Bloggang.com : XabiRider : 07/07/07 การกลับมาของ Seven-Seven

07/07/07 การกลับมาของ Seven-Seven

7 กรกฎาคม 2550 หรือ 7 July 2007 คงไม่มีความสำคัญอะไรกับผมมากมายในฐานะมนุษย์เงินเดือนธรรมดาคนหนึ่ง การกลับมายังบ้านสถานที่ที่ผมรักและคุ้นเคยที่สุด ยังคงเป็นสิ่งที่ผมถวิลหาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันสำหรับคนที่ต้องเดินทางไปทำงานในต่างพื้นที่ ทุกครั้งที่กลับมาบ้านแม่จะคอยทำอาหารรสชาติอร่อยคุ้นเคยไว้ คราวนี้ก็เช่นกัน แกงส้ม ,ปูนิ่มทอดกระเทียม และกระเพาะปลาผัด เป็นอาหารหลักที่แม่ผมเตรียมไว้ในสัปดาห์นี้

แต่ วันที่ 7 เดือน 7 นั้นยังมีความหมายแฝงเร้นอยู่ทั้งในแง่ของประวัติศาสตร์และความเชื่อ 7/7 นั้นอ่านออกเสียงว่า "Seven-Seven" ซึ่งนิยมแพร่หลายมากในยุโรป ที่มาการออกเสียงดังกล่าวเกิดจาก โศกนาฎกรรมวางระเบิดที่สถานีรถไฟใต้ดินในกรุงลอนดอนในวันที่ 7 กรกฎาคม 2005 หรือเมื่อ 3 ปีก่อน เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต 52 คน จากการระเบิด 3 ครั้ง

ภาพจาก CNN

ในความทรงจำของ 7/7 ของคนยุโรป โดยเฉพาะอังกฤษถือเป็นความทรงจำอันเลวร้ายต่อพวกเขา ในอดีตวันที่ 7/7 มีสิ่งที่เกิดขึ้นมากมาย อาทิ เช่น เป็นวันเกิดของ Pierre Cardin ยอดนัก Fashion designer หรือ Ringo Starrนักดนตรี Rock แห่งวงThe Beatles อีกทั้งยังเป็นวันที่อเมริกาได้เพิ่มฮาวายขึ้นในระบอบเขตการปกครอง

ก็เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต หากมองใกล้ตัว ณ.วันนี้ ทีมชาติไทยกำลังจะลงสนามแข่งกับอิรัก ในสภาพอากาศชุ่มฉ่ำ เวลา 19.30 ในรายการเอเชียน คัพ

และที่พลาดไม่ได้คือการประกาศ 7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่ของโลก พวกเราต่างคุ้นกับ 7 สิ่งมหัศจรรย์หรือ 7 Wonders ด้วยมีสถานที่สำคัญๆหลายแห่งอ้างอิงว่าเป็น 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ โดยความจริงแล้วไม่มีการรับรองเป็นทางการไม่ว่าทัชมาฮาล,นครวัดฯลฯ ที่ยอมรับในความมหัศจรรย์ล้วนเป็นสิ่งก่อสร้างอายุกว่า 2 พันปีและเหลือเพียงมหาพีระมิดแห่งกิซา,อียิปต์เท่านั้นที่เหลืออยู่ นอกนั้นชำรุดทรุดโทรมไม่เหลือแม้ซาก ณ.ตอนนี้มี 21 ว่าที่สิ่งมหัศจรรย์ที่ผ่านเข้ารอบ โดยถึงวันนี้มีผู้โหวดเข้ามามากกว่า 60 ล้านเสียง ที่อยู่แถวหน้าได้แก่

ทวีปยุโรป 8 แห่ง ได้แก่

วิหารอโครโปลิส ประเทศกรีซ, พระราชวังอัลฮัมบรา ประเทศสเปน, สนามกีฬาโคลอสเซียม ประเทศอิตาลี, หอไอเฟล ประเทศฝรั่งเศส, สุเหร่าเซ็นต์โซเฟีย ประเทศตุรกี, ปราสาทนอยชวานสไตน์ ประเทศเยอรมนี และสโตนเฮนจ์ ประเทศอังกฤษ, พระราชวังเครมลิน ประเทศรัสเซีย

ทวีปเอเชีย 5 แห่ง ได้แก่

ปราสาทหินนครวัด ประเทศกัมพูชา, กำแพงเมืองจีน ประเทศจีน, วัดคิโยมิซึ ประเทศญี่ปุ่น, ทัชมาฮาล ประเทศอินเดีย และเปตรา ประเทศจอร์แดน

ทวีปอเมริกาเหนือ 2 แห่ง ได้แก่

ชิเชน อิตซา ประเทศเม็กซิโก และอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ ประเทศสหรัฐอเมริกา

ทวีปอเมริกาใต้ 3 แห่ง ได้แก่

รูปปั้นพระเยซูคริสต์ ประเทศบราซิล, รูปปั้นแกะสลักบนเกาะ อีสเตอร์ ประเทศชิลี และมาชู ปิกชู ประเทศเปรู

ทวีปแอฟริกา 2 แห่ง ได้แก่

พีระมิดแห่งเมืองกิซา ประเทศอียิปต์,ทิมบุกตู ประเทศมาลี

ทวีปออสเตรเลีย 1 แห่ง ได้แก่

ซิดนีย์โอเปราเฮาส์ ประเทศออสเตรเลีย

การโหวตผ่านอินเตอร์เน็ตถือเป็นดาบสองคมสำหรับประเทศด้อยพัฒนาอย่างกัมพูชา ทำให้ปราสาทนครวัด ตามหลังสิ่งมหัศจรรย์อื่นๆอยู่หลายลำดับ ถือเป็นการแข่งขันที่อยู่บนธุรกิจและเทคโนโลยีโดยแท้ แต่มองอีกมุมหากสถานที่ใดได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน7 สิ่งมหัศจรรย์จริง ธุรกิจท่องเที่ยวคงได้สดใส ซาบซ่าเป็นแน่ แต่ก็อาจจะทำให้สถานที่ต่างๆเหล่านั้นเสื่อมโทรมและชำรุดได้ หากไม่มีการดูแล รักษา อย่างใกล้ชิด

ยังไงก็ตามดูผลกันได้ที่ www.new7wonders.com แล้วกันนะครับ ส่วนตัวผมก็เชียร์นครวัดแหละครับ เผื่อจะเกื้อหนุนให้ท่องเที่ยวไทยดีขึ้นด้วย