ความคืบหน้าของน้องเม่น อดีตเด็กสมาธิสั้น และบกพร่องทางการเรียนรู้ สืบเนื่องจากกระทู้นี้ //www.bloggang.com/viewblog.php?id=mae-nong-men&date=02-02-2012&group=1&gblog=12 เกือบสองปีที่แม่ปล่อยให้เม่นไปผจญภัยคนเดียวที่แคนาดา เม่นใช้เวลา 8 เดือนในการเรียนภาษาเพื่อเตรียมสอบ IELTS และแม่ก็ภูมิใจมากที่เม่นทำคะแนนได้ถึง 7.5 เม่นไม่สามารถเรียนต่อที่ Ryerson ได้ เพราะขาดประสพการณ์ทำงานและต้องใช้คะแนน GMAT ซึ่งเม่นบอกแม่ว่าคงต้องใช้เวลานานกว่าจะสอบได้ ในขณะเดียวกันเม่นก็ยื่นเอกสารที่ Brocks University ทางมหาวิทยาลัยตอบรับโดยมีข้อแม้ว่าต้องเรียน CAS Course ให้ผ่าน เม่นพยายามอย่างสุดความสามารถ ตามศักยภาพที่มีอยู่ แต่ต้องใช้ความพยายามมากกว่าคนธรรมดามากมายนัก ถึงแม้เม่นจะพยายามแค่ไหนแต่เม่นก็ยังคงเป็นเม่นคนเดิม ที่ไม่เคยได้อะไรมาง่ายๆ คะแนนเม่นขาดไปแค่ 2 คะแนน ซึ่งแม่เคยบอกเม่นแล้วว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรอย่าได้แคร์ เพราะเม่นมาไกลเกินฝันมากมายแล้ว จงเก็บเกี่ยวปัจจุบันซึ่งเป็นกำไรชีวิตของเม่นให้ได้มากที่สุด เม่นขอเข้าพบอาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์แนะนำให้เรียนซ้ำ เม่นเริ่มคิดหนัก โทรมาปรึกษาแม่
แม่บอกเม่นว่าปัจจุบันมีอยู่ 2 ทางเลือก ทางเลือกที่ 1 ซึ่งเป็นทางเลือกที่เม่นไปขวนขวายหามา คือเม่นจะลงเรียนคอร์สสั้นๆที่ Gorge Brown, Toronto เกี่ยวกับInternational Business Management เป็นเวลา 8 เดือน ระหว่างเรียนเม่นจะทำงานร้านอาหาร เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ หลังจากเรียนจบ ทางมหาวิทยาลัยมี Career Center จัดหางานให้ และได้วีซ่าทำงานต่อ 1 ปี มีรายได้ปีละ 45,000 เหรียญ เม่นก็จะเก็บเงินและสอบ GMAT เพื่อเข้าเรียนต่อ MBA ทางเลือกนี้เม่นคงต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 4 ปี โดยพ่อแนะนำว่าให้คำนึงถึง Career Path ที่จะมาทำงานต่อในเมืองไทยในอนาคต และรายได้ดังกล่าวอาจต้องเสีย Tax เป็นจำนวนมาก ให้คำนวนดูว่าคุ้มมั้ย
ทางเลือกที่ 2 น้าหน่าต้องการให้เม่นมาช่วยงานด้านต่างประเทศของบริษัท โดยจะให้เงินเดือนตามที่เม่นต้องการ และเม่นจะทำงานไปเรียนไปก็ได้จนกว่าจะเรียนจบ หรือเม่นจะทำงานช่วยน้าหน่าไป จนกว่าจะได้งานเป็น Management Trainee ที่บริษัท FMCG เช่น Unilever, P&G, Nestle, J&J, etc (ตามที่แม่ใฝ่ฝัน) หลังจากนั้นค่อยเก็บเงินไปเรียนต่อที่ไหนก็ได้ที่เม่นอยากจะไป เพราะตอนนี้เม่นก็ได้ภาษาที่แข็งแรงกว่าเดิม เพียงพอที่จะดำเนินชีวิตในการทำงานได้แล้ว แม่บอกเม่นว่าชีวิตเป็นของเม่นให้เม่นเลือกทางเดินเอาเอง จะได้ไม่ต้องมาเสียดายภายหลัง ไม่ว่าเม่นจะเลือกทางเดินไหน พ่อกับแม่ก็พร้อมจะสนับสนุนเม่น นั่นคือหน้าที่ของพ่อกับแม่ที่ต้องส่งเม่นให้ถึงฝั่ง
สวัสดีค่ะแม่น้องเม่น ตามอ่านเรื่องราวครอบครัวแม่น้องเม่นมาตลอด เป็นไอดอลสำหรับแม่นำจริงๆ ลูกสาวแม่นำก็เป็น สมาธิสั้น+แอลดี เหมือนกัน ตอนนี้เรียน ม.4สายศิลป์จีน รร. รัฐบาลประจำจังหวัดแล้วค่ะ
กว่าจะฝ่าฟันมาได้ก็เลือดตาแทบกระเด็นเหมือนกันแต่ก็ทำให้ลูกมีความอดทน มานะ พยายามมากค่ะ อนาคตลูกสาวอยากเรียนด้าน ครูการศึกษาพิเศษ หรือไม่ก็ จิตวิทยาแนะแนว เขาบอกว่า อยากกลับมาช่วยเหลือเด็กพิเศษแบบเขา แล้วจะตามมาอ่านเรื่องราวอีกนะคะ ดีใจจังพี่เม่นเรียนปริญญาโทแล้ว โดย: แม่นำ บ้านกิติเวช IP: 125.24.207.185 วันที่: 13 กรกฎาคม 2555 เวลา:15:13:20 น.
แม่นำคะ
ไม่ได้คุยกันนาน สบายดีนะคะ เอาใจช่วยน้องเพ็ชรด้วยคนค่ะ โดย: แม่น้องเม่น IP: 164.109.95.80 วันที่: 7 กันยายน 2555 เวลา:16:39:21 น.
![]() ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ โดย: สมาชิกหมายเลข 3757448
![]() |
บทความทั้งหมด
|
เป็นกำลังใจให้นะคะ