มือที่มองไม่เห็น(ตัว) (ตอนที่ 3 )
แม่นั่งอยู่หน้าบ้านท่ามกลางคืนเดือนมืดกับญาติพี่น้องทั้งโขยง ท้องฟ้ากรุงเทพฯยามราตรี ราว พ.ศ. 2482 ดารดาดไปด้วยดาวเต็มท้องฟ้า แสงไฟในบ้านและสวนหลังบ้านดูหม่นมัว จิตใจจรดจ่ออยู่กับสิ่งหนึ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น แม่รู้ดีว่ามันต้องเกิดขึ้นแน่นอนภายในนาทีสองนาทีนี้ ทำไม.....

“กราว...กราว......กราวววววววว” เสียงก้อนหินกระทบหลังคาบ้านเป็นระยะๆ ยาวนานเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด “กราววววววว”

เวลาผ่านไปกว่าชั่วโมง เสียงก้อนหินที่ดังเป็นระยะทั้งชั่วโมงที่ผ่านมาค่อยๆ เงียบหายไป

“ขอบคุณค่ะ คุณตำรวจ” เสียงคุณยายกล่าวกับกลุ่มตำรวจกลุ่มใหญ่ที่ยืนออกันอยู่หน้าบ้านเต็มไปหมด แม่ถอนใจ คราวนี้จะได้นอนกันเสียที.......

ชีวิตของแม่ตั้งแต่เด็กจนจำความได้ ไม่เคยเห็นพ่อสักที เนื่องด้วยคุณตา (นายพันตรี หลวงพลหาญสงคราม -จิตร อัคนิทัต) ได้เสียชีวิตลงจากการต่อสู้กับกองทัพรัฐบาลที่ทุ่งบางเขนในสมัยท่านเป็นหนึ่งในผู้ก่อการของกบฎบวรเดช คุณตาเคยเป็นเพื่อนรักกับ พ.ต . หลวงพิบูลสงคราม (แปลก ขีตตะสังคะ ) เนื่องจากเป็นนายทหารรุ่นใกล้เคียงกันที่สอบเข้าโรงเรียนเสนาธิการทหารได้เป็นลำดับที่ 1 แต่คนละปี ได้รับทุนไปเรียนต่อที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบกที่ประเทศฝรั่งเศสทั้งคู่

แม่เล่าให้ฟังว่าความจริงแม่มีพี่น้องเป็นฝรั่งด้วย เนื่องจากคุณตาต้องจากคุณยายไปไกลเป็นระยะเวลานานเป็นปี สมัยนั้นไม่มีการติดต่อสื่อสารหรือไปมาหาสู่กันง่ายดายเหมือนสมัยนี้ ชายชาตินักรบไทยก็เลยไปหว่านเพาะพันธุ์เมล็ดเอาไว้ที่โน่นกันทั้งนั้น แม่เล่าว่า เคยเห็นรูปถ่ายของคุณตาและ จอมพล ป. ยืนกันอยู่กับภรรยาแหม่มคนละคน เข้าใจว่าคุณตามีลูกชายหนึ่งคน ส่วนท่าน ป. จะมีหรือไม่ก็ไม่อาจทราบได้ น่าเสียดายที่ตอนหลังแม่ย้ายบ้านบ่อย รูปถ่ายเก่าๆของคุณตาเลยหายไปทั้งอัลบั้ม

จะด้วยโชคชะตาฟ้าลิขิตหรืออะไรก็ตาม คุณตาก็ต้องมาจับอาวุธห้ำหั่นกับเพื่อนรักกันเองด้วยอุดมคติแตกต่างกัน ตอนท่านเสียชิวิตลงที่ทุ่งบางเขนบริเวณที่เขาตั้งอนุสาวรีย์ปราบกบฎ หรือชื่ออนุสาวรีย์หลักสี่ในปัจจุบัน แม้ในประวัติศาสตร์จะจารึกไว้ว่าท่านยิงตัวตาย แต่แม่ยืนยันว่าท่านถูกยิงตายเพราะพวกคณะราษฎรรู้มือคุณตาดี นายทหารที่จงรักภักดีต่อราชบัลลังก์ฝีมือเยี่ยมขนาดนี้ เขาไม่ต้องการเอาไปขึ้นศาลหรือส่งไปตะรุเตาให้เสียเวลา ตั้งศาลเตี้ยไปเลยเร็วกว่า ตอนนั้น แม่อายุเพียงสองขวบเศษเท่านั้น

