2.2
“ใช่ อย่างที่แก้วพูดนั่นแหละ ถ้าฮ่องเต้เดิมเก่ง ชาวบ้านอยู่ดีกินดีมีสุข คงไม่มีใครอยากลุกมาต่อต้านให้เสียเลือดเนื้อและไพร่พลหรอก อยู่ดี ๆ ลุกมาต่อต้าน ใช่ว่าจะทำกันได้ง่าย ๆ เสียเมื่อไหร่ล่ะ ต้องทนไม่ไหวกันจริง ๆ และอย่างเหลืออดเหลือทนด้วย เลยมีแรงฮึดสู้กับอำนาจเก่า”
ขวัญพูดเพิ่มเติม อย่างนักวิชาการอภิปรายกัน
“มันต้องคิดอย่างละเอียดลออ และรอบด้าน มันต้องเกิดจากเหตุหลายเหตุจริง ทุกอย่างมันเข้ามาพร้อมกันจริง ๆ ทั้งผู้นำเก่าที่แย่ ผู้นำใหม่ที่เก่งกาจ และชาวบ้านที่ลำบากจำนวนมาก ชนิดที่คิดว่า ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วมารวมตัวกันด้วยความรู้สึกที่แรงกล้า จนยอมเสี่ยงตาย ตายเป็นตาย อะไรทำนองนั้น”
สิงห์เอ่ยขึ้นมาบ้าง “มันเป็นเรื่องใหญ่จริง ๆ แต่มันเกิดขึ้นมาแล้ว ณ ดินแดนอันไกลโพ้น ที่ชาวนาก้าวขึ้นมาเป็นฮ่องเต้”
ทั้งหมดได้พูดคุยเสวนาราวกับผู้มีความรู้ แต่กระทำภายในห้องหอมิดชิด
 
