ตะลุยมาเลเซีย ตอนที่ 1 - กัวลาลัมเปอร์ มะละกา
ทริปมาเลเซียนี้ JanzA ไปกะเฮีย ใช้เวลาทั้งหมด 5 วัน 4 คืน เฮียประชุม 3 วันหลัง

มีเวลาเที่ยวเล่นเล็กน้อย พวกเราเดินทางด้วยสายการบินไทย ไฟล์ทออกเก้าโมงกว่า

แต่ไปเช็คอินตั้งแต่ 7 โมง



เดินทางโดย TG415 เช็คอินเสร็จแล้วเวลาเหลือก็ไปนั่งชิลที่ China Airline Lounge

หาอะไรรองท้องนิดหน่อย - จริง ๆ ก็ไม่นิดหน่อยเท่าไหร่ เพราะกินติ่มซำไป 4 เข่ง

ถึงเวลาก็ไปรอที่เกท แต่ แต่ แต่ แต่ ไฟล์ทดีเลย์

จริง ๆ ต้องออกตอนเก้าโมง แต่เก้าโมงครึ่งถึงเรียกขึ้นเครื่อง แถมพนักงานที่

เคานเตอร์เก็บ boarding pass ทำงานช้าสุด ๆ คนออกันเต็ม ลูกเด็กเล็กแดงชุลมุน

ตอนเครื่องกำลังจะขึ้นก็เจอคุณแขกปากีคนนึงทำตัวมีปัญหา ไม่ยอมนั่งที่ซะงั้น

เพราะจะนั่งกับเมีย แต่ที่นั่งมันเต็ม เลยต้องแยก คุณสจ๊วตเดินมาขอให้นั่งที่ แกก็ไม่ยอม

จนคุณสจ๊วตเริ่มเสียงแข็งเลยยอมนั่ง (ถ้าไม่นั่ง ชั้นจะกระโดดถีบจริง ๆ นะ)

เล่นเอาชุลมุนกันใหญ่ โดยรวมไฟล์ทราบรื่นดีค่า มาดูอาหารเช้าของเราดีกว่า



บะหมี่กับออมเลท ขออภัยถ้าจะบอกว่า สิ่งที่อร่อยที่สุดในมื้อนี้คือครัวซองอย่างเดียว

หงะ ก็ไม่ชอบอาหารบนเครื่องอ่ะ พอเอาไปเวฟแล้วบะหมี่มันก็แหยะ

ใช้เวลา 2 ชม.ก็ไปถึงกัวลาลัมเปอร์ เวลาที่นั่นเร็วกว่าไทย 1 ชม.อย่าลืมปรับนาฬิกา

(เดี๋ยวจะซ้ำรอยตอนทริปฮ่องกง 555 ที่หลงกับเพื่อนเพราะลืมปรับนาฬิกา เอิ๊กกก)

สนามบินKL ไฮโซเลยแหละ สมแล้วที่ได้รางวัลติดต่อกันหลายปี พอลงเครื่อง

ก็นั่ง skyway ไปอีก Terminal นึง สะดวกสบาย ไม่ต้องเดิน



พอรับกระเป๋าเสร็จ เฮียก็เรียกลีมูซีน เหอเหอ หาญกล้ามาก เพราะได้ยิน

ใคร ๆ ก็บอกว่าแพงค่อด แล้วก็แพงจริงคือ 250 RM (แพงมากกกกกกกกก)

(คูณ 10.37 เข้าไปเด้อค่ะเด้อ) นี่คือภาชนะ เอ้ยพาหนะที่พาเราไปส่งโรงแรม



สนามบินที่เราไปลงคือ KLIA (Kuala Lumpur Internation Airport)

จริง ๆ แล้วที่ KL มีสองสนามบินคือ KLIA กับ LCCT สำหรับสายการบินโลว์คอสต์

การเดินทางเข้าเมืองก็มี Airport Coach ค่าบริการประมาณ 10 RM ถ้าไปกันเอง

แนะนำให้ใช้แบบนี้ดีกว่า หรือไม่ก็มีรถไฟฟ้า ราคาอยู่ประมาณ 40 RM หรือ

อีกทางก็นั่งแท็กซี่ ประมาณ 70 RM แต่อันนี้เฮียเค้าเว่อร์ไปเอง เฮ้ออออ

จากสนามบินเข้าเมือง ใช้เวลาประมาณ 45 นาที คนขับรถก็ชวนคุยไปเรื่อย

พอรู้ว่ามาจากเมืองไทยก็ถามใหญ่เลยว่าสถานการณ์ที่บ้านเราเป็นยังไงบ้าง
โอ๊ะโอ เมืองไทยดังใหญ่แล้ว เค้ามาเรามาส่งที่Novotel City Centre

