ความบังเอิญ / โอกาส / การตัดสินใจ
คุณเคยรู้สึกมั้ยว่า...
ทุกอย่างในชีวิตมีจังหวะของมันเอง?

คุณเคยคิดมั้ยว่า...
ความบังเอิญหรือโชคชะตาส่งผลบางอย่างกับชีวิตคุณ?

คุณเคยตระหนักมั้ยว่า...
อาจมีไม่กี่ครั้งนักที่โอกาสบางอย่างจะผ่านเข้ามาในชีวิต?

คุณเคยสงสัยมั้ยว่า...
ถ้าคุณตัดสินใจอีกอย่างเรื่องราวในชีวิตจะเปลี่ยนแปลงไปเช่นไร?






ในชีวิตคนเรามีความบังเอิญเกิดขึ้นอยู่เสมอๆ แทบทุกช่วงของชีวิตก็ว่าได้ ความบังเอิญที่ว่านี่อาจจะเป็นเพราะดวงหรือโชคชะตา ทำให้เราตัดสินใจทำอะไรซักอย่าง ซึ่งส่งผลให้ชีวิตเราเป็นไปในแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้



What if one split second ...
sent your life in two completely different directions?






ความบังเอิญในชีวิตเราเองก็มีหลายเรื่องมากเลย แต่ที่อยู่ในความทรงจำและอยากเอามาเล่าให้ฟังมีอยู่ 2 เรื่องที่เกิดในช่วงก่อนอายุ 20 (ก็ย้อนหลังไปไม่นานมากนะ อิอิ)


บังเอิญไม่อยู่บ้านวันที่ AFS ให้เลือกประเทศ

มีวันนึง...พ่อเอาหนังสือข่าวขององค์กรที่พ่อทำงานอยู่มาให้ดู แล้วบอกให้เราลองสมัครสอบ นร. แลกเปลี่ยนของ AFS ดู พอมานึกย้อนกลับไป...วันนั้นพ่อได้หยิบยื่นโอกาสครั้งสำคัญที่ทำให้เราได้มีประสบการณ์ที่น่าจดจำครั้งหนึ่งในชีวิต

พ่อจัดแจงหาชีทข้อสอบเก่ามาให้เราเตรียมตัว วันสอบก็ขับรถพาเราไปสอบที่ รร.สวนกุหลาบ เราผ่านด่านแรกซึ่งเป็นข้อเขียนมาได้ พ่อดีใจมาก ถึงวันสอบสัมภาษณ์พ่อก็ขับรถพาเราไปอีก ยังจำได้อยู่เลยวันนั้นเค้าแบ่งเป็นกลุ่มๆ แล้วให้ทำนู่นทำนี่ จนสุดท้ายแจกหนังสือพิมพ์ให้มาพับเป็นอะไรก็ได้ แล้วออกไปแสดงให้เพื่อนในกลุ่มดู เรานั่งคิดอยู่ตั้งนานพับไรดีหว่า จนสุดท้ายจะหมดเวลาอยู่แล้ว เลยเอามาพับเป็น พัด กับ ผ้าเช็ดหน้า แล้วให้ทายเราออกไปแสดงอะไร ติ๊กต่อก... เฉลยเลยละกัน เราออกไปรำงิ้ว โดยใช้พัดประกอบ ก็รำไปมั่วๆ ร้องงิ้วมั่วๆ พอถึงตอนจบก็สะบัดผ้าเช็ดหน้าออกมาซับน้ำตา แล้วค่อยๆ ทรุดลงไปตายกับพื้น ฮ่าฮ่า คิดแล้วตรูช่างทำไปได้