ถึงจะเป็นมหาดเล็กใหญ่โต แต่เรื่องเช่นนี้ไม่มีใครเขาพูดกัน เป็นเรื่องสูงที่มิบังควรพูดถึงในที่แจ้ง นอกจากแอบซุบซิบ ป้องปากกันเงียบ ๆ ให้รู้กันเฉพาะพวกตน
จมื่นสิงห์และคุณหลวงขวัญ คุณหลวงแก้ว เข้าใจดี
ถ้ามีบางคนแอบมาได้ยิน แค่บางบทบางตอน ฟังไม่ศัพท์จับมากระเดียด ใส่สีใส่ไข่ แล้วพวกนั้นหาเรื่องไปรายงาน ทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดใส่ร้ายป้ายสี ในข้อหากบฏคิดล้มล้างอำนาจล่ะ คอขาดบาดตายเชียวนะ
โดยเฉพาะพวกที่ไม่ชอบขี้หน้า เห็นว่า พวกนี้ชักก้าวกระโดดเร็วเกินไปเสียแล้ว ขัดแข้งขัดขามันบ้าง เผื่อมันจะล้ม หกล้มหกลุก หกขะม่ำคว่ำคะเมน
“อำนาจเป็นสิ่งหอมหวาน ไม่ว่าใครเมื่อมีโอกาสย่อมปรารถนาด้วยกันแทบทั้งหมดทั้งสิ้น คงยากที่จะยอมปล่อยหรือวางมือง่าย ๆ เมื่อรู้ว่ามีผู้คิดจะมาแย่งชิงอำนาจ สู้เป็นสู้ ไม่ยอมถอยง่าย ๆ แล้วอะไรจะเกิดขึ้นรึ ถ้าไม่ใช่การต่อสู้อย่างโรมรัน”
สิงห์ทำเสียงต่ำ ๆ แล้วกล่าวต่อ “ผู้มีอำนาจตัวจริง ได้แต่ชี้นิ้วสั่งการ ใครล่ะตายก่อน ถ้าไม่ใช่พวกทหารชั้นผู้น้อย กับชาวบ้านที่ไม่รู้ประสีประสา พี่ล่ะเวทนาจริง ๆ กับเรื่องราวแบบนี้ และตั้งใจไว้เลยจะไม่ทำ หรือหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุด จะไม่ให้เกิดสงครามกลางเมือง แย่งชิงอำนาจกันเป็นแน่”
“พี่ท่านกล่าวราวกับจะให้สัตย์สาบาน ปฏิญาณ อย่างไรอย่างนั้นเลยนะ พอถึงเวลา ความจำเป็น มันอาจจำต้องทำ แม้นไม่อยากทำ แม้นไม่เต็มใจทำ อย่างไรก็ตาม กระผมรู้สึกดีเมื่อได้ยินพี่ท่านกล่าวเช่นนี้ และหวังว่า พวกเราคงจะไม่จำเป็นต้องทำสิ่งเลวร้ายเช่นนี้”
แก้วกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความยินดีอย่างจริงใจ
“ถึงมาดพี่ท่านจะเข้มสักนิด วาจาแรงสักหน่อย แต่น้ำใจนี่สิช่างตรงข้าม ใจดี ใจอ่อนเป็นที่สุด ใช่ไหมขอรับ”
ขวัญทำเสียงเล็กเสียงน้อย เหมือนจะแหย่สิงห์กับแก้วให้หายจริงจังเกินเหตุ ทำให้บรรยากาศการพูดคุยค่อยเย็นลง ทั้งสิงห์และแก้วเลยหัวเราะออกมาดังลั่น
“ระวังตัวให้ดีเถอะ มาล้อเลียนพี่ท่านได้เยี่ยงไร”
แก้วทำเสียงเล็กเสียงน้อยตอบ “ระวังนะ หัวจะหลุดจากบ่าไม่รู้ตัว”
“เอาล่ะ ๆ ถึงข้าจะพูดจริงจังไปบ้าง แต่ทุกอย่างมาจากใจ และตั้งใจทำจริง ๆ ไม่ได้มาพูดหาเสียงให้ผู้คนเยินยอ เพราะพวกเรากันเองแท้ ๆ สิ่งที่เรียนรู้ในวันนี้คือการเป็นผู้นำต้องเก่งกาจ ฉลาดเฉลียว มีสติปัญญาเป็นเลิศ ข้อสำคัญต้องรักชาวบ้านด้วยใจจริง หวังให้ทุกผู้คนใต้หล้ามีแต่ความสงบสุข สบายใจ แค่นี้คงไม่มีใครบังอาจมาแย่งแผ่นดินไปได้ดอก จริงไหม น้องเรา แต่ไอ้ที่พูดกันมาตั้งนานนี่ ยังไม่มีใครได้อำนาจมาครอบครองจริง ๆ สักคน”
สิงห์กล่าวสรุปสุดท้าย ก่อนจะแยกย้ายจากกัน
 
อำนาจที่หมายปอง
อาจได้มาโดยยากหรือง่าย
เมื่อได้มาครอบครอง
ชาวประชาต้องมาก่อน
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ความทะเยอทะยานอยากได้ใคร่ดี หมายปองในอำนาจสูงสุด ย่อมเป็นแรงจูงใจและแรงผลักดันให้ชีวิตมุ่งตรงไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและมีทิศทางมากขึ้น
 