หรืออีกชื่อคือ Novotel Hydro Majestic (แล้วทำไมต้องมีหลายชื่อให้สับสนด้วย)



เป็นรร.ที่อยู่ใกลักับ รร.Shangrila ที่เฮียมาประชุม

พอเช็คอินเข้ารร.ก็เก็บของ กินน้ำ เข้าห้องน้ำ แล้วเริ่มแบกกล้องออกไปเที่ยว

รร.อยู่ตรงข้ามกับห้าง Pavillion (อย่างน้อยระหว่างเฮียไปประชุม ก็มีที่ชอปปิ้งแล้ว)



แล้วก็กางแผนที่ออกดู บริเวณใกล้กับรร.มีถานี KL monorail ชื่อ Raja Chulan



วันนี้ตั้งใจไปแถวจัตุรัสเมอร์เดก้า ฉะนั้นต้องไปลงสถานี Bukit Nanas

เพื่อไปต่อ Rapid KL ลงสถานี Masjid Jamex ระบบคมนาคมขนส่งของเค้าดีเชียวแหละ

มีรถให้เลือกหลายแบบ สถานีก็อยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ



รูปทางซ้ายเป็น KL Monorail เป็นรถรางลอยฟ้า ขบวนนึงมีประมาณ 3-4 ตู้

น่ารักน่าชังเหมือน Monorail ที่ดรีมเวิลด์ ค่าตั๋วสตาร์ทที่ 1.2 RM ระบบซื้อตั๋ว

เป็นแบบ manual คือไปซื้อกับพนักงาน เข้าใจว่า Monorail คงใช้มานานแล้ว

ดูจากสภาพสถานีและรถราง พอตีตั๋วไปลงสถานี Bukit Nanas ก็เดินไปตามทางเชื่อม

ไปถึงสถานี Dang Wangi เพื่อต่อ KL Rapid ไปลงสถานี Masjid Jamek

ค่าโดยสาร Rapid KL สตาร์ทที่ 1 RM หน้าตาเหมือนรถไฟฟ้าใต้ดินบ้านเรา

ไปถึงปลายทางฝนก็ตกพรำ ๆ แต่คงใกล้หยุดแล้วหละ ก็เลยไปนั่งรอที่เบอร์เกอร์คิง

ที่นี่ดีตรงเครื่องดื่มเป็นแบบรีฟิล เติมไม่อั้นนะงานนี้



พอออกจากสถานีก็จะเจอมัสยิดจาเม็กอยู่ข้างหน้า



เป็นมัสยิดเก่าแก่คู่กัวลาลัมเปอร์มานาน เสียดายที่เข้าไม่ได้

การเข้ามัสยิดที่นี่ ผู้หญิงต้องใส่คลุมปิดทั้งหัวและตัว ส่วนผู้ชายก็ห้ามกางเกงขาสั้น

เลยได้แต่ถ่ายรูปอยู่ข้างนอก ถ้าหันหน้าเข้าหามัสยิด ให้เดินไปทางถนนทางขวา

จะเจอจตุรัสเมอร์เดก้า แต่วันที่ไปเค้าปิดถนนหมดเลยเพราะมีแข่งจักรยานมาราธอน

เลยได้แต่ถ่ายรูปจากฝั่งตรงข้าม (พยายามจะเดินข้าม แต่คุณตำรวจเป่านกหวีกไล่ตลอด)

ถ่ายมาได้แค่นี้อ่ะจ้า บริเวณนี้มีสถานที่สำคัญหลายที่



จากรูปซ้ายบนเป็นอาคารสุลต่าน อับดุลซาหมัด จะเห็นว่าเค้ากั้นทางไว้แข่งจักรยาน

อาคารสุลต่านนี้ก่อสร้างแบบศิลปะอินเดีย เคยใช้เป็นที่ทำการรัฐบาล

จุดเด่นของอาคารคือหอนาฬิกา (จากรูปมุมขวาล่าง) สร้างเพื่อเฉลิมฉลอง

วันพระราชสมภพของพระราชินีวิคตอเรียแห่งอังกฤษ (คงยังไม่ลืมว่ามาเลเซีย

เคยเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษนะคะ) เค้าเรียกหอนาฬิกานี้ว่าบิ๊กเบนแห่งมาเลเซีย

ส่วนรูปซ้ายล่างเป็นจัตุรัสเมอร์เดก้า หรือจตุรัสแห่งเอกราช ที่นี่จะเป็นสนามหญ้ากว้าง

สุดลูกหูลูกตา ใช้เป็นสถานที่จัดงานระดับชาติเหมือนสนามหลวง (แต่ใหญ่กว่าเยอะ)

