วัดถ้ำผาแด่นแก่นแท้ของชีวิต (จ.สกลนคร) ![]() ดวงอาทิตย์กำลังอ่อนแรง แต่อย่าเพิ่งอ่อนแสงไปกว่านี้จะได้ไหม ผมอ้อนวอนขอเวลาให้ช่วยชะลอฝีเท้ารอกันหน่อย เพราะหากวันนี้ไปถึงจุดหมายปลายทางเย็นมาก จนไม่เหลือแสงไว้ให้ถ่ายภาพก็คงต้องพลาดโอกาสสำคัญของการเดินทางในครั้งนี้ ผมขับรถจากกรุงเทพฯมาเกือบ 10 ชั่วโมงแล้ว กำลังมุ่งหน้าอยู่บนแนวเทือกเขาภูพานเข้าสู่เขตจังหวัดสกลนคร ตามแผนการเดินทางเย็นนี้ก่อนจะไปหาที่ซุกหัวนอนในตัวเมือง ผมตั้งใจจะแวะไปสิ่งที่แหล่งข้อมูลหลายแห่งขนานนามกันว่า หินเทพ ซึ่งตั้งอยู่ในวัดถ้ำผาแด่นแห่งบ้านดงน้อย ตำบลดงมะไฟ ก่อนถึงตัวเมืองประมาณ 17 กิโลเมตร แต่แผนการทุกอย่างคลาดเคลื่อนไปหมด! เพราะมัวพิถีพิถันวนหาร้านข้าวกลางวันแถวจังหวัดมหาสารคามอยู่นาน แล้วสุดท้ายก็ไม่เจอ!! สุดท้ายคือกินอะไรก็ได้!! กว่าจะรู้ตัวว่าเป้าหมายหลักของการเดินทางไม่ใช่การมาหาของกิน มันก็ทำให้ผมรู้ซึ้งแล้วว่า เวลา มันมีค่ามากขนาดไหน โชคยังดีที่แสงตะวันยังพอหลงเหลืออยู่บ้าง ขณะที่ผมขับรถขึ้นเขาไปตามถนนคอนกรีตอย่างดี ลอดผ่านซุ้มประตูเข้าสู่ลานจอดรถของวัดถ้ำผาแด่นตอนเกือบๆ ห้าโมงเย็น ภาพเจดีย์สีทองบนก้อนหินสีเดียวกันมองดูคล้ายพระธาตุอินแขวนประดิษฐานอยู่บนหินผาก้อนใหญ่ ดึงความสนใจผมไปหลายนาทีจนต้องสะกิดตัวเองให้รีบรุดไปยังจุดไฮไลท์ได้แล้ว! ผมเดินต่อขึ้นไปยังบริเวณตัววัดด้านบน มือของผมก็ต้องยกกล้องขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เมื่อภาพเบื้องหน้าคือความอลังการของงานประติมากรรมนูนต่ำขนาดใหญ่ ที่แกะสลักรูปพญาครุฑลงบนหินทรายได้อย่างอ่อนช้อยงดงามราวกับแกะสลักอยู่บนก้อนสบู่ ซึ่งด้านบนหินก้อนนี้ก็เป็นที่ประดิษฐานของเจดีย์สีทองที่มองเห็นจากลานจอดรถด้านล่างนั่นเอง รอบๆ หินด้านหนึ่งแกะสลักเป็นรูปพระเกจิอาจารย์ชื่อดังต่างๆ อีกด้านเป็นภาพพุทธประวัติตั้งแต่ประสูติ ตรัสรู้ ส่วนภาพปรินิพพานนั้นอยู่ตรงด้านสุดท้าย ซึ่งแกะสลักเป็นภาพพระพุทธไสยาสน์ขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 19 เมตร อันเป็นที่สักการบูชาของผู้คนที่มาเยือน ข้างๆ หินก้อนนี้ยังมีหินก้อนใหญ่อีก 2 ก้อน ก้อนหนึ่งทำให้ผมกระจ่างหายสงสัย ที่ทำไมถึงขนานนามกันว่า หินเทพ เพราะหินก้อนนี้แกะสลักเป็นภาพของศรีมหาเทพพระอิศวร พระพรหม พระนารายณ์ และพระพิฆเนศ ได้อย่างวิจิตรงดงาม ส่วนหินก้อนสุดท้ายก้อนที่ 3 ไม่เห็นมีลวดลายแกะสลักอะไร แต่มีบันไดให้เดินขึ้นไปด้านบน พอขึ้นไปยืนอยู่บนหิน