สิงห์ตำแหน่งจมื่นใหญ่โตมิเบา คิดการณ์ใหญ่ แต่มันแค่สุมอยู่ในอก แม้แต่แก้วกับขวัญผู้ระแคะระคายบ้าง ยังมิกล้าฟันธง ด้วยเป็นเรื่องใหญ่และไกลเกินตัว
ถึงจะรู้ว่า ชาวนาก้าวขึ้นมาเป็นฮ่องเต้ในเมืองจีนได้ แต่มันจะเป็นไปได้ในเมืองนี้รึ
ทั้งสามต่างเติบโตมาด้วยกัน เล่นและเรียนรู้คล้าย ๆ กัน แต่กำพืดและปมในใจย่อมต่างกัน
ขวัญและแก้วไม่บังอาจหมายปองของสูงก็จริง แต่พร้อมจะก้าวเคียงบ่าเคียงไหล่กับสิงห์
ในใจสิงห์ ขบคิดอย่างจริงจัง ถ้านะ ถ้ามันมีโอกาสแวบผ่านเข้ามา ตนคงคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ทัน แต่ถ้าโอกาสไม่มี และมาไม่ถึงล่ะ จะทำเยี่ยงไรต่อ
จากเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า “ตนคือลูกขององค์เจ้าเหนือหัวที่ปกปิดไม่เปิดเผย เพราะพระสนมนั้นดุมาก ไม่ยอมให้น้องเป็นสนมและมีลูก เสียงอื่น ๆ ส่วนใหญ่พอสรุปได้ว่า ตนนั้นเป็นพระโอรสลับในองค์เจ้าเหนือหัวแน่ ๆ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นองค์พี่หรือองค์น้อง และไม่แน่ชัดว่า ใครคือแม่ที่แท้จริง”
เรื่องปมแห่งชาติกำเนิดอันไม่แน่ชัดนี้ เกาะกุมกัดกร่อนในหลืบซอกของหัวใจมาเนิ่นนานตั้งแต่พอจำความได้ และมีเสียงซุบซิบพูดถึงในทำนองนี้เรื่อยมา
แต่กระไรเลย หามีแม้ผู้หนึ่งผู้ใดกล้ายืนยันในความจริงแห่งถ้อยคำเหล่านี้ไม่ แม้แต่เพียงผู้เดียว ทำให้ใจดวงน้อย ๆ นี้ทะเยอทะยานอยากตามประสาปุถุชนคนธรรมดาเรื่อยมา
ใครล่ะจะไม่ดีใจ ไม่ภาคภูมิใจ ถ้าเรื่องนี้เป็นจริง
ตนนั้นมีสายเลือดสีน้ำเงินแห่งกษัตริย์ผู้สูงส่งและมีอำนาจเต็มเปี่ยมบนผืนแผ่นดิน
ไม่ใช่เป็นแค่ลูกขุนนาง
น่าสงสัยไหมล่ะ ทำไม เหตุใดตนจึงมีอภิสิทธิ์มากถึงเพียงนี้ เหตุไรกันแน่นะ
ไม่รู้ว่า ด้วยสายเลือดแห่งกษัตริย์ที่มีอยู่ในกายจริง หรือด้วยความคิดอ่านที่ก่อร่างสร้างตัวจากคำซุบซิบทำให้เจ้าตัวอดไม่ได้ที่จะแอบคิดในใจเสมอมาว่า ตนนั้นคือส่วนหนึ่งแห่งราชวงศ์สุริเยนทร์
ฝันเฟื่องนี้ทำให้อดละเมอเพ้อพกไม่ได้
สักวันหนึ่งเถอะ ตนจะนั่งบัลลังก์และถือครองอำนาจสูงสุด
“แค่ชาวนาธรรมดาคนหนึ่งยังมีโอกาสเป็นฮ่องเต้ แล้วเขาล่ะมีสายเลือดขององค์เจ้าเหนือหัวอยู่แท้ ๆ เหตุไฉนจะขึ้นครองราชย์บ้างไม่ได้”
คำรำพึงรำพันอย่างน้อยใจ ในคนที่คิดว่าเป็นพ่อแต่ไม่ยอมเปิดเผยความจริง ก่อให้เกิดแรงทะยานอยากอย่างแรงกล้าขึ้นมาในก้นบึ้งของหัวใจทุกครั้งที่นึกถึง แต่ไม่กล้าเปิดเผยให้ผู้ใดล่วงรู้
ความรู้สึกอัดอั้นตันใจที่อัดแน่นอยู่ภายในใจ ทั้งน้อยใจในโชคชะตา ทั้งลังเลสงสัยว่าเป็นจริงมากน้อยเพียงใด ทั้งความทะยานอยากได้ใคร่ดีให้เสมอทัดเทียมกับพระโอรสองค์อื่น ทำให้สิงห์มีพลังในใจสูงล้นเต็มเปี่ยมเหนือกว่าคนทั่วไป แล้วมันจะระเบิดออกมาอย่างรุนแรงเพียงใด หรือแค่สุมอยู่ในอกตราบชั่วนิจนิรันดร์
“มันคงไม่ยากเย็นเข็ญใจสักเท่าใดกระมังกับการก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าเหนือหัวแห่งกรุงราฐมัณฑ์ จังหวะมี โอกาสมา คงจะได้สมใจปรารถนา ใครจะไปรู้ล่ะกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง
เมื่อมีสายเลือดของเจ้าเหนือหัว แม้นจะไม่แน่ชัด แต่ย่อมไม่ใช่ชนชั้นไพร่หรือพวกขุนนางแน่นอน เป็นลูกขุนนางที่มีโอกาสอันดีใกล้ชิดเจ้านาย อย่างน้อยจะต้องได้ยศถาบรรดาศักดิ์สูงส่งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
สิงห์คิดเรื่อยเปื่อยตามลำพังคนเดียวถึงชาติกำเนิดอันไม่แน่ชัด และอนาคตที่ยังมาไม่ถึง
ใช่ อย่างน้อยต้องทะยานไปให้สุดแรงเกิด สูงที่สุดเท่าที่จะมีแรงบิน ไกลที่สุดเท่าที่จะไปได้ ไม่ย่ำต๊อกอยู่กับที่อย่างไร้จุดหมายเป็นแม่นมั่น
ทุกครั้งที่น้อยใจ ทุกครั้งที่คิดคำนึงถึง ย่อมเกิดพลังที่เพิ่มพูนมากขึ้น แล้วพลังนี้ระเบิดออกมา ด้วยการฝึกปรือฝีมือให้โดดเด่นเหนือใคร ๆ
แรงผลักดันในใจที่สูงล้น ก่อเกิดแรงจูงใจที่จะทำทุกสิ่งให้สำเร็จเสร็จสิ้น
 