ที่นี่มีความสำคัญคือเป็นสถานที่ประกาศว่ามาเลเซียไม่เป็นเมืองขึ้นของอังกฤษอีกต่อไป

ช่วงที่เราไป จังหวะไม่ค่อยดีเพราะมีมรสุมเข้า แป๊บเดียวฝนก็เริ่มตั้งเค้า

เลยรีบบบบบวิ่งกลับสถานี (อากาศที่นี่แปลก ๆ กลางวันแดดเปรี้ยง

บ่าย ๆ ฟ้าครึ้มเหมือนฝนจะตก แต่ก็ตกเป็นบางที่ ตกแป๊บเดียวก็หยุด เล่นเอางงเลย)

เย็นนี้ JanzA ตั้งใจไว้ว่าจะขึ้น KL Tower ไปดูแสงสียามค่ำคืนของเมืองกัวลาลัมเปอร์

เลยนั่งรถไปลงสถานี Dang Wangi แล้วเดินหาดู กางแผนที่เดินแล้วก็ยังหา

KL Tower ไม่เจอ เห็นอยู่ไกล ๆ แบบนี้



เดินไปซักพัก ก็เหมือนเดินอยู่รอบ KL Tower แต่เหมือนเดิมคือยังหาไม่เจอ TT



เจอบู๊ท tourist information แต่ก็ปิดซะงั้น เดินงมอยู่พักนึงถึงหาทางเข้าเจอ

ตอนนี้เลยจำทางได้แม่นเลย ว่าถ้าลงสถานี Bukit Nanas แล้วให้เดินฝั่ง รร.แชงกรีลา

เลยรร.จะเจอแยกให้เลี้ยวขวาเข้า Jalan P Ramlee จนเจอซอย Jalan Puncak

เลี้ยวเข้าซอย เดินเข้าไปเรื่อย ปากทางเข้ามี Free shuttle bus ไปส่งทุก 15 นาที

กะว่าจะไปหาอาหารเย็นทานกันค่ะ จนท.แจ้งว่าต้องจองล่วงหน้า เฮียเลยจองวันพรุ่งนี้ไว้

แล้วก็เดินกลับรร. (ดูจากแผนที่มันใกล้ตาแต่มันไกลตี.... มาก ๆ) กลับถึง รร.

ทุ่มนึง แต่ยังสว่างอยู่เลย เปลี่ยนรองเท้าแตะเสร็จสรรพก็ตั้งใจจะไปหาอะไรกิน

ที่ Jalan Alor ถนนสายอาหารที่เคยมีเพื่อน ๆ มารีวิวไว้ กางแผนที่ดูแล้วก็รู้สึกว่า

ไกลมาก แต่ก็เดินสุ่ม ๆ ทะลุ Pavilion ไปโผล่ ถ. Bukit Bintang อิอิ ตื่นตาตื่นใจ



ผู้คนเยอะแยะมากมาย ต่างกับตอนกลางวันลิบลับ ร้านอาหารเต็มไปด้วยชาวต่างชาติ

แล้วก็มีให้เลือกหลายแบบ ทั้งอาหารอิตาเลียน เม็กซิกัน เมดิเตอร์เรเนียน

จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ผับ บาร์ ถนนเส้นนี้น่าจะเป็นแหล่งแฮงเอาท์ของวัยรุ่นที่นั่นเลยมั้ง

แต่พวกเราก็เดินเมิน เพราะมุ่งไป Jalan Alor เท่านั้น แต่ทว่าเดินจนเกือบจะถอดใจ

เดินจนเจอสถานีโมโนเรล Bukit Bintang ก็เดินเลยขึ้นมาจนเจอ BB Plaza อยู่ฝั่งซ้าย

และปากซอยทางขวาเป็น KFC 24 hours ก็เลี้ยวขวาเข้ามาเลย จะเจอ Jalan Alor

แหล่งของกินหรือถนนสายอาหาร คงประมาณเยาวราชบ้านเรามั้ง



สั่งชาก๋วยเตี๋ยว ราคา 5 RM ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ 6.5 RM แล้วก็ขนมผักกาด 6 RM



ราคาก็คูณ 10.37 เข้าไปน้า ชาก๋วยเตี๋ยว (เค้าเขียนว่า Cha Kuayxxx อะไรซักอย่าง)

รสชาติเหมือนผัดไทยผสมผัดซีอิ๊ว คุ้นเคยกับรสชาติมาก ๆ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำก็โอเค

ส่วนขนมผักกาดนี่สุดยอด หอมกุ้งแห้งมาก ๆ ปกติกินที่นี่จะมีแต่แป้งอ่ะ

ปิดท้ายวันแรกด้วยความอิ่มท้อง แล้วก็เดินเตร็ดเตร่กลับโรงแรม

วันพรุ่งนี้เราจะไปมะละกากันจ้า

พวกเราจะไปมะละกากัน มะละกาเป็นรัฐที่อยู่ทางใต้ของ KL ประมาณ 140 กม.

