มหกรรมอาหารที่ตลาดน้ำอัมพวา
ทริปนี้เกิดขึ้นได้เพราะความรักเมียของผม และความอยากประชดเพื่อนที่ทำงานของภรรยาโดยแท้ แต่ผมคงไม่เล่าในรายละเอียดถึงที่มาที่ไปอะไรให้มากมายนัก เพราะอาจจะทำให้บล็อคนี้ยืดยาวเกินความจำเป็น แต่ก็พอสรุปเหตุการณ์ทั้งหมดได้จากคำพูดของภรรยาผมที่ว่า “แ...่ง เสียเวลาแทบตาย สุดท้ายก็ไม่ไป กูไปกันเองก็ได้วะ” และนั่นก็คือที่มาทั้งหมดของทริปนี้...


โอ๋และโก้ เพื่อนซี้ของผม กับการทำเท่หน้า Jiffy

ผมออกเดินทางจากระยองกันตั้งแต่ 8 โมงเช้า เพราะในบรรดาคนที่ไปทั้งหมด 6 ชีวิต ไม่เคยมีใครไปอัมพวา หรือเฉียดกรายไปแถวสมุทรสงครามเลย ที่ยึดเหนี่ยวของเรามีเพียงแผนที่เล็กๆที่ Print ออกมาจากเว็ปไซด์ของทางรีสอร์ทเท่านั้น เราเลยตั้งใจว่าออกแต่เช้าไว้ก่อนน่าจะดี เผื่อเวลาหลงไว้กันพลาดด้วย โดยสมาชิกทั้งหมดในทริปนี้ประกอบไปด้วย ตัวผมและภรรยา น้องสาวภรรยา (ผู้ยอมสละเวลาจากการทำสวนมาพักผ่อนเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี) คุณน็อตโตะ (เพื่อนหนุ่มที่ขนเสื้อผ้าไปมากกว่าผู้หญิงทุกคนในทริปรวมกัน) ไอ้โอ๋ และไอ้โก้ เพื่อนซี้ร่วมก๊วนของผม โดยมี AVEO ของน็อตโตะ และน้องแจ๊ซซี่ของผมเป็นพาหนะ ที่ต้องใช้รถ 2 คัน เพราะอยากจะนั่งกันสบายๆคันละ 3 คน กะว่าขับตามๆกันไปเดี๋ยวก็ถึง (แต่เอาเข้าจริงกลายเป็นขับไล่กวดกันซะอย่างงั้น เพราะน็อตโตะขับรถเร็วมาก) และตามธรรมเนียมของการขับรถไปเที่ยว ไอ้เรื่องที่จะดิ่งยาวจนถึงที่หมายเลยถือเป็นเรื่องผิดบาป คณะของเราเลยแวะปั๊มเจ็ทกันเกือบจะทุกสาขาที่เจอ เดี๋ยวคนนั้นปวดฉี่ คนนู้นปวดอึ เดี๋ยวหิวน้ำ เดี๋ยวหิวหนม วุ่นวายกันอยู่แต่กับเรื่องกินเรื่องถ่าย แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ไปถึงรีสอร์ท ในเวลาแค่บ่ายแก่ๆ ก่อนเวลาที่เรือไปตลาดน้ำจะออกเกือบๆ 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว


บรรยากาศทั่วไปของรีสอร์ท

หลังจากแยกเข้าห้องพักชายหญิงพร้อมจัดเก็บข้าวของกันเสร็จสรรพ พวกเราก็เริ่มต้นฆ่าเวลาด้วยการถ่ายรูปกันในบริเวณที่พัก ซึงเป็นเรื่องบังเอิญมากๆที่ผม นังโอ๋ และไอ้โก้ ล้วนแต่ใส่เสื้อผ้าสีสดใสราวกับใช้คอสตูมของวง Buddha Bless ถ่ายรูปออกมาแล้วดูเจิดจรัสเอามากๆ เราเมามันอยู่กับการถ่ายรูป จนกระทั่งบ่ายสามโมง เรือที่ทางรีสอร์ทนัดไว้ก็มาถึง