ถึงรู้ว่าหินก้อนนี้แกะสลักเป็นรอยพระพุทธบาทจมลึกลงไปในเนื้อหินซ้อนกัน 4 รอย และบนนี้ยังเป็นจุดชมทัศนียภาพได้กว้างไกลถึงตัวเมืองสกลนครอีกด้วย ตามประวัติกล่าวว่าหินทั้ง 3 ก้อนนี้ร่วงลงมาจากภูเขา พระอาจารย์ปกรณ์ กันตวิโร เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน จึงมีความคิดจะพัฒนาวัด ให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมะ เพื่อดึงดูดประชาชนกับกลุ่มวัยรุ่นให้หันมาเข้าวัดกันมากขึ้น ท่านจึงให้ช่างแกะสลักหินทั้ง 3 ก้อนนี้ขึ้นมาโดยแฝงคติความเชื่อทางพุทธศาสนาไว้ได้อย่างลึกซึ้ง รูปพญาครุฑเวสสุวรรณบนหินก้อนแรกหมายถึงความอยากได้เงินตราของมนุษย์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งมนุษย์ส่วนใหญ่เกิดมาก็ตั้งหน้าตั้งตามุ่งหาแต่เงินแสวงหาแต่ผลประโยชน์ ที่มีมากแล้วก็อยากมีมากขึ้นไปอีก เชื่อไหม? เคยมีคนรายได้หลักแสนต่อเดือนมารำพึงกับผมว่า เมื่อไหร่จะรวย ผมได้ยินก็สตั๊นไปชั่วขณะ ก่อนจะขอยืมคำพูดของพี่เชษฐ์สไมล์บัฟฟาโล่ ที่เคยให้สัมภาษณ์ในรายการทีวีรายการหนึ่งตอบกลับไปว่า เราจะรวย เมื่อเรารู้จักพอ ส่วนรูปศรีมหาเทพบนหินก้อนที่สองนั้นสื่อให้เห็นถึงผู้มีอิทธิฤทธิ์มีอำนาจ แต่ก็ยังไม่อาจหลุดพ้นจากวัฏสงสาร คล้ายๆ กับเรื่องราวของรุ่นพี่คนหนึ่งที่ประกอบกิจการบ้านพักฟื้นคนชรา พี่เค้าเคยเล่าให้ผมฟังว่า มีหลายคนที่มาใช้บริการเมื่อก่อนเคยมียศมีตำแหน่งใหญ่โตผู้คนนับหน้าถือตา แต่พอเกษียณถึงคราวป่วยแก่เฒ่าชรา ผู้คนรายล้อมต่างค่อยๆ ห่างหาย สุดท้ายลูกหลานก็พามาฝากไว้ที่นี่ กลายเป็นแค่ตาแก่ธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่รู้สึกว่าตัวเองคือภาระของครอบครัว และชีวิตได้สูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว เรื่องราวชวนคิด แต่ผมคงต้องคิดไปเดินไป เพราะดวงอาทิตย์ใกล้จะลาลับขอบฟ้าเต็มที ภารกิจของผมยังไม่สิ้นสุด! ผมเร่งฝีเท้าจากรอยพระพุทธบาทจำลองสู่รอยพระพุทธบาทของจริงซึ่งประดิษฐานอยู่บนเขา เดินขึ้นบันไดไปทางด้านหลังวัด ลัดเลาะไปตามทางดินใต้เงาครึ้มของผืนป่า ผ่านซอกหลืบหินผาที่ใครหนอช่างบรรจงสรรสร้างให้เป็นช่องทางเดินได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ รอยพระพุทธบาทแห่งวัดถ้ำผาแด่นประดิษฐานอยู่ภายในศาลาที่ทำขึ้นมาคลุมไว้อย่างเรียบง่าย สถานที่แห่งนี้เชื่อกันว่าพระพุทธองค์เคยเสด็จมาประทับรอยเท้าไว้จริงๆ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ก็เคยมาปฏิบัติธรรมอยู่ที่นี่ ที่ที่เวลานี้ไม่มีใคร