แรงผลักดันให้ขยันหมั่นฝึกซ้อมวิทยายุทธ์และอ่านเขียนเรียนหนังสือ เพื่อเตรียมพร้อมว่า สักวันเมื่อโอกาสมีจังหวะมา ตนพร้อมจะคว้าโชคชัยเหล่านั้น อย่างไม่อายฟ้าอายดินทีเดียว และได้ดีเด่นเหนือกว่าผู้ใดด้วยซ้ำ
บางคนได้แต่นอนรอคอยโชคชะตา
เมื่อโชคจรพัดผ่าน กลับคว้าโชคนั้นไม่ทัน
ด้วยไม่พร้อมที่จะรับโชคที่บังเอิญพัดผ่านมา
สิงห์พร้อมรับจังหวะและโอกาสดี ๆ ที่จะเข้ามา ถึงแม้โชคชะตาดี ๆ จะผ่านเข้ามาเพียงชั่วแค่กระพริบตา เชื่อแน่ว่า เขาย่อมคว้าไว้ได้ทันท่วงทีเป็นแน่ ไม่ขอนอนรอคอยโชคชะตา แต่จะสร้างโอกาสให้แก่ตัวเอง
 
สิ่งดีงามที่จะสร้างโอกาสก้าวหน้าในชีวิต
เกิดขึ้นได้ ด้วยพลังใจที่เข้มแข็ง ฝีมือที่ฝึกปรือ
รอจังหวะดี ๆ มาหนุนส่งอีกนิดหน่อย ก็เท่านั้นเอง
ทุกสิ่งจะได้ดังใจฝัน แน่นอน
 
ความน้อยใจที่เคยมีในวัยเด็ก ความไม่แน่ชัดกำกวมถึงชาติกำเนิด
เป็นแรงผลักดันให้สิงห์พร้อมจะก้าวไปข้างหน้าให้ไกลที่สุด
การฝึกฝนวิทยายุทธให้เก่งกาจเหนือกว่าใคร ๆ
การใฝ่รู้ใฝ่เรียนให้รู้รอบมากกว่าใคร ๆ
เป็นสิ่งที่บอกกับตัวเองว่า เป็นวิธีที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
หลายครั้งยามอยู่คนเดียว สิงห์มักฝันเตลิดไปไกลว่า ถ้าเขาได้มีโอกาสเป็นเจ้าเหนือหัว เขาจะทำอะไรบ้าง แผนการนี้เป็นไปอย่างละเอียดลออ ราวกับว่า โอกาสการเป็นเจ้าเหนือหัวนั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อม อยู่แค่ลัดนิ้วมือเดียวก็ถึง
ฝันกลางวันว่าการเป็นเจ้าเหนือหัวนี้ เป็นสิ่งที่สร้างความสุขให้แก่สิงห์มากที่สุด แต่เป็นเรื่องที่แอบปกปิด ไม่อาจเล่าให้ใครฟังได้
ถึงแม้นเขาผู้นั้นจะเป็นเพื่อนสนิทเพียงใดก็ตาม เพราะหัวอาจหลุดจากบ่าโดยไม่รู้ตัว
ถ้ามีแม้นเพียงหนึ่งที่ล่วงรู้ความคิดที่อยู่ในใจนี้ แล้วเที่ยวเอาไปโพนทะนา ตายชัด ๆ เห็นอยู่
แต่หารู้ไม่ว่า เพื่อนทั้งสองรู้อยู่แก่ใจถึงจะไม่ได้พูดออกมาโต้ง ๆ เหมือนตอนเป็นเด็กเล็กก็ตาม แต่สีหน้าแววตามันฉายแววออกมาทุกครั้งที่พูดกันถึงเรื่องของอำนาจ
รู้อยู่เต็มอกว่า สิงห์ผู้พี่นี้ คิดอ่านเช่นไร แรงทะยานอยากมีมากเพียงใด
 
