ขัดใจกับ AF ผมดูและติดตาม AF หรืออคาเดมี แฟนเทเซียมาหลายสมัย ตั้งแต่ AF 1 ซึ่งเริ่มติดโดยไม่ตั้งใจ ทั้งๆ ที่ตอนแรกคิดวิจารณ์ด้วยว่า จะไปดูอะไรกันหนักกันหนากับชีวิตของคนกลุ่มหนึ่ง ถึงขั้นต้องดูกัน 24 ชม. แต่เมื่อเริ่มจากดูคอนเสิร์ตในช่วงสัปดาห์แรกๆ และเริ่มเชียร์บางคนที่เสียงดี ก็ทำให้อยากฟังเด็กๆ พวกนี้ร้องและซ้อม ดูไปดูมา เลยได้ติดตามบ่อยๆ (อ้อ ต้องขออธิบายก่อนว่า ผมทำงานแบบโฮมออฟฟิศ เลยมีเวลาได้ดูทีวี เวลาเบรกพัก) แต่ดูมาถึงปีหลังๆ บวกกันเป็นช่วงที่ผมได้ศึกษาเรื่อง Talent และวิธีการประสบความสำเร็จของคนมาจนลึกซึ้งระดับหนึ่ง ก็เห็นจุดบกพร่องของการประกวดใน AF หรือเอาเป็นว่าผมไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ก็แล้วกันแนวทางนั้นก็คือ การให้เหล่านักล่าฝัน ต้องร้องเพลงที่ไม่ถนัด โดยถูกกำหนดมาโดยผู้ผลิตรายการแทน มันคือแนวคิดที่จะบอก หรือจะสื่อว่า คนที่เก่งนั้น อาจต้องเก่งหลายๆ อย่าง หลายๆ แนว โดยเฉพาะแม้กระทั่งแนวที่ตัวเองอาจไม่ชอบหรือไม่ถนัด ซึ่งตามความคิดในแนว Talent จากที่ผมศึกษามา ซึ่งก็มีผลวิจัยจากนักวิชาการต่างประเทศด้วย บอกว่าเป็นวิธีที่ ไม่เวอร์ค ในชีวิตจริงแล้ว คนที่โด่งดังหรือนักร้องที่โด่งดัง ล้วนทำในสิ่งที่ตนถนัดที่สุดแทบจะเพียงสิ่งเดียว จุดด้อยสิ่งที่ไม่ถนัดนั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญนัก หรือหากจะแก้ไขก็เป็นกรณีที่เป็นข้อด้อยร้ายแรงที่อาจสกัดความสำเร็จ เช่น บุคลิกภาพบางอย่าง ยิ่งถ้าหากเป็นการประกวดโดยมีการให้คะแนนโดยผู้เชี่ยวชาญ (ไม่ใช่โดยการให้คะแนนด้วยจำนวนการโหวต) ก็จะทำให้เกิดการได้เปรียบ-เสียเปรียบเกิดขึ้นในคอนเสิร์ตแต่ละครั้ง ในการแข่งขันกันเก่งนั้น ผมอยากเห็นแต่ละคนทำในสิ่งที่ตนเองถนัดที่สุดมากกว่า เป็นการแข่งขันของแต่ละแนวทาง เหมือนที่ผมชอบดูการแข่งขันระหว่างบิล เกตส์ กับวอร์เรน บัฟเฟต ระหว่างนักมวยสไตล์ fighter(รุกไล่) กับ boxer (เต้นและชกแบบลีลา) ระหว่างการสู้รบของบุ๋นและบู๊ นอกจากการกำหนดแนวทางแบบนี้จะทำให้ผู้ชมการประกวด ไม่ได้ฟังเพลงที่ดีที่สุดจากนักร้องแล้ว(หรือคนดูเขาอาจไม่สนใจเสียงร้องกันแล้ว เขาดูอย่างอื่น) ก็ยังทำให้เกิดการปลูกฝังแนวคิดวิธีการทำงานไปสู่ความสำเร็จที่ผิดทาง รวมทั้งในกลุ่มคนดูที่ไม่ทันคิดด้วย ยิ่งใน AF ยุคหลังๆ ที่พอผ่านเวทีไปแล้ว ก็แปลงกายเป็นหลายๆ สิ่ง ทั้งนักร้อง พิธีกรรายการ นายแบบ หรือนักแสดงละครเวที ภาพของเหล่านักล่าฝันดูมั่วๆ ไปหมด ซึ่งผิดหลักการตลาดด้วย โดยส่วนตัว ผมดูรายการนี้แล้วชักไม่ค่อยเกิดแรงบันดาลใจเหมือน AF 1 ซึ่งเป็น Season ที่ผมคิดว่าดูสนุกที่สุด จนในปีนี้ผมไม่ดูเลย โดยเฉพาะกลัวจะต้องไปดู love story ที่รายการเน้นขึ้นมา ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ประเด็นของรายการ ในทางตรงข้าม อีกหลายประกวดที่ผมได้ดูทาง