©www.thaifilm.com


หลังจากผ่านสัมภาษณ์ก็มีกระบวนการอีกเพียบ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการเลือกประเทศ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกเราตัดสินใจเลือกประเทศแถบยุโรปไป 3 ประเทศ แต่ก็ไม่ได้ซักประเทศ ตอนนั้นนึกว่าคงไม่ได้ไปแล้ว จนวันนึงกลับมาจากเรียนพิเศษ พ่อบอกลูกได้ไปฟินแลนด์นะ ก็งงๆ ปรากฏทาง AFS โทรมาบอกว่ามีฮังการียังไม่เต็ม แล้วก็มีฟินแลนด์พึ่งเปิดใหม่ในปีนั้น จะไปประเทศไหน พ่อเราตัดสินใจให้เสร็จสรรพ...ไปฟินแลนด์ ซึ่งถ้าเราอยู่บ้านแล้วเราเป็นคนเลือกนะ เราเลือกฮังการีแน่นอน และถ้าเป็นแบบนั้นเราก็คงไม่ได้เจอ host family ที่รักเราเหมือนเป็นลูกอีกคน


บังเอิญจัดบ้านก่อนวันสอบเอนท์

ความบังเอิญข้อนี้มีความเกี่ยวพันอย่างมากเลยกับคะแนนเอนท์ของเรา สำหรับเด็กสายศิลป์-คณิต ที่ไม่เก่งวิชาเลขอย่างเรา วิชาสังคม ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ วิทย์(กายภาพ) จึงมีความสำคัญอย่างมากกับคะแนนที่เหลือ 400 คะแนนจากคะแนนรวม 500 คะแนน เพราะเสมือนว่าได้ทิ้ง 100 คะแนนจากวิชาเลขลงแม่น้ำไปแล้ว

วันที่สอบวิชาเลขจำได้ว่าทำได้ไม่เกิน 10 ข้อแน่ๆ ส่วนวันก่อนสอบวิชาสังคมแม่เรานึกไงไม่รู้มานั่งจัดบ้าน แล้วก็เจอหนังสือเรียนชั้น ม.3 ของเรากองเบ้อเร่อ เราต้องไปจัดการเก็บ แต่เราเป็นพวกเวลาเก็บอะไรชอบเปิดดูก่อนอ่ะ เราเลยเปิดพลิกๆ หนังสือวิชาสังคม โอ้โห...ตกกะใจ สมัยนั้นเราตั้งใจเรียนขนาดนี้เลยหรอ จดแทบจะทุกหน้า ที่ว่างข้างๆ ของหน้าหนังสือ ไม่ว่าจะบน ล่าง ซ้าย ขวา เราจดเต็มไปหมดเลย นั่งอ่านเพลินจนลืมเวลา อ่านทุกอย่างที่จด วันรุ่งขึ้นตอนนั่งรอเข้าห้องสอบ คนนั่งข้างๆ เค้าติวกับเพื่อนใหญ่เลย เฮ้ย...พูดเรื่องสมัยเรเนซองส์ไรกันเนี่ย (เราเด็กสอบเทียบอ่ะ ไม่ได้เรียนเนื้อหาของ ม.6) ก็เริ่ม panic ตรูตายแน่ แต่เชื่อมั้ย...ข้อสอบดันออกเรื่องที่เรานั่งอ่านๆ ที่ตัวเองจดไว้ตอน ม.3 หลายข้อเลยด้วย อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น?!?!?!

วันสุดท้ายรู้สึกจะสอบวิชาภาษาอังกฤษนะ ตอนออกมาจากห้องสอบพ่อมารับ ซื้อแม็คฟิชของโปรดเรา(สมัยนั้น)มาให้กินด้วย รู้สึกรักพ่อมากเลยรู้ใจเราที่สุด (ป่านนี้พ่อลืมไปแล้วมั้ง อิอิ) เชื่อป่ะว่า...เวลาล่วงเลยมาเป็น 10 ปีแล้ว แต่เรายังจำวินาทีที่เห็นหน้าพ่อในวันนั้นได้อยู่เลย มันดีใจบอกไม่ถูก แล้วก็รู้สึกโล่งๆ ตัวเบาพิกล ชีวิตเด็กเตรียมเอนท์สิ้นสุดลงซักที


