เคล็ดลับสู่ชีวิตที่เบาสบายและสงบเย็น
พอดีได้ถ่ายภาพสะพานพระราม ๘ มาแบบไม่ได้ตั้งใจ ก็รู้สึกยินดีมากกับภาพที่ได้ พอกลับบ้านมาเพื่อหาข้อมูลทาง Google เกี่ยวกับสะพานนี้ ปรากฏว่าได้เห็นภาพถ่ายของสะพานพระรามแปด สวยๆทั้งนั้นเลย ภาพสวยมาก เรียกได้ว่าเห็นแล้วเซ็งกับภาพตัวเองเลย........
ความเซ็งทำให้ไป check mail
ได้เห็น Forward Mail อันหนึ่งที่ทำให้ผมหายเซ็งเลย...
ความสุข สิ่งที่ใคร ๆ ต่างไขว่ขว้า
คุณอยากได้กล้องถ่ายรูปแบบดิจิตัลสักตัวหนึ่ง หลังจากหาข้อมูลมาหลายวันทั้งจากหนังสือพิมพ์และคนรู้จักก็ตัดสินใจได้ว่าจะซื้อยี่ห้อและรุ่นอะไร คุณใช้เวลา ๒-๓ วันในการหาร้านที่ขายถูกที่สุด แล้วคุณก็พบร้านหนึ่งซึ่งขายต่ำกว่าราคาทั่วไปถึง ๒๕ % คุณตัดสินใจควักเงิน ๗ , ๕๐๐ บาท แล้วพากล้องใหม่กลับบ้าน ด้วยความปลื้มใจที่ได้ทั้งของดีและราคาถูก
แต่เมื่อกลับถึงบ้าน ตั้งใจว่าจะไปเล่าให้เพื่อนบ้านฟัง แต่กลับพบว่าเขาเพิ่งซื้อกล้องยี่ห้อและรุ่นเดียวกับคุณ แต่ซื้อได้ถูกกว่านั้น คือจ่ายไปเพียง ๕ , ๐๐๐ บาทเท่านั้น
คุณจะรู้สึกอย่างไร? ยังจะยิ้มได้อีกหรือไม่ ?
ถ้าคุณยิ้มไม่ออก ก็น่าถามตัวเองว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ? ก็คุณเพิ่งได้ของใหม่มา แถมจ่ายน้อยกว่าคนทั่วไป อีกทั้งสินค้าก็มีคุณภาพและถูกใจคุณเสียด้วย
ทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลที่คุณน่าจะดีใจมิใช่หรือ ?
แต่ทำไมคุณถึงเสียใจหรือถึงกับโมโหตัวเอง เป็นเพราะคุณไปเปรียบเทียบกับเพื่อนบ้านใช่หรือไม่ ? คุณมีกล้องดีที่น่าพอใจ แต่ทันทีที่คุณไปเปรียบเทียบกับกล้องของคนอื่น ความรู้สึกไม่พอใจก็เข้ามาแทนที่ คนเราไม่พอใจกับสิ่งที่ตนมีก็เพราะเหตุนี้
จึงมีผู้กล่าวว่าการเปรียบเทียบเป็นหนทางลัดไปสู่ความทุกข์
เคยสังเกตหรือไม่ว่า มีคนจำนวนไม่น้อยที่มักคิดว่ารถของคนอื่นดีกว่ารถของตัว แฟนของคนอื่นสวย(หรือหล่อ)กว่าแฟนของตัว ลูกของคนอื่นเก่งกว่าลูกของตัว และอาหารที่คนอื่นสั่งมักน่ากินกว่าจานของตัว
ถ้าคุณเป็นหนึ่งในจำนวนนั้น ชีวิตจะหาความสุขได้ยาก
แม้จะได้มามากเท่าไร ก็ไม่พอใจเสียที อย่าว่าแต่ของที่ซื้อมาด้วยเงินของตัวเลย แม้ของที่เราได้มาฟรี ๆ เช่น ได้โทรศัพท์มือ ถือมาฟรี ๆ ๑ เครื่อง
ที่จริงน่าจะดีใจ แต่เมื่อรู้ว่าคนอื่นได้รับแจกรุ่นที่ดีกว่าและแพงกว่า จากเดิมที่เคยยิ้มจะหุบทันที แถมยังจะทุกข์ยิ่งกว่าตอนที่ยังไม่ได้รับแจกด้วยซ้ำ
นั่นเป็นเพราะไปเปรียบเทียบกับคนอื่นใช่ไหม ?
ทั้งๆ ที่ตนมีโชคแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกว่าตนโชคไม่ดีเหมือนคนอื่น ความทุกข์ของผู้คนสมัยนี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพราะไปมองคนอื่นมากเกินไป
เราจึงไม่เคยพอใจกับสิ่งที่มีหรือเป็นเสียที แม้ว่าจะสวยหรือหุ่นดีเพียงใด ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองขี้เหร่ ผมไม่สลวย ผิวคล้ำไป แถมวงแขนก็ไม่ขาวนวลเหมือนดารา แต่เมื่อใดที่เราหันมาพอใจกับสิ่งที่ตนมี มองเห็นแง่ดีของสิ่งที่มีอยู่และเป็นอยู่ ความสุขจะเพิ่มพูนขึ้นมามากมายทันที จิตใจจะเบาขึ้น และชีวิตจะหายเหนื่อย เพราะไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องวิ่งไล่ล่าหาซื้อสิ่งของต่าง ๆ มากมาย เพียงเพื่อจะได้มีเหมือนคนอื่นเขา
พอใจในสิ่งที่เรามี
ภูมิใจในสิ่งที่เราเป็น
เห็นคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่กับตัว
นี้คือเคล็ดลับสู่ชีวิตที่เบาสบายและสงบเย็น
โดย พระไพศาล วิสาโล


เบาสบายขึ้นเยอะเลยครับ First Publish : 7 กรกฎาคม 2550 13:18:08 น.
Create Date : 07 กรกฎาคม 2550 |
|
50 comments |
Last Update : 8 ธันวาคม 2550 21:49:51 น. |
Counter : 1217 Pageviews. |
|
 |
|