สร้างกุศลอันยิ่งใหญ่โดยการบริจาคเลือด

นานๆจะได้ออกมาเปิดหูเปิดตาซักที

 

ไปเดินมันซะพารากอนเลย555

 

ตอนแรกแค่คิดจะไปบริจาคเลือดก่อน

 

แล้วค่อยเดินไปพารากอน ไกลโครต

 

แบบว่าไม่คิดว่าจะได้บริจาคเลือดเลย ก็ทุกครั้งที่ตั้งใจจะมาบริจาค เค้าบอกว่าความดันสูงเกิน

 

แต่พอมาวันนี้ ดันผ่านฉลุยซะนี่

 

เอาเข้าไป ตอนนั้นแค่นั่งเรียนสบายๆสุขภาพก็ไม่ผ่าน

 

คราวนี้ทำงานร่างกายโทรมมันทุกวัน นอนเป็นอาชีพ ดันผ่านด่านตรวจสุขภาพ

 

สงสัยว่างานมันถึกให้ร่างกายมันแข็งแรงขึ้นรึเปล่าอันนี้ไม่ทราบได้555

 

ไปบริจาคเลือดคราวนี้ไปมันคนเดียวเหมือนเดิม

 

ก็เวลาเดินกับเพื่อนแล้วรู้สึกว่าจำกัดขอบเขตยังไงไม่รู้

 

เหมือนกับว่าเราจะเดินไปทางนี้ เพื่อนมันก็จะทำหน้าเซ็งๆเบื่อๆ

 

เลยตัดปัญหา เดินคนเดียวเปลี่ยวใจสบายกว่า

 

นี่ไม่ใช่แค่ปัญหาเฉพาะกับเพื่อนนะ กระทั่งกับพ่อแม่ก็เป็นเหมือนกัน

 

จะมีกรณียกเว้นก็เมื่องานเกษตรเทรดแฟร์ที่ผ่านมานี่แหล่ะ

 

อันนั้นเดินแบบไม่มีจุดหมาย กินฟรีไปทั่ว ซื้อจริงๆแค่ไม่กี่อย่าง

 

วกกลับมาที่บริจาคเลือดนะ

 

พอผ่านด่านสุดหินนั้นแล้ว ปรากฏว่าบัตรบริจาคเลือดไม่ได้เอามาอ่ะ

 

เลยฟอร์มบัตรหายซะเลย ทำบัตรใหม่ ฮุๆ(แต่บัตรเก่าสวยกว่านะ)

 

เสร็จแล้วไปจุดหมายสุดท้าย คือเอาเลือดชั่วออกจากตัว

 

ขึ้นเขียงเรียบร้อย

 

เป็นช่วงเวลาที่เหมือนสอนนักเรียนในการเจาะเลือดเลยแหล่ะ

 

มีทั้งอาจารย์และนักเรียนยืนมุงดู

 

เราก็เกือบจะได้เป็นตัวอย่างแล้ว ดีที่เราอยู่มุมในสุด555 ก็เลยรอดหวุดหวิด

 

เอาความชั่วออกจากตัวเสร็จก็กะว่าจะรอรถเมล์ไปพารากอนต่อ

 

แต่รอมาชาติกว่า ไร้ซึ่งวี่แววรถสาธาณะ

 

เอาวะ เดินก็ได้ เดินให้มันเป็นลมไปข้างเลย เผื่อจะมีใครใจดีช่วยพาไปส่งพารากอนต่อ

 

เดินชิลมากอ่ะ

 

เมื่อก่อนปกติก็เดินแบบนี้เป็นประจำนะ ตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว เดินเหมือนถ่ายมิวสิค เปลี่ยวได้อีก ช่วงเวลานั้นมันหวนกลับมาใหม่อีกครั้ง

 

จวบจนเดินถึงพารากอน โอ้ว...การ์ตูนทำได้

 

เดินเข้าไปพารากอน ไปเจอลีโอนาโด้ยืนรอเราอยู่ แอบเซ็งไม่ได้พกกล้องไปด้วย ส่วนมือถือถ่ายไม่ได้ ยังไม่ได้เปลี่ยนรุ่นใหม่

 

แต่รู้สึกว่าลีโอนาโด้ตัวเตี้ยไปรึเปล่า
นานๆจะได้ออกมาเปิดหูเปิดตาซักที

 

ไปเดินมันซะพารากอนเลย555

 

ตอนแรกแค่คิดจะไปบริจาคเลือดก่อน

 

แล้วค่อยเดินไปพารากอน ไกลโครต

 

แบบว่าไม่คิดว่าจะได้บริจาคเลือดเลย ก็ทุกครั้งที่ตั้งใจจะมาบริจาค เค้าบอกว่าความดันสูงเกิน

 

แต่พอมาวันนี้ ดันผ่านฉลุยซะนี่

 

เอาเข้าไป ตอนนั้นแค่นั่งเรียนสบายๆสุขภาพก็ไม่ผ่าน

 

คราวนี้ทำงานร่างกายโทรมมันทุกวัน นอนเป็นอาชีพ ดันผ่านด่านตรวจสุขภาพ

 

สงสัยว่างานมันถึกให้ร่างกายมันแข็งแรงขึ้นรึเปล่าอันนี้ไม่ทราบได้555

 

ไปบริจาคเลือดคราวนี้ไปมันคนเดียวเหมือนเดิม

 

ก็เวลาเดินกับเพื่อนแล้วรู้สึกว่าจำกัดขอบเขตยังไงไม่รู้

 

เหมือนกับว่าเราจะเดินไปทางนี้ เพื่อนมันก็จะทำหน้าเซ็งๆเบื่อๆ

 

