ทนายอ้วนชวนเที่ยวอยุธยา - สะพานตุุ๊กตา พระราชวังบางปะอิน อยุธยา สถานที่ท่องเที่ยว : สะพานตุุ๊กตา พระราชวังบางปะอิน อยุธยา, อยุธยา Thailand พิกัด GPS : 14° 13' 54.49" N 100° 34' 42.42" E ช่วงนี้ไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหนเลยตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม อยู่บ้านตลอดครับ ออกไปหน้ารั้วบ้านยังไม่ค่อยออกไปเพราะก่อนเข้าประตูบ้านจะต้องพ่นแอลกอฮอร์ทั้งตัว ถูเจลทีมือถึงข้อศอก แล้วก็รีบเข้าไปล้างมือด้วยสบู่พร้อมกับร้องเพลง “ช้าง ช้าง ช้าง” 3 รอบเรย อิอิอิ ช่วงนี้เลยเป็นการเคลียร์คลังรูปสถานที่ท่องเที่ยวที่เคยไปมา (นาน) แล้ว แต่ยังไม่ได้เอามาโพสครับ บล็อก “ท่องเที่ยวไทย” บล็อกนี้เราจะพาไปเที่ยวพระราชวังบางปะอินกันครับ .... อย่าเพิ่งเบื่อนะครับที่พาเที่ยวทีละสถานที่ อยากให้ทราบประวัติความเป็นมาให้ละเอียดครับ หรือถ้าใครขี้เกียจอ่านก็เลื่อนเร็วดูรูปอย่างเดียวก็ได้ครับ สถานที่สำคัญในพระราชวังบางปะอินที่จะไปเที่ยวกันในบล็อกนี้อยู่ถัดจาก กระโจมแตร นิดเดียวครับ จริงๆก็อยู่ติดกันนั่นแหละครับ เป็นเส้นทางที่เราจะเดินไปยังพระที่นั่งวโรภาสพิมานก่อนที่จะเดินต่อไปเที่ยวชมพระราชฐานฝ่ายในครับ สะพานตุ๊กตา พระราชวังบางปะอิน สะพานตุ๊กตา เป็นชื่อเรียกเล่นๆนะครับไม่ทราบว่ามีชื่อจริงหรือเปล่า แต่เรียกตามลักษณะของสะพานที่มีรูปปั้นแบบโรมันที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงสั่งซื้อเข้ามาจากอิตาลี ประดับอยู่เรียงรายไปทั้งสองข้างตลอดสะพาน รูปปั้นทั้งหมดไม่ได้ทำจากหินอ่อนนะครับ แต่ทำจากปูน เพราะสามารถทนต่อฝนฟ้าอากาศได้มากกว่า สะพานตุ๊กตา เป็นสะพานข้ามสระน้ำใหญ่กลางพระราชวังบางปะอิน ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเลียนแบบสะพานข้ามแม่น้ำไทเบอร์ ในกรุงโรมประเทศอิตาลี ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() จากการที่เจ้าของบล็อกได้เคยไปเที่ยวอิตาลีมาแล้วสะพานเก่าแก่ที่ข้ามแม่น้ำไทเบอร์ซึ่งไหลผ่านกลางกรุงโรมมีหลายสะพานมากๆ แต่เท่าที่เคยเดินข้ามไปข้ามมาแล้วเจ้าของบล็อกเห็นว่าเหมือนสะพานตุ๊กตาก็มี 2 ที่ คือ สะพาน Ponte Vittorio Emmanuelle ll ซึ่งข้ามจากฝั่งกลางกรุงโรมไปยังกรุงวาติกัน และอีกสะพานนึงก็เป็นสะพานเก่าเหมือนกันคือ St. Angelo Bridge ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยจักรพรรดิ Hedrian ของกรุงโรม สร้างข้ามแม่น้ำไทเบอร์จากฝั่งกรุงโรมข้ามไปยัง ปราสาทซังตังเจลโล (Castle Sant’ Angleo) ซึ่งเป็นป้อมรูปห้าแฉกเหมือนรูปดาว ![]() ทั้ง 2 สะพานนี้มีรูปปั้นประดับสะพานเหมือนๆกัน ต่างกันนิดหน่อยตรงที่ สะพาน Ponte Vittorio Emmanuelle ll จะประดับด้วยกลุ่มรูปปั้นลอยตัวเป็นช่วงๆ ไม่เรียงรายตลอดสองข้างสะพาน แต่ที่เหมือนกันกับสะพานตุ๊กตาคือที่ St. Angelo Bridge ที่สร้างข้ามแม่น้ำไทเบอร์จากฝั่งกรุงโรมข้ามไปยัง ปราสาทซังตังเจลโล (Castle Sant’ Angleo) ที่สองข้างราวสะพานนี้ประดับด้วยรูปปั้นทั้งที่เป็นกลุ่ม และเป็นรูปปั้นเดี่ยวๆ ตลอดสองข้างราวสะพาน นี่เป็นรูปถ่ายจากการที่เจ้าของบล็อกไปเที่ยวกรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อหลายปีก่อนโน้นครับ สะพาน Ponte Vittorio Emmanuelle ll (ไม่มีรูปถ่ายบนสะพานนะครับ มีแต่รูปถ่ายจากสะพาน St. Angelo Bridge เพราะอยู่ใกล้ๆกันครับ) ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() St. Angelo Bridge ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() แต่เจ้าของบล็อกไม่ฟันธงนะครับว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระดำริที่จะสร้างสะพานตุ๊กตามาจากสะพานในกรุงโรม ประเทศอิตาลี 2 แห่งนี้ ยิ่งไปกว่านั้นไม่มีผู้รู้คนไหนคอนเฟิร์มเลยครับ เพียงแต่ว่าเวลาเห็น สะพานตุ๊กตา ทีไร เจ้าของบล็อกจะนึกถึงสะพานทั้ง 2 แห่งนี้ทุกทีเลยครับ (ต้องกล่าวขออภัยกันไว้ก่อน ตอนที่ไปเที่ยวยังไม่ทราบว่าตุ๊กตาตัวไหนคือเทพองค์ไหนบ้างก็เลยถ่ายมาบางมุมเท่านั้น เพิ่งมาทราบถึงความเป็นมาตอนหาข้อมูลทำบล็อกนี่แหละครับ เทพบางองค์จะเห็นได้ไม่ชัดว่าในมือถืออะไรบ้าง แต่ก็พอดูออกครับ) คุณพรเพ็ญ สุคะตะ เล่าให้ฟังในบทความเรื่อง “ใครเป็นใคร? จากเทพีกรีก สู่ Doll Bridge ณ พระราชวังบางปะอิน” ในมติชนสุดสัปดาห์ว่า .... ในมุมมองของชนชั้นสูงในเมืองไทยเมื่อ 120 กว่าปีก่อน การน้ำเอารูปปั้นมาตกแต่งสวน หรือประดับตามราวสะพาน เรียกว่า “ตุ๊กตา” จึงเกิดคำว่าตุ๊กกตาประดับสวนขึ้น และแพร่หลายออกไปตามบ้านของคหบดีและในที่สุดก็นำมาตกแต่งในสวนของบ้านคนธรรมดา คุณพรเพ็ญ ยังได้เล่าต่ออีกว่ารูปปั้นที่ประดับอยู่บนราวสะพานในพระราชวังบางปะอินเป็นรูปปั้น “เทพีกรีก” ทั้งหมด ยกเว้นมีรูปปั้น “เทพกรีก” เพียง 1 องค์ ก็คือ เฮอร์เมส (Hermes) ![]() เทพีแห่งการเกษตร (Demeter/Ceres) (คนครุ่นอายุ 40 กว่าปีขึ้นไปอาจจะคุ้นกับชื่อ Ceres เนื่องจากเป็นชื่อรางวัลที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) มอบให้แด่สุภาพสตรีสำคัญที่มีส่วนช่วยพัฒนาความเป็นอยู่ของสตรีทั้งปวง ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลนี้ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2523) รูปปั้นเทพีแห่งการเกษตร (Demeter/Ceres) นี้คงได้เห็นกับบ่อยจากรูปภาพ เพราะเป็นมุมที่ถ่ายออกมาแล้วสวยมากเนื่องจากจะมี background เป็นพระที่นั่งไอศสวรรค์ทิพยอาสน์ได้สวยที่สุดครับ รูปปั้น เทพีแห่งการเกษตร (Demeter/Ceres) เป็นรูปปั่นผู้หญิงยืนเอียงกายน้อยๆ มืข้างนึงกอดรวงข้าวที่มีเมล็ดข้าวเต่งๆ อวบๆ เทพีแห่งการเกษตร (Demeter/Ceres) มีมาตั้งแต่สมัยที่กรีกรุ่งเรือง จนเมื่อโรมันเข้ามารุกรานจึงรับเอาการบูชาเทพี Ceres ไว้และเปลี่ยนชื่อเป็น Demeter ![]() ![]() ![]() ![]() อัคนีเทพผู้ครองเพศพรมจรรย์ (Hestia / Vesta) Hestia เป็นชื่อในภาษากรีก ส่วน Vesta เป็นชื่อในภาษาโรมัน มือข้างหนึ่งถือเปลวไฟ ส่วนมืออีกข้างหงายขึ้นป้องเปลวไฟจากสายลม ตามตำนานเทพปกรณัม Hestia หรือ Vesta ถือเพศพรมจรรย์ทั้งๆ ที่เทพอพอลโล (Apollo) และ โพไซดอน (Poseidon) มาสู่ขอก็ตาม เป็นเทพีแห่งที่ช่วยดูแลบ้านเรือน ทำหน้าที่รักษาและดูแลบ้าน ![]() ![]() ![]() เทพีแห่งมหากาพย์และดนตรี (Calliope) เป็นรูปผู้หญิงถือพิณ 7 สาย กับบทกวี ชื่อ Calliope เป็นชื่อในภาษากรีก นางเป็น 1 ใน 9 เทวีแห่งศิลปวิทยา โดยเป็นเทพีพี่ใหญ่ที่สุดใน 9 องค์ นอกจากนั้นนางยังเป็นแม่ของ ออร์ฟุส หรือ ออร์ฟีอุส (Orpheus) เทพแห่งการดนตรีอีกด้วย ![]() เทพีแห่งสายรุ้ง (Iris / Arcus) Iris เป็นชื่อในภาษากรีก ส่วน Arcus เป็นชื่อในภาษาโรมัน มือข้างหนึ่งถือคทามีงู 2 ตัวพันกัน ตอนบนของคทามีปี 2 ข้าง Iris หรือ Arcus เป็นเทพชั้นรอง มีหน้าที่รับใช้เทพีเฮร่า (Hera) โดยใช้คทาที่มีปีกและมีงู 2 ตัวพันอยู่ในการช่วยให้นางหายตัวไปไหนมาไหนได้รวดเร็ว เพื่อสืบข่าวให้เทพีเฮร่า คทาของนางตอนหลังได้ไปตกอยู่กับเทพเฮอร์เมส (Hermes) เรียกว่า คทาของเฮอร์เมส (Wand of Hermes) ซึ่งเป็นเทพแห่งการสื่อสาร ![]() เทพมารดรแห่งแผ่นดิน (Amalthea) ถือเขาแพะและน้ำนมซึ่งบรรจุอาหาร (Cornucopia / Horn of Plenty) เดิม Amalthea เป็นนางแพะอยู่ในป่า และนางได้ดูแลเลี้ยงดูเทพซีอุส (Zeus) เมื่อตอนที่เป็นทารกที่ถูกนำมาทิ้งไว้ในป่า นางใช้เขาที่อาบด้วยอาหารทิพย์และน้ำหวานมาเลี้ยงดูเทพซีอุส จึงถือว่าเป็นแม่นมแห่งเทพผู้ยิ่งใหญ่ ![]() ![]() ![]() เทพีแห่งการปลดปล่อย (Ariadne / Libera) นางมีชื่อในภาษากรีกว่า Ariadne หรือ Libera ในภาษาโรมัน นางเป็นภริยาของเทพไดโอนิซุส (Dionysus) เทพแห่งเสรีชนหรือการปลดปล่อย นางถือไหใส่เหล้าไวน์ในท่าของการเทไวน์ทิ้ง ![]() ตุ๊กตาตัวสุดท้าย นางไม่ได้เป็นเทพีกรีกครับ แต่นางเป็นตัวละครในตำนาน New Testament ในศาสนาคริสต์ ว่ากันว่าเป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในดินแดนปาเลสไตน์ในปัจจุบันในช่วง ค.ศ. 10 – 60 สตรีในชุด peplum (ชุดแบบโรมันใช้ผ้าสองผืนประกบหน้า – หลังแล้วติดกระดุมที่หัวไหล่) ถือศรีษะของผู้ชาย คือ ซาโลเม (Salome) ธิดาของพระนางเฮโรเดียส (Herodias) ที่ขอประทานอนุญาตจากกษัตริย์ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของนางให้นางเป็นผู้ตัดศรีษะของนักบุญจอห์น (St. John the Baptist) เพื่อเป็นการแก้แค้นให้มารดาของนาง ![]() ณ จุดนี้สามารถมองเห็นสถาปัตยกรรมของพระที่นั่งองค์ต่างๆ ในเขตพระราชฐานชั้นนอกได้โดยรอบ เจ้าของบล็อกคิดว่าเป็นมุมที่สวยที่สุดในพระราชวังบางปะอินเลยครับ ![]() ![]() ![]() ![]() เห็นรูปแกะสลักหรือ ปั้นที่ ตปท.อ่่อนพลิ้ว ได้สัดส่วนน่าทึ่งมาก บาง
ชิ้นแทบจะเห็นเส้นเอ็น ชอบศิลปแบบนี้ครับ ... บางปะอินสวยแต่คงต้องไปตอนเช้า หรือไม่ตอนเย็นรอให้มีร่มเงา ภาพจะดูดี โดย: ไวน์กับสายน้ำ
