บทสรุปการซื้อลิขสิทธิ์เพลงต่างประเทศมาใช้ในหนังไทย ตอน 3
ที่ห่างหายไม่ตอบนั้น ติดขัดกังานหนึ่ง ถึง เปิดเผยไม่ได้ว่า เราทำ

ฮือๆๆสงสารตัวเอง จริง ๆๆ อย่าหวังกล่อง เอาเงินก่อนดีกว่า

มาเข้าเรื่องเลยดีกว่า คราวที่แล้ว ค้างกันที่ความคิดว่า เราน่าจะแต่งเพลงเองดีกว่าใช่ไหม?

กว่าจะนำเสนอจน ผู้กำกับ ยอมรับในความคิดอันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆนะ บอกให้

เพระ อะไร ไม่ใช่ว่า เขาดื้อหรอก

แต่ถ้า เป็นคุณ แค่งานเขียนของคุณ พอคุณเขียออกมา แล้ว ทางสำนักพิมพ์ เอาไป เพิ่มเติมเอาเอง คุณจะรู้สึกอย่างไร

เช่นเดียวกัน กว่าจะออกมาแต่ละฉากผู้กำกับ เขามีภาพอยู่ในใจอยู่ล้ว การที่เราไปเปลี่ยน แปลงตรงนั้น เหมือนเราไปเปลี่ยนความฝันของเขา

ดังนั้นเหตุและผลเราจะต้องมีให้มีน้ำหนักพอ รวมถึงทางออกให้ด้วย มิเช่นนั้น ปัญหาก็จะไม่ได้รับการแก้ไข


คราวนี้เหตุผลและผลที่ ได้กล่าวไปนั้น คือ

1. ถ้าเราซื้อสิทธิ์ ได้แค่ในเมืองไทย ย่อมทำให้ต้นทุนสูงขึ้น ย่อมทำให้นายทุนไม่ยินดีแน่นอน อันนี้ หลักการธรรมดา

2. เราคงหมดสิทธิ์เอาไปขายต่างประเทศ เพราะว่า ติดปัญญาเรื่องลิขสิทธิ์เพลง

3. ในการโปรโมทหนัง ไม่ต้องยุ่งยากในการรอการอนุมัติ อีก

4. เราอาจมีสิทธิ์ ได้รายได้เพิ่มมาอีก จากการนำเพลงมาขาย

ทางออก นั้น น่ะเหรอคะ

คงนึกไม่ถึงกันหรอกค่ะ เพราะ ไม่มีใครคิดเหมือนกันว่า เอ็นจังจะกล้าเสนอ

นั่นคือ เอา ความสามารถ ในการ copy เพลง ต่างประเทศ ที่คนไทยเก่งกันนัก มาทำค่ะ

งง หรือเปล่าคะ

ทำไมน่ะเหรอ

1. ก็เพราะ เรายังคงได้อารมณ์เพลง และเนื้อหาในการนำเสนอเหมือนเดิม
2. อยากได้อย่างไร ฝีมืคนไทยน่ะทำได้ แถมเราอาจทำได้ดีกว่าด้วย

เชื่อเถอะ เพราะ อยู่กับวงการเพลงมานาน กว่า10 ปี รู้วิธีการทำงาน เป็นอย่างดี

เอ็นจัง ไปค้นคว้าหาผู้มีความสามารถ ที่ทำงานตามใบสั่งงานมาหนึ่งท่าน ที่บอกว่า ต้องเลือกคนที่ทำงานแบบนี้ได้ เพาะ นักทำเพลงหลายคน ทำงานตามความคิดตัวเองก่อน แล้วค่อยมานำเสนอ


ต่อมาก็ บอกเลยว่า เงื่อนไขมีอะไร บ้าง

เหอๆๆ งานหินโคตร จริงๆครับ เพาะ นอกจาก ทำนอง เนื้อร้องจะต้องได้ตามที่ต้นฉบับ แล้ว ต้องหลบไม่ให้โดนฟ้องอีก และที่สำคัญ เมื่อร้องออกมา ปากควรตรงกับต้นฉบับ อีก เป็นงัยละครับท่าน ยากได้ใจดีไหมคะ

