ค้นหาสไตล์การลงทุนของตัวเองซะ 2 เราลืมเรื่องการพยายามเพิ่มอัตราดอกเบี้ยทบต้นไปก่อน เพราะว่าเมื่อเราสามารถเข้าใจพื้นฐานการลงทุนของตัวเองได้แล้ว เรื่องการพยายามเพิ่มอัตราดอกเบี้ยก็ไม่น่าใช่เรื่องยาก "เด็กเปรียบเสมือนผ้าขาว ถูกสาดสีอะไรใส่ไปก็จะเป็นสีนั้น" คำพูดนี้ผมเชื่อว่าเป็นอย่างนั้น เพราะว่าชีวิตของแต่ละคนแตกต่างกันก็เพราะว่าการเลี้ยงดูมาในวัยเด็ก ในวัยเด็กถ้าพ่อแม่ไม่ค่อยทะเลาะกันและมีเหตุผล เด็กคนนั้นก็จะเติบโตมาด้วยความคิดที่มีเหตุผล และอดทน(ส่วนมาก) เฉกเช่นเดียวกับการลงทุน ถ้าที่บ้านทำธุรกิจ เด็กคนนั้นก็จะมีความคิดในแง่ธุรกิจและมีความคิดเฉกเช่นเดียวกับบุคคลที่เขาดูเป็นตัวอย่าง เช่นพ่อ แม่ แต่อย่างไรก็ตาม มนุษย์ซึ่งเป็นสัตว์ที่สามารถคิดค้นและพัฒนาความคิดตัวเองได้นั้น ส่วนมากก็เป็นแรงคิดที่ถูกผลักดันมาจากกรอบความคิดที่ไม่ชอบของตนนั้นเอง เช่น อยากบินได้เหมือนนก ---พยายามคิดเครื่องบิน ตอนเด็กๆต้องไปหาฟืนมาเพื่อก่อไฟแล้วไม่ชอบ ----พยายามหาว่าอะไรที่มาใช้แทนฟืนได้ การลงทุนก็เช่นเดียวกัน ที่บ้านมีพร้อมทุกอย่าง -----การลงทุนเป็นเพียงแค่ของเล่น อยากลองอะไรใหม่ๆ ที่บ้านมีพร้อมแต่ว่าพ่อแม่กดดัน ----ต้องการพิสูจน์ว่าเราสามารถทำได้ดีกว่าพ่อแม่(แล้วแต่ในแง่นั้นๆที่ที่บ้านกดดัน เช่นถ้าเขาคิดว่าเงินคือเครื่องพิสูจน์ เขาก็จะพยายามหาเงิน) ที่บ้านฐานะปานกลาง พ่อแม่ต้องทำงาน ----เห็นว่าการที่ต้องทำงานจนแก่เป็นเรื่องไม่สนุก การลงทุนก็เพื่อค้นหาอิสระภาพทางการเงิน ต้องการจะเลี้ยงดูพ่อแม่ และไม่อยากเป็นเหมือนพ่อแม่ ยากจนข้นแค้น -----การลงทุนเป็นสิ่งสำคัญที่อาจจะช่วยให้เขาหลุดจากสภาพเดิมๆที่เคยรู้สึกมาได้ ฯลฯ ดังนั้นก่อนที่เราจะค้นหาสไตล์การลงทุนนั้น เราต้องถามตัวเองก่อนว่าเราเป็นเช่นไร คนที่มีความรู้สึกว่ายากจนข้นแค้น คงไม่สามารถทำจิตใจตัวเองให้ยอมรับการลงทุนที่มีผลตอบแทนชนะดอกเบี้ยเงินฝากเป็นแน่ ความคิดในวัยที่ผ่านมาส่งผลกระทบให้เกิดสไตล์การลงทุนที่แตกต่างกัน คนที่มีแนวโน้มซื้อแล้วถือยาว ไม่ยอมขาย ก็เพราะว่าอาจจะเพราะเป็นเงินเย็น และมีนิสัยไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ คนที่ซื้อเร็วขายเร็ว ก็อาจจะเพราะว่าเคยได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีเกี่ยวกับ เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย และก็ประสบการณ์เกี่ยวกับ เวลาลงแรงอะไรต้องได้อะไร เลยทำให้เกิดความกลัวว่าลงแรงไปแล้วกลับต้องเสียผลประโยชน์ ตรงนี้เองที่เราต้องมาดูตัวเอง และปรับความเข้าใจกับมันใหม่ซะ เช่น ความคิดว่าทำอะไรต้องได้ผลตอบแทน เราต้องเปลี่ยนความเข้าใจใหม่ว่า โลกนี้ ไม่ได้เป็น linear y=2x หมายความว่าใส่1 x ได้ y=2 โลกเราเป็น non linear ลองค้นหาความคิดในวัยเด็กหรือวัยที่ผ่านมาในแง่ที่ชอบและไม่ชอบ แล้วเอามาแลกเปลี่ยนกันนะครับ ผมจะลองวิเคราะห์ให้ว่ามันส่งผลกระทบต่อการลงทุนของทุกคนอย่างไร สงวนลิขสิทธิ์ตาม กฎหมายลิขสิทธิ์ไทย พ.ศ. 2537 ,ถ้าต้องการเผยแพร่กรุณาบอกกล่าวกันก่อนนะครับ |
บทความทั้งหมด
|