เรือที่จะพาเราไปเที่ยวที่ต่างๆ ลำใหญ่ใช้ได้เลย

ที่แรกที่เรือพาเราไปแวะคือ “โบสถ์โพธิ์ปรก” ที่วัดบางกุ้ง อันซีนไทยแลนด์ของจังหวัดสมุทรสงคราม โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ยินดียินร้ายกับที่เที่ยวประเภทวัดวาอาราม หรือศาสนสถานอะไรแบบนี้เลย เข้าทำนองไปก็ได้ ไม่ไปก็ไม่เดือดร้อน เวลาที่ไปก็ไม่ได้มีความสนอกสนใจในเรื่องความเป็นมา หรืออิทธิปาฏิหารย์ใดๆทั้งสิ้น พามาก็เดินดูไปเรื่อยๆ ใจก็เร่งให้เค้าพาไปตลาดน้ำเร็วๆ เพราะสมาชิกส่วนใหญ่เริ่มจะหิวกัน (อีก) แล้ว เห็นอะไรวางขายอยู่แถวนั้นก็ดูน่ากินไปซะหมดแม้กระทั่งอาหารปลา ภรรยาผมหันไปเห็นรถเข็นขายไอศกรีมกะทิก็เกิดอยากกิน ในขณะที่กำลังจะแห่กันไปซื้อคุณลุงเจ้าของรีสอร์ท(ซึ่งทำหน้าที่เป็นไกด์ด้วย)ก็ปรี่เข้ามาขวางพร้อมคำแนะนำว่า “ร้านนี้ไม่อร่อยหรอก เดี๋ยวจะพาไปกินที่วัดบางแคน้อย อร่อยกว่านี้เยอะ” เมื่อเจ้าถิ่นแนะนำมาขนาดนี้ พวกเราก็เลยยอมอดใจรอ หลังจากที่ไปด้อมๆมองๆดูความงดงามของโบสถ์แบบเสียไม่ได้กันซักพักเดียว พวกเราก็แล่นกลับมาที่ท่าเรือเพื่อกระตุ้นให้ลุงไกด์พาไปที่วัดบางแคน้อยเร็วๆ เพราะใจอยากจะกินไอศกรีมกะทิสดเจ้าอร่อยกันเหลือเกินแล้ว


สภาพด้านหน้าของโบสถ์ ที่เต็มไปด้วยศรัทธาพาณิชย์ในแบบต่างๆ


ภายในตัวโบสถ์

จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่าที่วัดบางแคน้อยมีอะไรพิเศษ เพราะทันทีที่ไปถึงสิ่งแรกที่พวกเราทำก็คือการมองหาไอศกรีมกะทิสดเจ้าอร่อยที่ลุงไกด์บอก และก็ได้เห็นว่าที่ท่าเรือของวัดมันมีร้านไอศกรีมอยู่ 2 ร้าน ร้านแรกจะตั้งอยู่ด้านหน้า มีคุณพี่ผู้หญิงเป็นคนขาย อีกร้านตั้งอยู่เยื้องไปทางด้านหลัง มีพี่ผู้ชายกับคุณป้าผู้หญิงยืนขายอยู่ อ้าว... แล้วร้านอร่อยมันร้านไหนวะ ขณะที่กำลังยืนลังเลกันอยู่นั้นลุงไกด์ก็เดินมากระซิบด้านหลังด้วยน้ำเสียงที่ดังพอที่จะได้ยินทั่วกันทั้ง 2 ร้านว่า “ร้านด้านหลังอร่อย ร้านหน้าไม่อร่อยหรอก...” โอ้โฮ ลุงครับ ชัดเจนมากๆ เล่นซะเจ๊ร้านแรกยืนหน้าเจื่อนไปเลย ด้วยความเห็นใจเจ๊แก พวกผมเลยเดินอ้อมร้านแกกันไปแบบเงียบๆ แล้วพากันไปซื้อร้านที่ลุงไกด์แนะนำ (อ้าว... ก็แกเป็นเจ้าถิ่นนิ) แต่หลังจากที่ได้ชิมไอศกรีมร้านแนะนำของคุณลุงกันครบทุกคนแล้ว พวกเราก็เห็นพ้องต้องกันว่า พวก(กู)นี่เอง ที่น่าสงสาร ด้วยความสงสัยและอยากจะให้แน่ใจ ภรรยาผมลงทุนเดินไปซื้อไอศกรีมเจ๊ร้านแรกมา 2 ถ้วย หลังจากที่ได้ลองชิมกันแล้ว พวกเราทุกคนก็พยักหน้าให้กัน และนั่งกินไอศกรีม(ร้านเจ๊)กันต่อไปอย่างเงียบๆ.....


