Nicolas Darvas : The Persistent "Outsider"


Darvas เกิดที่ ฮังการี่เมื่อปี 1920 ถ้าอยู่ถึงตอนนี้คงเป็นคุณทวดของพวกเราแล้ว แกจบทางด้านเศรษฐศาสตร์ และได้เข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนจะย้ายมาปักหลักในอเมริกา และตั้งคณะแดนซ์เซอร์ขึ้นกับเพื่อน ตระเวณเต้นกินรำกินไปทั่ว แต่ชีวิตแกต้องผกผันเข้ามาเกี่ยวข้องกับการลงทุนก็เพราะว่า วันหนึ่งแกนำคณะไปเล่นที่ไนท์คลับแห่งหนึ่ง เล่นเสร็จเจ้าของไนท์คลับบอก กรูไม่มีเงินสดเว้ย เอางี้แล้วกัน เอาเป็นหุ้นไปแทน

Darvas ถึงกับอึ้ง แต่ผีหามมาถึงป่าช้าแล้ว ไม่เผาก็ต้องฝังแล้วแหละ แกก็รับมา หุ้นที่แกรับมาเป็นหุ้นทำเกี่ยวกับเหมืองแร่ เล็ก ๆ ราคาหุ้นแค่ 50 เซ็นต์ แกรับมา 6000 หุ้น
หลังจากได้มาแล้ว แกก็ไม่ได้คิดอะไรอีก จนกระทั่ง 2 เดือนผ่านไป แกก็ลองเช็คราคาหุ้นเป็นครั้งแรก โอว แม่เจ้า แกแทบไม่เชื่อสายตา หุ้นที่แกได้มา ราคาขึ้นมาเป็น 1.90 เหรียญ แกแทบไม่เชื่อสายตา สิ่งแรกที่แกทำคือ ขายแม่มหมดเลย ได้กำไรมาประมาณ 8000 เหรียญ ประสาคนไม่เคยลิ้มลองเรื่องหุ้น พอได้กำไรก้อนโตครั้งแรก ก็เริ่มคลั่งไคล้กับหุ้นทันที และหลังจากนั้นแกก็เริ่มศึกษาหุ้นอย่างจริงจัง เริ่มคันมืออยากจะได้กำไรอีก เพราะเห็นมันหาเงินได้ง่ายดี

สิ่งแรกที่แกเริ่มศึกษาก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเม่าไทยนักหรอก แกเริ่มศึกษา Pattern ของหุ้น เส้นรุ้ง เส้นแวง สารพัดเส้น และยังมีการไปหาข่าววงในอีกด้วยนะ ด้วยความที่แกยังละอ่อนในวงการ แกก็เสาะถามคนในวงการหุ้นไปทั่ว พวกเซียนน้อยใหญ่ก็ระดมให้ข้อมูลแกซะเหลือเฟือ ใครแนะนำหุ้นอะไรว่าดี แกซื้อหมด แกเล่นซื้อขายถี่ยิบ เรียกว่าเล่นแบบเดย์เทรดเลย บางครั้งแกถือหุ้นไว้ในมือคราวเดียว 25 - 30 ตัว แต่ผลที่ได้รับก้ไม่ประสบความสำเร็จ ถึงแม้แกจะไม่ขาดทุน แต่กำไรที่แได้ แกเอาไปซื้อปูนถอนขนรักแร้แกยังไม่เกลี้ยงเลย จนกระทั่งแกไปเจอผู้อาวุโสวงการหุ้น ที่บอกแกว่า Darvas เอ๊ย เอ็งไม่มีทางจะเดินบนถนนหุ้นได้ หากเอ็งยังมุ่งหวังแต่กำไรแค่ขนแมว Darvas ได้ยินก็ตัดสินใจว่าจำเป็นต้องหาวิธีการใหม่ แต่ตอนนี้ใกล้ตลาดเปิดแล้ว เห็นทีจะต้องไปต่อหลังตลาดปิด จะมาดูกันว่า เม่า Darvas แกจะใช้วิธีอะไรต่อไป ใบ้ให้ก็ได้ เหมือนเม่าไทยนี่แหละ

ปล. ตลาดเช้านี้เป็นไปตามคาด บรรยากาศมันไม่เอื้อ มูลค่าซื้อขายยังเบาบาง แสดงว่ายังหาจุดจบไม่เจอ มันจะหยุดตกตอนไหน กลับไปอ่าน แนวรับ แนวต้านเมื่อวานอีกครั้ง และเมื่อหุ้นหยุดตกแล้วอย่าหวังว่ามันจะกลับขึ้นเหมือนคนหายป่วยรุ่งขึ้นวิ่งได้เลย ไม่มีหรอก เพราะยิ่งตกแรง ๆ เร็ว ๆ โวลุ่มน้อย หมายถึงว่าคนที่ติดหุ้นยังหวังว่ามันจะกลับขึ้นมา เลยไม่ขาย หรือคัท อีกพวกหนึ่งคือ พวกคิดช้า อาซิ้ม อาม่า พวกยึดคติ ไม่ขายไม่ขาดทุน คนพวกนี้ไม่ขายทิ้ง จึงทำให้โวลุ่มน้อย
แล้วลองคิดดูว่าพอหุ้นขึ้นกลับ คนพวกนี้จะคิดอย่างไร ก็เห็นมาคร่ำครวญกันทั่วไป ช่วยมารับบนดอยหน่อย ประมาณนี้ พวกนี้แหละจะเป็นแรงต้านเมื่อหุ้นขึ้นมาอีกครั้ง คนอีกพวกที่จ้องขายคือ พวกรับต่ำ ๆ พวกนี้พอหุ้นเด้ง มีกำไร จะปวารณาตัวเป็นแรงต้านทันที

ทั้งหลายทั้งปวงลองอ่านวิธีวิเคราะห์ และการทำ workshop ดู ว่าเราจะอิงข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงเท่านั้นที่จะนำมาใช้วิเคราะห์ เราจะไม่นำสมมติฐานมาใช้วิเคราะห์โดยเด็ดขาด หรือหากใช้ ก็ต้องรีบกลับไปดูสมมติฐานนั้นว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร สิ่งเหล่านี้ได้เขียนไว้แล้วในบทที่ว่าด้วย กระบวนการทางความคิด

เด็กลาดพร้าว
31 ก.ค.56
14.25 น.



Create Date : 01 ตุลาคม 2556
Last Update : 1 ตุลาคม 2556 7:51:11 น.
Counter : 745 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Khon-rak-option.BlogGang.com

zombie99
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]

บทความทั้งหมด