ฉะนั้น เลยออกจากรร.เช้าหน่อยนึง คือ 6.45 น. ต่อรถไปสถานี Plaza Rakyat

แล้วก็เดินไปสถานีขนส่ง Pudaraya ก็คล้าย ๆ หมอชิตบ้านเรา มีร้านค้า

ศูนย์อาหารและเคานเตอร์ขายตั๋วหลายสิบช่อง ระหว่างเดินดู ก็จะมีคนเรียกให้ซื้อตั๋ว



ชุลมุนดีแท้ JanzA แนะนำให้เดินดูไปหลาย ๆ ช่อง ปกติจะมีออกทุกครึ่งชั่วโมง

พวกเราไปพอดีกับเที่ยวแรกของวันคือ 7.30 ก็เลยซื้อตั๋วมานั่งรอรถออก

ราคาตั๋ว 9.40 + Charge อีก 30% เหอเหอ ไม่ค่อยเข้าใจระบบการซื้อตั๋วของที่นี่เลย

(ปล. จาก Pudaraya สามารถซื้อตั๋วไปได้หลายที่เลยนะคะ เช่น มะละกา เกนติ้ง

สิงคโปร์ รวมทั้งไปถึงหาดใหญ่ได้ด้วย) รถที่นั่นไฮโซมากเลย ที่นั่งปรับสบาย

เสมือนนั่ง business class ยังไงยังงั้น คุ้มกะค่าตั๋วมากมาย พนักงานก็ขับรถนิ่ม

ใช้เวลา 2 ชม.ก็ไปถึงสถานีขนส่งกลางมะละกา แล้วก็เดินถามทางเค้าไปเรื่อย ๆ

หารถเข้าเมือง แนะนำให้ดูป้าย domestic แล้วมองหารถสีแดงที่เขียนว่า

Panorama Maleka จ่าย 2 RM เป็นตั๋ววัน แสนประหยัด



รถเป็นสีแดง แต่เค้าเรียกว่าสายสีน้ำเงิน (Blue line Panorama Melaka Bus)



ขึ้นไปซื้อตั๋วบนรถได้เลย รถวิ่งรอบเมืองมะละกา จอด 23 สถานที่สำคัญ

พอจะขึ้นรถก็ไปรอที่ป้าย แล้วก็โชว์ตั๋วให้คนขับดู ง่ายนิดเดียว

แต่พวกเราอยากรู้อยากลอง เลยประเดิมขึ้นรถเมล์ท้องถิ่นกันซะเลย 555



มันลูกทุ่งได้ใจจริง ๆ นะ ยกเป็ดไก่ใส่ชะลอมขึ้นมากันเลย

นอกจาก Blue line แล้วก็ยังมีรถเมล์อีกแบบคือ Red line จะเป็นรถสองชั้นแบบ

รถเมล์อังกฤษ



ความแตกต่างระหว่าง blue line กับ red line คือ red line มีสองชั้นและแพงกว่า

คือทั้งวันจ่าย 5 RM แล้วก็แบบหลังจะจอดแค่ 13 ป้ายเท่านั้น ไม่ผ่านสถานีขนส่ง

กลางมะละกา แอบสแกนแผนที่เอาไว้ให้ดู



จริง ๆ แล้วแหล่งท่องเที่ยวใจกลางเมืองมันอยู่ใกล้ ๆ กันเลย สามารถเดินถึงกัน

จะไกลก็อีตอนจากสถานีขนส่งกลางไปถึงในตัวเมืองนี่แหละ และระหว่างสถานที่

สำคัญ ก็ใช้บริการ blue line หรือ red line ก็ได้ แค่โชว์ตั๋ววันให้คนขับดู

พวกเรานั่งรถเข้าเมือง ตอนแรกตั้งใจจะแวะ Jonker street ก่อน แต่นั่งเพลินจนลืมลง

เลยมาลง Dutch Square แทน



มะละกาเป็นเมืองที่น่าสนใจตรงที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน แถมยังเต็มไปด้วยศิลปะ

จากหลาย ๆ ชาติ อย่างที่จตุรัสดัตช์ก็เมีกังหันลมเป็นสัญลักษณ์ว่าดินแดนนี้

เคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของฮอลันดา เห็นได้จากกังหันลมที่อยู่ตรงข้าม

