รวมสกินแคร์ตัวโปรด 2013 ที่ใช้ทุกวัน (สำหรับผิวแพ้ง่าย)

ปล1..ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียจากแบรนด์ที่พูดถึงทุกแบรนด์

บล๊อคนี้เป็นบล็อคสกินแคร์ที่แป้งชอบเป็นตัวโปรดเพราะฉะนั้นไม่ได้อวยนะ แต่เพราะใช้แล้วชอบจริงๆ

ปล2.. มีเพื่อนหลายคนอยากรู้ราคา แป้งเลยอัพเดทราคาแล้วแต่เนื่องจากแป้งอยู่เกาหลีเลยรู้แต่ราคาที่เป็นค่าเงินวอนคะ  

เซทนี้เป็นเซทที่ลงตัวกับผิวของแป้งมาก

เพิ่งเริ่มใช้เมื่อช่วงต้นปีนี่แหล่ะ ต้อนรับปี 2013 เลย แหะๆ

ผลลัพท์และความรู้สึกเกินคาดมากมาย ติดใจสุดๆ

โดยเฉพาะที่อยากแนะนำมาก คือ สกินแคร์แบรนด์เกาหลี

ตัว Care Zone เป็นสกินแคร์แบรนเกาหลี ในเครือเดียวกันกับ isa knox

คนเกาหลีรู้จักกันดี เมื่อก่อนไม่ได้สนใจอะไรแบรนด์นี้มากคะ

ชอบไปลองพวก Ohui หรือ Hera แต่ก็ไม่ได้ปลื้มอะไรมากมาย

แต่มารู้จัก Care Zone ก็เพราะเพื่อนแนะนำมาเลยรีบไปศึกษาดูแล้วขอเทสเตอร์มาลอง

สุดท้ายก็ไปยกมาเป็นเซท ใครที่เป็นสาวกแบรนด์เกาหลี แนะนำแบรนด์นี้

ให้ไปลองดูคะ ดีจริงๆ แป้งคอนเฟิร์มม อ้อมันมีหลายสี

ดูว่าผิวเรามีปัญหาอะไรเป็นผิวแบบไหน แล้วเลือกให้ถูกกับผิวด้วยนะคะ

จะแจกแจงตามลำดับขั้นตอนการใช้นะคะ

มาเริ่มที่ละตัวแรกเลยเนอะ

ขั้นตอนแรกก่อนอะไรทั้งหมดคือ การทำความสะอาดหน้า

ตัวเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางค์ / หรือถ้าไม่แต่งหน้าแต่ทากันแดดก็จำเป็นต้องใช้คะ

Bioderma สำหรับผิว Sensitive  

(ราคา 38,000วอน ขนาด 500ml )

คือก่อนหน้านี้แป้งใช้ คลีนซื่งออย ทำความสะอาดหน้า

ใช้มาเป็นปีๆแล้วละ ก็อยากเปลี่ยนเพราะช่วงที่เข้าฟิตเนส

ขี้เกียจล้างแล้วนวดแล้วล้างพืถีพิถันเปลืองเวลา พอเจอเจ้าตัวนี้

เห็นเค้าโฆษณาว่า เช็ดแล้วไม่ต้องล้างทำความสะอาดหน้าด้วยน้ำอีกยังได้

เข้าทางค่ะ เช็ดๆหน้าแล้วไปออกกำลังกายเลยสบายใจเฉิบบบ

ก่อนซื้อตอนแรกก็ไม่มั่นใจ เคยเห็นเค้าฮิตกันตอนนั้นก็ไม่ได้สนใจ

ก็เลยมไปถามเพื่อนก่อนเพื่อความมั่นใจ เพื่อนคอนเฟิร์มว่าดีจริง

ก็เลยถอยมาลอง ตอนแรก เอาขวด 250 ml มาลอง

สรุปแล้ว ถูกใจมากดีจริงอะไรจริง ใช้แล้วผิวไม่แห้งไม่มัน

รู้สึกหน้าโล่งสะอาดมากหลังใช้ ติดใจเลย

พอหมดเลยถอยขวดใหญ่มาใช้ต่อ คาดว่าคงซื้อใช้ต่อไปเรื่อยๆแหล่ะ

มาต่อที่ ขั้นตอนต่อไป ตัวทำความสะอาดหน้า Cleanser

ของแป้งมีตัวโปรด 2 ตัว

1.ตัวล้างหน้าของ Nuskin face wash 180 (ราคา 39,900 วอน)

2.โฟมล้างหน้าของ Care zone Acne Clarifying foam Cleanser (130 ml ราคา 13,600 วอน)

1.Nuskin face wash 180

คือตัวนี้ใช้มาตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว แล้วคือชอบมากมาย

หลอดนี้หลอดที่สองแล้ว ความรู้สึกที่ใช้ตัวนี้ คือมันก็รู้สึกสะอาด เนื้อครีมนุ่ม

และที่ชอบคือ มันเป็นตัวล้างหน้าที่รู้สึกได้ว่ามันบำรุงผิวไปในตัวจริงๆผลัดเซลผิวได้จริงๆ

2.Care zone Acne Clarifying foam Cleanser 

เป็นสกินแคร์แบรนเกาหลี ในเครือเดียวกันกับ isa knox อย่างที่บอกไว้ข้างต้น

คือ ที่เห็นมันหลอดเล็กๆนี่เพราะมันเป็นหลอดที่แถมมาในเซทดูแลผิวนั่นแหล่ะ

บอกตามตรงว่าไม่ได้ตั้งใจจะซื้อ foam Cleanser เพราะมีตัว Nuskin 180 อยู่แล้วไง

แต่เพราะพอลองใช้แล้ว ตัดสินใจไม่ถูกคะว่า ชอบอันไหนมากกว่ากัน

เลยเอามาใช้คู่กัน ตัวนึงใช้ตอนเช้า ตัวนึงใช้เย็น ถามว่ามันดียังไง

คือ จริงๆแป้งมีโอกาสได้พวกโฟมล้างหน้ามาลองหลายยี่ห้อมาก ทั้งแบบป้องกันสิว

แบบผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม ก็ไม่ได้มีตัวไหนถูกใจเป็นพิเศษ ใช้ได้หมด

แต่กับตัวนี้กับรู้สึกดี รู้สึก สดชื่น สะอาด หน้าไม่แห้งตึง มันคงถูกกับผิวเราพอดีนะเลยชอบ

หลังทำความสะอาดเสร็จ

ก็มาที่ โทนเนอร์ ปกติไม่ค่อยใช้หรอกคะ

เพราะคิดว่าทำความสะอาดหน้าดีแล้วคงไม่จำเป็น

แต่พอดีตอนไปซื้อเจ้า Bioderma ตัวเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางค์ตัวบน

แล้วเกิดกิเลศ 555 เลยได้สอยตัวนี้มา

Bioderma lotion (Normal to dry sensitive skin)

(ราคา 28,000 วอน)

เป็นน้ำใสๆ จะหยดใส่มือแล้วเอามาตบๆที่หน้า

หรือเทใส่สำลีแล้วมาเช็ดที่หน้าก็ได้ แป้งลองแล้วทั่งสองแบบคะ

สรุป หยดใส่สำลีแล้วเช็ดหน้า(ซับหน้าเบาๆ) ให้ความรู้สึกที่ดีกว่า

บอกตามตรงว่าซื้อมาแล้ว ดันติดใจชอบซะงั้น

เทียบกับตัวโทนเนอร์ของ Vichy ที่แป้งเคยใช้ แป้งว่าตัว bioderma ตัวนี้ดีกว่าคะ

ถ้ามีงบก็คงซื้อใช้เรื่อยๆแหล่ะคะ (ไม่น่าพลาดเลยติดใจซะงั้น)

ขั้นตอนต่อมา คือขั้นตอนดูแลผิว

เริ่มที่ สองตัวนี้คะ

(สองตัวนี้ แป้งซื้อแบบเป็นเซทมาคะ ราคา 48,000 วอน มีขนาดพกพาให้ด้วย)

Care zone A-cure Clarifying Toner

ขวดใสๆ ตัวนี้วิธีใช้คือ หยดใส่มือ แล้วเอามาตบๆที่หน้าคะ

(อย่าใช้สำลีชุบแล้วเช็ดนะ หยดแล้วตบเบาๆให้ทั่วหน้าดีกว่า)

-Care zone A-cure Clarifying Emulsion

ตบด้วยตัวข้างบนแล้วตามด้วยนี้ ขวดขุ่นๆ

สองตัวนี้ต้องมาคู่กัน ชอบที่มันซึมเข้าผิวเร็วมากมาย

เหมือนเป็นการเตรียมผิวเพื่อบำรุงเลย

ตัวต่อมา เป็น เอสเซ้น

Care zone A-cure Clarifying Essence

(ราคา 32,000วอน)

เป็นตัวเอสเซ้นบำรุงผิว

จริงๆมีตัวเซรั่มด้วย แต่เคยอ่านมาว่า ผลิตภัณต์ของเกาหลี

ถ้ามีเอสเซนแล้วไม่ต้องมี เซรั่ม แต่ถ้ามี เซรั่มแล้ว ไม่ต้องมี เอสเซ้น

ชอบคะ ซึมเข้าผิวดีมากๆ

ต่อมาเป็น ครีมบำรุง

Care zone A-cure Clarifying Cream

(ราคา 32,000 วอน)

ครีมบำรุง เนื้อครีมไม่หนักหน้าคะ

ชุ่มชื่นดี ที่สำคัญซีมเข้าผิวดี ชอบแบรนด์นี้ก็ตรงนี้แหล่ะคะ

ใช้แล้วสิวไม่ขึ้นอีกผิวแข็งแรงขึ้นใสขึ้นแล้วก็เนียนขึ้นด้วย

อายครีม Eye Cream

Care Zone Eye cream Anti-wrinkle intensive

(ราคา 35,000 วอน)

