ปั้นดินให้เป็นบ้าน

"มีใครรู้บ้างว่าบ้านที่เราอยู่ทุกวันนี้ สร้างมาจากอิฐกี่ก้อน"
ใครจะไปรู้ล่ะเนี้ย....แต่ถ้าเมื่อใดที่เราต้องทำบ้านด้วยต้วเอง....ตั้งแต่ขั้นตอนการทำอิฐเลยนะ คุณก็จะรู้เองว่าทำไมบ้านหลังหนึ่งมันใช้อิฐเยอะขนาดนี้เนี้ย

บ้านดินหลังนี้กะไว้ว่าจะทำขนาด 4.5 x5 เมตร เมื่อลองคำนวณดูแล้ว ก็คาดว่าคงใช้อิฐดินไม่เกิน 1000 ก้อน เผื่อเหลือเผื่อขาดอีกประมาณ 200 ก้อน ดังนั้นเป้าหมายคือการทำอิฐจำนวน 1200 ก้อน





อิฐที่ผลิตเสร็จแล้วจะถูกขนมาวางเรียงไว้ใกล้ๆ กับที่ที่จะก่อจะได้ไม่ต้องขนไกลเวลาก่อ (สำคัญมากค่ะพี่น้อง เพราะอิฐที่ว่านี้ขนาดว่าแห้งแล้วนะคะ ยังหนักมากกว่า 6 กิโลเลยค่ะ)

เอาละ พอได้อิฐดินตามที่ต้องการ ก็ถือว่าสำเร็จไปเปาะหนึ่งละค่ะ เพราะถึงตอนนี้ร่างกายของเราก็จะแข็งแรงขึ้นเยอะเลย ทั้งแขนและขา จริงๆแล้วทั้งตัวเลย
ช่วงนั้นแขนอิฉันงี้กล้ามขึ้นเลยค้า..... ถ้าใครอยากให้แขนเฟิร์ม วิธีนี้ก็ไม่เลวนะจ๊ะ แต่ต้องระวังหลังหน่อย คือต้องยกให้ถูกท่านะคะ ป้างี้ตอนแรกๆ นอนปวดหลังปวดเอวตั้งหลายวันแน่ะค่ะ

ขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นการเตรียมรากฐานของบ้านดินนะคะ
ตามตำราบอกว่าเป็นสิ่งที่สำคัญต่อความมั่นคงมากเพราะ จะเป็นตัวป้องกันมิให้ความชื้นจากพื้นซึมขึ้นมาหาผนังดินของบ้านได้
จริงๆ แล้วตอนที่เราเลือกพื้นที่ที่จะทำบ้านดิน ก็ควรจะเป็นที่สูงน้ำไม่ท่วมด้วยเช่นกัน เพราะบ้านเรามันแพ้น้ำกะความชื้น ดังนั้นเรื่องนี้สำคัญมาก

ตำราว่าไงอิฉันก็ว่างั้นค่ะ เลือกที่ได้ก็ทำเลยค่ะ ที่ดูมาส่วนมากบ้านเราจะนิยมทำเป็นคานคอดิน (ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกค่ะว่ามันเป็นไง) ดูตามรูปนะค่ะ




ขั้นตอนนี้ขออาศัยผู้เชี่ยวชาญ เพราะทำเองไม่เป็น พอบอกช่างว่าทำคานคอดิน เค้าก็ขุดดินลงไปเล็กน้อย แล้วก็ทำแบบเทคาน ขนาด กว้างเท่าก้อนอิฐดินคือ 8 นิ้ว สูง 1 ฟุต (แบบว่ากลัวน้ำซึมน่ะค่ะ ....แต่ความสูงที่เหมาะสมจริงๆ เท่าไหร่ก็ไม่แน่ใจนะคะ) จากนั้นก็เทคานด้วยปูนซีเมนต์ เสริมเหล็กค่ะ ขอโม้หน่อยค่ะว่า ช่วยช่างเค้าดัดเหล็กที่เอาไว้เสริมคานด้วยนะเนี้ย....ก็บอกแล้วว่าเราจะแข็งแรงขึ้นจนไม่อยากเชื่อ.....5555

ถึงตอนนี้เราก็พร้อมที่จะก่อแล้วค้า......ตอนนี้ก็ยังตื้นเต้นอยู่ดี ช่างที่มาช่วยทำคานก็พลอยตื่นเต้นไปด้วย เพราะเค้าเองก็ไม่เคยทำบ้านดินซะที

ภาพบ้านดินที่ออกแบบไว้นานแล้ว ก็ถูกขุดเอามาวาดลงกระดาษให้ชัดเจนตอนนี้แหละค่ะ ....จริงๆตอนนี้ก็สำคัญนะ เพราะต้องวางแผนละว่า ตรงใหนจะเป็นประตู ตรงไหนหน้าต่าง ....พอวาดรูปเสร็จเลยนึกขึ้นได้ว่า...อ้าวก็ยังก่อดินไม่ได้น่ะสิ....ถูกต้อง..ก็ต้องตั้งวงกบประตูหน้าต่างก่อนนี่นา......ว้า....