คุณยายเลยต้องรับภาระหนัก เลี้ยงลูกเล็กๆสองคนโดยที่เป็นแม่บ้านนายทหารธรรมดาๆ แบบผู้หญิงสมัยก่อน ไม่ได้มีอาชีพการงานแบบสมัยนี้ แม้ว่าจะมีสมบัติพัสถานทองหยองติดตัวอยู่ไม่น้อยเนื่องจากเป็นลูกผู้ดีมีตระกูล

บ้านเรือนหอของคุณตาและคุณยายอยู่ในบริเวณบ้านใหญ่เนื้อที่หลายไร่ ซอยวัดน้อยนพคุณบนถนนนครไชยศรี ในบริเวณนี้มีบ้านใหญ่อีกสองหลัง หลังใหญ่คือบ้านของพี่ชายคุณตา พ.อ พระยาเทพสงคราม (สิน อัคนิทัต) กับนางเทพสงคราม (ม.ล ดนตรี สกุลเดิม มนตรีกุล ) มีบุตรหญิงชาย 4 คน คือ ป้าสุภัทรา (เป็นมารดาของพี่โฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ อดีตรองนายกฯ) ลุงกัสสปะ ลุงจิตรเสน (ตอนหลังเป็นนายตำรวจยศคือ พล.ต. ต. จิตรเสน อัคนิทัต) และลุงเดชน

อีกครอบครัวที่อยู่ในบ้านเล็กอีกหลังในบริเวณเดียวกันนี้ คือ ต้องกล่าวถึงคุณยายเล็ก น้องสาวคุณตาอีกคนหนึ่งแต่งงานกับพันโท พระไกรกรีฑา(ม.ล. ประยูร เสนีวงศ์) มีลูกสาวชื่อป้าเพาะผล คุณป้าก็ออกเรือนแต่งงานกับนายทหาร ญาติๆกันอีก คือพันโทหลวงไววิธีทัพ (ไว เสนีวงศ์ ฯ) ไม่มีบุตรแต่คุณหลวงไวฯ นี้เคยแต่งงานมาแล้ว มีลูกตั้ง 6 คน ชื่อคล้องจองกันแบบลูกผู้ดีสมัยโบราณ ชื่อ เสาวนีย์ สุวเนีย เสวนิต วิษณัย ไวสวาท แต่ลุงไวสวาทคงไม่ชอบชื่อตัวเองสักเท่าไร หรือไม่ก็ต้องปฎิบัติตามวัฒนธรรมช่วงสมัยจอมพล ป. เป็นนายกฯ เลยตอนหลังเปลื่ยนชื่อเป็นพลเรือโท ทรงพล เสนีวงศ์ ณ อยุธยา

พอท่านเจ้าคุณเทพสงคราม หนีภัยปราบกบฎขึ้นรถไฟไปไซ่ง่อน ทั้งบ้านขาดเสาหลักของครอบครัว คุณยายกับลูกเล็กๆทั้งสองคน เลยต้องย้ายเข้ามารวมอยู่ในบ้านหลังใหญ่และเอาบ้านเรือนหอให้เช่าพอเป็นรายได้ประทังชีวิตกันไปวันๆ ทั้งบ้าน อ้อ ....ในตอนหลังครอบครัวของเจ้าคุณเทพฯ ก็มีพี่น้องเป็นลูกครึ่งญวนเช่นกัน เนื่องจากมีสาวญวนให้การช่วยเหลือดี ท่านเจ้าคุณเลยตอบแทนบุญคุณกันไป ?!!?

