เที่ยวไทย สุขใจถ้วนหน้า Ayotaya Trip with ME หลายครั้งมากที่ไปเยือนเมืองเก่า อยุธยา ไปทุกครั้งก็ประทับใจทุกครั้ง ไม่เคยเบื่อเลยแม้ว่าจะได้ไปในที่เก่าๆ รู้สึกสุขใจทุกครั้ง แม้จะต้องรบกับแดดจ้า ครั้งนี้ทริปอโยธยา ไปเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. เป็นวันที่แดดแรงมาก และร้อนมาก ย้ำว่ามากและขีดเส้นใต้ด้วย แต่เราก็บ่ยั่นค่ะ ไปไหว้พระ ทำบุญ ร้อนแค่ไหนก็สู้ พยายามคิดไปว่าด้วยลมพัดเย็นดี ลมพัดเย็นดี ปลอบใจตัวเองไปพลางๆ 1 วันเต็ม กับทริปนี้ เริ่มออกเดินทางจาก กทม. ราวๆ 10 โมงเช้า ถึงอยุธยาก็ประมาณ 11 โมง (มั้ง เก๊าลืมแล้ว^^) ที่แรกที่ไปเยือนก็คือ...วัดไชยวัฒนาราม วัดนี้ไปบ่อยมากค่ะ ไปอยุธยาครั้งไหนก็ไปที่นี่ด้วย         ไปครั้งนี้หญ้าเขียวมาก สวย  เหมือนเป็นธรรมเนียมเนอะ เราไปเที่ยวก็ต้องมีภาพถ่ายที่ระทึกกับสถานที่ อิอิ^^   วัดที่สองที่ไปวันนั้นคือ...วัดท่าการ้องค่ะ แต่หาจังหวะถ่ายรูปยากมาก เพราะคนเยอะมากกกกกก เดินไหล่เบียดกันอย่างกับงานกาชาดเลยทีเดียว เลยไม่ได้เก็บภาพ นอกจาก...  มิเคล่ามากเอง ฮ่าๆๆ มีเรื่องเล่าอันน่าตื่นเต้นจากวัดนี้ด้วยในทริปนี้ ทั้งตื่นเต้น ทั้งตกใจ คือ...หลังจากไหว้พระเสร็จ กลับออกมาใส่รองเท้าสีชมพูคู่ใจนี่แหละ เราวางโทรศัพท์ไว้ข้างๆ ตัว พอใสเสร็จก็เดินลั้นลาออกไปเลยทันที ไปเดินเล่นที่แพริมน้ำ กะจะหาอะไรกินสักหน่อย พอได้ของกินละ ก็เป็นธรรมเนียมอีกนั่นแหละ ต้องถ่ายรูป ประหนึ่งว่าไม่ได้ถ่ายรูปไว้ กินไม่ได้มันผิดผี ทีนี้ก็ร้อนรนสิคะ โทรศัพท์ที่จับอยู่ตลอดเวลาหาย???? อยู่ไหน หากันให้วุ่น โทรฯ เข้าเครื่องนั้นกันใหญ่ กระทั่งนึกขึ้นได้ว่า เฮ้ย! ตอนใส่รองเท้า ใช่! ต้องใช่แน่ๆ ตรงนั้นแน่ "ศาลา" ซึ่งอยูไกลเติบ เรารีบวิ่งเลยทันที ภาวะนาไปด้วย และมั่นใจมากกว่าเราไม่เคยทำเรื่องไม่ดี น่า...บุญกุศลที่ไปวัดบ่อยๆ ทำบุญบ่อยๆ คงช่วยเราได้บ้าง ก็ให้พี่ที่ไปด้วยโทรฯ เช็คตลอด ไอ้เราก็วิ่งไปภาวินาไป แต่วิ่งฉิวก็ไม่ได้เพราะคนเยอะ กระทั่งไปถึงศาลา โอ้ว....โล่งใจมากกกก มันยังวางอยู่ตรงนั้น พร้อมกับคุณพี่ ผญ.ท่านหนึ่งใส่เสื้อสีชมพู ซึ่งจำได้ว่าตอนที่เราใส่รองเท้าอยู่นั้น คุณพี่ก็นั่งอยู่ตรงนี้ "พี่ไม่กล้าออกไปไหนเลย กลัวมันหาย" โอ้วววว คุณพี่ช่างเป็นคนดีมากๆๆๆๆๆ น่ารักมากๆๆๆ ขอบพระคุณคุณพี่ไปยกใหญ่ ก่อนที่แกจะไป เรารีบหยิบโทรศัพท์สีชมพู(อีกแล้ว)ขึ้นมาทันที คราวนี้จับไว้อย่าห่างมือ ถ้าหายไปจริงๆ ก็ซวยเลย... ทว่าคุณพี่คนนั้นเผอิญผ่านมาทานนี้อีกครั้ง อยากจะบอกอีกครั้งเช่นกันนะคะว่าขอบพระคุณอย่างมากจริงๆ _/_ จบเรื่องแล้ว โล่งใจแล้วก็เดินทางต่อค่ะ วัดต่อไปคือ...วัดหน้าพระเมรุ ประวัติที่ได้ยินมาคือ ในครั้งที่พม่าบุกกรุงศรีและเผาเมือง เผาวัด มีเพียงวัดนี้วัดเดียวเท่านั้นที่ไม่ถูกเผา ไม่ทราบด้วยเหตุอันใด อาจจะเพราะพระคุณขององค์หลวงพ่อก็เป็นได้   วัดต่อมากคือ...วัด    หลวงพ่อในวิหานมงคลบพิตร  วัดพระศรีสรรเพชญ์ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของวิหารมงคลบพิตร    วัดธรรมิกราช     อันนี้คือเหนื่อยมากกก เมาแดด เพราะแดดร้อนมากกกกก  และวัดสุดท้ายก่อนกลับบ้าน วัดตึก/ศาลพระเจ้าเสือ และพันท้านนรสิงห์ แต่ไม่ได้ไปไหว้ศาลพันท้ายนรสิงห์นะคะ ตามตรงเลยคือไม่รู้ สามล้อพามา ไม่รู้จักวัดนี้ด้วยซ้ำ พระทั่งหลวงพ่อเล่าให้ฟังเลยถึงบางอ้อ ครั้งหน้าจะไปวัดนี้อีกค่ะ  ขอให้เพลิดเพลิน ไปเที่ยวมา ไหว้พระ สุขใจ อาจจะเป็นแนวทางให้เพื่อนๆ ได้นำมาเป็นตัวเลือกในการท่องไม่มากก็น้อยนะคะ ช่วงนี้คนไทยเที่ยวฟรี ^^
ภาพสวยมากเลยค่ะชอบๆ
 โดย: มิลเม
 วันที่: 30 กรกฎาคม 2557 เวลา:18:29:20 น. |
บทความทั้งหมด
|
||||||||||||||||||||
 |
|
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [