วัดบวรนิเวศวิหาร
ไปทำธุระที่วัดบวรนิเวศวิหาร เลยถ่ายภาพมาฝากกันครับ

ประวัติวัดบวรนิเวศวิหาร

วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ฝ่ายธรรมยุต ตั้งอยู่ริมถนนบวรนิเวศ และถนนพระสุเมรุ ในท้องที่แขวงวัดบวรนิเวศ เขตพระนคร สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ในรัชกาลที่ ๓ ทรงสถาปนาขึ้นใหม่ ณ บริเวณ ที่ทำการปลงศพเจ้าจอมมารดา (น้อย) ซึ่งเป็นเจ้าจอมของพระองค์เจ้าดาราวดี พระราชชายา โดยได้โปรดให้สร้างวัดใหม่ขึ้นบริเวณที่ว่างใกล้กับวัดรังษีสุทธาวาส ที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมขุนอิศรานุรักษ์ทรงสร้าง เรียกนามขณะนั้นว่า “วัดใหม่” ทราบกันเพียง ว่าทรงสถาปนาขึ้นหลังทำการศพเจ้าจอมมารดาน้อย คงอยู่ในระหว่างพุทธศักราช ๒๓๖๗ อันเป็นปีที่ทรงได้รับอุปราชาภิเษก ถึงพุทธศักราช ๒๓๗๕ อันเป็นที่สวรรคต ต่อมาวัดใหม่นี้ว่างเจ้าอาวาสลง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนสมณศักดิ์ สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้ามงกุฎสมมุติเทววงศ์ ซึ่งผนวชจำพรรษาอยู่ ณ วัดสมอราย (ราชาธิวาส) ขึ้นเสมอเจ้าคณะรอง และเชิญเสด็จมาครองวัดนี้ในพุทธศักราช ๒๓๗๙ โดยจัดขบวนแห่เหมือนอย่างพระมหาอุปราช แล้วจึงได้พระราชทานนามวัดว่า “วัดบวรนิเวศวิหาร” หรือ “วัดบน” ตั้ง แต่นั้นสืบมา ทั้งนี้นัยว่าเป็นพระราโชบายในอันที่จะประกาศให้คนทั้งปวงรู้ว่า ทรงเทียบสมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้ามงกุฎสมมุติเทววงศ์ ไว้ในฐานะกรมพระราชวังบวรสถานมงคล ชื่อวัด “บวรนิเวศ” เทียบได้กับ “บวรสถาน” หรือเรียกสั้นๆว่า “วัดบน” ซึ่งเทียบได้กับ “วังบน” อันหมายถึงพระบวรราชวัง

ในระหว่างที่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงผนวชอยู่ ทรงได้ปรับปรุงวางหลักเกณฑ์ความประพฤติ ปฏิบัติของพระสงฆ์ให้เป็นไปโดยถูกต้องตามพระธรรมวินัย โดยมีพระสงฆ์ประพฤติปฏิบัติตามอย่างพระองค์เป็นอันมาก ในคราวที่พระองค์เสด็จมาครองวัดก็ได้นำเอาการประพฤติ ปฏิบัตินั้นมาใช้ในการปกครองพระสงฆ์ ณ วัดนี้ด้วย ซึ่งในครั้งเดิมเรียกพระสงฆ์คณะนี้ว่า “บวร นิเวศาทิคณะ” อันเป็นชื่อสำนักวัดบวรนิเวศวิหาร ต่อมาจึงได้ชื่อว่า “คณะธรรมยุติกนิกาย” ซึ่งแปลว่าคณะสงฆ์ผู้ซึ่งปฏิบัติ ตามพระธรรมวินัย จึงถือว่าวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นสำนักเอกเทศแห่ง คณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกายเป็นวัดแรก

ในรัชกาล พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริว่า วัดรังษีสุทธาวาสซึ่งอยู่ติดกับวัดบวรนิเวศวิหาร นั้นมีสภาพทรุดโทรมมาก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยุบรวมเข้าเป็นวัดเดียวกับวัดบวรนิเวศวิหาร เรียกว่า คณะรังษี และหลังจากถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวแล้ว พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระสรีรังคารมาบรรจุไว้ ณ ใต้บัลลังก์พระพุทธชินสีห์ในพระอุโบสถ เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๖๘

ที่มา: เวบไซต์วัดบวรนิเวศวิหาร //www.watbowon.com/






พระพุทธชินสีห์



พระพุทธชินสีห์มุมตรงพระพักตร์



พระเจดีย์



พระเจดีย์อีกมุมหนึ่งครับ



เป็นวัดหนึ่งที่ใช้ศิลปไทยผสมกับศิลปะจีน






อาคารต่างๆภายในวัด สวยๆทั้งนั้นเลยครับ



Create Date : 27 เมษายน 2553
Last Update : 27 เมษายน 2553 14:19:45 น.
Counter : 2421 Pageviews.

2 comments
กาญจนบุรี : นกแอ่นฟ้าหงอน ผู้ชายในสายลมหนาว
(10 มี.ค. 2568 10:05:14 น.)
ชีวิตในช่วงนี้ ต้นไม้-ดอกไม้-น้องแมว-ฝุ่น-สุขภาพ Early 2025 กะริโตะคุง
(5 มี.ค. 2568 16:54:04 น.)
กีฬาสี 2567 โฮมสเตย์ริมน้ำ
(28 ก.พ. 2568 09:56:22 น.)
ฮานอย ซาปา - Quang Phu Cau หมู่บ้านธูปสี, St. Joseph’s Cathedral สายหมอกและก้อนเมฆ
(24 ก.พ. 2568 17:14:59 น.)
  

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

มาตามชมภาพวัดบวรฯ ครับ สวยดีครับ

อิอิ
โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 27 เมษายน 2553 เวลา:23:55:18 น.
  
รู้สึกว่าพี่บุ้งไปทำธุระแถววัดเยอะจังเลยหงะ
โดย: amykittenish วันที่: 28 เมษายน 2553 เวลา:22:08:47 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Boongy.BlogGang.com

บุ้งกี๋
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด