Happy Valentines Day To All- สุขสันติวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ 2565 Happy Valentines Day TO AII สุขสันติวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ 2565 / 2022 ********* HAPPY VALENTINE 'S DAY ******* ประวัติวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ Valentine's Day กุมภาพันธ์ เป็นเดือนที่อบอวลไปด้วยความสุขของการแสดงความรัก ความห่วงใยถึงคนที่เราปรารถนาดีและอยากให้เขามีความสุข เป็นที่รับรู้กันทั่วโลกว่าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็น "วันแห่งความรัก" หรือ Valentine's Day และวันนี้ยังมีคิวปิด หรือกามเทพ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของวันวาเลนไทน์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คิวปิดเป็นบุตรของวีนัสและมาร์ส แต่ชาวกรีกเรียกคิวปิดว่า อีรอส ภาพของคิวปิดที่มนุษย์โลกปัจจุบันได้รู้จักก็คือภาพเด็กน้อยที่ถือคันธนูและลูกศร มีหน้าที่ยิงศรรักให้ปักใจคน ปัจจุบันคิวปิดและธนูของเขากลายมาเป็นเครื่องหมายแห่งความรักที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด ภาพจำของคิวปิดคือการยิงศรรักระหว่างหัวใจสองดวงให้รักกัน เรียกกันว่า ศรรักคิวปิด และวันนี้เราจึงอยากจะมาเล่าสู่กันฟังถึงประวัติความเป็นมาและความสำคัญของวันแห่งความรักกันค่ะ ประวัติวันวาเลนไทน์ (Valentine's Day)เทศกาลวาเลนไทน์ (Valentine's Day) เริ่มมีขึ้นตั้งแต่ยุคที่จักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ ในยุคนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี ถูกจัดให้เป็นวันหยุดเพื่อเป็นเกียรติแต่เทพเจ้าจูโน ผู้เป็นจักรพรรดินีแห่งเทพเจ้าโรมัน นอกจากนี้แล้วพระองค์ยังทรงเป็นเทพเจ้าแห่งอิสตรีเพศและการแต่งงาน และในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นวันเริ่มต้นเทศกาลเฉลิมฉลองแห่งลูเพอร์คาร์เลีย การดำเนินชีวิตของหนุ่มสาวจะถูกตัดขาดออกจากกันอย่างสิ้นเชิง ในรัชสมัยของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 (Emperor Claudius II) แห่งกรุงโรม พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่มีใจคอดุร้าย และทรงนิยมการทำสงครามนองเลือด ได้ทรงตระหนักว่าเหตุที่ชายหนุ่มส่วนมากไม่ประสงค์จะเข้าร่วมในกองทัพ เนื่องจากไม่อยากจากคู่รักและครอบครัวไป จึงทรงมีพระราชโองการสั่งห้ามมิให้มีการจัดพิธีหมั้นและแต่งงานกันในโรมโดยเด็ดขาด ทำให้ประชาชนทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง และขณะนั้นมีนักบุญรูปหนึ่งนามว่า เซนต์วาเลนไทน์ หรือวาเลนตินัส ซึ่งอาศัยอยู่ในโรมได้ร่วมมือกับเซนต์มาริอัส จัดพิธีแต่งงานให้กับชาวคริสต์หลายคู่ และด้วยความปรารถนาดีนี้เองจึงทำให้วาเลนไทน์ถูกจับ และระหว่างนั้นเขาก็ยังคงส่งคำอวยพรวาเลนไทน์ของเขาเองขณะที่เขาเป็นนักโทษ เชื่อกันว่าวาเลนไทน์ได้ตกหลุมรักหญิงสาวที่เป็นลูกสาวของผู้คุมที่ชื่อจูเลีย ซึ่งได้มาเยี่ยมเขาระหว่างที่ถูกคุมขัง ในคืนก่อนที่วาเลนไทน์จะสิ้นชีวิตโดยการถูกตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจูเลีย โดยลงท้ายว่า "From Your Valentine" ต่อมานักบวชในนิกายโรมันคาทอลิกจึงเลือกให้ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันเฉลิมฉลองเทศกาลวันแห่งความรัก และดูเหมือนว่ายังคงเป็นธรรมเนียมที่ชายหนุ่มจะเลือกหญิงสาวที่ตนเองพึงใจในวันวาเลนไทน์ (Valentine's Day) สืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้ วันวาเลนไทน์ หรือ Valentine's Day