIP ตามแต่ว่าใครสะดวกแบบไหนค่ะ วันที่ 23 [ 7 ธ.ค. 48 ] วันสุดท้ายในเวียงจันทน์แล้ว เรามีเวลาเที่ยวในช่วงเช้า เพราะรถไปปากเซออกสองทุ่มครึ่ง พอเก็บข้าวของเตรียม Check Out แล้ว ป้าหนอนก็เช่าจักรยานปั่นไปชมพิพิธภัณฑ์ไกสอน พมวิหาน (แล้วกลับมาเล่าให้ฟังว่าเนื้อหาที่จัดแสดงเหมือนกับพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติที่อยู่ในเมืองทุกอย่าง ถ้าชมพิพิธภัณฑ์ในเมืองแล้วไม่ต้องไปชมที่นี่ก็ได้ แต่พิพิธภัณฑ์ทหารที่อยู่บนถนนเส้นเดียวกันน่าสนใจมาก) ส่วนเราก็เดินเล่นในเมือง มีจุดหมายหลักคือขึ้นไปชั้นบนของประตูชัย ออกแนวเก็บกดอยากไปชมประตูชัยของฝรั่งเศสมาก แต่ยังไม่มีปัญญา เลยขอที่นี่ก่อนล่ะกัน ประตูชัย ซุ้มประตูขนาดใหญ่ ลักษณะคล้ายประตูชัยของฝรั่งเศส แต่รายละเอียดเป็นศิลปะล้านช้าง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2512 เพื่อเป็นที่ระลึกแก่วีรชนผู้ร่วมปลดปล่อยประเทศลาวให้เป็นอิสระ   วันนี้เวียงจันทน์ไม่มีแดดเลยค่ะ อากาศเย็นมากๆ   ลวดลายปูนปั้นและภาพวาดบนเพดาน ศิลปะแบบล้านช้าง   วิวจากด้านบนของประตูชัย ถ่ายไปสองสามรูปแล้วถึงค่อยเห็นว่า มีป้ายห้ามถ่ายไปซุกอยู่ตรงซอกตึก รู้สึกเกรงๆ เลยได้มาแค่นี้ แหะ แหะ หัวค่ำ ได้เวลาอำลาเวียงจันทน์ ขึ้นรถไปปากเซ แขวงจำปาสัก ทางตอนใต้ของลาว จริงๆ แล้วจากแผน ป้าหนอนตั้งใจจะไปสะหวันเขตก่อน เพื่อนมัสการพระธาตุอิงฮัง แต่เนื่องจากบานประตูแกะสลักอันแสนสวยงามของวัดพระธาตุอิงฮังมาอยู่ที่หอพระแก้วแล้วเลยมุ่งไปปากเซเลยดีกว่า ถ้าต่อไปโครงการสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จากมุกดาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราค่อยไปกันตอนนั้นค่ะ ==================== อัพเดทบล็อกครั้งต่อไป ไปเล่นน้ำโขง ที่สี่พันดอน ลาวใต้ กันนะคะ 
เห็นหอไตรของวัดสีสะเกดโดนผ่าแล้วอึ้งกิมกี่เลยครับ
 ก็ยังดีที่ไม่ทุบทิ้งเหมือนกำแพงเมืองเชียงใหม่เพื่อขยายถนนเมื่อสามสี่สิบปีที่แล้ว.... โดย: ธามาดา IP: 210.246.70.176 วันที่: 19 มกราคม 2549 เวลา:19:22:42 น.
ถ้าจะเทียบ้วียงจันทน์กับ กรุงเทพ ก็คงสู้ กทม ไม่ได้เรื่องใหญ่ และสวยทันสมัยคนเยอะ แอออัด
แต่ถ้าจะเทียบแบบสวยแบบธรรมชาติ กพอไหว แต่ในเดือนนี้ร้อยที่สุดใน ประวัติศาสตร์ วจ ถ้าจะมา วจ ให้มาปายเดือนนี้นะ ร้อน ปีนี้ก็หนาวสุดด้วย โดย: จากเวียงจันทน์ IP: 202.137.134.100 วันที่: 22 มิถุนายน 2550 เวลา:22:44:34 น.
ปะเทดลาวหน้าอยุ่ที่สุดไนโลก
โดย: สิน IP: 192.99.14.34 วันที่: 16 ธันวาคม 2557 เวลา:8:34:36 น.
|
บทความทั้งหมด
|
||||||||||||||||||||
 |
|
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
โอ้โห
สะวัดดี สะบาย ทู่ ค่ะพี่โอ้โฮ
ไม่เจอะกันนาน ไป ลาวมาซะแล้น
ฮี่ๆๆ
แหม
ดูรูปแล้ว ชักอยากไป
แต่กลับจากเที่ยวไม่เคยได้เขียนอะไร
ซะที
ฮ่า
(หมดแฮงน่ะค่ะ)
สวัสดีปีใหม่นะคะ (ไม่ช้าไปนะเออ)
คิดถึงเสมอค่ะ