รวมถึงมีหอนาฬิกา ที่สร้างเพื่อเป็นที่ระลึกพิธีฉลองราชสมบัติพระพระราชินี

วิคตอเรียแห่งอังกฤษ อาคารรอบข้างเดิมเป็นของฮอลันดาแต่ก็ถูกอังกฤษ

ดัดแปลงใช้อาคารไปหมด แหม แต่ว่าอะไร ๆ ที่นี่มันก็แด๊งแดงจริง ๆ นะ

เป็นเอกลักษณ์จริง ๆ เลย







ส่วนสัญลักษณ์อีกอย่างของที่นี่ ถ้ามีโอกาสลองใช้บริการกันดูนะคะ รถสามล้อปั่น

สีสันสะดุดตาสุดฤทธิ์



แดดแรงมาก ๆ ตอนอยู่ KL ฝนทำท่าจะตก แต่มาที่นี่ละคนละเรื่อง

พวกเราเดินตุปัดตุเป๋ (ต้องใช้คำนั้นจริง ๆ เพราะถนนไม่มีฟุตบาท กลัวรถเฉี่ยว)

เดินเรื่อยเปื่อยก็เจอเรือลำเบิ้ม แปลว่ามาถึงพิพิธภัณฑ์สมุทรศาสตร์มะละกาแล้ว



ในหนังสือ "ใคร ๆ ก็ไปเที่ยวมาเลเซีย" บอกไว้ว่า เป็นเรือที่จำลองมาจากเรือสำเภา

ฟลอเดอรามาร์ของโปรตุเกส ที่เข้ามาขนสมบัติจากพระราชวังสุลต่านมะละกา

แต่ในที่สุด สงสัยจะบรรทุกสมบัติมากไป เลยไปล่มที่ชายฝั่งเกาะสุมาตรา

จุดนี้จ่ายค่าเข้าไปคนละ 3 RM คุ้มมากเพราะข้างในติดแอร์เย็นเฉียบ 5555

เข้าไปนอนเล่นก็ยังได้ เพราะข้างนอกร้อนตับแลบ - ข้างในพิพิธภัณฑ์ก็บอกเล่า

ความเป็นเมืองท่าที่สำคัญของช่องแคบมะละกา

ออกจากพิพิธภัณฑ์ก็เดินโต๋เต๋ไปเจอของเล่น จ่ายค่าฉลาดไปคนละ 20 RM

ขึ้นไปดูวิวจากมุมสูง เห็น Eye on Malaysia แล้วก็ทะเลสีสวย



หงะ เพิ่งรู้ว่าตรงที่พวกเราเดินไปเดินมา มันอยู่ใกล้ทะเลขนาดนี้เลย จากมุมสูง

ทำให้เห็นจุดท่องเที่ยวที่ต่อไป ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่คือประตูซานติเอโก

พอลงจากจานหมุน (ขออภัยไม่รู้จะเรียกว่าอะไร) ก็เดินเข้าซอย จริง ๆ เดินตาม

กรุ๊ปทัวร์ญี่ปุ่นอ่ะแหละ ><" ไปโผล่ที่ประตูไร้กำแพงซานติเอโกแห่งป้อมปราการ

เอ ฟาโมซา อ่านจากหนังสือ (อีกแล้ว) เค้าบอกว่าประตูซานติเอโกเป็นส่วนหนึ่งของ

ป้องปราการเอฟาโมซาของโปรตุเกส สร้างรายล้อมเนินเขามะละกาทั้งลูกเพื่อ

ป้องกันการโจมตีจากศัตรู



ต่อมาก็ถูกฮอลันดาบุกยึด แล้วดัดแปลงซ่อมแซมส่วนที่เสียหายให้ใช้การได้ดีดังเดิม

ต่อมาอังกฤษเข้าครอบครองมะละกา ได้ส่งกัปตันวิลเลียมมาทำลายป้อมปราการ

เพื่อป้องกันการอ้างสิทธิ์ครอบครองดินแดนของฮอลันดา แต่โชคดีที่เซอร์โทมัส

เข้ามาพบและมองเห็นคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของสิ่งก่อสร้างนี้จึงขอยับยั้งการทำลาย

แต่ก็เกือบสายเกิน เพราะเหลือแต่ประตูซานดิเอโกเท่านั้นที่ยังไม่ได้ทุบ นอกนั้น

ทุบไปเกลี้ยง คนเลยเรียกว่า "ประตูไร้กำแพง" ถือเป็นมรดกของโปรตุเกสที่ทิ้ง

ไว้ในมะละกา พอเดินผ่านป้อมประตูก็จะเจอทางเดินขึ้นยอดเขามะละกา



เดินขึ้นไปโลด บนเนินเขามะละกาจะเจอโบสถ์เซ็นต์ปอล สร้างขึ้นสมัยโปรตุเกส

เข้าปกครองมะละกา ตอนนี้เหลือแต่ผนังศิลาแลง 4 ด้าน ข้างในก็จะมีแผ่นป้าย

หน้าหลุมศพตั้งพิงกำแพงไว้ และรอบ ๆ โบสถ์ก็ยังมีหลุมฝังศพของชาวฮอลันดา



โบสถ์เป็นที่ฝังศพชั่วคราวของเซนต์ ฟรานซิสเซเวียร์ ด้านหน้ามีอนุสาวรีย์ของท่าน



ที่โดดเด่นน่าจะเป็นข้อมือขวาของรูปสลักหายไป มันมีเรื่องเล่าอยู่ว่าเกิดพายุโค่น

ต้นไม้ลงมาโดน ทำให้ข้อมือขวาหัก แต่ดันประเจาะเหมาะกับเมื่อท่านมรณภาพ

พระสันติปาปารับสั่งให้ตัดมือขวาจากศพของท่านไปยังสำนักวาติกัน เลยเป็นเรื่องเล่า

ว่าคงเป็นพระประสงค์ของท่านให้สมจริงตามสภาพศพ บรื๊อววววว

จากเนินเขามะละกา เรามองเห็นวิวเมืองมะละกาได้ทั่ว ลมก็เย็น ชวนนอนหลับ

จากจุดนี้ กว่าจะเดินไปถึงถนน ก็เกือบบ่ายสองแล้ว พวกเราเลยตัดสินใจกลับ

KL ดีฝ่าเพราะจองโต๊ะดินเนอร์ไว้ จากตรงนั้นใช้เวลาครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงสถานีขนส่ง

รถเริ่มติดแล้ว ถ้าออกมาเย็นกว่านี้ แนะนำให้เผื่อเวลาไว้หน่อยเด้อ

ไปถึงสถานีก็หาป้าย Interstate Bus Terminal ก็คือรถที่วิ่งระหว่างรัฐ



เดินดุ่มเลือกรอบไปเรื่อย ได้รอบบ่ายสองครึ่ง กลับถึง KL สี่โมงครึ่งเป๊ะ

รีบกลับโรงแรม อาบน้ำแต่งตัว แล้วก็กลับไปที่ KL Tower ที่นี่เค้ามี dress code

เลยกลับไปเปลี่ยนกระโปรง ใส่รองเท้าส้นสูง อาบน้ำปะแป้ง ดินเนอร์เปิดตอน

หกโมงเป๊ะ ไปก่อนก็ไม่ให้ขึ้น ต้องเดินเตร็ดเตร่อยู่ชั้นล่าง ราคาบุฟเฟ่ท์คนละ 155.25 RM

รวมภาษีและเซอร์วิสแล้ว ค่าเครื่องดื่มต่างหาก เป็น revolving restaurant

รอบนึงใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ก็เห็นวิวยามค่ำคืนของ KL ชัดดี ขอปิดท้าย

ตอนที่ 1 ด้วยวิวและอาหารที่พวกเราสวาปามเข้าไป





เป็นบุฟเฟ่ท์นานาชาติ แต่เหอเหอ เห็นอะไรทอด ๆ หน้าตาน่ากิน หม่ำเข้าไป

เป็นอาหารแขกอ่ะ กล้ำกลืนแทบแย่ ตอนต่อไป พวกเราจะไปเกนติ้งกัน

Coming up next!!



Create Date : 12 พฤษภาคม 2552
Last Update : 13 พฤษภาคม 2552 9:52:28 น.
Counter : 2962 Pageviews.

17 comments
แชร์ประสบการณ์... ตามรอยสแลมดังก์ ที่คามาคุระ-โตเกียว imuya
(10 เม.ย. 2567 00:13:46 น.)
วัดตะโหมด Wat Tamod, Phatthalung. nanakawaii
(11 เม.ย. 2567 09:28:07 น.)
ถนนสายนี้..มีตะพาบ ( 349) วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร peeamp
(8 เม.ย. 2567 12:38:27 น.)
Day 6 ชมปราสาท Kanazawa จิบชาในสวน ส่องบ้านซามูไร กินโนโดกุโระส่งท้ายก่อนมูฟไปเกียวโต khimyo
(7 เม.ย. 2567 15:20:35 น.)
  
สนุกจังคะ เพิ่งจะไปมาเหมือนกัน เสียดายไม่ได้ไปมะละกา
โดย: Nana_naru วันที่: 12 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:48:55 น.
  
สนุกจังเลยค่ะคุณแจน เวลาหนึ่งวันเที่ยวได้หลายที่เลย มะละกาน่าไปจริงๆด้วย อาคารสถานที่สวยๆทั้งนั้นเลย เสียแต่ที่คุณแจนบอกว่าร้อนตับแลบ (คงเพราะมันใกล้ทะเลมั้งเนาะ)

เดี๋ยวตามตอนต่อไป ยังไม่เคยไปมาเลเซียเลยค่ะ (เคยแว้บตามตะเข็บชายแดน ขนของเถื่อน ฮ่าๆๆ)
โดย: ตา tukuta ไม่ได้ล็อคอิน IP: 219.38.67.113 วันที่: 13 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:08:46 น.
  
เพิ่งไปมาเมื่อสงกรานต์เหมือนกันค่ะ พักโนโวเทลเช่นกัน ว่าแต่สอย vincci มากี่โหลค่ะ อิอิ
โดย: sueko IP: 58.8.102.90 วันที่: 13 พฤษภาคม 2552 เวลา:18:18:39 น.
  
ทริปมาเลเซียนี้ JanzA ไปกะเฮีย ใช้เวลาทั้งหมด 5 วัน 4 คืน เฮียประชุม 3 วันหลัง

มีเวลาเที่ยวเล่นเล็กน้อย พวกเราเดินทางด้วยสายการบินไทย ไฟล์ทออกเก้าโมงกว่า

แต่ไปเช็คอินตั้งแต่ 7 โมง

โดย: prempcc วันที่: 13 พฤษภาคม 2552 เวลา:18:58:51 น.
  
หวัดดีค่า

คุณ Nana_naru - ถ้ามีโอกาสลองไปมะละกาดูนะคะ เป็นเมืองที่น่ารักเมืองนึง ไปก็ไม่ยากด้วยค่ะ

คุณตา tukuta - เมื่อก่อนแจนก็ไปแต่แถวตะเข็บชายแดนเหมือนกันค่ะ ตอนเด็ก ๆ เคยข้ามไปปาดังเบซาร์ โตมาค่อยพัฒนาไปกัวลาลัมเปอร์ อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะคะ

คุณ sueko - 5555 รู้ได้ไงคะว่าไปถอย vincci มา คือราคารองเท้ามันถูกยั่วใจจริง ๆ นะ แต่ปัญหาคือคสอ.ที่สอยมาจากคิงพาวเวอร์ซะเยอะแยะ ต้องยัดใส่กระเป๋าให้หมด เลยเหลือที่ซื้อรองเท้ากลับมาได้แค่ 2 คู่เอง ปล. มีโปรซื้อครบ 50 RM ได้ลดคู่ต่อไปอีก 10 RM ด้วย เกือบอดใจไม่อยู่

คุณ premcc - ???? แวะมาใหม่นะคะ
โดย: ~ J a N Z a ~ วันที่: 14 พฤษภาคม 2552 เวลา:9:40:01 น.
  
คุณ Janza ครับ พอดีจะไปพฤหัส 21 นี้ ไม่ทราบว่าถ้าเวลา 1 วันผมจะสามารถลงจาก เกนติ้งแล้วไปเที่ยวมะละกาได้หมดมั้ยครับ
โดย: george IP: 203.144.183.117 วันที่: 14 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:32:45 น.
  
มันอยู่คนละทิศกันเลยอ่ะค่ะ เกนติ้งอยู่ในรัฐปาหัง ทางตะวันออกของKL ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงนึง

ส่วนมะละกาอยู่ทางใต้ของKL ใช้เวลาเดินทางสองชั่วโมง

JanzA ว่าควรจะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งอ่ะค่ะ วันเดียวคงไม่สามารถแน่ เพราะเดินทางระหว่างปาหังไปมะละกา ก็คงประมาณ 3 ชั่วโมง อีกอย่าง ใช้เวลาแต่ละที่ไม่ต่ำกว่าครึ่งวันแน่ ๆ เลย
โดย: ~ J a N Z a ~ วันที่: 15 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:56:27 น.
  
^
^
รัฐกะหัง ๆ ชื่อแปลกดีเนอะ
โดย: ป้าจะอิ๊บ IP: 114.128.138.252 วันที่: 15 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:40:52 น.
  
ขอบคุณมากครับคุณ JaNZa แล้วไม่ทราบมีที่แนะนำมั้ยครับ ถ้าไม่อยู่ที่เกนติ้งแล้วควรจะไปไหน คือแบบว่าจะไปพักบนเกนติ้งทั้ง 2 คืน และรอดู review อยู่นะครับ
โดย: george IP: 203.144.183.117 วันที่: 15 พฤษภาคม 2552 เวลา:12:20:57 น.
  