ลงเรือมาก็จะเจอสถานีตำรวจอัมพวา (บริการห้องน้ำให้นักท่องเที่ยวด้วยนะจ๊ะ)

หลังจากที่อดทนให้คุณลุงไกด์พาไปที่ต่างๆที่ไม่ได้อยากจะไปอยู่พักใหญ่ๆ ในที่สุดพวกเราก็มาถึงตลาดน้ำยามเย็น โดยมาลงเรือกันที่หน้าสถานีตำรวจอัมพวา คุณลุงไกด์ให้พวกเราเลือกว่าจะเดินกันหนึ่งชั่วโมงหรือชั่วโมงครึ่ง แน่นอนว่าสาวๆในทริปพร้อมใจกันเลือกอย่างหลัง ก่อนที่จะออกเดินคุณลุงยังแนะนำร้านขนมอร่อยๆอีก 2 – 3 ร้าน พวกเรารับฟังข้อมูลกันเป็นอย่างดี แต่พอนึกถึงรสชาติของไอศกรีมที่วัดบางแคน้อยแล้ว ทุกคนก็พร้อมใจกันลืมสิ่งที่ได้ฟังจนหมดสิ้น และเริ่มออกหาของกินตามใจอยากในทันที


ร้านขายหมึกย่าง หอยย่าง ตั้งดักนักท่องเที่ยวหิวโซเป็นร้านแรกๆ


หน้าตาน่ากินสุดๆ

หอมฉุยเตะจมูกมาแต่ไกลคือร้านขายหมึกย่าง หอยย่าง ขายเพียงชุดละ 50 บาท พร้อมน้ำจิ้ม 1 ถ้วย รสชาติจี๊ดจ๊าด (แปลว่ามันเปรี้ยว) มากๆ หลังจากรองท้องกันพอให้หายทุรนทุรายแล้ว พวกเราก็เริ่มออกเดินชมตลาดน้ำ ซึ่งวันที่ผมไปนี่คนเยอะมากๆ เรียกว่าไอ้เรื่องที่จะไปนั่งกินอาหารริมท่าน้ำนี่ลืมไปได้เลย เพราะแย่งชิงพื้นที่กันยิ่งกว่าเล่นเก้าอี้ดนตรี เลยได้แต่ไปชิมอาหารตามร้านที่อยู่บนฝั่ง อากาศก็ร้อนสุดๆ ขนาดที่ยืนดูอะไรไม่ได้นานเพราะมันร้อนจนหมดอารมณ์ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นตลาดที่มีเสน่ห์มากๆ เพราะสินค้าและการตบแต่งของร้านรวงต่างๆมันแสดงถึง”วิถีไทย”ที่ชัดเจนดีจริงๆ ดูแล้วทางจังหวัดและอบต.คงทุ่มเทกันไม่ใช่น้อยๆที่จะทำให้ทุกๆพื้นที่มีบรรยากาศของเมืองท่องเที่ยวได้แบบนี้ ขนาดที่ว่าให้นักท่องเที่ยวเข้าห้องน้ำบนโรงพัก (เวลาเข้าต้องเดินผ่านคุก) กันได้นี่ต้องถือว่าไม่ธรรมดา เรียกว่าส่งเสริมการท่องเที่ยวกันแบบเข้มข้นจริงจังกันมากๆเลยทีเดียว


อ่านป้ายถนนครั้งแรกแล้วตกใจ (ใจต่ำจริงๆเลยกู...)


ของกินมากมายมหาศาล


ที่นั่งริมน้ำเป็นทำเลที่ต้องแย่งชิงกัน


น้องคนนี้น่ารักสุดๆ (ครบสูตร ขาว สวย หมวย X ตัวเล็ก ดัดฟัน)


ท่าทางน่ากิน (แต่ก็ไม่ได้ซื้อ)


ร้านขายของที่ระลึกเก๋ๆ (ก็ไม่ได้ซื้ออีกนั่นแหละ)