อายครีม ก่อนหน้านี้เพิ่งบ่นกับเพื่อนไปว่า ยังไม่เจออายครีมที่ใช้แล้วโดนสักที

บ่นไปไม่กี่อาทิตย์ก็มาเจอ อายครีมตัวนี้

เลยได้เอาไปเม้ากับเพื่อนต่อ “เห้ยแก ฉันเจออายครีมที่ใช่แล้ววะ” 555

อายครีมตัวนี้ซึมเร็ว ไม่เหนอะหนะ ไม่รู้สึกว่าหนักใต้ตาตอนทา แถมยังชุ่มชื่นด้วย

ขึ้นแท่นเลยคะ อายครีมตัวโปรด หมดแล้วซื้อใช้ต่อแน่ๆ

พิมมาเยอะ เริ่มตาเลย

ยังไม่หมด อีก

มาที่ตัวสุดท้าย ครีมกันแดด

Care Zone A-cure Sun Cream spf40/pa+++

(ราคา 24,000วอน)

ก่อนหน้านี้ที่ครีมกันแดดหมดไปถอย

Bioderma หลอดส้มมา แม่เจ้า เสียดายตังมาก

ทาทีไรหน้าหมองแล้วเยิ้มทุกที

เลยต้องหากันแดดใหม่ เห็นว่าผิวตัวเองถูกกว่าแบรนด์นี้

เลยไปซื้อกันแดดที่มันอยู่ในเซทนี้(ไปถอยมาทีหลัง)

สรุป กันแดดดีไหม ก้ถือว่าดีคะ

แต่ทาแล้วไม่ได้ชุ่มชื่นเหมือนสกินแคร์ตัวอื่นๆออกไปทางทำให้หน้าแมทๆ

หน้าขาวดี แต่แมทสำหรับคนที่หน้ามันๆคงจะชอบ

แต่แป้งผิวแห้งไปทางผิวผสมเลยไม่ค่อยชอบคะ ชอบหน้าชุ่มๆช่ำๆมากกว่า

แต่เพราะใช้แล้วไม่แพ้เลยใช้ไปก่อน เพราะยังไม่รู้ว่าจะลองกันแดดตัวไหนต่อดี

หมดแล้วสำหรับเซทสุดที่เลิฟนี้

ขอแถมอีก 2 ตัวคะ

คือ Smooth E Glod สมูทอี โกล์ของไทยเรา

(สมูทอีโกล จำราคาไม่ได้เพราะฝากเพื่อนซื้อมาตุนไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว)

และ Cetaphil เซตาฟิล (ราคา 29,900 วอน)สำหรับผิวแห้งถึงแห้งมากๆ

(DailyAdvance Ultra Hydrating Lotion for dry to very dry skin)

Smooth E Glod สมูทอีโกลนี่ใช้มาตั้งแต่ปีที่แล้วคะ ใช้เป็นครีมบำรุงต่อต้านริ้วรอย

เพราะอายุก็ 25 แล้ว แต่ครีมพวกต่อต้านลดริ้วรอยหลายๆยี่ห้อ แป้งมักจะแพ้คะ

ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เลยต้องหันมาเพิ่งของไทยเรานี่แหล่ะ

แต่ไม่ชอบตรงที่มันมีส่วนผสมของน้ำหอมแต่ก็ใช้คะ ก่อนนอน

อีกอย่างพวกรอยดำจากสิวนี่ ใช้สมูทอีแล้วหายเร็วมากคะ

Cetaphil เซตาฟิล ช่วงหน้าหนาวนี่ขาดไม่ได้เลย

ออกไปข้างนอกเจออากาศเย็นๆหน้าก็ตึง

พอเข้าไปตามตึก เข้าบ้าน เข้าที่ทำงานเจอฮีสเตอร์

ผิวเสียความชุ่มชื่นอย่างแรงเลยคะ เลยต้องพึ่งพา Cetaphil

ยกเว้นแแค่ฤดูร้อนคะ ถึงจะหยุดใช้ พอเข้าฤดใบไม้ร่วงก็มาเริ่มใช้ไปจนถึงฤดูหนาว

จนใบไม้ผลิเลยคะ ขาดไม่ได้

ใช้แล้วชุ่มชื่น(ต้องเป็นตัวนี้เท่านั้นนะ) ไม่แพ้ ไม่อุดตัน

เหนื่อยจังพิมมาซะเยอะ 55 ^^

เกิดเป็น ผู้หญิง นี่เหนื่อยจริงๆแต่ละวันกว่าจะสวยได้ 55

++++++++++++++++++

Create Date : 06 มีนาคม 2556 Last Update : 6 มีนาคม 2556 19:11:04 น. Counter : 37583 Pageviews.		6 comments
Share Tweet