ในแต่ละประเทศจะมีประเพณีหรือการปฏิบัติที่แตกต่างกันบ้าง แต่โดยรวมแล้วจะมีการเฉลิมฉลองและเป็นการแสดงถึงความรักที่มีระหว่างกัน ต่อมาเมื่อมีความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีทางด้านการพิมพ์ จึงมีการพิมพ์บัตรอวยพรแทนที่จดหมายที่เขียนด้วยลายมือ และปัจจุบันก็มีการส่งบัตรอวยพรทางออนไลน์เพื่อแสดงถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ช่วยให้คนที่ต้องการแสดงความรักความห่วงใยถึงคนที่รักได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ประวัติวันวาเลนไทน์นี้เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาจนถึงปัจจุบัน เท่าที่ค้นหามาได้นี้เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ เรื่องเท่านั้น แต่ไม่ว่าประวัติที่แท้จริงจะเป็นอย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้เราได้ถือว่าวันวาเลนไทน์เป็นวันสำคัญวันหนึ่งในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว คุณสามารถส่งดอกไม้ ขนม และการ์ด เพื่อบอกความนัยให้แก่คนพิเศษของคุณ วันนี้จะเป็นวันที่เราส่งความรู้สึกดีๆ ให้แก่กัน... 20 เรื่องที่ควรจะรู้ไว้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ 20 เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์เมื่อวันแห่งความรักหรือวันวาเลนไทน์เวียนวนมาอีกครั้ง หันไปทางไหนก็มีแต่คนรักกัน แต่ถึงอย่างนั้นวันวาเลนไทน์ก็ควรจะเป็นวันดีๆ ที่มีแต่เรื่องดีๆ ใช่ไหมล่ะ จึงขอนำเสนอ 20 เรื่องที่ควรจะรู้ไว้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ เพื่อให้ทุกๆ คนทำวันวาเลนไทน์ของเราให้เป็นวันวาเลนไทน์ที่มีคุณค่ามากกว่าวันที่เสียเงินซื้อของขวัญ หรือแสดงออกว่ารักกันแบบที่ไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของความรัก ว่าแล้วเราก็มาดูกันเลย
ทำไมวันวาเลนไทน์ ถึงให้ ช็อกโกแลตสงสัยกันไหมคะ ว่าของขวัญที่มอบให้กันในวันวาเลนไทน์ นอกจากดอกกุหลาบ แล้ว ทำไมถึงนิยมมอบ Chocolate ให้กัน?!?!?! ว่ากันว่า...ในยุคโรมันที่นักบุญวาเลนไทน์ได้เสียชีวิตนั้น ช็อกโกแลตยังเป็นของหายาก จึงเป็นสิ่งที่มีค่าที่คนรักจะมอบแทนใจให้กันได้ จึงส่งไปพร้อมการ์ดและดอกไม้ ซึ่งสื่อความหมายของความรักมาแต่ไหนแต่ไรแล้วก็ได้ และอาจจะรวมไปถึงการที่ช็อกโกแลตเคยเป็นสัญลักษณ์ของเสรีภาพ มิตรภาพ และสันติภาพในช่วงที่สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงด้วยก็ได้ หรืออาจมาจากการที่ช็อกโกแลตนั้น สามารถช่วยกระตุ้นอารมณ์รักได้ด้วย เพราะมีเรื่องเล่าขานกันมาว่า นายมองเตชูมา นักรบผู้พิชิตแห่งสเปน มักจะดื่มช็อกโกแลตเป็นประจำเสมอ ก่อนไปหาเหล่าสาวๆ ในฮาเร็มของเขาค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เพื่อให้ช่วยกระตุ้นอารมณ์รักค่ะ วาเลนไทน์ ช็อกโกแลต นอกจากช็อกโกแลตจะเป็นสัญลักษณ์ของเสรีภาพและมิตรภาพแล้ว ช็อกโกแลตยังมีประโยชน์อีกมากมายเลยล่ะค่ะ ในตัวช็อกโกแลตนั้น มีส่วนประกอบสำคัญเรียกว่า Flavonoid เป็นสารซึ่งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และป้องกันการก่อตัวของไขมันในเส้นเลือดป้องกันโรคหัวใจและการเกิดมะเร็ง ที่สำคัญยังช่วยให้แก่ช้าด้วยนะคะ นอกจากนี้ในช็อกโกแลตยังมีสารบางชนิดไปกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเคมีแห่งความสุขที่ชื่อเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) ออกมา ซึ่งจะช่วยลดความเครียดและทำให้เกิดความรู้สึกที่ดีขึ้นด้วยค่ะ เมื่อเห็นข้อดีของ Chocolate แบบนี้แล้ว ไม่ใช่ว่าจะรีบไปหาซื้อมากินกันซะเยอะเกินพิกัดนะคะ หรือถ้าใครที่ได้รับ Chocolate ในวันวาเลนไทน์หลายก้อน ก็เก็บไว้กินวันอื่นๆ บ้างนะคะ เพราะถ้ากินเยอะเกิน เดี๋ยวความอ้วนจะถามหา แนะนำ Dark Chocolate แบบ Low fat ค่ะ ซื้อไว้กินเพื่อสุขภาพกัน ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://amerainy.exteen.com/20070209/valentine-chocolate ภาพประกอบจาก : Photos.com กุมภาพันธ์ เป็นเดือนที่อบอวลไปด้วยความสุขของการแสดงความรัก ความห่วงใยถึงคนที่เราปรารถนาดีและอยากให้เขามีความสุข เป็นที่รับรู้กันทั่วโลกว่าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็น "วันแห่งความรัก" หรือ Valentine's Day และวันนี้ยังมีคิวปิด หรือกามเทพ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของวันวาเลนไทน์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คิวปิดเป็นบุตรของวีนัสและมาร์ส แต่ชาวกรีกเรียกคิวปิดว่า อีรอส ภาพของคิวปิดที่มนุษย์โลกปัจจุบันได้รู้จักก็คือภาพเด็กน้อยที่ถือคันธนูและลูกศร มีหน้าที่ยิงศรรักให้ปักใจคน ปัจจุบันคิวปิดและธนูของเขากลายมาเป็นเครื่องหมายแห่งความรักที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด ภาพจำของคิวปิดคือการยิงศรรักระหว่างหัวใจสองดวงให้รักกัน เรียกกันว่า ศรรักคิวปิด และวันนี้เราจึงอยากจะมาเล่าสู่กันฟังถึงประวัติความเป็นมาและความสำคัญของวันแห่งความรักกันค่ะ ประวัติวันวาเลนไทน์ (Valentine's Day)เทศกาลวาเลนไทน์ (Valentine's Day) เริ่มมีขึ้นตั้งแต่ยุคที่จักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ ในยุคนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี ถูกจัดให้เป็นวันหยุดเพื่อเป็นเกียรติแต่เทพเจ้าจูโน ผู้เป็นจักรพรรดินีแห่งเทพเจ้าโรมัน นอกจากนี้แล้วพระองค์ยังทรงเป็นเทพเจ้าแห่งอิสตรีเพศและการแต่งงาน และในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นวันเริ่มต้นเทศกาลเฉลิมฉลองแห่งลูเพอร์คาร์เลีย การดำเนินชีวิตของหนุ่มสาวจะถูกตัดขาดออกจากกันอย่างสิ้นเชิง ในรัชสมัยของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 (Emperor Claudius II) แห่งกรุงโรม พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่มีใจคอดุร้าย และทรงนิยมการทำสงครามนองเลือด ได้ทรงตระหนักว่าเหตุที่ชายหนุ่มส่วนมากไม่ประสงค์จะเข้าร่วมในกองทัพ เนื่องจากไม่อยากจากคู่รักและครอบครัวไป จึงทรงมีพระราชโองการสั่งห้ามมิให้มีการจัดพิธีหมั้นและแต่งงานกันในโรมโดยเด็ดขาด ทำให้ประชาชนทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง และขณะนั้นมีนักบุญรูปหนึ่งนามว่า เซนต์วาเลนไทน์ หรือวาเลนตินัส ซึ่งอาศัยอยู่ในโรมได้ร่วมมือกับเซนต์มาริอัส จัดพิธีแต่งงานให้กับชาวคริสต์หลายคู่ และด้วยความปรารถนาดีนี้เองจึงทำให้วาเลนไทน์ถูกจับ และระหว่างนั้นเขาก็ยังคงส่งคำอวยพรวาเลนไทน์ของเขาเองขณะที่เขาเป็นนักโทษ เชื่อกันว่าวาเลนไทน์ได้ตกหลุมรักหญิงสาวที่เป็นลูกสาวของผู้คุมที่ชื่อจูเลีย ซึ่งได้มาเยี่ยมเขาระหว่างที่ถูกคุมขัง ในคืนก่อนที่วาเลนไทน์จะสิ้นชีวิตโดยการถูกตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจูเลีย โดยลงท้ายว่า "From Your Valentine" ต่อมานักบวชในนิกายโรมันคาทอลิกจึงเลือกให้ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันเฉลิมฉลองเทศกาลวันแห่งความรัก และดูเหมือนว่ายังคงเป็นธรรมเนียมที่ชายหนุ่มจะเลือกหญิงสาวที่ตนเองพึงใจในวันวาเลนไทน์ (Valentine's Day) สืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้ วันวาเลนไทน์ หรือ Valentine's Day