พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นพิพิธภัณฑ์พระมหากษัตริย์ ในปี พ.ศ. ๒๕๔๔ สถาบันพระปกเกล้าได้รับโอนอำนาจการดำเนินงานพิพิธภัณฑ์ฯ มาอยู่ในความดูแลรับผิดชอบ นอกจากนี้สถาบันฯ ยังได้รับความอนุเคราะห์จากกรมโยธาธิการให้ใช้อาคารอนุรักษ์ ๓ ชั้น ซึ่งเป็นที่ทำการของกรม จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว สถาบันฯ ได้ดำเนินการปรับปรุงตกแต่งอาคารแล้วเสร็จในปลายเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๕
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมารเสด็จฯ แทนพระองค์ทรงเปิดพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๕

สถาบันฯ ได้ดำเนินการปรับปรุงอาคาร ๖ ชั้น ภายในพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปรับปรุงตกแต่งอาคารใกล้แล้วเสร็จ คณะกรรมการพิพิธภัณฑ์ฯ ได้หารือเรื่องชื่ออาคารและพิธีเปิดอาคารเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗ ดังนั้น สถาบันฯจึงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอัญเชิญพระนามาภิไธย รำไพพรรณี เป็นชื่ออาคารพิพิธภัณฑ์เพื่อคู่กับอาคารพิพิธภัณฑ์
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้ชื่ออาคารที่ปรับปรุงใหม่ว่า อาคารรำไพพรรณี ตามที่ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต

ชั้น ๑ ศูนย์ข้อมูลพระปกเกล้าศึกษา
ชั้น ๒ ห้องจัดแสดงรถยนต์พระที่นั่ง ร้านค้าของพิพิธภัณฑ์ (Museum Shop)
พื่นที่จัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียน
ชั้น ๓ ห้องจัดนิทรรศการของคณะรัฐมนตรีไทย
ชั้น ๔ ห้องจัดนิทรรศการของเครื่องราชอิสริยาภรณ์
ชั้น ๕ สำนักงานพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
ชั้น ๖ ห้องสัมมนาขนาด ๑๕๐ ที่นั่ง และห้องรับรองพิเศษ
















จัดแสดงพระบรมฉายาลักษณ์ ภาพพระราชกรณียกิจ พระราชดำรัส พระบรมราโชวาท
เปิดให้เข้าชมทุกวัน (เว้นวันจันทร์ วันปีใหม่ และวันสงกรานต์)
ตั้งแต่เวลา ๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น.

การเดินทาง
รถประจำทางสาย ๒, ๑๕, ๔๔, ๔๗, ๕๙, ๖๐, ๑๖๙
รถประจำทางปรับอากาศสาย ๖๐, ๗๙, ๑๘๓, ๕๑๑
เรือโดยสารคลองแสนแสบ ขึ้นที่ท่าเรือผ่านฟ้า