©www.answers.com


นอกเรื่องนิดนึง... สมัยนั้นรถติดมาก มีอยู่วันนึงเอนท์วิชาอะไรจำไม่ได้ จะถึงเวลาเข้าสอบอยู่แล้ว รถยังติดอยู่บน ถ. สุขุมวิท อยู่เลย พ่อเราให้ลงจากรถไปเรียกมอไซค์รับจ้างเพื่อไปส่งที่สนามสอบ (มศว.) ถ้าเป็นสมัยนี้คงขึ้นรถไฟฟ้าไปเนอะ

จะว่าไปพ่อเนี่ยแหละที่ทำให้เราเลือกเรียนบัญชี ตอนแรกเราอยากเรียนอักษร แต่พ่อเราบอกว่าอักษรจบมาหางานยากกว่าบัญชี แล้วก็เชียร์ให้เราเลือกบัญชีธรรมศาสตร์อันดับหนึ่ง (พ่อเราจบที่เนี่ย -_-") สมัยนั้นเลือกได้ 4 อันดับ เราเลือกธรรมศาสตร์ไปซะ 3 อันดับ มีบัญชี เศรษฐศาสตร์ นิติศาสตร์ ก็คิดอยู่ว่าอันดับสุดท้ายเลือกคณะไรห้อยท้ายดี แม่เราเลยถามว่าไม่คิดจะเลือกจุฬาฯ บ้างหรอ ด้วยความกลัวแม่น้อยใจ (แม่เราจบที่นี่อ่ะ -_-") เราเลยตัดสินใจเลือกบัญชีจุฬาฯ ละกัน แล้วคะแนนบัญชีจุฬาฯ มันสูงสุดอ่ะ เลยจำเป็นต้องเลือกเป็นอันดับ 1 แต่ไม่คิดว่าจะติดหรอก วันประกาศผลสอบเราโทรเท่าไหร่ก็โทรไม่ติด จนฐิเพื่อนซี้ต้องช่วยโทรให้ ตอนฐิโทรมาบอกว่าเราติดอันดับ 1 ความรู้สึกตอนนั้นบอกตรงๆ ว่าไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี เอาเป็นว่าช็อคอ่ะ เพราะอยากเข้าธรรมศาสตร์มาก

นอกเรื่องนิดนึง(อีกแล้ว)... คนที่ทำงานชอบนึกว่าเราจบธรรมศาสตร์อ่ะ ไม่รู้ทำไม เจ้านายเรา fwd เมล์ งานศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ มาให้เรา พอไปถามก็บอก "อ้าว...ผมนึกว่าคุณรุ่นน้องผมซะอีก" รุ่นน้องที่ทำงานก็บอก "หนูนึกว่าพี่เด็กธรรมศาสตร์" พี่ที่ทำงานก็บอกอย่างเราไม่น่าใช่เด็กจุฬานะ พอถามว่า "ทำไมคะ เพราะหนูไม่หมวยหรอ" พี่เค้าบอก "ไม่ใช่ครับ เพราะถึกกว่าเด็กจุฬาที่เคยเจอ" ซะงั้นอ่ะนะ -_-"






เมื่อช่วงหลายเดือนก่อนหน้านี้...

มีเหตุบังเอิญให้เราได้ดู MV เพลง lose yourself ของ Eminem ในวินาทีที่เรากำลังตัดสินใจบางอย่างเกี่ยวกับชีวิตการงาน

ผลที่ตามมาเป็นยังไงค่อยเล่าให้ฟังอีกทีนะ (^.^)



Create Date : 22 กรกฎาคม 2550
Last Update : 20 มีนาคม 2553 20:51:20 น.
Counter : 1233 Pageviews.

21 comments
นุดเบาหวานรายงานตัว ครบ 1 เดือนแล้วจร้า nonnoiGiwGiw
(18 เม.ย. 2567 11:46:58 น.)
เรื่องเล่าที่ไม่เกี่ยวกับวันสงกรานต์ tanjira
(13 เม.ย. 2567 16:10:32 น.)
สุขสันต์วันปีใหม่ไทย ๒๕๖๗ haiku
(13 เม.ย. 2567 10:13:33 น.)
"วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร โปรดมองมาทางนี้ เธอจะเห็นใครคนหนึ่งที่รอเธอ" คนผ่านทางมาเจอ
(10 เม.ย. 2567 23:49:39 น.)
  