หลังจากเดินชมตลาดกันจนเหงื่อแตกเหงื่อแตนแล้ว ลุงไกด์ก็พาเราไปล่องเรือดูหิ่งห้อยกันแถวคลองผีหลอก ซึ่งก็มีแสงวิบวับให้เห็นอยู่ประปราย ไม่ได้พร่างพราวสว่างไสวอย่างที่คิดกันไว้แต่แรก ลุงไกด์อธิบายเพิ่มเติมว่าปัจจุบันทางอบต.ออกระเบียบห้ามเรือนำนักท่องเที่ยวเข้าไปดูในระยะใกล้ๆ เนื่องจากจะทำให้หิ่งห้อยตกใจและมีอาจมีผลกับระบบนิเวศน์ ซึ่งไอ้โก้ก็ได้ตั้งข้อสังเกตว่าจริงๆแล้วนี่คือแผนของอบต.ที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยว เพราะความจริงหิ่งห้อยจริงๆมันน้อยลงไปมาก จนอบต.ต้องเอาหลอด LED มาติดตามต้นไม้และตั้งกฎห้ามเข้าใกล้ นักท่องเที่ยวจะได้ไม่รู้ ซึ่งทุกคนฟังแล้วก็พากันพยักหน้าหงึกหงัก เพราะไม่รู้จะออกความเห็นอะไรให้มันปัญญาอ่อนไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว

จากนั้นคุณลุงไกด์ก็พาเราไปกินอาหารร้านที่แกบอกว่าอร่อยมากๆ(อา...) ซึ่งความเหนื่อยผสมความหิวก็ทำให้รสชาติอาหารดูใกล้เคียงกับที่แกได้คุยไว้ มื้อนี้ทำให้พวกผมได้รู้จักคนเพิ่มอีก 2 คน คือพี่ออดและพี่วรรณ คู่สามีภรรยาที่จับพลัดจับผลูได้มาลงเรือลำเดียวกันกับพวกเรา จนสุดท้ายยังได้มากินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกันอีก ทีแรกกลุ่มผมก็เกร็งอยู่เหมือนกันที่มีคนแปลกหน้ามาร่วมโต๊ะ (ไม่ได้หยิ่งอะไร แต่กลัวว่าเค้าจะกินไม่เหมือนเรา) แต่เอาเข้าจริงก็คุยกันถูกคอเฮฮาดี ถือเป็นอีกสิ่งดีๆที่ได้รับจากการเปิดใจ



ในเช้าอีกวันก่อนกลับพวกผมลองแวะไปเยือนตลาดน้ำกันอีกครั้ง โดยคราวนี้ไปโดยเส้นทางรถยนต์ และพบว่าตลาดน้ำอัมพวาในยามที่ไม่มีคนพลุกพล่านเบียดเสียดกันนั้น น่าเดินเที่ยวกว่าวันที่แออัดคลาคล่ำไปด้วยฝูงชนเป็นไหนๆ ได้นั่งกินก๋วยเตี๋ยวเรือริมท่าน้ำกันแบบสบายๆ ทั้งอร่อยทั้งถูก ได้ลองชิมกาแฟร้านดัง และพบว่ากาแฟร้านที่ติดรูปดาราเอาไว้ประชาสัมพันธ์ซะมากมายนั้น อร่อยสู้ร้านกาแฟถูกๆในเรือก็ไม่ได้ ลองซื้อไส้กรอกอีสานและผัดไทมาชิมเล่นๆและพบว่ามันอร่อยมากๆ จนต้องกลับไปซื้ออีกรอบ หลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่ละเลยไปจากการผจญความร้อนเมื่อเย็นวาน เมื่อได้มาเห็นอีกครั้งในบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากขึ้นก็ทำให้สิ่งต่างๆเหล่านั้นดู”งาม”มากขึ้นด้วย


ของเล่นสังกะสี ของเล่นในความทรงจำของใครหลายๆคน (ผมซื้อกลับมาตั้ง 3 ตัว)

สรุปแล้วทริปนี้ถือเป็นอีกทริปที่สนุกมาก โดยกิจกรรมต่างๆอาจไม่ได้ทำให้สนุกเท่ากับการได้ไปเที่ยวกับเพื่อนที่รู้ใจ และถือว่าเป็นคน“เผ่า”เดียวกัน จะคุยจะเล่นอะไรก็ดูสนุกสนานเฮฮากันไปซะหมด จริงๆแล้วสิ่งที่สำคัญของการไปเที่ยวอาจจะไม่ได้อยู่ตรงที่ว่าเราจะไปที่ไหน แต่มันอยู่ที่ว่าเราจะไปกับใครต่างหาก



Create Date : 05 มกราคม 2551
Last Update : 5 มกราคม 2551 11:23:45 น.
Counter : 1610 Pageviews.

21 comments
ทริปอเมริกา #2 - ต่อเครื่องที่มะนิลา+ผ่านตม.แบบ fast trackที่นิวยอร์ค ฟ้าใสทะเลคราม
(18 เม.ย. 2567 18:15:13 น.)
วัดพระธาตุเสด็จ อำเภอเมือง ลำปาง tuk-tuk@korat
(14 เม.ย. 2567 13:54:44 น.)
ตลาดน้ำกวางโจว ดาวริมทะเล
(12 เม.ย. 2567 18:42:45 น.)
Bangsaen 21 The Finest Running Event Ever 2023 บางแสน แมวเซาผู้น่าสงสาร
(12 เม.ย. 2567 10:20:55 น.)
  
ตามมาเที่ยวด้วยคนจ๊ะ
เอ่อ แน่ใจเหรอคะว่านั่นน่ะชื่อถนนจริงๆ ไม่ใช่กองถ่ายหนังX/R อะไรใช่มั้ยจ๊ะ
ของเล่นสังกะสี สีสันสะดุดตามาก น่ารักดีค่ะ
โดย: ชินโจมายุ วันที่: 5 มกราคม 2551 เวลา:12:39:15 น.
  
555 แอบขำชื่อถนน ตอนไปเราไมคิดไม่ได้อย่างงี้บ้างว๊า



โดย: nam_sila วันที่: 5 มกราคม 2551 เวลา:13:34:27 น.
  
อิ อิ อ่านป้ายทีแรกก็ต๊กกะใจเหมือนกัน 555
เค้าน่าจะเว้นวรรคนิดนึงนะคะ



โดย: เอ๊กกี่ วันที่: 5 มกราคม 2551 เวลา:13:41:02 น.
  
ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ
น่าสนุกนะค่ะ มีความสุขมากๆค่ะ
โดย: whitelady วันที่: 5 มกราคม 2551 เวลา:18:07:44 น.
  
อยากไปๆ
เหงนองคนสวยแล้ว
ไม่กว่าเค้าตามมาเจอรูปตัวเองรึจ๊ะ
โดย: INLovE_doll วันที่: 5 มกราคม 2551 เวลา:18:51:15 น.
  
มาร่วมกิน เอ้ย ไปเที่ยวมหกรรมอาหารคับ (แค่ชื่อก็อยากไปสุดๆ แล้ว)
โดย: veeda วันที่: 5 มกราคม 2551 เวลา:20:05:33 น.
  
ปลาหมึกน่าทานจังเลย
โดย: ก้อย (Nachtigall ) วันที่: 6 มกราคม 2551 เวลา:2:01:23 น.
  

ตามมาเที่ยวด้วยคนคร๊าบบบ..

น่าไป + น่ากินจริงๆ
โดย: สะพานไม้ วันที่: 6 มกราคม 2551 เวลา:8:34:54 น.
  
ตอบคุณชินโจมายุ (มันแปลว่าอะไรเนี่ย) คุณnam_sila และคุณเอ็กกี่
เป็นชื่อถนนที่ล่อแหลมมากครับ ถ้าคนเรียบร้อยจะอ่านได้อีกอย่าง แต่ถ้าห่ามๆหน่อยเห็นแว่บแรกก็จะนึกไปอีกอย่างทันที ผมว่าก็เป็นสีสันดีนะครับ เข้าทำนอง"สองคนยลตามช่อง" อะไรแบบนั้นเลย
โดย: แฟนผมตัวดำ วันที่: 6 มกราคม 2551 เวลา:16:17:15 น.
  
ตอบคุณINLove_dall

น้องคนสวยมาเห็นไม่กลัวครับ แฟนเค้าอย่ามาเจอแล้วกัน

ตอบคุณVeeda

ถ้ามีโอกาสก็ลองไปดูนะครับ ที่นั่นของกินเยอะจริงๆ

ตอบคุณก้อย

ปลาหมึกอร่อยดีครับ แต่น้ำจิ้มมันเปรี้ยวไปหน่อย
โดย: แฟนผมตัวดำ วันที่: 7 มกราคม 2551 เวลา:11:09:34 น.
  
น้องคนที่น่ารักคนนั้นน่ะ

เหอ เหอ


ชอบอ่ะ

โดย: pukboong วันที่: 7 มกราคม 2551 เวลา:11:48:16 น.
  