นอกจากความเงียบสงบกับความคิดหนึ่งที่ผุดขึ้นมา เงินตรา อำนาจ นั่นหรือที่มนุษย์ต่างใช้เวลาทั้งชีวิตแก่งแย่งไขว่คว้า แต่สุดท้ายกลับเป็นแค่ภาพลวงตา เคยถามตัวเองไหมว่า เราเกิดมาทำไม? เกิดมาดิ้นรนหาเงินหาอำนาจ แต่งงาน สืบพันธุ์ แล้วตาย ชีวิตคนเราวนเวียนอยู่แค่นี้หรือ? สำหรับผมพบคำตอบทั้งหมดอยู่ตรงหน้าแล้ว คือการได้เดินตามรอยทางของพระพุทธองค์ เส้นทางที่จะนำพาให้เราได้เห็นความจริงของโลก เมื่อเราฝึกฝนปฏิบัติจนได้เห็นความจริงเหล่านั้นอย่างถ่องแท้ เมื่อนั้นเราก็จะสิ้นจากคำว่า ยึด คำว่า อยาก เมื่อไม่ยึด ไม่อยาก ก็ปราศจากทุกข์ ชีวิตผมตั้งแต่เกิดมาไม่มีสมบัติอะไรล้ำค่าไปกว่า การได้มาเรียนรู้ธรรมของพระพุทธเจ้าอีกแล้ว ต่อให้เอาสมบัติของมหาจักรพรรดิองค์ไหนมาแลก มันก็เทียบค่ากันไม่ได้
เส้นทางของไอฟายน้อยสู่วัดถ้ำผาแด่น จากกรุงเทพฯใช้เส้นทางไปยังจังหวัดสระบุรี ก่อนเข้าถนนมิตรภาพมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา ใช้ถนนบายพาสเลี่ยงตัวเมืองโคราช ไปทางจังหวัดขอนแก่น ถึง อ.บ้านไผ่ ให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 23 มุ่งหน้าสู่จังหวัดมหาสารคาม ผ่าน อ.บรบือ เลี้ยวซ้ายต่อไปยังตัวเมืองมหาสารคาม ใช้เส้นบายพาสเลี่ยงเมืองมหาสารคามเข้าทางหลวงหมายเลข 213 มุ่งหน้าสู่จังหวัดกาฬสินธุ์ จากตัวเมืองกาฬสินธุ์ใช้ทางหลวงหมายเลข 12 ไปทางจังหวัดสกลนคร ระหว่างทางจะผ่านอำเภอสมเด็จ ให้ตรงต่อไปตามทางหลวงหมายเลข 213 ขึ้นเขาภูพานไปประมาณ 33 กิโลเมตร ลงเขามาให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลย 2330 ตรงไปอีกประมาณ 33 กิโลเมตร จะเจอสามแยก ให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2339 มุ่งหน้าสู่ อ.เต่างอย จาก อ.เต่างอย ใช้ถนนเส้นเดิมตรงต่อไปทางจังหวัดสกลนครอีกประมาณ 11 กิโลเมตร จะเห็นป้ายวัดถ้ำผาแด่นอยู่ทางซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนสายย่อยขึ้นเขาไปอีกราวๆ 4 กิโลเมตร ก็จะถึงตัววัด รวมระยะทางจากกรุงเทพฯประมาณ 650 กิโลเมตร
สุดยอด ทั้งภาพถ่าย สถานที่ เนื้อความที่แฝงด้วยคำสอนแบบเข้าใจง่าย รับรู้ได้ถึงความสุขอย่างแท้จริง ไม่สมกับที่รอคอยติดตามอ่านค่ะ
โดย: Gubgib IP: 223.24.144.23 วันที่: 12 สิงหาคม 2560 เวลา:17:55:10 น.
สมกับการรอคอยครับ คราวนี้สอดแทรกธรรมะได้ดีครับ อ่านไม่สดุด จะสดุดตรงที่คนเล่าบอกไม่ชอบเงินทองนี่แหล่ะ555
โดย: Lert PK IP: 27.55.170.15 วันที่: 12 สิงหาคม 2560 เวลา:18:23:56 น.
