OR : รายย่อย 'เราชนะ' โออาร์ให้นักลงทุนรายย่อย และผู้ถือหุ้น ปตท.ที่ได้รับการจัดสรรหุ้น กำหนดให้จองซื้อขั้นตํ่า 300 หุ้น ราคาหุ้นละ 18 บาท จองซื้อหุ้นได้ ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม จนถึงเที่ยงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ โดยใช้วิธีจัดสรรหุ้นแบบ Small Lot First คือ ผู้จองซื้อจำนวนน้อยได้รับการจัดสรรหุ้นก่อน การระดมทุนของ OR ครั้งนี้ เสนอขายหุ้นไอพีโอไม่เกิน 3,000 ล้านหุ้น โดยจะนำหุ้น ออกเสนอขายประชาชนครั้งแรกจำนวน 2,610 ล้านหุ้น และสำรองไว้ 390 ล้านหุ้น (กรีนชู)  และนั่นก็คือคำชักชวนที่ก่อให้เกิดกระแสร้อนแรงไปทุกหย่อมหญ้า คนไม่เคยซื้อหุ้นก็ไปจองหุ้นกัน โดยที่ยังไม่มีพอร์ตหุ้น เกิดคำถามมากมายว่าจะขายยังไง ทำให้ในตอนนี้แม้ราคาได้ขึ้นไป แต่ก็ยังมีหุ้นในมือรายย่อยอีก 1 ใน 3 ที่ยังไม่ได้ออกมาสู่ตลาด ผมซื้อหุ้น IPO ตัวแรกคือ BAM ด้วยความมุ่งหวังว่า จะเก็บเอาไว้กินปันผล คือเราจะเป็นเจ้าของกิจการร่วมกับเค้าไป ราคาจาก 18 บาท ขึ้นไป 32 บาท ก็ไม่ขาย ในที่สุดก็ลงมาถึงจุดสำคัญที่ต่อสู้กันหนักในช่วงนั้นคือ 25 บาท ผมก็ปล่อยไป ได้กำไรมาถือว่าเป็นครึ่งหนึ่งของที่ได้กำไรตลอด 4 ปี หุ้นที่ไปจองตัวที่ 2 คือ SCGP คราวนี้มุ่งหวังกำไรเต็มที่ จากประสบการณ์ที่ หุ้น IPO จะขึ้นในวันแรกแล้วสามารถขายทำกำไรได้เลย โดยทำผิดกฎที่สำคัญของตัวเอง ก็คือเอาเงินร้อนมาซื้อ ผ่านสัปดาห์แรกไปอย่างทุรนทุราย ราคาเกาะอยู่ที่ราคาจอง แถมลงมาต่ำกว่านั้นอีก ราว 3 สัปดาห์ผ่านไป ก็เลยขายนำเงินไปคืนเข้าบัญชีที่ราคาทุน  ถึงตรงนี้หุ้น BAM ถือว่าคิดถูกเพราะราคาปัจจุบัน ต่ำกว่าที่ขายไป แต่หุ้น SCGP ถือว่าผิด เพราะปัจจุบันราคาไปถึง 50 บาท กำไรกว่า 40% ถึงคราวหุ้น OR ก็ละล้าละลัง ด้วยแรงกดดันทางจิตวิทยาว่า รถยนต์จะเลิกใช้น้ำมันกันแล้ว ตัดสินใจจองไป 500 หุ้น แล้วสำรองเงินในบัญชีเผื่อไว้เก็บเพิ่ม ถ้าเปิดมาต่ำจองอีก 500 หุ้น เวลา 10.00 น. วันที่ 11 ก.พ. 2564 ตลาดหลักทรัพย์ ก็มีธรรมเนียมตีระฆังเป็นสัญญาณ โดยผู้บริหารของบริษัทที่เข้าใหม่ในตลาดหลักทรัพย์เพื่อเริ่มการซื้อขายหุ้น IPO แต่หุ้น OR ของผมยังไม่เข้าพอร์ต เปิดกระทู้ใน pantip พบมิตรสหายร่วมชะตาจำนวนมาก เป็นปัญหาจากหลากหลายธนาคารที่จองและหลากหลายบริษัทหลักทรัพย์ที่โอนหุ้นเข้า แม้กระทั่งซื้อจากธนาคารแล้วโอนเข้าบริษัทหลักทรัพย์ตัวเองก็ยังมีปัญหา สรุปสุดท้ายก็หาสาเหตุการเกิดไม่ได้ ว่าทำไมถึงโอนหุ้นเข้าพอร์ตที่กำหนดไว้ไม่ได้ รู้แต่วิธีแก้ปัญหาคือ ต้องส่งเอกสารไปยัง บล. เพื่อขอโอนหุ้นที่ติดอยู่ที่บัญชี 600 กลับมา รู้สึกเจ็บใจกับการให้บริการมาก ที่รู้อยู่ว่ามีจะคนจองมหาศาล แต่กลับมีวิธีแก้ปัญหา แบบไม่มืออาชีพ โดยผมมองว่าเวลาที่ขอใช้ดำเนินการจัดสรรนั้นน้อยเกินไปจนเกิดปัญหา  ราคาหุ้นที่ขึ้นไปทำให้หลายคนกังขาแบบหักปากกาเซียนว่าหุ้นขึ้นไปเท่าตัวได้อย่างไร เป็นเรื่องที่น่าสนใจว่าระดับผู้จัดการกองทุนจะไม่รู้หรือว่า หุ้นจะราคาขึ้นหรือลง เพราะก่อนขาย IPO ก็มีข่าวว่า ทุกกองทุนขอสละสิทธิ์ที่จองไว้ไปหลายร้อยล้านหุ้น จนกระทั่ง Underwriter ต้องออกมาแจ้งว่า จะเอาหุ้นที่เหลือมาจัดสรรเพิ่มให้รายย่อย จะบอกว่าเดี๋ยวหุ้นจะเข้า set50 แล้วกองทุนอิงดัชนีหรือ passive fund จะต้องเข้ามาซื้อ ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องจริง เพราะคราวหุ้น SGCP สอนให้รู้ว่า มีคนกดราคาหุ้นนี้อยู่ได้เป็นเดือน จะบอกว่า ปตท จัดสรรหุ้นออกมาน้อยก็ไม่ใช่ เพราะ 25% ที่ขายออกมานี่ก็ 3000 ล้านหุ้น มากกว่าหุ้นทั้งบริษัทมหาชนหลายบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เสียอีก น่าสนใจว่าสุดท้ายราคานั้นจะขึ้นไปถึงเท่าไหร่ หรือว่านี่จะเป็นเหมือน หุ้น gamestop ที่อำนาจของรายย่อยจะมีพลังจนทำให้กองทุนต้องไล่ราคาเพื่อเก็บหุ้น ก็งงๆ กันไป โดยที่หลายคนก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะหุ้นก็ยังไม่ได้เข้าพอร์ต กลายเป็นถือยาวกันไป ผมเองที่ตัดสินใจซื้อก็เพราะว่า ใช้หลักการซื้อสินค้าหรือบริการของใครก็ซื้อหุ้นเจ้านั้น โดยหุ้นบริษัทใหญ่ๆ ที่ออกมา list ถือไปแล้วราคาต่ำกว่า IPO นี่น้อยมาก  ร้านกาแฟอเมซอนใครๆ ก็รู้จัก ที่น่าสนใจคือการขยายตัวไปต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ประเทศญี่ปุ่น ผมชอบแนวคิดที่ให้ความสนใจกับชุมชน โดยสาขาแรกคงรู้ว่าเปิดในปี 2016 ที่เมือง Kawauchi จังหวัด Fukushima บริหารงานโดยบริษัทโคโดโม เอเนอร์จี ที่กล่าวว่า เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่น ฟังดูเหมือนเป็นแค่จุดขาย แล้วคุณรู้ไหมว่า ร้านกาแฟแห่งที่สองอยู่ที่ไหน ผมรู้เป็นครั้งแรกจากการไปฟังสัมมนาการท่องเที่ยวจังหวัด Wakayama ว่า เปิดที่เมืองเล็กๆ เช่นกันชื่อว่า Susami เมืองที่คนไทยก็ไม่เคยได้ยินชื่อเช่นกัน โดยยังคงแนวคิดเช่นเดียวกับสาขาแรกก็คือ ไม่เปิดสาขาในเมืองใหญ่ที่มีร้านกาแฟดังๆ แต่เลือกที่จะเปิดให้บริการในเมืองเล็กๆ เพื่อให้เมืองนั้นมีจุดขายจากร้านกาแฟของไทย ผมไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้ว กาแฟอเมซอนจะประสบความสำเร็จจนกระทั่งกลายเป็น Brand สินค้าที่โด่งดังจนกระทั่งเป็นที่รู้จักในระดับสากล อย่าง Starbucks หรือไม่ แต่อย่างน้อยเค้าก็ได้ทำในสิ่งที่ควรทำไปแล้วก็คือ sustainability แต่สิ่งที่คาดหวัง และทุกคนที่ดื่มกาแฟอเมซอนร้องเรียนเสมอมาก็คือ แต่ละสาขานี่รสชาติไม่เหมือนกัน ก็หวังว่า สักวันในอนาคตผู้บริหารที่มาออก oppday จะได้รับฟังและนำไปปรับปรุง แต่ที่เร่งด่วนกว่าคือเรื่อง supplier ที่ทำเครื่องดื่มและขนมมาขายในร้าน ทุกวันนี้ที่ลิ้นจระเข้อย่างผมลองซื้อสินค้าชิ้นไหนมากิน ก็ได้แต่บอกตัวเองว่า อย่าซื้ออีก ทำไมมันหาความอร่อยไม่ได้เลยจริงๆ โปรดรีบปรับปรุงด่วน
สวัสดีตอนเย็นๆวันจันทร์ครับ
โดย: ทนายอ้วน
  วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:19:40:53 น.ทีแรกตั้งใจจะซื้อนะครับ กะถือยาวๆ เพราะที่ออกหุ้นให้ประชาชนถือ เขากะสร้างความผูกพันมากกว่าเน้นกำไรอยู่แล้ว
ที่ไหนได้ ราคาเปิดตลาดโด่งซะคนได้ IPO เทขายแทบไม่ทัน 555 แต่วันนี้ก็ยังขึ้นอยู่นะครับ คงขึ้นไปเรื่อยๆ ส่วนผมต้องมานั่งเซ็ง ....ลืมซื้อ! ถึงคนใช้น้ำมันจะน้อยลง แต่เขาขยายธุรกิจ non-oil ไวมากๆครับ ธุรกิจนี้กำไรดีด้วยนะ อีกหน่อยเอาหัวชาร์จ EV มาลงปั๊ม เพิ่มความเป็น community mall กินกำไรจาก non-oil เพิ่มได้อีก ผู้บริหารรู้นะครับว่ากาแฟรสชาติไม่เหมือนกันสักร้าน เปิดโรงเรียนบาริสต้าก็แล้ว อะไรก็แล้ว ก้แก้ไม่ได้สักที 555 เคยไปกินรสชาติต้นตำรับที๋โรงคั่วอเมซอนวังน้อยแล้วโคตรอร่อยอะ คุณผู้ชายในสายลมหนาวยังเขียนบล็อกโบราณสถานอยู่ไหมครับเนี่ย? โดย: ชีริว
 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:20:48:18 น.ตอนนี้อยู่เชียงใหม่ค่ะ
เรื่องที่ถาม สัปดาห์ที่ 12 พุทธศิลป์ในลัทธิตันตรยานจากกัมพูชา" พิชญา สุ่มจินดา 2/4 คลิบนี้ค่ะ https://www.youtube.com/watch?v=nUgb_Hj_j9Q&list=PLWSaCfwoDVaFZjYInzaO_sZWv11ynyV2f&index=25 นาทีที่ 24.07 ตอนนั้นฟังหมดเลยเพราะต้องเข้าใจเกี่ยวกับมหายาน และตันตรยานด้วยค่ะ ที่จริงฟังมาเกือบทุกคลิบแล้วนะคะ แล้วแต่จะเขียนเรื่องอะไร เวลาจะค้น ต้องเข้าไปที่เวปนี้ก่อน เพื่อดูภาพว่าอยู่ในสมุดจดคำสอนเรื่องใด https://sites.google.com/a/finearts.cmu.ac.th/pitchaya/ แล้วไล่หาคลิปอาจารย์ค่ะ โดย: tuk-tuk@korat
 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:14:39:47 น. |
 |
|
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [