2 มิย 67 ทริปครอบครัว2024 รถม้าที่ไม่มีใครเคยเห็น เรื่องท่องเที่ยวยังไม่ได้เริ่มเขียน เลือกเขียนเรื่องราวแปลกๆระหว่างการท่องเที่ยวก่อน นอกจาก ปราก อีกสถานที่ คือ Dolomite Italy ในการท่องเที่ยว เราก็มักคาดหวัง ความสวยงาม อาหารอร่อย บรรยากาศดี แต่บางสิ่งอดสะกิดใจ จนเหมือนดึงดูดความสนใจในเรื่องราว มากกว่าเรื่องอื่น  วันนั้นเราไป dolomite Italy หมู่บ้าน Santa Magdalena โบสถ์พร้อมเขาหินปูน เป็นแบคกราวด์ต้องการถ่ายภาพมุมมหาชน พวกเราแวะดื่มกาแฟที่ รร กลางหมู่บ้าน มองเห็นคนขับรถม้าโบราณมากคันนึง กำลังผ่านไป คิดว่าเป็น รถม้าท่องเที่ยวเหมือนเมืองอื่นๆ จะได้นั่งรถม้าขึ้นภูเขาไปมุมมหาชน แทนการเดินขึ้นเขาราว 2 กิโลเมตร รถม้าคันนั้นเพิ่งผ่านไปแว่บเดียว มองหาไม่เห็นอีกทั้งที่หมู่บ้านเล็กๆ พนักงานที่ร้านอาหารบอกให้ไปหาที่คอกม้าท่องเที่ยว เวลาใกล้หกโมงเย็น พวกเราดั้นด้นขับรถไปตามถนนเล็กๆ ค่อยๆไต่ภูเขาจนสูงเกือบถึงยอดเขา วิวสวยงาม ชายเจ้าของคอกม้า ไม่ใช่รถม้าคันที่พวกเราเห็น และในหมู่บ้านนี้ไม่มีรถม้าลักษณะที่พวกเราเห็น ประหลาดมาก แต่สะดุดตาโบสถ์หน้าคอกม้านี้ อ๋อจะให้มาดูโบสถ์และเรื่องราวตรงนี้เอง  โบสถ์ที่ครอบครัว สร้างบูชาพระผู้เป็นเจ้า เมื่อลูกชายทั้ง 4 คนไปสงครามโลก และมีชีวิตรอดได้กลับบ้านครบทั้ง 4 คน สงคราม สร้างความทุกข์ ให้ผู้คน ครอบครัว ฝากรอยแผลในใจผู้คน ระหว่างทาง คุณป้าสะกิดเพื่อน we don't speak English ปิดปากเพื่อนที่กำลังจะตอบคำถามพวกเรา เตือนสติเพื่อนไม่ให้ใช้ภาษาอังกฤษ อิตาลีตรงนี้เกลียดอังกฤษฝังใจ เราไม่รู้อะไร นำทางเรามาที่บนเขาสูงนี้ อุทิศบุญให้ผู้ยังยึด ผู้ยังทุกข์ขอให้เป็นสุขๆ     รถม้าไม่มี มีแต่ม้าให้ขี่ ขืนขี่ม้าบนเขาตกตายแน่ พึ่งพา 2 ขาดีที่สุด  ทางเดินขึ้นมา ทั้งแคบ ทางขวาเป็นไหล่เขา ถ้าขาสะดุดกันตกเขาแน่ หันไปเจอพระแม่มุมนี้อีก OMG เหมือนขาจะอ่อน  แต่ก็มาถึงโบสถ์ในที่สุด มีพวกตากล้องนานาชาติ อยู่สูงจากตรงนี้ไปอีกสัก 20 นาที เราไม่ไปต่อแล้ว ด้านหลังกำแพง สุสานทั้งนั้น รูปถ่าย ดอกไม้และหลุมเต็มหมด เดินอุทิศบุญกุศล พักใหญ่ ได้มาทำภารกิจ  มาเห็นโบสถ์ และเทือกเขา Odle ยามต้องแสงอาทิตย์ตกดินตอนสองทุ่ม วิวสวยงามแต่ใจเศร้าบอกไม่ถูก คนที่พ่อแม่ ไม่มีโอกาสได้สร้างโบสถ์ ไม่รู้กี่บ้าน กี่คน ร่างกายเขาจะมีโอกาสได้กลับบ้านมั้ย หรือมาแต่ใจ การรอคอยของคนที่ห่างไกล เสียงเพลงของทหารฝากตามหาคนรัก  ดูรูปแล้ว กระจ่างแจ้งในใจตน เลยนะครับ