มีโปรแกรมจะไปเที่ยวสกลนครเดือนหน้าค่ะ ไม่แน่ใจเหมือนกันเพื่อนจะพาไปวัดไหนบ้าง
น่าตามรอยค่ะ โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ
![]() ![]() สุดยอดมากค่ะ
จขบ. ทำให้น้องมีนเข้าใจที่นั่นและสิ่งที่เค้าจะสื่อมากขึ้นค่ะ น้องมีนคนสกลแท้ๆ ยังไม่มีโอกาสได้ไป หลังจากนี้ได้กลับบ้านจะพาแม่กับหลานๆไป. แล้วเล่าแบบที่. จขบ. เล่าให้หลานๆ ฟัง มันดีมากๆ เลยละค่ะ ![]() ![]() ![]() ขอบคุณนะคะ โดย: together_ws
![]() วัดบางกะจะ มองเห็นจากฝั่งวัดพนัญเชิงค่ะ ไม่ได้เห็นเจดีย์ชัด ๆ เลยค่ะ
![]() โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ
![]() ![]() สวัสดีครับ ไม่ได้แวะมานานเหมือนกัน ตามมาชมสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจครับ วัดถ้ำผาแด่นแก่นแท้ของชีวิต (อื้อหือชื่อ...) ตอนไปสกลนครไม่ได้ไปเลย
พอออกจากจังหวัดมาแล้วถึงเพิ่งเจอข้อมูล งานแกะสลักสวยงามน่าสนใจจริงๆครับ (พลาดไปแล้ววววว) โดย: ชีริว
![]() ![]() ![]() เก็ยรายละเอียดภาพมาฝากกันชมและรู้จักวัดนี้ได้เยี่ยมมากๆคะ อยากโหวตให้ทั้งภาพถ่ายและท่องเที่ยว แต่อ่านโปรไฟล์เน้นท่องเที่ยวมากกว่า ขอโหวตท่องเที่ยวให้เลยละกัน... เราไม่ค่อยเจอกันเลยช่วงหลังๆนะคร้า น่าตามรอยจังคร้า ยังไม่เคยไปเที่ยวทางภูมิภาคนี้เลย ขอบคุณข้อมูลด้วยคะ ปล.เราว่าเจ้าอาวาสวัดนี้เก่งนะคะ มองการณ์ไกลดีมากๆ สาธุคะ โดย: Tui Laksi
![]() ![]() สวยมากอ่า
โดย: Ammonito IP: 1.47.138.88 วันที่: 22 สิงหาคม 2560 เวลา:0:24:05 น.
โอ....อลังการจริงๆวัดถ้ำผาแด่น การแกะสลักหินก็ทำแบบประณึต สวยงามมาก ที่สำคัญ จะอยู่คงทนไปอีกหลายร้อยปี
การท่องเที่ยวที่เข้าหาธรรมะ เป็นประโยชน์กับตัวเรา ทำให้เข้าใจโลกตามความเป็นจริง ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันครับ โดย: พายุสุริยะ
![]() ขอบคุณที่แวะไปทักทายกันค่ะ
ตามมาเยี่ยมที่บล็อก ตื่นหูตื่นตามากเลย น่าตามรายสุด ๆ แถวอิสานได้แต่ผ่านออกด่านไปเขมร ขับรถมาราธอนมาก ๆ เลยค่ะ ระยะทางเกือบเท่าขึ้นเหนือมาแอ่วเจียงใหม่เลย เคยได้ยินมาว่า วัดทางอิสานจะใหญ่โตกว่าทางเหนือมาก มาเห็นบล็อกนี้ ค่อนข้างตื่นหูตื่นตา อยากไปเลยค่ะ ไว้คงได้แวะมาตามเที่ยวบ่อย ๆ นะคะ โดย: JinnyTent
![]() มาไหว้พระ พระพุทธบาทด้วยครับ
ประติมากรรมงามมากครับ ภาคอิสานไปเที่ยวน้อยมากครับ เกิดแก่เจ็บตายจริงแท้แน่นอนครับ แต่ใครจะหลุดพ้นก่อนกัน โดย: สองแผ่นดิน
![]() ![]() ถ้าไม่บอกว่าไทย รินก็มองเป็นพม่าเลยนะคะเนี่ย อิอิ
จังหวัดทางอีสานแทบไม่ได้ไปเลยค่า อยากไปสักครั้งเหมือนกัน เร็วๆนี้ค่า บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต Close To Heaven Review Food Blog ดู Blog auau_py Review Food Blog ดู Blog Sai Eeuu Food Blog ดู Blog Ces Travel Blog ดู Blog ![]() โดย: Rinsa Yoyolive
![]() ![]() |
บทความทั้งหมด
|