ฝ่ายแก้วนั้นได้แอบพูดคุยกับขวัญถึงเรื่องนี้เช่นกัน
“พี่ขวัญรู้หรือไม่ว่า พี่สิงห์นั้นคิดอ่านเช่นไรกับเรื่องที่พวกเราเพิ่งอ่านกันมา”
แก้วถอนหายใจดัง “เฮ้อ” เฮือกใหญ่ ด้วยความห่วงใยในพี่สิงห์ ด้วยคิดว่าพี่ท่านต้องหมกมุ่นครุ่นคิดในเรื่องนี้ต่อแน่ ๆ และอย่างจริงจังเสียด้วย ซึ่งไม่รู้ว่า ผลลัพท์ต่อไปจะเกิดสิ่งใดในภายภาคหน้า
“แน่นอนอยู่แล้ว แต่พวกเราไม่ต้องไปย้ำหรือพูดเรื่องนี้ให้บ่อยนัก เราต้องเข้าใจหัวอกของพี่ท่านว่าน้อยใจในชาติกำเนิด ถ้าเป็นพระโอรสในเจ้าเหนือหัวจริง ทำไมจึงต้องปกปิด ปล่อยให้อึมครึมเช่นนี้เล่า เป็นใครก็ต้องน้อยใจกันทั้งนั้นแหละ อย่าไปกระตุกหนวดเสือเลย ปล่อยให้นอนสงบเช่นนี้ดีแล้ว” ขวัญกล่าวตอบ
“ยังดีหน่อยนะ ที่พี่ท่านคงไม่ใช้วิธีรุนแรงก้าวร้าว หรือทำให้เกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โต”
แก้วรำพึงอย่างค่อนข้างมั่นใจในตัวของสิงห์ว่า ถึงแม้นความหวังในอำนาจมีมากเพียงใด แต่ในใจที่ไม่ต้องการให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องต้องมาตายตกด้วยเรื่องเช่นนี้ คงไม่มีวันยอมทำเป็นแน่
“ใช่ พี่ท่านเป็นคนฉลาดล้ำลึก คงไม่โต้ง ๆ ทำอะไรผลีผลามหรอก ต้องสู้แบบคนมีชั้นเชิง และต้องได้ในสิ่งที่ต้องการด้วย เพียงแต่ต้องทำอย่างสุขุมและเล็งผลเลิศ” ขวัญตอบอย่างมั่นใจ
ทั้งสองคุยเรื่องนี้ต่ออีกสักครู่ แล้วลาจาก พร้อมย้ำแก่กันว่า ไม่จำเป็นอย่าพูดเรื่องเช่นนี้อีก รังแต่จะทำให้สิงห์วิตกกังวลและเครียดมากเกิน
 
            ไม่ว่ายุคใดสมัยใด ถ้าคุยเรื่องการเมือง ต้องเลือกคุยกับคนคอเดียวกันเท่านั้น ถ้าคุยกับคนคิดต่าง มีหวังวงแตกก่อนจะคุยจบ ยิ่งอยากคุยเพื่อเอาชนะหรือเปลี่ยนใจ ดีไม่ดีอาจโดนรุมตึ๊บจนตัวน่วมไปก่อน จึงต้องเลือกว่าคุยเอามันส์กับคนคิดเหมือน หรือจะคุยเอาชนะกับคนคิดต่าง มันต่างกันเยอะ
           ใช่ว่าคนสนิทชิดชอบ ญาติสนิทมิตรสหายจะคอเดียวกันเสมอไป ช่วงแรกอาจคุยเอาใจ เสมือนคอเดียวกัน สักพักความในใจจะพรั่งพรู ตอนนั้นแหละวิวาทะจะเกิดขึ้น ความบาดหมางจะเกิดตามมา กลายเป็นรอยร้าวที่ยากจะสมานคืนเป็นเนื้อเดียว
            การเมืองเป็นเรื่องของอารมณ์มากกว่าเป็นเรื่องของเหตุผล
การเมืองเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต เปลี่ยนผืนแผ่นดิน พลิกชีวิตผืนน้ำได้อย่างง่าย ๆ แต่กลับไปใช้คำว่า เล่นการเมือง เพื่อแย่งชิงอำนาจสู่ความเป็นใหญ่ ยิ่งอำนาจสูงเท่าใด การช่วงชิงเพื่อให้อำนาจมาเป็นของตน ยิ่งดุเดือดเลือดพล่านเข้มข้นมากขึ้นเท่านั้น
            คนที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรง แต่เป็นพวกลิ่วล้อ แม้แต่แค่พวกที่นิยมชมชอบแต่ไม่ได้ผลประโยชน์อันน้อยนิดด้วยแม้สักน้อยหน่อยนึง ก็ยังร่วมพลอยฟ้าพลอยฝนสนุกสนานกับการช่วงชิงอำนาจ กับกลุ่มเจ้าของอำนาจฝ่ายตนไปกับเขาด้วย โดยเข้าร่วมขบวนการทั้งทางตรงและทางอ้อม   
            การชื่นชมพวกของตน และด่าทอฝ่ายตรงข้ามอย่างเปิดเผยเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความร้าวฉานให้เกิดขึ้นในสังคม และรอยร้าวนี้ลึกและขยายวงกว้างขึ้นไปเรื่อย ๆ จนดูเหมือนจะไร้ขอบเขต แล้วในที่สุด สิ่งที่ทุกผู้คนไม่ได้ตั้งตัวอาจถึงขั้นไม่มีแม้แผ่นดินให้อยู่อาศัยอย่างคนเจ้าของแผ่นดิน
            นี่กระมัง เขาถึงห้ามคุยการเมืองกับคนคิดต่าง เพราะรังแต่จะเกิดเรื่อง ไม่ยอมตั้งใจฟังว่า เกิดสิ่งใดขึ้นบ้าง ไม่อาศัยข้อเท็จจริง หรือข้อมูลของฝ่ายตรงข้ามมาแทรกกลางหว่างหัวใจแม้แต่น้อยนิดไม่       
 
            ใช่ว่าทั้งสามจะใช้ชีวิตไปวัน ๆ เช่นคนทั่วไป ที่กินเที่ยวเล่นอย่างไร้จุดหมายในชีวิต
พวกเขามุมานะฝึกปรือฝีมือทางการรบและศึกษาตำราพิชัยสงครามอย่างขมักเขม้นอย่างคนที่มีจุดหมายปลายทางของชีวิตชัดเจน พร้อมจะก้าวไปสู่ความฝันอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย แม้จะเป็นก้าวเล็ก ๆ ก็ตาม แต่เป็นก้าวที่มั่นคงยิ่งนัก
            คนเก่งที่มีอุดมการณ์ มีจิตใจอันแน่วแน่ มีความเพียรพยายามอันแรงกล้า ย่อมนำพาตนไปถึงจุดสูงสุดของชีวิตที่ต้องการได้เสมอ ไม่เว้นแม้แต่ผู้ใด
 
