อบรมเรื่อง จิต พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร
ธรรมโอวาทของพระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร วัดอโศการาม อ.เมือง จ.สมุทรปราการแสดงธรรมเทศนา ณ ศาลาอุรุพงศ์ เมื่อ ๒๓ กันยายน พ.ศ.๒๔๙๗ วิธีของจิตใจนั้น มันไม่มีเรื่องอะไรหรอก แต่มันชอบออกไปหาเรื่องกายกำเริบ คือ ปวดเมื่อยใจกำเริบ คือ ฟุ้งซ่าน๑.) อวิชชาวิสมโลภะ คือ ใจที่แส่ส่ายออกไปหาอารมณ์อดีต อนาคต ยกจิตไปไว้ในอารมณ์อื่น ๒.) พยาปาทะ , ใจก็ไม่ชอบ หงุดหงิด ฟุ้งซ่าน ๓.) มิจฉาทิฏฐิ , ไปก็ไม่รู้มาก็ไม่รู้ มาว่าไป ไปว่ามา ลมออกว่าเข้า ลมเข้าว่าออก จิตเผลอเป็นคนไม่รู้เรื่องรู้ราว ๓ อย่างนี้ เป็น"มโนทุจริต" ทั้งสิ้นจิตของเราเหมือนอาหารที่อยู่ในชามสติเสมือนฝาชาม ถ้าเราขาดสติเท่ากับเปิดฝาชามไว้แมลงวัน (กิเลส) ย่อมจะบินมาเกาะเมื่อเกาะแล้วมันก็กินอาหาร แล้วก็ขี้ใส่บ้าง นำเชื้อโรคมาใ่ส่ให้บ้างทำให้อาหารนั้นเป็นเป็นโทษ เป็นพิษ เมื่อเราบริโภคอาหารที่เป็นพิษเราก็ย่อมได้รับทุกข์ประสบอันตรายฉะนั้นเราจะต้องคอยระวังผิดฝาชามไว้เสมออย่าให้แมลงวันมาเกาะได้ จิตของเราก็จะบริสุทธิ์สะอาด เกิดปัญญาเป็นวิชชา ความรู้จิตใจของเรา เหมือนขันหรือตุ่มน้ำ ขันนั้นถ้าปากมันหนาข้างบางข้างก็ย่อมตั้งตรงไม่ได้ น้ำก็จะต้องหกหรือตุ่มมันเอียง มันแตกร้าว น้ำก็ขังอยู่ไม่ได้เช่นเดียวกันฉันใดก็ดี บุญกุศลที่จะไหลมาขังอยู่ในจิตใจของเราไ้ด้เต็มเปี่ยมก็ด้วยการทำจิตให้เที่ยง ไม่ตกไปในสัญญา อดีต อนาคตทั้งดีและชั่วบุญกุศลซึ่งเปรียบเหมือนน้ำบาดาล หรือน้ำตกก็จะไหลซึมซาบมาหล่อเลี้ยงกายใจของเราอยู่เสมอไม่ขาดสายไม่มีเวลาหยุด เป็น "อกาลิโก" ให้ผลไม่มีกาลการปรับปรุงจิตใจนั้นเราตอ้งคอยตรวจตราดูว่า ส่วนใดควรแก้ไขส่วนใดควรเพิ่มเติม ส่วนใดควรปล่อยวางจะแก้ไปอย่างเดียวก็ไม่ได้ จะปล่อยไปอย่างเดียวก็ไม่ได้ต้องดูว่า สิ่งใดควรแก่ข้อปฏิบัติของเรา เราก็ทำ ลมพัดป่ามันติดต้นไม้ ไม่โปร่งโล่งเหมือนลมพัดทุ่งฉะนั้นจงทำจิตให้ว่างเหมือนทุ่งนา คัดลอกเนื้อหาจาก หนังสือแนวทางวิปัสสนา-กัมมัฏฐานพระอาจารย์ลี ธมฺมธโร.จัดพิมพ์เผยแพร่โดยชมรมกัลยาณธรรมปี พ.ศ. ๒๕๕๒.ลี ธมฺมธโร. แนวทางวิปัสสนา-กัมมัฏฐาน. พิมพ์ครั้งที่ ๑. กรุงเทพฯ : ขุมทองอุตสาหกรรมและการพิมพ์, ๒๕๕๒. หน้า๒๗๗ - ๒๗๙
ดูกระทู้ที่ธรรมจักร //www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=40787&p=283461#p283461