![]() ![]() แว้บแรกผมนึกถึงสะพานชาร์ลส์ทีเช็กครับพี่
อาจจะเป็นเพราะผมชอบเช็ก เพราะสาวสวยมากครับ แขนขาเล็ก ผมบรอน แล้วอะไรที่ควรใหญ่ก็...ได้เรื่องครับ ^^'' โดย: จันทราน็อคเทิร์น
![]() ![]() จากบล๊อก
โถๆ....สงสารพ่อเดวิด เคยอ่านที่ไหนไม่รู้ว่า มันเป็นเหตุการที่เดวิดเห็นสิงโต เค้าก็เลย......ตกใจนิดนึงน่ะพี่ 555555 โดย: จันทราน็อคเทิร์น
![]() ![]() สวยมากก น่าตามไปเที่ยว เห็นรุปปั้นพวกนี้
แล้วนึกถถึงตอนสมัยมัธยม ต้องวาดรูปลายเส้นบ่อยมากอ่ะ ตอนไปประกวดก็วาดไรแบบนี้ ล่ะจนมือดำไปหมด นี่รอให้หมดโควิด จะเที่ยวมันสามเดือนติดเลย จากบล็อก ตอนนี้ สั่งต้นไม้หรือของสดไม่ได้เลยอ่ะ ล่าสุดต้นออมชมพูไปอยู่กับเคอรี่มา 7 วัน ใบเหลืองใบเหี่ยวหมด น่าสงสารมาก โดย: nonnoiGiwGiw
![]() ![]() สวัสดีมีสุขค่ะ
แะสลักได้สวยเนียนเหมือนมีชีวิตจังเลย เคยไปเดินดูพินิจพิจารณาอยู่นานๆ รักค่ะ โดย: ตะลีกีปัส
![]() ![]() ชอบภาพที่เป็นขาวดำครับคุณบอล
สวย คลาสสิกเลย รูปปั้นแต่ละแบบ ก็สวยงามแตกต่างกันไปนะครับ โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() ภาพสวยมาก น่าเที่ยวมากค่ะคุณบอล
แล้วต๋าจะมาเก็บรายละเอียดต่อค่ะ ขอบคุณกำลังใจนะคะ ![]() โดย: Sweet_pills
![]() ![]() ต้องเคยผ่านสะพานนี้แน่เลย แต่ไม่เคยสังเกตุรูปปั้น
อิจฉาได้ไปเที่ยวอิตาลี่ด้วย ผมไม่เคยไปเลย อยากไปตามรอย Davinci ดูสารคดีเค้ามาเยอะ โดย: ผู้ชายในสายลมหนาว
![]() ไม่เคยแยกออกเลยค่ะ มาบล็อกนี้ได้ความรู้ไปเยอะเลย
![]() โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน
![]() ![]() มาชมอีกรอบ เต็มอิ่มกับรูปปั้นสวยๆทั้งที่ไทยและอิตาลีค่ะคุณบอล
ของอิตาลีสวยมากอยู่แล้ว ส่วนของไทยแม้เป็นปูนปั้นก็สวย และสร้างบรรยากาศให้พระราชวังฯได้อย่างดีนะคะ เทพีกอดรวงข้าว ถือพิณ ถือเปลวไฟ ถือเขาแพะและน้ำนมบรรจุอาหาร ถือไหใส่ไวน์ ล้วนมีความหมาย ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆและความรู้ค่ะ ![]() โดย: Sweet_pills
![]() ![]() ทั้ง 2 ที่ไปมาแล้ว แต่บางปะอิน ไปนานแล้ว ไม่มีความรู้เรื่องรูปปั้นเลยค่ะ พอไปโรม ก็ถ่ายแค่วิวกว้างๆ ไม่ได้ถ่ายเจาะที่รูปปั้นเลย เพราะมันเยอะมาก
แต่เดี่ยวจะลองกลับไปดูรูปเที่ยวโรมใหม่ค่ะ น้องยอลเขียนบล็อกได้ดีมากค่ะ บล็อกนี้ โดย: Sai Eeuu
![]() ![]() ผมก็ชอบภาพขาวดำนะครับ
บางทีให้ความรู้สึกเวลาดู มากกว่าภาพสีอีกครับ ![]() โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() ยินดีค่ะคุณบอล
แวะมาฟังเพลงประกอบบล็อก ไพเราะมากค่ะ ![]() โดย: Sweet_pills
![]() ![]() พระราชวังบางปะอินแทบจะเป็นสถานที่ที่รวบรวมพวกสถาปัตยกรรมของหลายๆ ชาติเลยครับ
โดย: คุณต่อ (toor36
![]() ![]() |
บทความทั้งหมด
|
ทุกทีที่ผ่านสะพานนี้ แดดร้อนมาก เลยไม่ได้ดูตุ๊กตาสวยๆละเอียดๆแบบนี้เลยค่ะ