อยู่มาวันหนึ่ง มีต้นไม้อัปมงคลชนิดหนึ่งขึ้นในสวนในบ้าน ชื่อต้น “เสี้ยนผี” ซึ่งข้าพเจ้าเองไม่เคยได้ยินชื่อเลย แต่แม่บอกว่าโบราณถือว่าเป็นต้นไม้เสนียดจัญไรมีวิญญานสิงสถิตอยู่ ผู้ใหญ่ในบ้านจึงรีบตัดทิ้งไป และเอาออกไปไว้นอกบ้าน

คืนนั้น เริ่มมีเสียงก้อนหินนับร้อยกระทบหลังคาบ้าน ตั้งแต่เวลาประมาณหนึ่งทุ่มจนกระทั่งถึงสองทุ่ม ทำเอาในบ้านโกลาหลกันไปหมด แตกตื่นกันออกมาดูว่าใครเป็นคนขว้าง ขว้างทำไม ขว้างเพื่ออะไร แล้วจะขว้างอีกนานไหม และข้อสุดท้าย ขว้างแล้วมีกระเบื้องหลังคาแตกบ้างหรือไม่

เป็นที่น่าอัศจรรย์ วันรุ่งขึ้นไม่มีกระเบื้องหลังคาแตกแม้แต่แผ่นเดียว ทั้งๆที่มีก้อนหินรอบบ้านเต็มไปหมด คืนนั้นก็มีการขว้างบ้านเกิดขึ้นอีกในช่วงเดียวกัน ระยะเวลาพอๆกัน และเกิดขึ้นเช่นนั้นสม่ำเสมอทุกวัน น่าแปลกอีกเช่นกันว่า ถ้าวันไหนฝนตก ก้อนหินที่ขว้างมาจะแห้งสนิททุกก้อน ทั้งบ้านลงทุนติดไฟสว่างไสวทั้งในสวนและรอบบ้าน เผื่อจะหาคนพิเรนทร์ขว้างบ้านได้ ก็คว้าน้ำเหลว ทั้งๆที่ตำรวจก็มาเต็มบ้าน ต้องทำข้าวต้มเลี้ยงกันทุกวัน แต่ก็หาตัวคนทำไม่ได้ เป็นที่โจษจันเล่าขานกันทั่วไปในยุคนั้น

เหตุการณ์ดำเนินไปซ้ำๆทุกคืนไปเป็นเดือน แม่ตอนแรกก็สนุกเพราะได้ออกมารับลมกินข้าวต้ม รับแขกที่มาบ้านพิสูจน์กันทุกวัน ตอนหลังก็ชักจะเซ็ง อยากให้เรื่องราวทั้งหมดมันจบๆกันไปซะที

พอช่วงหลังผู้ใหญ่ที่บ้านต้องตามหมอผีมาทำพิธีกันขนานใหญ่ หลังจากนั้น การเขวี้ยงบ้านจาก “มือที่มองไม่เห็น” ก็ทุเลาเบาบางลงจนกระทั่งหายไปในที่สุด

แต่พอผีไปแล้ว แม่ก็กลับคิดถึง อยากให้ขว้างอีกบางครั้งบางคราวเพื่อจะได้กินข้าวต้มรอบดึกอีก

เป็นงั้นไป....






Create Date : 18 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2551 17:19:31 น.
Counter : 2254 Pageviews.

11 comments
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 347 "ติดเป็นนิสัย" multiple
(15 มี.ค. 2567 10:45:06 น.)
ใจเร็ว ด่วนได้ multiple
(22 ก.พ. 2567 11:44:19 น.)
👨‍👩‍👧‍👦อ่านเล่นเพลิน👨‍👩‍👧‍👦 โอน่าจอมซ่าส์
(8 มี.ค. 2567 19:28:34 น.)
2024 ชินๆ Rain_sk
(18 ม.ค. 2567 10:23:00 น.)
  
ชื่อต้นไม้น่ากลัว ถ้าป้ามดเจอก็ต้องรับเอาออกก่อนละ
โดย: ป้ามด วันที่: 20 พฤศจิกายน 2551 เวลา:9:52:11 น.
  
แถวบ้านเราที่ต่างจังหวัด เค้าต้นเสี้ยนผีมาดองกินกับน้ำพริกอร่อยดี
โดย: The eye of earth วันที่: 26 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:48:43 น.
  