น้องปลาขา คิดถึง ๆ ๆ ๆ

พี่ดีใจที่น้องปลาได้ไปฟินน์แลนด์เพราะถ้าไปโรมาเนียน้องปลาจะต้องไปอยู่กะฝรั่งบ้านนอก ฮ่าๆๆๆ ประเทศมันด้อยพัฒนาสุดฤทธิ์ค่ะน้องขา ดีใจๆๆๆ แทน

เห็น sliding door แล้วแอบกรี๊ด เพราะชอบหนังเรื่องนี้มาก ดูเป็นหลายสิบรอบค่ะ พี่แอบเลือกไว้ด้วยจะเป็นคนไหนดี (คนที่ตายน่ะ เหตุผลยาวปื้ด)

ส่วนเรื่องบังเอิญ และโชคชะตานี่เชื่อเต็มร้อยค่ะน้องปลา

เจ้านายใจร้ายนะคะ มาว่าน้องปลาถึกได้ไง เดี๋ยวตามไปกรี๊ดให้ค่ะ
โดย: MoneyPenny วันที่: 27 กรกฎาคม 2550 เวลา:5:06:32 น.
  
หวัดดีจ้า...Marimekko..


เจ้านายชื่อาราย.....บริษัทอะรายย....จ๊ะ

มาว่า.....เด็กธรรมศาสตร์.....ถึก....ได้ไงอ่ะ...

เรากับน้องสาว 3 คนจบธรรมศาสตร์หมดเลยนะ....เดี๋ยวบ้าน nankipooh จะนัดคุยกับ boss คุณดีมั๊ยเนี่ย


เก่งจังเลยค่ะ....เคยได้ทุน AFS ด้วย ได้เปิดโลกใหม่ๆตั้งแต่ยังเด็กเลยเนอะ....ดีจัง

have a cute weekend......นะจ๊ะ

ปายยย.....เลี๊ยว....ววววว
โดย: Nankipooh (My_Sanctuary ) วันที่: 27 กรกฎาคม 2550 เวลา:7:42:36 น.
  
^
^

อ่านแล้วอิจฉาจัง
คุณพ่อน่ารักจัง ปูทางไว้รอ
เราต่างกับเธอแทบจะทุกอย่าง
สิ่งที่ได้มาจากพ่อคือชีวิตที่ยัง
หายใจได้อยู่บนโลกใบนี้
แค่นี้เราก็ขอบคุณเค้ามากแล้ว

เค้าส่งต่อให้เราดำเนินชีวิต
ได้อย่างเข้มแข็งด้วยตัวเอง

ปล. ไปบล็อคเราบ่นได้เต็มที่
ยาวๆ ยิ่งดี แลกเปลี่ยนรสชาติ
ของชีวิต ที่มี เอามาแชร์กัน
โดย: Nisasa วันที่: 27 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:54:34 น.
  
ตกใจทีแรกนึกว่าไปสมัครโรงเรียนสวนกุหลาบที่เป็นชายล้วนซะอีก

เพิ่งรู้ที่มาของภาพที่อยู่ต่างแดน ว่าแต่บล๊อกเหล่านั้นหายไปไหนหมดแล้วนะครับ ติดไว้ยังไม่ได้อ่านเลย ได้แต่ดูรูป

สมัยเรียนจำได้ว่าเลือก แพทย์จุฬาอันดับสุดท้ายแล้วก็ไม่ติดดังคาด ได้ที่เลือกอันดับสองไว้

บัญชีนั้นธรรมศาสตร์ดังกว่าจุฬาแสดงว่า เจ้าบ้านเก่งมาก เขาเลยเหมาเป็นธรรมศาสตร์ไปเลยครับ

มาเยี่ยมเพื่อนร่วมโดน Tag นะครับ
โดย: ฮิโระ (ordinary_hero ) วันที่: 27 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:17:48 น.
  
