สวัสดีค่ะวันนี้ทรายจะมาเล่าถึงประสบการณ์ที่ไปปรับแต่งรูปหน้าด้วยเทคนิคใหม่ล่าสุด
Liquid Facelift มาค่ะ เหมือนเดิมคือ แรกเริ่มทรายมีนัดกับคุณหมอเติ้ล
The Kliniqueว่าทรายจะไปฉีดโบท็อกซ์กราม เนื่องจากว่ามันถึงเวลาแล้ว (เกิน6เดือนแล้ว)และกราม
ก็ได้กลับมาเป็นก้อนปกติแล้ว และอยากจะฉีดไลโปที่แก้ม เพราะว่าผ่านมาหลายเดือน
แล้วอีกเหมือนกัน (พอๆกับโบท็อกซ์) ก็มีไขมันใหม่กลับเข้าไปสะสมแล้วเหมือนเดิม
จึงต้องนัดคุณหมอทำสวยให้หน้าเป๊ะๆอีกครั้ง (ที่เพื่อนๆเห็นหน้าเรียวๆเข้ารูปก็เพราะงี้นะ)
พอไปถึงแล้วแผนเปลี่ยนนิดหน่อย ทรายฉีดโบท็อกซ์กรามทั้ง2ข้างแล้ว จากนั้นคุณหมอ
บอกว่า หมอคิดแต่ยังไม่ได้บอกทราย ว่าหมอคิดว่าทรายน่าจะลองเทคนิคนี้ดู น่าจะโอเค
เทคนิค Liquid Facelift ทรายงง เพราะยังไม่เคยเห็นในเว็ปคุณหมอว่ามันคืออะไรยังไง?
สรุปได้ความว่ามันคือแบบนี้
“การฉีด Liquid Facelift เป็นการฉีด Filler แบบ Advance จากเดิมที่จะฉีดในชั้น Dermis
เพื่อเติมเต็มร่องตื้นต่างๆ แต่เทคนิคนี้จะเน้นฉีดเข้าไปในชั้น SMAS(ชั้นที่หมอศัลยกรรม
เข้าไปผ่าตัดเย็บเพื่อยกกระชับหน้าหรือคอ)เพื่อปรับโครงกระดูกหน้าให้สวยเหมือนนางแบบ
โดยไม่ต้องศัลยกกรรม โดยแพทย์จะประเมิณตามองศาความงามบนใบหน้าว่าส่วนไหน
ควรจะทำมุมกันกี่องศา ยกกระชับตรงไหนเพิ่มเติม เป็นต้น ผลจะอยู่ได้นานประมาณ 2 ปี”ของใหม่เลยบอกคุณหมอว่า จัดมาเลยค่ะ อยากลอง คุณหมอก็เลยหยิบแผงฟิลเลอร์
ตัวใหม่ที่ทางคลีนิกเปลี่ยนมาใช้ให้ดู เปิดหยิบเข็มกันสดๆต่อหน้าเลย ฟิลเลอร์ตัวนี้
หมอบอกว่าลูกค้าใช้แล้วชอบกันเยอะ มันดีและไม่ค่อยเจ็บ (มันมียาชาผสมอยู่ในตัว)
คุณหมอฉีดฟิลเลอร์ไปที่2จุดบนหน้า คือหน้าแก้ม และเหนือคิ้วช่วงขมับ ทรายก็สอบถาม
แบบบ้านๆว่าตรงไหนช่วยเรื่องอะไร คุณหมอบอกว่า ตรงแก้มเนี่ย สำหรับทราย โครงหน้า
เป็นคนโครงเต็มอยู่แล้ว เนื้อเยอะ แต่หน้าแบน และมีกระดูกโหนกแก้มที่ค่อนข้างบานออก
ด้านข้างมันทำให้ทรายดูหน้าแบนและใหญ่ หมอจึงจะใช้ฟิลเลอร์เติมย้ายเอเป็กของหน้า
ให้มีโหนกแก้มกลมช่วงเกือบกึ่งกลางตา คล้ายๆโหนกแก้มดาราส่วนใหญ่ จะทำให้หน้า
