ดาบเล่มแรก




เป็นเวลามากกว่าปีครึ่งแล้ว นับจากวันที่เซนเซเรียกฉันให้เข้าไปนั่งคุกเข่าตรงพื้นไม้ข้างหน้าหลังจากจบการเรียนดาบซามูไร แล้วท่านก็หันไปข้าง ๆ เพื่อหยิบดาบเล่มนี้มามอบให้ด้วยท่าที่เป็นทางการ

นั่นก็คือ หยิบสองมือ แนวนอน ตรงกลางดาบ แล้วยกขึ้นสูงเล็กน้อยประมาณศีรษะ เหมือนจะเป็นการแสดงความเคารพครูบาอาจารย์ในอดีต แล้วก็ยื่นออกมาให้ฉัน

ฉันจำได้ว่าตาโตมาก เพราะเซนเซไม่เคยบอกอะไรล่วงหน้า นี่เป็นการเรียนการสอนแบบเซนชนิดหนึ่ง คือฝึกสติให้พร้อมรับสถานการณ์ในปัจจุบันทันท่วงทีเสมอ

ฉันรับดาบเล่มแรกในชีวิตมาด้วยความเป็นทางการเหมือนกัน พยายามเลียนแบบท่าเซนเซ เพราะฉันก็ไม่เคยเห็นมาก่อนเหมือนกันว่าเขาต้องทำกันยังไง ใช้สัญชาตญาณและความเคารพเอา

หลังจากนั้น เซนเซก็มอบถุงผ้าไหมสีน้ำเงินเข้ม พร้อมปักชื่อฉันสีเหลืองด้านบนอย่างเรียบร้อยมาให้ เป็นถุงใส่ดาบ

คนญี่ปุ่นนี่ต้องยกให้เขาเรื่องหนึ่ง คือ ความประณีต เซนเซสอนให้ดูว่าต้องทำยังไงถึงจะรัดด้านบนให้แนบสนิท ดูรัดกุมแบบโบราณ ขลังดี ไม่ต้องใส่ถุงหนังสำหรับใส่ไม้ไดรฟ์กอล์ฟเหมือนฝรั่งเขาทำกัน

หลังจากนั้น เซนเซสอนเรื่องการดูแลดาบ เรื่องการชโลมน้ำมัน ฯลฯ

เซนเซถามว่า มีอะไรสงสัยอยากถามอีกไหม ฉันเลยถามว่าดาบนี้ทำที่ไหน เพราะก่อนหน้านั้น เซนเซวัดความสูงตัวฉัน และวัดความยาวแขนไปนานแล้ว และให้ลองเหวี่ยงแขนกับดาบต่าง ๆ ดู

ขนาดที่เหมาะที่สุด จะต้องยาวให้เรี่ยพื้นพอดีในจังหวะฟันลง แต่ต้องไม่ถึงพื้น ดาบซามูไรจะยาวกว่าดาบอื่น ๆ มาก จากที่ฉันสังเกตดู วงการฟันจะกว้างมาก จึงฝึกยาก เพราะจะต้องอาศัยความแม่นยำเป๊ะ ๆ ไม่งั้นมันไม่ได้ผล นั่นก็คือ ฟันลงพื้น หรือไม่ก็ฟันไม่ถึง

เรียกว่าเหมือนวัดตัวสำหรับไม้เท้ากายสิทธิ์ของแฮรี่ พ้อตเต้อร์ ยังไงยังงั้นทีเดียว

คืนนั้น (วันที่ฉันถ่ายรูปรูปนี้) ฉันตื่นเต้นมาก เพราะพอเซนเซบอกว่าดาบสั่งตีจากเมือง Gifu จากญี่ปุ่น ฉันก็เลยไปค้นเวบดู เห็นเขามีชื่อเสียงเรื่องหาดทรายด้วย ฉันเลยหยิบฝักดาบขึ้นมาดู พบว่าเขาได้มีการนำจุดเด่นของเมืองมาตกแต่งอย่างละเอียดด้วย

อย่างที่บอก คนญี่ปุ่นให้ความสนใจรายละเอียดปลีกย่อยของธรรมชาติมาก มันเป็นส่วนหนึ่งของเซนที่สำคัญเลยล่ะ ฉันว่านะ

ฉันเลยตั้งชื่อดาบของฉันว่า Gifu no Fushichoo หรือแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า The Phoenix of Gifu

ทั้งนี้เนื่องจากฉันวัดเอาจากความรู้สึกของฉันตอนที่ได้รับดาบ มีความรู้สึกว่ามันเติมพลังที่หายไปขึ้นมาใหม่ ฉันเลยตั้งชื่อเอาฤกษ์ เอาชัย ให้มันเป็นเหมือนสิ่งเติมพลังเมื่อฉันเหนื่อยล้า หรือ ท้อถอย แล้วหยิบมันมาฝึก เพราะนกชนิดนี้มันจะฟื้นขึ้นมาใหม่จากกองขี้เถ้าได้ ในเทพนิยายน่ะนะ

วันนั้นฉันเขียนในบล๊อกภาษาอังกฤษอันเก่าแก่ของฉันว่า Phoenix of Gifu, Welcome Home.

ตอนนั้นฉันรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ

ฉันเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมซามูไรโบราณเขาถึงผูกพันกับดาบของเขานัก ขนาดเซนเซมาขอจะเอาไปซ่อมให้ฉัน (เพราะฉันทำพัง!!) ฉันยังรู้สึกห่วงหาอาวรณ์มันจะแย่เลย

จบเรื่องดาบเล่มแรก




Create Date : 17 กรกฎาคม 2549
Last Update : 18 กรกฎาคม 2549 0:20:53 น.
Counter : 1964 Pageviews.

4 comments
ความสุขดุจทองคำ สมาชิกหมายเลข 7582876
(9 ม.ค. 2568 12:19:26 น.)
มาสค์ไรเดอร์ สตรองเกอร์ Zorawyt
(4 ม.ค. 2568 00:43:55 น.)
ไฮไลท์ บุนเดสลีก้า มึนเช่นกลัดบัค - บาเยิร์น มิวนิค nokeja
(12 ม.ค. 2568 11:41:09 น.)
"ยุ่งยาก" อาจารย์สุวิมล
(13 ม.ค. 2568 07:37:03 น.)
  
ว๊าวว...ซามูไรสาว

เรียนอะไรเหรอคะ ทำไมมีดาบด้วย
โดย: หนอนหลังยาว วันที่: 17 กรกฎาคม 2549 เวลา:18:58:46 น.
  
แหะ ๆ ก็ไม่ค่อย "สาว" หรอกนะคะ

เรียน Battou Jutsu (抜刀術) หรือ เทคนิค/ศิลปการใช้ดาบซามูไรน่ะค่ะ เป็นหนึ่งในศิลปการต่อสู้แบบโบราณของญี่ปุ่นค่ะ
โดย: kenzen (kenzen ) วันที่: 18 กรกฎาคม 2549 เวลา:12:08:15 น.
  
มาเยี่ยม เพราะอยากรู้เรื่องซามูไรสาว
ค่อยๆ อ่านก่อนครับ
โดย: NickyNick วันที่: 18 กรกฎาคม 2549 เวลา:12:50:40 น.
  
หายไปไหนและ
รู้สึกบ้านเริ่มรก
วันนี้เอาเพลงเลือดสุพรรณมาฝากครับ
โดย: NickyNick วันที่: 18 สิงหาคม 2550 เวลา:15:37:42 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Kenzen.BlogGang.com

kenzen
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]