เลยตัดปัญหา เดินคนเดียวเปลี่ยวใจสบายกว่า

 

นี่ไม่ใช่แค่ปัญหาเฉพาะกับเพื่อนนะ กระทั่งกับพ่อแม่ก็เป็นเหมือนกัน

 

จะมีกรณียกเว้นก็เมื่องานเกษตรเทรดแฟร์ที่ผ่านมานี่แหล่ะ

 

อันนั้นเดินแบบไม่มีจุดหมาย กินฟรีไปทั่ว ซื้อจริงๆแค่ไม่กี่อย่าง

 

วกกลับมาที่บริจาคเลือดนะ

 

พอผ่านด่านสุดหินนั้นแล้ว ปรากฏว่าบัตรบริจาคเลือดไม่ได้เอามาอ่ะ

 

เลยฟอร์มบัตรหายซะเลย ทำบัตรใหม่ ฮุๆ(แต่บัตรเก่าสวยกว่านะ)

 

เสร็จแล้วไปจุดหมายสุดท้าย คือเอาเลือดชั่วออกจากตัว

 

ขึ้นเขียงเรียบร้อย

 

เป็นช่วงเวลาที่เหมือนสอนนักเรียนในการเจาะเลือดเลยแหล่ะ

 

มีทั้งอาจารย์และนักเรียนยืนมุงดู

 

เราก็เกือบจะได้เป็นตัวอย่างแล้ว ดีที่เราอยู่มุมในสุด555 ก็เลยรอดหวุดหวิด

 

เอาความชั่วออกจากตัวเสร็จก็กะว่าจะรอรถเมล์ไปพารากอนต่อ

 

แต่รอมาชาติกว่า ไร้ซึ่งวี่แววรถสาธาณะ

 

เอาวะ เดินก็ได้ เดินให้มันเป็นลมไปข้างเลย เผื่อจะมีใครใจดีช่วยพาไปส่งพารากอนต่อ

 

เดินชิลมากอ่ะ

 

เมื่อก่อนปกติก็เดินแบบนี้เป็นประจำนะ ตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว เดินเหมือนถ่ายมิวสิค เปลี่ยวได้อีก ช่วงเวลานั้นมันหวนกลับมาใหม่อีกครั้ง

 

จวบจนเดินถึงพารากอน โอ้ว...การ์ตูนทำได้

 

เดินเข้าไปพารากอน ไปเจอลีโอนาโด้ยืนรอเราอยู่ แอบเซ็งไม่ได้พกกล้องไปด้วย ส่วนมือถือถ่ายไม่ได้ ยังไม่ได้เปลี่ยนรุ่นใหม่

 

แต่รู้สึกว่าลีโอนาโด้ตัวเตี้ยไปรึเปล่า

ตอนนั้นกำลังสองจิตสองใจว่าจะดูหนังเรื่องอะไรดี

 

ระหว่าง Mirror Mirror กับ The Hunger Game

 

ทั้งสองเรื่องอารมณ์ต่างกันเยอะเนอะ

 

สรุปแล้วไม่ได้ดู เพราะว่าเห็นราคาบัตรแล้วดูไม่ลง

 

เอาไว้ไปดูแถวบ้านดีกว่า

 

ก็เลยเปลี่ยนแผนไปดูหนังสือที่ร้านKinokuniyaดีกว่า

 

ในร้านกำลังมีงานเปิดตัวหนังสืออะไรซักอย่างนี่แหล่ะ

 

เกริ่นเรื่องประมาณว่า สาวไทยม.ปลายไปศึกษามังงะที่ญี่ปุ่นประมาณนั้น

 

แล้วมีรายการโทรทัศน์มาบันทึกเทปด้วย ดูจากเสื้อทีมงานแล้วเป็นรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ แต่พิธีกรเป็นใครอ่ะ?

 

เห็นนักเขียนแล้ว ใครก็ไม่รู้?

 

ช่างเถอะ เค้าจะเปิดตัว จะสัมภาษณ์ก็เรื่องของเค้า ส่วนเราจะดูหนังสือ

 

ก็ยังไม่หลุดพ้นกับหนังสือเรื่องThe Hunger Game

 

คราวนี้หยิบภาคภาษาอังกฤษซะเลย

 

เห็นในเว็บบ่นๆกันว่าฉบับแปลแปลไม่ค่อยจะดีนัก เลยลองอ่านมันต้นฉบับเลย ฮ่าๆๆ...

 

อ่านๆไปก็กะว่าจะซ์อแล้วล่ะ

 

รู้สึกว่าอ่านรู้เรื่อง ศัพท์ค่อนข้างง่าย

 

พลิกไปดูราคาเท่านั้นแหล่ะ ซื้อไม่ลง วางหนังสือทันที

 

เอาไว้ค่อยไปยืมเพื่อนอ่านก็ได้ ชิๆ

 

ไม่รู้จะเดินเล่นอะไรแล้ว

 

ตอนแรกก็กะว่าจะเดินไปCentral Worldต่อ

 

แต่เกรงว่าสังขารจะไม่ไหวแล้ว

 

ยิ่งผ่านการบริจาคเลือดมาด้วย เป็นลมไปใครจะอุ้มไปส่งบ้าน ห่วงร่างกายตัวเองไว้ก่อนดีกว่าเนอะ

 

ดูสิว่าบริจาคเลือดครั้งหน้าจะเป็นเมื่อไหร่ ครั้งล่าสุดก็เมื่อ16ส.ค.52 นานมาก




Create Date : 28 มีนาคม 2555
Last Update : 28 มีนาคม 2555 0:14:47 น.
Counter : 680 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Yok_Cartoon
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



มีนาคม 2555

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
29
30
31