ว่าทำไม ต้องเช่ารถขับไปเที่ยวในทริปนี้ 555 เส้นทางสู้แรงดึงดูดโลกมากๆ บางช่วง มีแต่ทางเดินเท้า ใช้งานแข้งขา เข่า สะโพก กล้ามเนื้อเต็มที่ ได้ทดสอบ ว่าเรายังแข็งแกร่ง หรือ อ่อนยวบ ขนาดไหน แฮร่555 มิน่า เค้าถึงบอกให้ไปเที่ยวตอนยังมีแรงดีๆอยู่นะครับ แล้ว อ.เต๊ะ อุตส่าห์ดีใจ เห็นมีรถม้าโบราณ วิ่งผ่านมาโชว์ ถ้าเป็น อ.เต๊ะ ต้องวิ่งไปดักหน้า ขอโดยสารไปด้วยแน่ ประหยัดกำลังขา อิอิ คุณเย็นบอก เออ ถ้าเค้ารับเอ็ง เอ็งได้ไป ที่ชอบ ที่ชอบ แน่ๆ ข้ามั่นใจ เย้ย 555 วิวบนเขา ดูสงบเงียบ สวย แต่เบื้องหลังนี่ มีแต่หลุมศพ ศาลพระภูมิ เอ๊ย ศาลพระแม่ เรื่องโบสถ์ ที่สร้างให้ พี่น้อง 4 คน ที่รอดชีวิตกลับมาได้จากสงครามโลกนี่ เป็นเรื่อง มหัศจรรย์มากๆ อ.เต๊ะ นึกถึงหนัง Saving Private Ryan เลยเชียวครับ แต่เรื่องนี้ พี่น้อง4คนไปสงครามเหมือนกัน 3คน ไปสวรรค์เรียบ เหลือคนสุดท้าย ที่ต้องพากลับบ้านให้ได้ ไม่งั้นทางบ้าน ใจจะขาดแน่นอน ดูแล้ว เวลาที่นู่นคงต่างกับบ้านเราแยะ 2 ทุ่มแล้ว แดดยังแจ๋อยู่เลยนะครับ มีเวลาถ่ายรูปตอน sunset ได้นานหลาย ชมเลยนะครับนี่ วิวธรรมชาติ ทุ่งดอกไม้ป่าข้างทาง สวยมาก ว่าแต่ว่า เดินขนาดนี้ ไม่เห็นมีร้านขายของซักกะร้าน อ.เต๊ะ จะซื้อ มาม่า ลูกชิ้นปิ้ง กินได้ตรงไหนเนี่ย หิวครับ 555    โดย: multiple
 วันที่: 3 มิถุนายน 2567 เวลา:5:10:08 น.เรื่องราวรถม้า
อ่านแล้วก็ทึ่งเลยครับคุณเย็น เค้าคงมาส่งสัญญาณอะไรบางอย่างให้คุณเย็นรับรู้นะครับ ไป 4 กลับ 4 ถือว่าโชคดีมากๆเลยครับ หลายบ้านไปแล้วไปลับ เหลือแต่ภาพถ่ายให้คิดคะนึงหา สงครามเป็นสิ่งเลวร้ายมากจริงๆ เทือกเขา Odle งดงามมากจริงๆครับ เห็นแล้วอยากวาร์ปไปยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมกล้องในมือครับ กฏของการอยู่ร่วมกับมนุษย์เมีย ทุกวันนี้ผมก็ใช้กฏนี้ครับ 5555  โดย: กะว่าก๋า
 วันที่: 3 มิถุนายน 2567 เวลา:9:14:35 น.บรรยากาศดีมาๆ ครับ วิวสวยดูเงียบสงบดี ผมว่าผมเดินเล่นบริเวณนั้นได้นานเลยแหละ
โดย: คุณต่อ (toor36
 ) วันที่: 3 มิถุนายน 2567 เวลา:9:42:46 น.ผมเคยเห็นพระเครื่อง
อยู่ในมือคนนึงราคา 5 พันบาท พอเปลี่ยนมือไปอยู่กับอีกคน กลายเป็นองค์ละ 2 ล้าน ทั้งๆที่เป็นพระองค์เดียวกันครับ  โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 4 มิถุนายน 2567 เวลา:13:43:14 น.บรรยากาศ ภาพสวย อากาศดีแน่ครับคุณเย็น เปิดเพลงเข้า