ดีใจจังได้ทราบประวัติคุณปู่พระยาเทพสงคราม
คุณพ่อเล่าให้ฟังว่าพี่ชายคนโตทำไมชื่อพลหาญ
เพราะว่าพี่ชายคุณปู่ตั้งให้ เพราะเป็นลูกผู้ชายคนแรก
และเรื่องคุณแม่ชาวญวน ก็ทราบมาบ้างคุณพ่อเล่าให้ฟัง
ว้าว.....ดีใจมากๆ ได้ทราบตระกูลตัวเอง
ขอบคุญมากๆ คะ......
โดย: สุนันทา อัคนิทัต IP: 124.121.1.191 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:08:38 น.
  

ไปเที่ยวเกาะตะรุเตามาจ.สตูล เห็นบอร์ดตั้งโชว์ไว้ ก็ดูเล่นๆ คะ เพื่อนบอกว่าอุ้ย...มีอัคนิทัตด้วย ดีใจมากๆ
พอเห็นชื่อยิ่งดีใจใหญ่เลย เพราะเคยอ่านเรื่องราวที่
คุณพ่อเขียนไว้ให้ลูกๆ อ่าน เป็นชื่อนายพันตรีหลวง
พลหาญสงคราว หรือจิตร อัคนิทัต
ทุกอย่างก็เป็นอดีตไปหละ คุณปู่ก็คงไม่ร้จักหนูหรอก
โดย: สุนันทา อัคนิทัต IP: 124.121.1.191 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:22:53 น.
  
ผมเป็นหลานของปู่พล.ต. ต. จิตรเสน อัคนิทัต ก็ได้รวบรวมประวัติของตระกูลอัคนิทัตมากพอสมควร เดี๋ยวผมจะเอามาลงน้ะครับ ยินดีที่ได้รู้จักน้ะครับ คุณสุนันทา อัคนิทัต ญาติของผม ตอนนี้สายสกุลของผมได้มาอยู่ที่ภูเก็ตน้ะครับ
โดย: ทัศนัย อัคนิทัต IP: 61.7.142.80 วันที่: 12 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:27:01 น.
  
ลืมบอกไปสำหรับอัคนิทัตทุกคน ผมไปคนมาแล้วน้ะครับเรามากันทั่วประเทศ 160 กว่าคน อย่าถามน้ะครับว่าได้ข้อมูลมายังไงเพราะเป็นข้อมูลลับ แล้วก็ผมอยากรวบรวมอัคนิทัตที่อยู่ตามที่ต่างๆ แอดผมได้น้ะครับ region_ton@hotmail.com ไว้เจอกัน ครับ
โดย: ว่าที่ร้อยตรี ทัศนัย อัคนิทัต IP: 61.7.142.80 วันที่: 12 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:33:30 น.
  
อ่านแล้คิดถึงคุณปู่ (จิตรเสน)
โดย: พลอยไพลิน อัคนิทัต IP: 58.8.159.78 วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:22:50:01 น.
  
เป็นคนนึงในที่ใช้ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา

ได้อ่านความเป็นมาแล้วอยากรู้จักที่มาที่ไปของนามสกุลมากๆ
โดย: Jeab IP: 124.157.185.177 วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:17:32:50 น.
  
อ่านแล้วน้ำตาซึม ขอบคุณ คุณน้าคุณลุงพี่น้องอัคนิทัตทุกท่านนะครับ นาย ศักดึขจร อัคนิทัต
โดย: ผมหลานปู่สิน ลูกพ่อศักดา IP: 192.168.1.25, 110.171.172.173 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2554 เวลา:20:33:44 น.
  
ตอนนี้พ่อศักดาไม่อยู่แล้วหวังว่าคุณป้าโสภาคงบอกให้ทุกท่านทราบแล้ว สกุลของเราคงมีโอกาสได้เจอกันบ้างนะครับ
โดย: ศักดึขจร อัคนิทัต IP: 192.168.1.25, 110.171.172.173 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2554 เวลา:21:51:22 น.
  
อยากติดต่อกับคุณโสภา อัคนิทัต ถ้าคุณโสภา(เป้า) เห็นข้อความนี้แล้วโปรดติดต่อกลับที่ 02 5834057 (ฉมัง)
โดย: ฉมัง จันทรัคคะ IP: 101.108.105.8 วันที่: 19 มกราคม 2560 เวลา:10:33:25 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Jinchaya.BlogGang.com

ฝันราลีห์
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]