true vision นี่แหละ แต่เป็นรายการจากต่างประเทศ เช่น Project Runway, American Inventor หรือรายการ America Got Talent ผมกลับดูแล้วมีแรงบันดาลใจ ![]() Project Runway ซึ่งเป็นรายการประกวดดีไซเนอร์นั้น เพราะภรรยาผมชอบดูก็เลยได้ดูไปด้วย แต่เวลาดูผมก็ชอบที่ได้เห็นถึงการทำงานแบบมืออาชีพ ที่ต้องแข่งขันกัน มีการวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา(ไม่ใช่ชมแบบเยินยอ หรือเล่นๆ อย่างเดียว) และที่ต้องยอมรับ คือ แต่ละคนมีฝีมือกันจริงๆ ![]() American Inventor และ American Got Talent ซึ่งเป็นรายการแข่งนักประดิษฐ์และแข่งประกวดความสามารถพิเศษ แม้จะมีบางรายที่อาจจะดูมีความคิดเพี้ยนๆ หรือความสามารถเพี้ยนๆ แต่เราจะพบว่าทุกคนแสดงออกถึงความเชื่อในความฝัน ในความสามารถและในสิ่งประดิษฐ์ของตน ดูแล้วเกิดแรงบันดาลใจ ถึงความมุ่งมั่นในการบรรลุความฝัน ซึ่งผมคิดว่าเป็นสิ่งที่น่าจะสร้างให้เกิดขึ้นในเมืองไทย แล้วเราจะมีคนเก่งๆ เกิดขึ้นอีกเยอะ แต่หากจะมีคนทำรายการเลียนแบบสองสามรายการนี้ขึ้นมา ก็คงต้องเน้นเลือกและสร้างรายการให้สนุกและมีบรรยากาศของความเป็นมืออาชีพ แบบที่รายการแฟนพันธุ์แท้ทำได้ แต่รายอื่นๆ มักทำไม่ได้ แม้กระทั่งไปเลียนแบบรายการจากญี่ปุ่นมาก็ยังทำได้ไม่สนุกเท่า ผมเชื่อว่า รายการแฟนพันธุ์แท้ เป็นรายการที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนอยากเป็นสุดยอดเซียน ในสิ่งที่ตัวเองสนใจขึ้นมาอีกมาก และรายการอื่นเราก็สร้างคนแบบอื่นขึ้นมาเหมือนกัน ซึ่งกลับมาดูที่ AF เราจะเห็นบุคลิกของเหล่านักล่าฝันที่เปลี่ยนไป จากเหตุเพราะสิ่งที่สื่อมาในปีก่อนๆ ด้วยส่วนหนึ่ง คนที่ได้รางวัลปีก่อนเป็นอย่างไร ทำอย่างไร ปีนี้คนก็จะเอาอย่างในแบบนั้น นี่แหละครับ อิทธิพลของรายการทีวีกับการสร้างคน คุณเชื่อแบบไหน คงต้องใช้วิจารณญาณไตร่ตรองดู จะประสบความสำเร็จด้วยการพยายามเป็นทุกอย่าง หรือจะมุ่งทำเฉพาะอย่าง จะเน้นเปลือกภายนอก หรือเน้นศักยภาพภายใน? อ้อ เพิ่งได้ฟังรายงานว่าที่อเมริกามีการทำวิจัยขึ้นมาชิ้นหนึ่ง ชื่อ Sexy VS Smart ซึ่งเป็นการสอบถามผู้หญิงในอเมริกาว่า เธออยากเลือกเป็นอะไรมากกว่ากันระหว่างเซ็กซี่กับฉลาด ผลปรากฏว่า สาวอเมริกันเลือก อยากเซ็กซี่มากกว่า อยากฉลาด !!! ไม่รู้ว่าสาวไทยจะเลือกแบบไหน ผมล่ะกลัวคำตอบจริงๆ AF ปีนี้ผมดูตลอดเลยคับ นั่งดูเพลินดี ปีนี้บุคลิกของแต่ละคนแตกต่างกันชัดเจนมาก คับ
ส่วนใหญ่คนที่ได้คะแนนโวทสูงสุดมาจากลักษณะการดำเนินชีวีตในบ้านเป็นหลักใครเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด โดย: The Kop Civil
![]() |
ก็เลยพยายามหาโจทย์ให้หลากหลายเรื่อยเปื่อย จนลืมความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคนไปซะ แทนที่จะเน้นให้เด็กรู้จักคิด และมีส่วนร่วมสร้างโชว์ของตัวเองให้ดีที่สุดในแต่ละครั้ง