ในแต่ละประเทศจะมีประเพณีหรือการปฏิบัติที่แตกต่างกันบ้าง แต่โดยรวมแล้วจะมีการเฉลิมฉลองและเป็นการแสดงถึงความรักที่มีระหว่างกัน ต่อมาเมื่อมีความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีทางด้านการพิมพ์ จึงมีการพิมพ์บัตรอวยพรแทนที่จดหมายที่เขียนด้วยลายมือ และปัจจุบันก็มีการส่งบัตรอวยพรทางออนไลน์เพื่อแสดงถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ช่วยให้คนที่ต้องการแสดงความรักความห่วงใยถึงคนที่รักได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ประวัติวันวาเลนไทน์นี้เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาจนถึงปัจจุบัน เท่าที่ค้นหามาได้นี้เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ เรื่องเท่านั้น แต่ไม่ว่าประวัติที่แท้จริงจะเป็นอย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้เราได้ถือว่าวันวาเลนไทน์เป็นวันสำคัญวันหนึ่งในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว คุณสามารถส่งดอกไม้ ขนม และการ์ด เพื่อบอกความนัยให้แก่คนพิเศษของคุณ วันนี้จะเป็นวันที่เราส่งความรู้สึกดีๆ ให้แก่กัน... ภาพประกอบจาก : Photos.com ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.sanook.com/campus/931822/ ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนต สวัสดีมีสุขค่ะ
ตอนนี้ งดของหวานแบบนี้แล้วค่ะ แต่Dark chocolate ก็ยังพอทำเนานะคะ คนแก่กินขมได้ค่ะ โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:12:02:00 น.
สวัสดีครับ
มาอ่านความรู้วันวาเลนไทน์ด้วยครับ โดย: Sleepless Sea วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:12:22:28 น.
ความรักในเพื่อนมนุษย์ของพระพุทธเจ้า
ประเสริฐสุดค่ะพี่น้อย เพราะท่านกลัวมนุษย์ไม่รู้ ความจริงของชีวิต พลาดพลั้งจะไปอบายค่ะ โดย: หอมกร วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:12:38:03 น.
สุขสันต์วันวาเลนไทน์ค่ะพี่น้อย
ขอบคุณที่ไปให้กำลังใจบล็อกกล้วยไม้นะคะ โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:14:42:04 น.
สุขสันต์วันวาเลนไทน์
คนโสดก็จะเบื่อๆ วันนี้ครับ โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:18:46:04 น.
ทักทายสวัสดีครับ
อ่านในข้อ 4 จากการสำรวจพบว่าในวัยเรียน เด็กคอซอง คนที่ให้ของขวัญบอกรักกันมากที่สุดในวันวาเลนไทน์ ไม่ใช่ คู่รัก แต่เป็น เพื่อนนักเรียนด้วยกัน เรื่องนี้ดูจริงจังมากครับ ช่วงหนึ่งที่บ้านของคุณแม่เปิดร้านขายของ และพอเข้าเดือนกุมภาพันธ์ ต้องจัดร้านเป็นเทศกาลวันวาเลนไทน์กันเลย และที่พบเห็นกันทุก ๆ ปี คือเด็กนักเรียนจะมาเลือกซื้อการ์ด สติ๊กเกอร์ ช่อดอกไม้เล็ก ๆ ของขวัญวาเลนไทน์ เพื่อนำไปมอบให้กับเพื่อน ๆ ซึ่งดูว่าบางคนจะเลือกไปแจกกันทั้งห้อง หรือ ข้ามห้องกันเลย "ความรัก"ในวัยนี้จึงมีแต่เพื่อน ๆ นักเรียนด้วยกันแบบจริงจังมาก โดย: ถปรร วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:6:14:49 น.
เยี่ยมมากๆเลยคร้าคุณน้อย
ภาพสวย ข้อมูลเจ๋ง ขอบคุณค่ะ สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะคะ โดย: Tui Laksi วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:9:48:31 น.
มาสวัสดีตอนเย็นครับคุณน้อย... ระยะนี้ยุ่งนิดหน่อย
เห็นเขาเข้าเทศกาล วาเลนไทน์ ชื่นมื่นกันก็ดีใจ จะได้ลืม ๆ อะไรที่ไม่ดีต่อคนไทยบ้างก้ดีครับ โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:18:27:42 น.
|
newyorknurse
บทความทั้งหมด
|
อรุณสวัสดิ์ครับพี่น้อย
อ่านแล้วได้ทั้งความรู้ ที่มาของวันวาเลนไทน์
และข้อคิดดีดีเลยครับ