เครื่องเสียงเบา ๆ ไพเราะมาก คุณเย็นเขียนบรรยายทำให้อยากไป และดูจะไกลไปสำหรับ ผมครับ ฮา เรื่องเสียงหรือภาพ เคยเจอที่อุบลนาน ๆ มาก.. ต่อมาเมื่อ เรียนสมาธิจนจบ เบื้องต้น ทฤษฎี.. แล้วฝึกเดินจงกรมตั้ง ฐานจิตไว้จุดที่เหมาะ ทำบ่อยเข้าก็สะสมพลังจิต แล้วก็เกิด ปิติแต่ไม่บ่อยนัก ต่อมาก็พยายามเข้าร่วมกับเพื่อน ๆ ทำสมาธิในที่เดียวกัน หลาย ๆ คน จนเกิดความเกื้อกูลพลังจิต เขาน่าจะเรียกว่า อัญะอัญญัง ช่วยได้เยอะครับคุณเย็น เคยมีคนถามว่า บริกรรม สาธุ ๆ เขานับถือศาสดาอื่นใช้ ได้ไม่ทำไงดี พอจ.หลวงพ่อว่า สาธุแปลว่าผูู้รู้ มีมาก่อน พระพุทธจะเกิด... คุณจะใช้อะไรก็ได้ เช่น เยซู อัลเลาะห์ ติดๆ กันจนจิตนิ่ง วันนี้คุยาวไป ขออภัยครับุคุณเย็น โดย: ไวน์กับสายน้ำ
 วันที่: 4 มิถุนายน 2567 เวลา:16:22:32 น.จากบล็อก
จริงๆ มันเป็นเรื่องของตัวบุคคลแหละครับ ผมไม่อยากโทษองค์กรหรอก ผ่านมา เกือบ 30 ปีได้แล้วมั้ง แต่เจอเพื่อนเลี้ยงรุ่น พูดถึงเรื่องครูเก่าๆ สมัยประถม หรือเห็นรูปครูพวกนี้ แล้วมันเดือดครับ ตอนเด็กผมก็กลัวด้วยแหละ เด็กอะนะ ถ้าตอนเด็กสมองเราหรือความกล้าเราได้แบบปัจจุบัน ผมว่าคงสนุกขึ้น โดย: คุณต่อ (toor36
) วันที่: 4 มิถุนายน 2567 เวลา:21:31:28 น.คุณธรรม จริยธรรม และศีลธรรม ควรเป็นสิ่งที่ผู้นำ หรือคนทำงานการเมืองควรจะมีในตนนะครับ จริงๆแล้วก็ทุกวงการด้วย เป็นสิ่งที่ควรมีในจิตใจจริงๆครับ  โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 5 มิถุนายน 2567 เวลา:19:28:03 น.สวัสดีค่ะคุณเย็น
รถม้าโบราณที่แล่นผ่านจำเพาะเจาะจงให้คุณเย็นเห็น คงมีเหตุผลแฝงอยู่นะคะ สงครามไม่ส่งผลดีกับใคร ครอบครัวที่ลูกกลับมาครบทั้งสี่คนเป็นเรื่องน่ายินดีมาก ตรงกันข้ามกับครอบครัวผู้สูญเสียที่ไม่ว่าจะผ่านไปกีปี ความเศร้าก็คงไม่เลือนหายนะคะ บรรยากาศสวย ดูสงบมากค่ะ ไม่ว่าพื้นที่นี้จะมีภูมิหลังยังไงก็ยังน่าเที่ยวมาก ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆค่ะคุณเย็น คืนก่อนต๋ามาดึกแล้วไม่ได้เข้าบล็อกอีก ขอบคุณคุณเย็นสำหรับกำลังใจนะคะ  โดย: Sweet_pills
 วันที่: 5 มิถุนายน 2567 เวลา:23:49:56 น.นวนิยายเรื่องนี้อาจจะโบราณไปหน่อยค่ะ เพราะเป็นเรื่องแรกที่ลองเขียนในปี 2552 (15 ปีมาแล้ว) นานมากนะคะ เมื่อมาอ่านตอนนี้ก็กลายเป็นนิยายย้อนยุคของสมัยนี้ไปเลยค่ะ 555