อ่านแล้วอินค่ะ
ตอนแรกนึกว่าพูดถึงเรื่อง MatchPoint ซะอีก...ตีมคล้ายๆกัน :)
เวลาอ่านเรื่องที่มีส่วนกำหนดหรือหักเหเส้นทางชีวิตคนแล้วรู้สึกอินยังไงก็ไม่รู้ค่ะ เหมือนได้เห็นเรื่องราวและมีส่วนร่วมในการเดินทางของคนคนนั้นด้วยเลย
โดย: Bumu_Chan IP: 71.249.241.130 วันที่: 27 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:29:46 น.
  
พี่จูน --- คิดถึงเหมือนกันค่า ช่วงที่ผ่านมายุ่งมากๆๆๆ เครียดกับงานมากๆๆๆ นี่เสร็จไปอย่างนึงแล้ว โล่งค่ะ แอบแก้นิดนึงนะคะ จำผิดเป็นโรมาเนียอ่ะค่ะ จริงๆ คือฮังการี คือตอนนั้นรู้สึกน่าจะเป็นประเทศที่โรแมนติกไงคะ เลยอยากไป

Nankipooh --- ดีค่ะ คือจริงๆ พี่คนนั้นเค้าลาออกไปแล้วล่ะ อิอิ ไม่รู้จะไปตามมาให้เคลียร์กันยังไงอ่ะนะคะ ฮ่าฮ่า ก็ไม่เก่งหรอกค่ะ มันเป็นโชคชะตาอ่ะ จริงๆ นะ คือความเก่งมันเป็นอีกเรื่องนึงไปเลย ไม่รู้สิคะ หลังๆ ถ้ามีใครบอกเราเก่งเราไม่อยากรับเลยอ่ะ ยิ่งแก่ขึ้นๆ ยิ่งเจอคนเก่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเรารู้สึกว่าเราไม่ใช่คนเก่งอ่ะ แต่เรารู้ว่าจุดแข็งกับจุดอ่อนเราคืออะไรน่ะค่ะ

Nisasa --- เห็นด้วยว่าเธอเป็นคนเข้มแข็ง แล้วเธอก็เป็นคนที่มีแนวคิดและแนวทางการดำเนินชีวิตของตัวเองอ่ะ เราว่าเธอเป็นคนที่รู้จักตัวเองนะ ไม่แน่นี่คือสิ่งที่ประสบการณ์ที่เธอต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองหล่อหลอมตัวเธอในวันนี้ขึ้นมาอ่ะ ... พ่อเราเค้าพูดอยู่เสมอเลยว่าเด็กๆ เค้าต้องขวนขวายทุกอย่างมาด้วยตัวเอง เพราะก๋งเราเค้าก็ไม่มีเวลามาอยู่กับพ่อมาสอนพ่อเรา พอพ่อเรามีเราเค้าเลยพยายามที่จะทำทุกอย่างให้เราเหมือนกับชดเชยสิ่งที่เค้าขาดไปในวัยเท่าๆ เราน่ะ เราว่ามันเป็นรุ่นสู่รุ่นนะ เหมือนถ้าเรามีลูกในวันข้างหน้า เราก็ย่อมต้องอยากให้เค้าได้ในสิ่งที่ดียิ่งๆ ขึ้นไปใช่ม้า

ฮิโระ --- อยู่ใน group blog อื่นอ่ะค่ะ ไม่ได้หายไปไหน พึ่งรู้นะคะว่าบัญชีธรรมศาสตร์ดังกว่าจุฬา เราว่าเราก็ไม่ได้เก่งอะไรหรอกคะ เค้าคงเหมาเอาจากบุคลิกมากกว่า

บุมุจัง --- จริงค่ะ เวลาดูพวกรายการทอล์คโชว์หรือสารคดีชีวิตบุคคล จะเห็นเลยว่าแทบทุกคนจะมีจุดหักเหในชีวิตนะคะ คือเพียงแค่เสี้ยววินาทีที่เราตัดสินใจอะไรซักอย่าง เรื่องราวในชีวิตเราก็อาจจะพลิกผันไปอย่างไม่คาดคิดเลย ขอบคุณที่มาร่วมเดินทางไปด้วยกันนะคะ
โดย: MaRiMeKKo วันที่: 27 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:58:53 น.
  