ในรูปเป็นประตูเก่าที่มีอยู่แล้ว ส่วนอื่นๆ ก็ไปซื้อเอาใหม่ แต่เป็นของเก่านะคะ ก็ได้ที่เป็นไม้สักหมดเลย ก็อิฉันอยู่เมืองไม้สักนี่คะ 555555
ตอนที่วางวงกบประตูหน้าต่าง ขอเตือนนะคะ ดูดีๆๆ อย่าเชื่อสายตาของคนๆเดียว โดยเฉพาะตัวเอง ฮ้าๆๆๆ เพราะบ้านอิฉันหน้าต่างเบี้ยวมาแล้ว....แต่ก็ไม่เป็นไรดูๆๆไปมันก็สวยดีนะ.....

ประตู หน้าต่างพร้อม ก็ก่อได้เลย...........







เอาล่ะค่ะพี่น้อง ตอนนี้แหละค่ะ มีพี่บอกพี่ มีน้องบอกน้อง เพื่อนกี่คนจิกมาให้หมด ลองบอกว่า "ตัวเอง สนใจทำบ้านดินมั้ย เค้าทำอยู่นะไปช่วยหน่อยสิ" เชื่อเลยค่ะว่า ส่วนมากจะบอกว่า "จริงเหรอ น่าสนใจ...เอาสิเดี๋ยวเค้าว่างแล้วจะไปช่วยนะ" พี่น้องค่ะ ขอเตือนนะคะ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

จริงๆ ก็มีคนมาช่วยป้าอยู่เหมือนกันนะคะ ซาบซึ้งมาก...จริงๆนะคะ เพราะไอ้ตอนที่ทำอิฐดินว่าหนักแล้ว ตอนนี้หนักกว่าค่ะ.....ตากแดดด้วย...ดีที่ว่าเป็นหน้าหนาว ส่วนเรื่องดำไม่กลัว เพราะดำอยู่แล้ว 55555....

ขอมีสาระนิดหนึ่งนะคะ การทำบ้านดินนั้น ตำราว่า ไม่จำเป็นต้องมีเสาค่ะ เพราะบ้านดินใช้หลักการของผนังรับแรง หมายถึงว่า ทุกส่วนของผนังเป็นตัวถ่ายทอดแรงทั้งหมด ไม่เหมือนหลักการที่ใช้เสารับแรง งงมั้ยค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ เพราะบ้านที่ทำออกมาแข็งแรงมากค่ะ ขอยืนยัน.....

ก่อไปเรื่อยๆ มันก็สูงขึ้นเรื่อยๆ ....ขนาดตอนก่อข้างล่างยังหนักเลย แล้วข้างบนจะทำไงเนี้ย....ก็หาตัวช่วยสิค่ะ อันแรกคือ ถังน้ำมันค่ะ ช่วยได้เยอะเลย แต่ก็มีขีดจำกัด ตอนหลังก็เลยทำนั่งร้านซะเลยค่ะ สูงดี ......



ความสูงที่ต้องการคือ 2.8 เมตร กำลังดี อยากเล่าให้ฟังว่าพวกเราก่ออิฐไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่เบื่อเลยค่ะ ไม่อยากจะเชื่อใช่ไหมล่ะ ....ตอนนี้ก็คงเหมือนกับตอนทำอิฐ แรกๆร่างกายก็เหนื่อย ตอนหลังก็ชิน แล้วก็กลายเป็นสนุก....ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาผสมดินเพื่อก่อ แล้วก็ค่อยๆ ก่อไปเรื่อยๆ ฟังเสียงนก เสียงลมตอนเช้า รับแดดอ่อนๆ มันเป็นความสุขมากกว่าเหนื่อย .....เล่าไปก็คงไม่เข้าใจเท่ากับลองทำเองหรอกค่ะ บอกแล้วต้องลอง

เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ท่านแม่งอนท่านพ่อที่ไม่ยอมผสมดินให้แกก่ออิฐ แกเลยไม่มีอะไรทำ.....5555....เป็นเอามาก

แล้วก็ถึงวันที่เราก่อเสร็จ ได้ตามที่ต้องการ






ก็ขอปิดท้ายด้วยภาพที่ถ่ายตอนอยู่บนนั่งร้าน เป็นช่วงเย็นตอนพระอาทิตย์เริ่มต่ำลง และสวยมากตอนที่กำลังจะตกดิน (แต่ไม่ได้ถ่ายไว้ค่ะ แฮะๆๆ)
เชื่อรึยังคะว่า มีความสุขจริงๆ........

Create Date : 19 เมษายน 2553 Last Update : 24 เมษายน 2553 18:00:29 น. Counter : 5917 Pageviews.		11 comments
Share Tweet

	บันทึกน้องหนาม ยิมโนด่าง (Gymnocalicium variegated) (3.12.2566 - 25.12.2566) ฟ้าใสวันใหม่ (18 เม.ย. 2567 08:00:18 น.)		นุ่งซิ่นชมสวน๑/๖๗ ตะลีกีปัส (3 เม.ย. 2567 10:35:45 น.)
	ดอกไม้หายาก เอื้องดอกมะเขือ สมาชิกหมายเลข 4313444 (3 เม.ย. 2567 13:06:48 น.)		ดอกติ้วขาว บานแล้ว สมาชิกหมายเลข 4313444 (30 มี.ค. 2567 03:12:50 น.)