Bloggang.com : ผู้ชายในสายลมหนาว

SET : Point to invest

เป็นโครงการที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เชิญชวนให้คนนำแต้มบัตรเครดิตมาลงทุน
ปลายปีก่อนก็มีการโปรโมตนะ ผมยังเอาแต้ม KTC ไปแลกกองทุน RMF มา 500 เลย
เช่นเคยไปที่ธนาคารกรุงไทย บอกเจ้าหน้าที่ ๆ ก็งง ต้องโทรไปถามวิธีการทำที่ส่วนกลาง
เนื่องจากผมไม่เคยมีกองทุนของ KTAM มาก่อน ก็เลยได้สิทธิ์บัตร Starbucks อีก 100 บาท

ปีที่ผ่านมา ผมก็มีคะแนนเข้ามา ก็เอา 999 คะแนน ไปแลกข้าวโพด Garrett มากินฟรี
บางทีก็ไปแลกลำโพง Bluetooth ป๊อกแป๊ก มาเพราะว่าไม่รู้จะเอาแต้มไปทำอะไร
นึกว่า SET น่าจะทำแบบหน่วยงานราชการ คือได้ผลงาน CSR ก็จบกันไป

แต่เดือนที่ผ่านมา ก็มีโฆษณาในแอป Blue card ว่าสามารถเอา 500 คะแนน
ไปแลกส่วนลดซื้อกองทุนของ SCBS ได้ 100 บาท ก็เอาสิ จะรออะไรกัน
หลังจากอ่านวิธีการทำอย่างถ้วนถี่ ตามประสาผู้ที่ไม่ยอมให้เรื่องเงินทองผิดพลาด
มั่นใจแล้วก็กดแลกคะแนนรับ code จากแอป แล้วก็ไปกดซื้อกองทุนกันเลย

ซึ่งจะมีความแตกต่างจากการแลกคะแนนบัตรเครดิตอยู่บ้าง
คือของบัตรเครดิตต้องมีคะแนนอย่างน้อย 5000 คะแนนถึงจะแลกได้
ซึ่งเทียบเท่ากับเงิน 500 บาท จึงไม่มีข้อจำกัดเรื่อง เรื่องกองทุนที่ซื้อ
เพราะ 500 บาทนั้น เป็นจำนวนเงินขั้นต่ำในการซื้อกองทุนส่วนใหญ่

แต่คราวนี้เราจะกดแลกได้ทีละ 1 สิทธิ์ คือ 100 บาท
ดังนั้นก็จะซื้อได้แต่พวกกองทุนตราสารหนี้เท่านั้น

แม้เราจะรู้เรื่องเงื่อนไขนี้ดี แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้เราหลุดพ้นจากความผิดพลาด
เพราะนึกว่ากดซื้อ 100 บาท ใส่รหัสแล้วจะทำให้จำนวนเงินที่ต้องจ่ายกลายเป็น 0
คือได้กองทุนมูลค่า 100 บาทฟรีๆ แต่กลับไม่ใช่ ระบบแจ้งว่า
ต้องซื้อขั้นต่ำ 200 บาท เพื่อรับสิทธิ์ส่วนลด 100 บาท ของรหัสที่ได้มา

เหมือนโครงการคนละครึ่ง ก็ไม่ว่ากัน แต่ว่านั่นก็ยังไม่ใช่จุคพีค

เพราะว่าระบบแจ้งต่อไปว่า ไม่สามารถหักเงินส่วนต่าง 100 บาท จากบัญชีธนาคารได้
ต้องไปเติมเงินเข้าในสิ่งที่เรียกว่า บัญชีบริหารเงินสด ในแอปก่อน ถึงจะหักเงินได้
เอา เติมก็เติม ว่าจะแลกสัก 2 รหัสตามคะแนน blue point ที่มี เติมเงินไปสัก 200 บาท ก็ได้
แต่ระบบบอกว่า ขั้นต่ำในการเติมเงินเข้าบัญชีนี้คือ 2000 บาท

เอ่อ .. กดแลกคะแนนมาแล้ว ไม่มีทางเลือก ก็ต้องไปให้สุดทาง แลกให้สำเร็จจนได้
นีขนาดคนที่มีบัญชีของ SCBS อยู่แล้วนะ ยังลำบากขนาดนี้ ถ้าไม่มีอย่าแลกเลย
เอา 100 คะแนนไปแลกส่วนลดกาแฟ 20 บาทก็ได้ แค่ไม่สนุกตื่นเต้นวุ่นวายแบบผมก็เท่านั้นเอง

การโฆษณาแลดูน่าสนใจ 500 คะแนน blue card สามารถเปลี่ยนเป็นกองทุนได้ 100 บาท
แต่กว่าจะได้มานี่ยากจริงๆ สุดท้ายเงินไปจมกับบัญชีบริหารเงินสดอีก 1800 บาท คุ้มไหมงานนี้

จากการแลกแต้ม blue card ทำให้รู้ว่าปีนี้ ก็จะมีโครงการ Point to invest เหมือนเดิม
แหม่ ช่วงต้นปี ไม่น่าเอาแลกข้าวโพด แลกลำโพงเลย เลยต้องปั่นคะแนนสุดฤทธิ์
สรุปว่า ปีนี้น่าจะได้ KTC 5000 คะแนน Kasikorn อีก 5000 คะแนน แลกเป็น RMF ได้ 1000 บาท
ของกสิกรแลกง่ายกว่า ให้ซื้อกองทุนในแอป แล้วส่ง SMS ไปขอ waive เงินคืนผ่านบัตรเครดิตได้เลย

KTB ก็น่าจะปรับตัวแบบกสิกรได้แล้ว ควรทำได้กระทั่ง synergy กับ KTC ขายกองทุนไปเลย
ดู SCB เป็นตัวอย่าง กลายเป็น holding company แบบ Softbank ไปแล้ว
เพราะระบบธนาคารมันหาเงินยาก เป็น old economy เหลือข้อได้เปรียบเรื่องเดียวคือ ทุนหนา
ก็เลยไปเอาดีทางเป็น venture capital กับการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงอย่าง startup

น่าดีใจนะที่ผมแก่ตัวแล้ว
เพราะถ้าเกิดเป็นเด็กยุคนี้ ก็ไม่รู้จะทำมาหากินอะไรดีเหมือนกัน
โลกนี้มันอยู่ยากขึ้นทุกวัน จากการแข่งขันที่สูงมาก
ลูกค้าไม่ใช่เพียงพระเจ้า แต่อาจจะเป็นพระเจ้าของพระเจ้าไปแล้ว

นิดหน่อยก็ลงข่าวกดดันใน social ไปแล้ว

ปล. หมดงานนี้ ผมก็ย้ายไปใช้บัตร line kasikorn แล้วล่ะ เพราะว่าได้ line point คืน 3%
เอาไว้กดจ่ายค่าสมาชิกหนังสือสารคดีกับเมืองโบราณ จะได้อ่านฟรีๆ ทุกเดือนเลย

Create Date : 23 พฤศจิกายน 2564
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2564 10:43:38 น.
Counter : 1377 Pageviews.

10 comments