อ่านสนุกจังค่ะ
เนี่ยๆซายน์ก็เป็นรุ่นน้องพี่เหมือนกันนะ คณะติดๆกันเอง แอบไปกินปีโป้ปั่นโรงอาหารพี่บ่อยมากๆ เพราะคณะไม่มีโรงอาหาร(คงคิดออกแล้วนะคะว่าคณะอะไร อิอิ) น่าเสียดายเรียนได้แค่ครึ่งปีก็เผ่นไปญี่ปุ่นซะก่อน จริงๆเราก็อยากใส่ครุยเหมือนกันนะคะ

คิดๆไปคงเป็นพรหมลิขิตมั้งคะ
โดย: fly-me-to-da-moon วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:13:40 น.
  
ว่างๆ ยืมพ่อหน่อยดิ พ่อน่ารักจัง ฮี่ๆ
โดย: สะติมม๊อนโสสะโตเบ้ว วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:2:14:40 น.
  
น้องปลา - พี่แอบมาอัพบล็อกแล้วแหละ ทนดองบล็อกไม่ไหวเลยค่ะ ฮ่า
โดย: MoneyPenny วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:3:27:39 น.
  
อืมส์ แอบแวะมาอ่านค่ะ อ่านแล้วทำให้นึกถึงชีวิตอีกคนนึง สามีพี่เองแหล่ะ ถ้าเพียงแต่เค้าไม่บังเอิญเลือกมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่เมืองไทย(ที่เดียวกับน้องปลานั่นแหล่ะ)เราคงไม่ได้พบกัน จริงๆ เค้าเลือกไปมหาลัยในอเมริกาแต่มันเต็ม เลยติ๊กจุฬาฯซะงั้นแหล่ะเห็นชื่อแปลกดี เพราะความบังเอิญของคุณเธอนี่แหล่ะ ทำให้ชีวิตพี่ต้องระเห็จมาอยู่เมืองดับปลิ้น เฮ้อ แต่พี่ไม่ใช่ศิษย์เก่าสองสถาบันฯ นั้นหรอก บุญไม่ถึง ถึกกว่านั้นอีกคิดว่านะ

จะมารออ่านตอนต่อไปนะคะ คิดว่าเป็นเรื่องดีแน่นอน
โดย: Dublina วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:3:32:25 น.
  
คิดว่า ชีวิต บางครั้งดำเนินไป พลิกไป เพราะจุดเล็ก ๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจ
จุด ๆ นั้น ที่เป็นจังหวะที่เกิดขึ้น ณ. วินาทีนั้น ๆ
หรือความบังเอิญ
บ่อย ๆ เหมือนกันนะ

คิดว่า ส่วนนั้นคงเป็น ส่วนที่มีคู่กับ สิ่งที่เรากำหนดได้ อ่ะ

เอาไว้ทำให้เรา ได้คิดว่า ชีวิตบางครั้งก็อยู่เหนือการควบคุม
โดย: pecochan วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:54:36 น.
  
เชื่อในเรื่องจังหวะของชีวิตเหมือนกันครับ

ตอนแรกผมไม่ได้มีความคิดเลย ที่จะเรียนในคณะที่ตอนนี้ผมจบมา แต่ด้วยจังหวะชีวิตที่แปลกๆ จึงสามารถได้เข้าในสาขาอาชีพนั้น

ซึ่งตอนนี้ดีใจและชอบในสิ่งที่ทำอยู่มาก

ปล. เห็นแฮมเบอร์เกอร์แล้วหิวเลย และอยากเห็นท่ารำงี้วของคุณปลาด้วย
โดย: fzero วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:35:41 น.
  