            ยุคนี้เป็นช่วงที่กรุงราฐมัณฑ์เจริญรุ่งเรือง มีชาวต่างชาติมาค้าขายและรับราชการจำนวนมาก การใช้เวลาพบปะกับคนต่างชาติต่างภาษาเพื่อเรียนรู้วิทยาการในโลกอีกฝั่งหนึ่งที่เจริญรุ่งเรืองกว่า
เป็นสิ่งที่ท้าทายยิ่งนัก
            เพราะความมุ่งมั่นที่จะเจริญก้าวหน้า ณ กรมทหารมหาดเล็กวังหลวง กรุงราฐมัณฑ์
จากสิงห์มหาดเล็กวิเศษ ได้ก้าวหน้าเป็นถึงสิงห์หัวหมื่นมหาดเล็ก เมื่ออายุเพียง 17 ปี ก้าวข้ามมาเคียงคู่ตำแหน่งจมื่นสรรเพชญภักดี จมื่นเสมอใจราช จมื่นไวยวรนารถมาโดยไม่ยาก
            สมัยนั้นผู้คนมีอายุไม่ยืนยาวนัก อายุเพียงน้อยนิดได้เริ่มทำงานกันแล้ว เป็นหนุ่มเป็นสาวกันเร็วขึ้น เพราะอายุแค่ห้าสิบลาจากไปสวรรค์กันเกือบหมดสิ้น ใครอยู่ยงมาได้หกสิบนับว่าอายุยืนมากแล้ว
            สมัยนี้น่ะเหรอ กว่าจะแต่งงาน กว่าจะมีลูก แทบจะหมดน้ำยากันแล้ว กว่าจะลาจากโลก บางคนปาเข้าไปเกือบร้อย เมื่อเทียบอายุจึงไม่ต้องตั้งข้อสงสัย ด้วยต่างกันเรื่องกาลเวลาของบริบท
 
            สิงห์หัวหมื่นมหาดเล็ก มีอำนาจทางทหารในกรมทหารรักษาพระองค์ ขวัญได้เป็นรองเจ้ากรมทหารรักษาพระองค์ และแก้วได้เป็นรองเจ้ากรมพระตำรวจหลวง
 
            ด้วยความทะเยอทยานมักใหญ่ใฝ่สูง และรู้ว่า ไม่ใช่เฉพาะพระโอรสเท่านั้นที่มีสิทธิ์สืบครองราชสมบัติต่อจากพระบิดา แต่ด้วยการล้มล้างการปกครอง
            สิ่งที่ทั้งสามครุ่นคิดสงสัย มันเป็นไปได้ในพงศาวดารจีน แต่ที่กรุงราฐมัณฑ์ย่อมไม่มีทางเป็นไปได้แน่ เพราะอัธยาศัยชาวราฐมัณฑ์จงรักภักดีต่อสถาบันเจ้าเหนือหัวยิ่งนัก คงไม่มีผู้ใดบังอาจหรืออาจหาญมาล้มล้าง
            เมื่อสิงห์ได้เป็นหัวหมื่นมหาดเล็กนั้น นับว่าใหญ่โตมาก เพราะจมื่นเป็นใหญ่สุดที่คุมกรมทหารรักษาพระองค์ หรือเป็นนายทหารใหญ่คุมกองกำลังรักษาพระราชวังคุ้มกันความปลอดภัยให้แก่พระราชวงศ์ทุกพระองค์ โดยมีขวัญ และแก้วเป็นกองกำลังสนับสนุน เรียกว่า เป็นพวกเดียวกัน เออออ
ห่อหมกตามกันไปในทุกเรื่องราว
 
มุ่งมั่นตั้งใจแรงกล้า
เพียรพยายามแน่วแน่
มีหรือจะไปไม่ถึง
จุดหมายปลายทางที่หวัง
 



Create Date : 06 กรกฎาคม 2566
Last Update : 6 กรกฎาคม 2566 9:11:12 น.
Counter : 226 Pageviews.

0 comments
การปั่นจักรยานครั้งแรกในชีวิต chobkid
(18 มี.ค. 2568 15:40:28 น.)
๏ ... ท่าใหม่ในสภาเก่า ... ๏ นกโก๊ก
(15 มี.ค. 2568 16:58:11 น.)
สตรอว์เบอร์รีโรล (Strawberry Roll) ของร้าน Snackies (สแน็คกี้) Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
(14 มี.ค. 2568 10:56:30 น.)
:: ถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการที่ 372 :: กะว่าก๋า
(13 มี.ค. 2568 05:17:30 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Drpk.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]