โดย: ดอยสะเก็ด
 วันที่: 6 มิถุนายน 2567 เวลา:14:59:29 น.จากบล็อก
ไม่มีครับ อันนี้ความสัตย์จริงเลย มีแต่ตัวไซส์แค่นี้แหละครับ สูง 10 ซม. ค่านี้ค่าตัวระดับนึงแล้ว โดย: คุณต่อ (toor36
) วันที่: 6 มิถุนายน 2567 เวลา:22:25:55 น.คำสอนของในหลวง ร.9
ยังคงน้อมนำมาปฏิบัติได้จริงๆนะครับ ท่านสอนไว้ดีมากจริงๆครับ โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 7 มิถุนายน 2567 เวลา:10:07:35 น.ถ้ารักตัวเองยังไม่ได้
หรือรักตัวเองไม่ดีพอ ก็ยากที่จะรักคนอื่นจริงๆครับ โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 8 มิถุนายน 2567 เวลา:14:29:38 น.นักร้องกับภรรยา
. . น่าจะใช่คนเดียวกันนะครับ ตอนนี้เป็นข่าวเยอะเลย แม้แต่คลิปที่เคยพูดไว้นานแล้ว ก็ถูกนำกลับมาเผยแพร่ใหม่อีกรอบ  โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 9 มิถุนายน 2567 เวลา:21:21:48 น.มาดามคัดเสื้อทีนึงเยอะมากครับ
ยกให้ลูกน้องทีละถุงใหญ่ๆ บางตัวใส่แค่ครั้งสองครั้งเอง ตอนนี้ผมว่าเสื้อผ้าเธอน่าจะมีเป็นร้อยตัวครับ ซึ่งเธอก็ยังบอกว่าไม่มีอะไรใส่อยู่ดี 555 การทำพินัยกรรมไว้ ผมเห็นด้วยเลยครับ หลายวันก่อนนั่งดูคลิปของพระไพศาล ท่านแนะนำให้ทำสมุดเบาใจ ผมว่าเป็นการทำพินัยกรรมชีวิตที่ดีมาก สั่งเอาไว้ก่อนเลย ว่าจะให้ทำอย่างไรตอนใกล้จะจากไป รวมทั้งการจัดการเรื่องทรัพย์สินต่างๆด้วย ลูกหลานจะได้ไม่ต้องมาทะเลาะกันในภายหลังครับ โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 10 มิถุนายน 2567 เวลา:21:42:22 น.ธรรมะทั้งหมดที่ผมเรียนรู้มา
ได้ใช้จริงจังที่สุดตอนที่พี่ชายผมเสีย เขาจากไปเร็วมาก แทบไม่มีเวลาตั้งตัว แต่พอตั้งสติได้ ผมก็ทำใจได้เร็วมากครับ หลังจากนั้นก็ตอนที่แม่ผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ ตอนที่พ่อติดเชื้อในกระแสเลือด ทั้งหมด เป็นคำเตือนที่ส่งมาเพื่อให้เราไม่ประมาทจริงๆครับ ผมชอบอ่านประวัติตอนพระอรหันต์ พระป่าที่ท่านกำลังจากไป เป็นการจากไปที่มีสติและงดงามมากครับ บางองค์นั่งสมาธิแล้วก็จากไป บางองค์จากไปขณะก้มกราบพระประธานเป็นครั้งสุดท้าย น่าทึ่งมากๆครับ โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 11 มิถุนายน 2567 เวลา:15:05:43 น.ผมชอบคำสอนเซนที่ว่า