และแล้ว เอ็นจังก็ ทำให้ลดค่าใช้จ่าย จากหลักล้าน เหลือแค่ หลักแสน แถม ยัง ช่วยส่งเสริมคนไทยด้วยกัน

ส่วนรายได้ ไม่ต้องห่วง รายจ่ายลด รายได้ก็ต้องมากขึ้น เป็น ทำ มะ ดา อยู่แล้วล่ะครับท่าน

แต่กว่าจะจบได้ ได้ประการณ์ชีวิต เพียบ

ถ้าใครมีงานอย่างนี้อีก รบกวน ส่งมาเลยนะเจ้าคะ



Create Date : 25 ธันวาคม 2548
Last Update : 25 ธันวาคม 2548 2:23:36 น.
Counter : 869 Pageviews.

3 comments
The Last Thing on My Mind - Tom Paxton ... ความหมาย tuk-tuk@korat
(1 ม.ค. 2567 14:50:49 น.)
พบเจอภาพอะไร? ส่วนหนึ่งของภาพน่าสนใจจึงตัดมาใช้ คุกกี้คามุอิ
(1 ม.ค. 2567 03:56:23 น.)
No. 1259 สาระเกือบมี (ตอนทำงานที่ใหม่ ถูกลองดี) ไวน์กับสายน้ำ
(1 ม.ค. 2567 05:58:05 น.)
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
  
ผมว่าต้องแต่งเองครับ สร้างทักษะเอง

ดีที่สุด
โดย: I will see U in the next life. วันที่: 25 ธันวาคม 2548 เวลา:11:06:16 น.
  
เห็นด้วยครับ สร้างอะไรด้วยตัวเอง เจ๋งกว่า 100 เท่าครับ!

ปล. มิน่าล่ะครับ เพลงประกอบโฆษณาหลายเพลง (พวกเครื่องสำอางอย่างครีมทาหน้าและยาสระผมเนี่ย ตัวดีเลย) มักจะหาเพลงจากต่างประเทศมาแปลงๆ นิดๆ น่อยๆ เป็นการหลบหลีก แย่มากๆ ครับ ;)
โดย: BAYROCKU วันที่: 25 ธันวาคม 2548 เวลา:11:52:44 น.
  
To : คุณ I will see U in the next life.

ไม่ใช่เรื่องยากที่คนไทยจะแต่งเองหรอกค่ะ แต่ ในงานนี้ การคงกลิ่นอาย และความหมาย รวมถึงคุณค่าทางจิตใจ ของคนเขียนบทต่างหาก ที่เราต้องแคร์ และต้องให้เขา พร้อมยอมรับ และ คนที่จะมาทำ ต้องมีฝีมือที่เดียว

การที่จะทำเลียนให้ได้ดี นั้น และเงื่อนไขต่างๆที่ให้เขาไป เป็นโจทย์ที่ยากมาก


To: คุณBAYROCKU

ไม่ใช่ว่า คนทำโฆษณาเหล่านั้น ไม่อยากจะจ่ายค่าลิขสิทธิ์นะ แต่ว่า เงื่อนไขการติดต่อซื้อน่ะมันยุ่งยากมาก ไม่ทันกับแผนการตลาดค่ะ

คนไทยที่ทำดนตรี สมัยนี้ น่ะ ทำไมเขาต้องไปลอกทำนอง ของคนอื่นน่ะเหรอคะ ว่างๆจะมาเล่าให้ฟังค่ะ แต่วันนี้ คุยเรื่องนี้ อยากจะบอกว่า เพิ่งจะรู้ว่า มีประโยชน์ก็คราวนี้จริงๆค่ะ BAYROCKU To : คุณ I will see U in the next life.
โดย: เอ็นจัง IP: 61.91.173.36 วันที่: 27 ธันวาคม 2548 เวลา:1:11:39 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Enjung.BlogGang.com

เอ็นจัง
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]