เราดูเล็กลง ดูแคบลง ส่วนตรงขมับ ทรายเป็นคนที่ขมับเต็มอยู่แล้ว หมอไม่ได้ฉีดเยอะ
เสริมให้นิดหน่อย อาจจะไม่ค่อยเห็นผลอะไรมาก แต่มันจะช่วยยกช่วงคิ้วขึ้น ถ้าเป็นคนที่
ขมับโบ๋ เนื้อน้อย มันจะเห็นผลชัดเลยว่า ช่วงตายกขึ้น คิ้วยก และหน้าด้านข้างยกตามขึ้นมา
ถามว่าเจ็บไหม? ก็นิดหน่อย ไม่เจ็บเหมือนที่ฉีดคาง ยาตัวนี้ไม่ค่อยเจ็บจริงๆนะ แต่ก็ทราย
มีฉีดยาชาไว้ก่อนแล้วด้วย พอเสร็จคุณหมอก็ให้ประคบเย็นต่ออีกสัก 2 ชั่วโมงจะได้ไม่เป็น
รอยเขียว เพราะว่าผิวข้างในอาจจะมีการช้ำได้ แต่ทรายต้องขับรถกลับคนเดียวไม่มีคนขับให้
แล้วรถดันติด กลับถึงบ้านก็ชั่วโมงนึงไม่ได้ประคบเลย ผลคือวันต่อมาตื่นมาเขียว = =
ตรงแก้มก็ตึงๆหน่อย เวลาจะยิ้มลำบากนิดนึง แต่ที่เขียนอยู่นี่วันที่3แล้ว ไม่ค่อยรู้สึกอะไรแล้ว
หายเร็วกว่าที่ฉีดคางเยอะเลยค่ะ รอยเขียวแต่งหน้ากลบได้ ไม่มีปัญหา
สรุปแล้วที่ไป ทรายฉีดโบท็อกซ์และ Liquid Facelift เลยไม่ได้ฉีดไลโปแก้มเลย >//////<
ทรายมีนัดกับคุณหมออีกสัปดาห์นี้แหละ จะเข้าไปฉีดไลโปเอาไขมันที่แก้มล่างและเหนียงออก
แล้วก็จะลองทำเลเซอร์ E-Matrix ที่หน้าดู คือหน้าทรายดีอยู่แล้วไม่ค่อยมีแผลอะไร หลุมก็
ไม่มีให้เห็น แต่จะทำเพื่อแก้ปัญหารูขุมขนกว้าง อย่างที่เคยบอกไปเมื่อครึ่งปีก่อนว่า
คุณหมออยากรักษารูขุมขนให้นานแล้ว แต่ทรายไม่มีเวลามาสักทีเพราะมันต้องพักหน้า
นิดหน่อย แล้วก็ห้ามโดนแดดสักอาทิตย์ รอยาวมาจนป่านนี้ ตัดสินใจทำๆไปเลยดีกว่า
เพราะก็ไม่รู้ตารางงาน ตารางชีวิตตัวเองอีกอยู่ดี แล้วเดี๋ยวทรายจะมาเล่าให้ฟังค่ะว่า
ไปทำแล้วเป็นยังไงบ้าง เจ็บไหม จี๊ดจ๊าดไหม อ่อ มีเรื่องของรักษารอยแผลดำๆจากสิวที่หลัง
จะมาเล่าให้ฟังด้วย ตอนนี้ทำได้ 4 ครั้ง (4เดือน)แล้วที่นี่แหละ เดี๋ยวจะมาเล่าตอนทำครั้งที่5
ผ่านไปแล้วนะจะได้ผ่านไปสักครึ่งทาง ให้ดูผลกัน
Disclaimer : ทรายได้รับการรักษาฟรีนะคะ ถ้าอยากทราบค่าใช้จ่ายลองสอบถามที่ทางคลีนิกดูนะ
Information : //www.facebook.com/THEKLINIQUEinternationalInformation : //www.theklinique.com