"ทุกวันล้วนเป็นวันดี" มันทำให้เราเริ่มต้นวันอย่างมีความหวังครับ โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 12 มิถุนายน 2567 เวลา:13:09:06 น.ยุคนี้ศัลยกรรมกันเยอะมากจริงๆครับ
เวลาดู ผมรู้สึกว่าน่ากลัวครับ ตอนดึงหน้าเยอะๆ เหมือนแมวเลยครับ ตาจะชี้ๆ แท้จะรู้ดีครับ ว่าเค้ามีความสุขที่ได้สวยหรือหล่ออีกครั้ง แต่จะรั้งกาลเวลาได้มากขนาดไหน ก็ไม่สามารถตึงไปได้ตลอดจริงๆครับ โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 13 มิถุนายน 2567 เวลา:13:54:02 น.สวัสดีค่ะคุณเย็น
ห่อหมกปลากราย ใส่เนื้อปลาเป็นชิ้นเพิ่ม น่าจะยิ่งเพิ่มความอร่อย คราวหน้าต๋าจะทำบ้างค่ะ ขอบคุณคุณเย็นสำหรับกำลังใจนะคะ โดย: Sweet_pills
วันที่: 13 มิถุนายน 2567 เวลา:23:31:41 น.ที่ผมยังซื้อสม่ำเสมอคือหนังสือครับ
แต่ซื้อถูกลงมาก หลงเข้าไปในกลุ่มหนังสือมือสอง ยังหาทางกลับออกมาไม่เจอเลยครับ 555 ที่ดีที่สุด คือ ผมได้หนังสือธรรมะดีดีเยอะมากครับ หนังสือเหล่านี้ไม่มีขายแล้ว บางเล่มพิมพ์ไว้แจกตามวัดป่า พอคนอ่านเบื่อแล้วเขาก็ส่งต่อ ในที่สุดก็เดินทางมาถึงผม ได้อ่านหนังสือเยอะเป็นพิเศษเลยครับในช่วงนี้  โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 14 มิถุนายน 2567 เวลา:13:39:59 น.ผมชอบใส่เสื้อนอนตัวเก่า
ขาดเป็นรูมากเท่าไหร่ ยิ่งใส่สบาย บอกมาดามห้ามทิ้งเด็ดขาดครับ 5555 ผมเคยแต่งตัวธรรมดา มีคนมาหาพ่อแล้วนึกว่าผมเป็นคนสวนครับ 555 แอบเดาว่าเพื่อนบ้านของคุณเย็นน่าจะเป็นคนกรุงเทพนะครับ ย้ายมาอยู่ในดอยแต่ยังต้องแต่งตัวสวย โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 15 มิถุนายน 2567 เวลา:13:52:06 น.ผมมองการพบจิตแพทย์หรือนักจิตบำบัด
เป็นเรื่องปกติและควรทำเลยครับ บางครั้งเราก็ต้องการความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ หากเราออกจากปัญหาไม่ได้จริงๆ โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 16 มิถุนายน 2567 เวลา:19:45:24 น.อ่านเม้นท์คุณเย็น
ผมนึกถึงคำพูดที่ว่า "เวลาเรามีเงิน เพื่อนเห็นเรา เวลาเราหมดเงิน เราเห็นเพื่อน" เป็นเช่นนั้นจริงๆครับ โดยเฉพาะหลังโควิด ซึ่งชีวิตของหลายคนก็เปลี่ยนไป และยากที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 17 มิถุนายน 2567 เวลา:14:07:37 น.สวัสดีมีสุขค่ะ
คุณเย็นเห็นแปลกนะคะ เหตุใดอิตาลีแถวนั้นไม่ชอบคนอังกฤษคะ อ่อนประวัติศาสตร์ค่ะ..แฮ่ะ โดย: ตะลีกีปัส