นั่นแน่ อ่านฝาผนังบ้านบล็อคพ้ม พาลให้คิดถึงเพื่อนเก่าละซี้....ว่าแต่สมัยก่อน! เอ๊ย สมัยนั้นก็ฮาๆดีนะคับพ้ม....วันนี้พ้มไปงานวันเกิดรุ่นพี่ที่มหาลัย...แต่ดั๊นไปซี้กะชมรมวอลเล่ย์ธรรมศาสตร์ยังไงก้อไม่รุ....เพราะพ้มว่า มธ.ฮากว่าม้าง ..(ปล.พ่อพ้มก็ศิษย์ มธ. พี่ชายก้อ มธ. แถมบ้านก็ยังไกล้ มธ.อีกหนอ พ้มยังคิดว่าเราน่าจะเรียนต่อ มธ.ซักแขนงนึงเนาะ แต่ความรู้ดันเข้ากรุกมดแย้วนะสิ)
ปล.2 น้องโบวี่ ตัวเจงเจงน่ารักม้ากกกกก
โดย: ลิงจ๊ากจ๊าก วันที่: 29 กรกฎาคม 2550 เวลา:5:55:46 น.
  
เจอปกหนังนึกว่าจะเขียนเกี่ยวกับหนังซะอีกครับ

อยากรู้เหมือนกันครับ
ว่าถ้าวันนั้นตัดสินใจอีกแบบหนึ่ง
ชีวิตตอนนี้จะเป็นยังไง

ไม่รู้ว่าจะดีกว่าหรือแย่กว่านะครับ
โดย: MuHN วันที่: 29 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:32:20 น.
  
ติดตามตอนต่อไป อิอิ

ชอบหนัง sliding doors มากคร้าบ

ซื้อเก็บไว้ด้วย
โดย: pingpii วันที่: 29 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:42:57 น.
  
ไม่ได้มาเยี่ยมซะนาน มาทีได้อ่านชีวประวัติเล็กๆ
ได้รู้จักมากขึ้นด้วย...ชอบ sliding door เช่นเดียวกัน

แต่เราชอบเสี่ยงนะคะ...ไม่ค่อยชอบให้ใครมาเลือก...ถ้าเลือกเองพอผิดแล้วก็ต้องรับว่าเลือกแล้วนี่เนอะ โทษใครไม่ได้...

อ้อ ขอบคุณสำหรับ HBD อ่ะค่ะ แต่...มันเกิดปัญหานิดหน่อย เมนท์ปลาเลยหายไปด้วย เหอๆ มาตามไปเจิมใหม่ กร้ากกก
โดย: tistoo วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:16:11 น.
  
อยากบอกว่าคุณปลาเป็นนักเขียนได้เลยนะเนี่ย คุณปลาเขียนทำให้เราอ่านไม่เบื่อเลย คุณพ่อคุณปลาน่ารักจัง รออ่านตอนต่อไปนะคะ :)
take care na ka
โดย: LillY (baby_jane ) วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:09:31 น.
  
แวะมาเยี่ยมครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับเหมือนกับการขัดคอเลย แต่นี่เป็นการถกกันมากกว่าเพื่อให้เกิดความรู้ใหม่ ๆ
โดย: Johann sebastian Bach วันที่: 31 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:59:10 น.
  
ชอบ sliding door มากๆค่ะ
จุดเปลี่ยนชีวิตเนอะ จริงๆเลยแหละ
ตอนนี้็ก็อยากเล่าต่างๆนานา ที่เคยเจอๆมา
แต่ก็เรียบเรียงไม่ถูก

^^
ดีใจอีกอย่างที่เจอเพื่อนร่วมสถาบันแต่ไม่ใช่คณะเดียวกันจ้ะ

แอบบอกว่า พี่เจอใครที่ไหนนะ รู้เลยว่าจบจุฬา มาแหละ
เหอๆ สงสัยจะดูคุณหนู ก๊าก
โดย: vodca วันที่: 31 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:34:43 น.
  
แวะมาอ่านผ่านมาเยี่ยมครับ
โดย: naigod วันที่: 1 สิงหาคม 2550 เวลา:6:48:41 น.
  
like vare ค่ะมีเรื่องให้อ่านเยอะเลย
โดย: pichada IP: 58.10.0.8 วันที่: 16 มิถุนายน 2551 เวลา:16:07:42 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Marimekko.BlogGang.com

MaRiMeKKo
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

บทความทั้งหมด