ไว ช้า ช้า ! คอลัมน์ :”ส ด แ ต่ เ ช้ า” ปี2(344) ไว ช้า ช้า ! “พี่น้องที่รักของข้าพเจ้า จงเข้าใจในเรื่องนี้ คือให้ทุกคนไวในการฟัง ช้าในการพูด ช้าในการโกรธ!” ~ยากอบ 1:19 THSV11 “My dear brothers and sisters, take note of this: Everyone should be quick to listen, slow to speak and slow to become angry,” ~James 1:19 NIV มีสุภาษิตบทหนึ่งเตือนสติได้ดีมาก เขียนว่า “ถ้า คุณอดทนได้ในวินาทีที่คุณโกรธ คุณจะหนีพ้น 100 วันแห่งความเศร้าเสียใจได้!” (If you are patient in one moment of anger, you will escape a hundred days of sorrow) และสิ่งที่เราควรเตือนตัวเองไว้เสมอก็คือ # “คนที่โกรธ(ง่าย)มักจะไม่ใช่คนฉลาด!” “Angry people are not always wise.” ― Jane Austen คนฉลาดจะรู้ว่า 1.อะไร ที่ควรไว คือ ถ้าทำแล้วเกิดผลดี ก็จะไวในการทำสิ่งนั้น แต่ 2.อะไร ที่ควรช้า คือ ถ้าทำแล้วเกิดผลเสีย ก็จะช้าในการทำสิ่งนั้น! ปัญหามักจะเกิดขึ้น เมื่อ 1.เราทำบางสิ่ง ~ไวเกินไป 2.เราทำบางสิ่ง ~ช้าไป ไม่ว่าสิ่งนั้น จะดีหรือไม่ดี ถ้าหากว่า ทำไม่ถูกเวลา ก็คือไม่ใช่! ในพระคัมภีร์มีคำเตือนสติในเรื่องนี้ไว้ อย่างชัดเจนว่า “พี่น้องที่รักของข้าพเจ้า จงเข้าใจในเรื่องนี้ คือให้ทุกคน _1.ไวในการฟัง _2.ช้าในการพูด _3.ช้าในการโกรธ” โดยยากอบผู้เขียนซึ่งเชื่อกันว่า เป็นน้องชายของพระเยซูคริสต์ ได้ให้เหตุผลประกอบไว้ว่า “…เพราะว่าความโกรธของมนุษย์ ไม่ก่อให้เกิดความชอบธรรมของพระเจ้า!” (because human anger does not produce the righteousness that God desires.) ~James 1:20 NIV แสดงว่าความโกรธ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การโกรธเร็ว และความชั่วอื่นๆ ล้วนเป็นตัวที่จะสร้างความเสียหาย และความเสียใจให้แก่ทุกคน ยากอบจึงได้แนะนำ วิถีและแนวทางในการชีวิตที่สมควรไว้ดังนี้ “เพราะฉะนั้น 1.จงขจัด 1).ความโสมมทุกอย่างและ 2).ความชั่วที่มีอยู่ดาษดื่น ด้วยใจที่สุภาพอ่อนโยน 2.จงน้อมใจรับพระวจนะที่ทรงปลูกฝังไว้แล้วนั้น ซึ่งสามารถช่วยจิตวิญญาณของพวกท่านให้รอดได้ 3.จงเป็นผู้ประพฤติตามพระวจนะ ไม่ใช่เป็นเพียงผู้ฟังเท่านั้น มิฉะนั้นจะเป็นการหลอกตัวเอง โดยท่านยากอบให้เหตุผลว่า “เพราะถ้าใคร 1.เป็นเพียงผู้ฟังพระวจนะและ 2.ไม่ใช่ผู้ประพฤติตาม ผู้นั้นก็เป็นเหมือนคนที่ดูหน้าของตนเองในกระจกเงา เพราะว่าเมื่อเห็นแล้ว 1).ก็จากไป และ 2).ลืมในทันทีว่าตนเองเป็นอย่างไร แต่ผู้ที่ 1.พินิจพิจารณาธรรมบัญญัติอันสมบูรณ์แบบ ซึ่งเป็นธรรมบัญญัติแห่งเสรีภาพและ 2.ตั้งมั่นในธรรมบัญญัตินั้น 1).ไม่ได้เป็นผู้ที่ฟังแล้วก็ลืม แต่ 2).เป็นผู้ที่ประพฤติตาม ผู้นั้นจะได้รับความสุขในการประพฤติของตน! “ ท่านยากอบยังเตือนต่อไปอีกว่า “ถ้าใครคิดว่าตัวเองเป็นคนมีธรรมะ แต่ไม่ได้ควบคุมลิ้นของตน 1.เขาก็หลอกลวงจิตใจของตนเอง และ 2.ธรรมะของคนนั้นก็ไม่มีประโยชน์!” เราควรเป็นคนมีธรรมะที่สามารถควบคุม กาย ~วาจา ~ใจ ของเราให้ไม่ไปเป็นภัยแก่ผู้ใด ตรงกันข้าม เราควรดูแล และปกป้องตัวเอง ไม่ให้ติดราคีของโลก และ ให้เราเราพูด เขียนมหรือโพสต์ หรือ กระทำแต่ สิ่งที่เป็นคุณเป็นพรให้แก่ผู้อื่นอย่างไม่มีขีดจำกัด ท่านยากอบจึงสรุปให้เราเข้าใจอย่างชัดเจนไปเลยว่า “ธรรมะที่บริสุทธิ์ไร้มลทินเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าพระบิดานั้น คือ 1.การช่วยเหลือ 1).เด็กกำพร้าและ 2).หญิงม่ายที่มีความทุกข์ร้อน และ 2.การรักษาตัวให้พ้นจากราคีของโลก” ~ยากอบ 1:19-27 THSV11 พี่น้องที่รัก ขอปิดท้ายด้วยคำเตือนสติของ Benjamin Franklin ที่ว่า “สิ่งใดก็ตามที่เริ่มต้นด้วยความโกรธ มักจบลงด้วยความอับอาย!” (Whatever is begun in anger, ends in shame.) วันนี้ หากว่าเราไม่อยากอับอายและเจ็บปวดในบั้นปลาย ก็ 1.ให้เราห่างไกลความโกรธ ความเห็นแก่ตัว และ การทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ ที่เป็นภัย และ 2.ให้เราลงมือทำในสิ่งดี ที่เป็นคุณเป็นพรต่อคนอื่น (โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อคนที่กำลังทุกข์กายหรือทุกข์ใจอยู่ ) โดยขอ ~ให้เรามาไวในการทำดี และช้าในการทำบาป ~ให้เรามา ไวในการฟัง ช้าในการพูด และช้าในการโกรธ ~ให้เรามา ไวในการทำดี ช้าในการทำชั่ว และช้าในการทำร้ายผู้อื่น ~ให้เรามา ไวในการขออภัย และให้อภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต่อคนที่เรารัก และคนที่รักเรา! …จะดีไหมครับ? …………………………………… ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 11มีนาคม2023 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc #คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #newvisionbaptistchurch
|
บทความทั้งหมด
|
||||||||||||||||||||
 |
|
ผู้ติดตามบล็อก : 27 คน [