ไปพักที่ The First word ป่ะคะ
ผีดุมาก ระวังด้วยเราไปมา 6-9 มีนา
ขอให้ปลอดภัยตลอดทริป
โดย: natt IP: 58.9.147.225 วันที่: 15 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:53:35 น.
  
ป้าจะอิ๊บ - ชื่อรัฐปาหัง ไม่ใช่กะหัง

คุณจอร์จ - สงสัยทำรีวิวตอนสองไม่ทันคุณจอร์จไปมาเลแน่เลย

ส่วนตัวคิดว่าอยู่เกนติ้งอากาศเย็นสบายดี ถ้าแค่เล่นเครื่องเล่น เต็มที่วันเดียวก็เบื่อ แต่ถ้าอยู่คาสิโน ก็คงอยู่ได้เป็นอาทิตย์เลยค่ะ แถวเกนติ้งไม่มีที่เที่ยวอื่นด้วยน่ะสิคะ (จริง ๆ เกนติ้งอยู่ใกล้ KL มาก ๆ เลยนะ แม้จะอยู่คนละรัฐ แต่ก็เป็นส่วนของปาหังที่ใกล้ KL มาก ๆ) เอาเป็นว่า JanzA แนะนำที่เที่ยวอื่น ๆ เช่นใกล้ ๆ KL ก็มีมัสยิดปุตราจายา อยู่ระหว่าง KL กับสนามบิน หรือไม่ก็เดินเล่นในเมือง KL ก็ไม่เลวนะคะ อ้อ ไปชอปปิ้งของพื้นเมืองมา ชอบที่ตลาดกลางหรือ Pasar Seni ที่อยู่ใกล้ ๆ ไชน่าทาวน์มาก ๆ เลย ลองไปดูนะคะ

(จริง ๆ อยากแนะนำไปเมืองอื่น ๆ นะคะ เพราะอ่านจากหนังสือท่องเที่ยวแล้วน่าสนใจมากอย่างปีนังหรือลังกาวี แต่มันไกลออกไปมาก)

คุณ natt - พอดีไปเกนติ้งแบบเช้าไปเย็นกลับ เลยไม่ได้พัก รร.ที่ว่า ว่าแต่มีผีจริงหรอคะ มันก็ดูเก่า ๆ จริงด้วยแหละ

โดย: ~ J a N Z a ~ วันที่: 16 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:34:20 น.
  
จริงไม่จริงไม่รู้เพราะเราไม่โดนหลอกค่ะ แต่เลี่ยงได้ควรเลี่ยง

แต่หลายห้องโดนเพราะบริษัทพาไปoff site meeting.
ที่แน่ๆนายใหญ่ชาวสิงคโปร์ สั่ง check out พาพวกเรากลับ มาอยู่ต่อที่ KL ส่วนคนที่เจอเหตุการณ์ ให้กลับ กทม. fight เช้าค่ะ
โชคดี เลยได้ไปเที่ยว ร้านซุก (Zook)
โดย: natt IP: 58.9.146.233 วันที่: 16 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:11:03 น.
  
ละเอียดมากกกก

อ่านยังไม่จบเลยครับคุณแจน
โดย: ต้นไม้ของนายเดีย วันที่: 16 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:37:46 น.
  
มาตามไปเที่ยวด้วยคนจ้า
โดย: ไผ่ไร้กอ IP: unknown, 203.146.249.228 วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:45:44 น.
  
น้องแจนไปเที่ยวมาเลเซียมาน่าเดินมาก พี่อยู่มาปีนึงไม่ได้ไปไหนเร้ย ก๊าก ไปแต่ห้างกะอยู่กะบ้าน ยังไม่เคยได้ขึ้นเลยเคแอลทาวเวอร์ อาหารเค้าดูน่ากินเนอะแต่ว่ารสชาติไม่ค่อยถูกปากคนไทยเท่าไหร่ ที่พาวิลเลี่ยนมีร้านชื่อมาดามกวัน อร่อยใช้ได้เลยล่ะคนแน่นตลอดเลยจ้า คราวหน้าไปแล้วอย่าพลาดนะ

โดย: ซัน IP: 202.156.11.236 วันที่: 21 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:00:51 น.
  
คิดถึง ชาก๋วยเตี๋ยว อ่า...อยากกินๆๆๆ
โดย: อึ้งย้ง IP: 58.136.8.185 วันที่: 11 มิถุนายน 2552 เวลา:17:06:09 น.
  
^
^
เออ ชั้นลืมซื้อใส่ห่อมาฝากแกหวะ
โดย: ~ J a N Z a ~ วันที่: 12 มิถุนายน 2552 เวลา:9:25:55 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Janza.BlogGang.com

Janza from the block
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]

บทความทั้งหมด