ฮ่าๆๆๆ "ทริปนี้เกิดขึ้นได้เพราะความรักเมียของผม"

ปลาหมึกน่ากินจังเลยค่ะ เคยไปที่นี่หลายหนแล้ว แต่ไปแบบรีบๆ ร้อนๆ
ตั้งใจจะไปนอนเล่นสักคืนสองคืนก็ไม่เคยทำตามแผนได้สักที มาอ่านบล็อกแล้วสนุกมากเลยค่ะ อ่านจบ-เพลินเหมือนไปด้วยจริงๆ

เดี๋ยวไปสะกิดคนขับรถให้มาอ่านบล็อกคุณหน่อยดีกว่า เอิ๊กๆๆ
โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 7 มกราคม 2551 เวลา:19:02:20 น.
  

อ่านป้ายถนนครั้งแรกแล้วตกใจ (ใจต่ำจริงๆเลยกู...)
^
^
555555555555555555555

We are just the same
โดย: merveillesxx วันที่: 8 มกราคม 2551 เวลา:3:02:01 น.
  
เห็นแล้วอยากไปจริงๆ เลยค่ะ

โห...ปลาหมึกน่าหม่ำ ชุดละ 50 บาทเองเหรอคะ
ที่บางแสนจานเท่านี้ก็ปาไปร้อยกว่าบาท
แถมตัวเล็กอีกต่างหาก

55 ตอนแรกก็อ่านป้ายแบบคุณ จขบ.เหมือนกันค่ะ
แต่ไม่ทันได้ตีความหมายอะไร แค่อ่านเฉยๆ (จริงๆ)

ว้าว...ของเล่นสังกะสี
เกิดทันได้เล่นเหมือนกัน แต่ทำไมไม่เก็บสะสมเอาไว้น๊า
โดย: ~Baan_Ohana~ วันที่: 8 มกราคม 2551 เวลา:9:29:19 น.
  
ฮา......นาก้า...
โดย: ko IP: 124.157.140.26 วันที่: 8 มกราคม 2551 เวลา:9:30:36 น.
  
555 หายดีแล้วค๊า ไม่ต้องกลัวติดแล้ว

วันนี้มาชวนไปฟังเพลงด้วยค่ะ
โดย: ~Baan_Ohana~ วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:0:34:42 น.
  
5 5 5 ป้ายชื่อถนน
ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจนะคะ แต่พอ จขบ.บอก
คิดขึ้นมาทันทีเล้ย
โดย: grappa วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:11:35:10 น.
  
เลียบนที

กั๊กๆๆๆๆ โอย..ขำ
โดย: เอกภพสีน้ำเงิน IP: 202.28.69.34 วันที่: 18 มกราคม 2551 เวลา:18:18:07 น.
  
ไม่อยากจะบอกเลย ว่าอ่านป้ายถนนครั้งแรก ก้ออ่านแบบนั้นเหมือนกัน เอิ๊กๆ ไม่รู้ฝักใฝ่อะไรป่าวเนี๊ยะ เที่ยวทริปหน้าขอไปด้วยได้ป่าวคะ
โดย: Jib IP: 203.113.19.197 วันที่: 23 มกราคม 2551 เวลา:9:13:39 น.
  
+ 555 แว่บมาตามไปเที่ยวอัมพวาครับ สรุปว่าตอนนี้ผมก็อ่านบล็อกคุณโอ๊ตครบทุกหน้า (มั่ง) แล้วสินะเนี่ย ... ต้องขอบคุณที่อุตส่าห์ย้อนกลับไปอ่านหน้าเก่าๆ ของบล็อกผมด้วยนะขอรับ

+ โห! คิดได้ไงอ่ะคับ ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยนะเนี่ย แต่พอคุณโอ๊ตบอกปุ๊บ ก็คิดตามปั๊บเลยอ่ะคับ เหอๆๆ

+ เรื่องไกด์ท้องถิ่น ... ผมจะเซ็งๆ ก็แบบเนี้ยะแหละครับ บางคนเค้าไม่ค่อยจริงใจ มาแนวขายของ (ทั้งๆ ที่ของที่เค้าเชียร์ คุณภาพเห่ยเฟ่ยเหลือจะทน ) ส่วนมากก็เลยชอบเที่ยวแบบหาข้อมูลเอง แล้วไปลุยๆ เองเลยมากกว่าอ่า
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:18:32:18 น.
  
แต่มันอยู่ที่ว่าเราจะไปกับใครต่างหาก

จบท้ายได้ดี เพิ่งจะได้อ่านเองง่ะ อ่านแล้วขำดี ชอบๆ
โดย: butbbj วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:12:44:33 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Darkhr.BlogGang.com

แฟนผมตัวดำ
Location :
ระยอง  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]