 วันที่: 17 มิถุนายน 2567 เวลา:14:31:16 น.ในเมืองวันนี้ก็ไม่ร้อนอบอ้าวเท่าไหร่ครับคุณเย็น
แต่แว่วๆมาว่าวันนี้จะมีพายุอีก ฝนตกมาก็ดี ดีกว่ามีควันครับ โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 18 มิถุนายน 2567 เวลา:14:12:14 น.คบบัณฑิต
บัณฑิตพาไปหาผลจริงๆครับ ที่บ้านผมก็เคยมีแม่บ้านชาวไทใหญ่ อยู่มาเป็น 10 ปีไม่มีปัญหา เก็บเงินได้เยอะมาก พอหลานสาวมาจากพม่า มาชวนแกลาออก เอาเงินแกไปปล่อยกู้ สุดท้ายหนี้สูญ น่าสงสารมากครับ เก็บเงินเก็บทองมาตั้งหลายปี โดนหลานหลอกไปหมดเลย ตอนนี้ไม่รู้เป็นยังไงแล้ว เพราะแกลาออกไปหลายปีแล้วครับ โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 19 มิถุนายน 2567 เวลา:10:14:18 น.วันก่อนหมิงไปอัดเสียงที่ห้องอัดเสียงแถวสะเมิง
ทางเข้ากน้ากลัวมากครับ ถนนลูกรัง ขึ้นเนินด้วย พ่อแม่ที่ไปส่งคิดเหมือนกันหมด ใช่เหรอ มีห้องอัดเสียงเหรอ 5555 แล้วก็อัดเสียงถึงเที่ยงคืน กว่าจะกลับลงมาได้ ตรงนั้นเป็นกลางดอย คลื่นสัญญาณไม่มีเลยครับ  โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 21 มิถุนายน 2567 เวลา:13:04:58 น.วันก่อนผมยังนั่งคุยกับมาดามเลยครับ
ว่าการเป็นแม่บ้านนั้น เป็นงานที่หนักมาก และผู้ชายส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้สึกว่าเหนื่อย ถ้าสลับร่างได้ถึงจะรู้ครับ 5555 คนงานผมชอบคนไทใหญ่ครับ ส่วนใหญ่ที่เคยเจอมา จะขยันและซื่อสัตย์ไว้ใจได้ครับ โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 22 มิถุนายน 2567 เวลา:12:25:58 น.จากบล็อก
พูดได้นี่คงไม่ใช่แล้วมั้งครับ แอบน่ากลัวนะถ้าพูดได้ โดย: คุณต่อ (toor36
) วันที่: 22 มิถุนายน 2567 เวลา:22:06:49 น.อาจารย์เต๊ะ ชอบอยู่บ้านครับ ไม่ชอบเที่ยว
เลยทำห้องดูหนัง ฟังเพลงไว้ที่บ้านซะเลย บ้านเก่า ปลํ๊กน้อย จะเสียบอะไรก็ต้องซื้อปล้๊กมาพ่วงพะรุงพะรัง ทำบ้านใหม่ เลยให้ช่างทำปลํ๊กแยะๆ คติ อาจารย์เต๊ะ เกินไว้ดีกว่าขาดครับ ทำอะไรไม่เคยพอดีเล้ยยย จริงๆ555 เมื่อวานพึ่งจะไปหาหมอตามาครับตรวจตาทั้ง สองข้าง โอเครดี ไม่ต้องหยอดตาแล้ว หมอนัดอีก 3 เดือน ค่อยมาตรวจอีกที เพราะเป็นเบาหวาน เห็นหมอดูซูบๆไป อาจารย์เต๊ะ เลยหิ้ว ลิ้นจี่ สนมยิ้ม ไปฝากหมอ ขนาดหมอไม่ใช่ สนม ยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยครับ แฮร่555 ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมเยียนกันนะครับ  โดย: multiple
วันที่: 23 มิถุนายน 2567 เวลา:15:14:23 น.ที่บ้านผมส่วนใหญ่เจอไทใหญ่อย่างเดียวเลยครับ
เค้าอาจจะทำงานเป็นโซนนะครับ ใครอยู่ใกล้โซนไหน ก็มักจะมีคนงานจากกลุ่มชาติพันธุ์นั้นๆเยอะหน่อยครับ จิตใจเราเปลี่ยนแปลงไปได้เรื่อยๆจริงๆครับ โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 23 มิถุนายน 2567 เวลา:21:17:50 น.ผมค้นพบว่า
ยิ่งผมอายุมากขึ้น ยิ่งอยากเจอคนน้อยลงครับ เวลาที่ได้อยู่กับตัวเองโดยลำพัง เป็นเวลาที่ผมชอบมากที่สุดครับ โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 24 มิถุนายน 2567 เวลา:14:11:29 น.เวลาเดินผ่านธนาคารกรุงไทย
จะเห็นคนรอทำธุรกรรมการเงินเยอะมากเลยครับ รองลงมาน่าจะเป็นกสิกร บัตรอะไรที่ผูกกับแอพของรัฐบาล รู้สึกว่าจะต้องทำผ่านธนาคารกรุงไทย กับธนาคารออมสินใช่ไหมครับ โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 25 มิถุนายน 2567 เวลา:22:36:29 น.มาดามไม่อ่านบล็อกผมเลยครับ 555
แต่ข้อดีคือช่วงนี้ผมเริ่มชวนเธอนั่งสมาธิ และเริ่มให้เธอคิดอยากจะสวดมนต์ได้แล้วครับ 5555  โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 26 มิถุนายน 2567 เวลา:21:04:24 น.เจ้าความเผลอเรอ หรือความขาดสติ
น่ากลัวจริงๆครับ เผลอทำอะไรแย่ๆ วูบเดียว ชีวิตเปลี่ยนได้เลย บางอย่างเผลอแล้ว พลาดแล้ว ผิดแล้ว แก้ไขไม่ได้ก็มีนะครับ  โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 28 มิถุนายน 2567 เวลา:10:41:43 น.ความรุนแรงเกิดขึ้นในทุกที่จริงๆครับ
ที่น่ากลัวคือความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งผมว่ามันส่งผลต่อสังคมไม่แพ้สงครามใหญ่ๆเลย สมัยก่อนการเลือกคู่ ดูแล้วดูอีกจริงๆครับ โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 29 มิถุนายน 2567 เวลา:12:18:44 น.เวลาผ่านคลื่นยักษ์มา
เหมือนเราจะมีภูมิต้านทานต่อสิ่งร้ายๆนะครับ คนกล้า ไม่ใช่ไม่กลัว แต่รู้ว่ากลัวไปก็ไม่ช่วยอะไร จึงใช้ความกล้าเอาชนะปัญหาได้ครับ  โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 30 มิถุนายน 2567 เวลา:15:42:56 น. |
บทความทั้งหมด
|
 |
|
ผู้ติดตามบล็อก : 36 คน [
เที่ยวอุทิศบุญกุศล
มีหนังต่างประเทศเรื่องหนึ่ง ที่พ่อตามหลุมฝังศพลูกในสงคราม นำกระดูกกลับบ้าน