คน-โลก-จิฅ : ปิดยังไงก็ไม่มิด คือวิปริตของจิตมนุษย์โลก คน-โลก-จิฅ (2555) [ไม่เปิดเผยเนื้อเรื่องสำคัญ หรือ ไม่สปอยล์] เรทภาพยนตร์ : น.18+ สำหรับ ภาพความรุนแรง , เรื่องราวเกี่ยวกับเพศสัมพันธุ์ขั้นรุนแรง และ ภาษาหยาบคาย โดยส่วนตัวถึงแม้จะไม่ได้เป็นคนที่ชื่นชอบผลงานของผู้กำกับ นนทรีย์ นิมิบุตร เพราะขนาดผลงานที่ได้ขึ้นชื่อว่า มาสเตอร์พีช อย่าง 2499 อันธพาลครองเมือง และอีกหลายๆเรื่อง ผมกลับค่อนข้างไปในทางเฉยๆ แต่สำหรับ คน-โลก-จิต ถือว่าเป็นหนังที่ไทยไม่กี่เรื่องจริงๆที่ยังถือว่ากล้าทำหนังแนวดราม่าจิตวิทยาอยู่ เขื่อน นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญการอ่านจิตอาชญากร ได้เข้ามาช่วยไขปริศนาคดีฆาตกรรมนี้ร่วมกับ “เทียน” นักนิติวิทยาศาสตร์สาวผู้มีปมบางอย่างฝังลึกในใจ ทั้งคู่สืบค้นทุกเบาะแสเพื่อให้ได้เงื่อนงำของคดีจนต้องก้าวล่วงเข้าไปในปมชีวิตเบื้องลึกของกันและกันอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ขณะที่การสืบสวนกำลังดำเนินไปอย่างเร่งรีบ แต่ก็มีคนตายเพิ่มขึ้นในสภาพศพที่ถูกทารุณอย่างโหดเหี้ยมไม่แพ้กัน และครั้งนี้มีเงื่อนงำบางอย่างที่ชี้ให้ “คีย์” หนุ่มไฮโซเพื่อนเก่าของเขื่อนตกเป็นผู้ต้องสงสัย นั่นทำให้เขื่อนต้องกลับมาเผชิญหน้ากับคีย์อีกครั้งด้วยความจำใจ หรือจะมีอะไรบางอย่างแอบแฝงอยู่เบื้องหลังความเป็นเพื่อนของทั้งคู่ ในขณะที่ช่วงนี้หนังไทยไม่ได้มีหนังแนวไหนมากไปกว่าหนังแนว โรแมนติค , ตลก หรือ ผี แต่ก็ได้มีหนังไทยใจกล้าเรื่องนึงได้ทำหนังแนวดราม่า จิตวิทยา ออกมาให้ได้เราชมกัน โดยเรื่องนั้นก็คือ คน-โลก-จิฅ หนังแนวจิตวิทยากำกับการแสดงโดย นนทรีย์ นิมิบุตร ผู้กำกับมือวางอันดับต้นๆของเมืองไทย ซึ่งหลังจาก 4 ปีที่แล้ว ที่ได้ลองทำหนังแนวแอ็คชั่น แฟนตาซี อย่าง ปืนใหญ่จอมสลัด แล้วรู้สึกจะไม่ค่อยรุ่งสักเท่าไหร่นัก ในปีนี้ผู้กำกับ นนทรีย์ นิมิบุตร จึงได้กลับมาพร้อมกับหนังแนวดราม่าที่ถนัด ที่ตัวบทได้ดัดแปลงมาจากบทที่ได้เข้าชิงในโครงการ Thailand Script Project ที่ก่อนหน้านั้นได้มี อีนางเอ๊ย..เขยฝรั่ง และอีกหลายๆเรื่องได้ผลิตออกมาก่อนแล้ว ซึ่งสำหรับ คน-โลก-จิฅ ถือว่าเป็นหนังที่รีสตาร์ทเครื่องของผู้กำกับ นนทรีย์ นิมิบุตร ใหม่เลยก็คงไม่แปลก เพราะหนังหยิบเอาดาราหน้าใหม่มาแสดงซะส่วนใหญ่ ซึ่งสิ่งที่คน คน-โลก-จิฅ จะสื่อสารให้กับคนดูส่วนใหญ่คงไม่พ้นเรื่องราวเกี่ยวกับ ความวิปริต และ ความบิดเบี้ยว ของจิตใจมนุษย์ ซึ่งถึงแม้ว่าตัวหนังจะไม่สามารถนำเอาเรื่องราวเกี่ยวกับความวิปริต และ ความโรคจิตของมนุษย์ มาผสมเข้ากับเรื่องราวความเป็นคดี ฆาตรกรรม และ ความน่าค้นหา ได้อย่างยอดเยี่ยมนัก แต่โดยส่วนตัวผมรู้สึกค่อนข้างชอบตอนจบของหนังเสียส่วนใหญ่ เพราะนอกจากการที่ตัวหนังยังสามารถหักมุมหลอกคนดูได้ค่อนข้างโอเคในระดับนึงแล้ว หนังยังสามารถนำเอาตอนจบนั่นมา เสียดสี เกี่ยวกับ จิตใจของมนุษย์ ออกมาได้โอเคในระดับนึงด้วย ซึ่งสิ่งที่ผมคิดว่า คน-โลก-จิฅ เชื่อในเรื่องเกี่ยวกับ จิตใจมนุษย์ คงเป็นการที่เบื้องลึกของหัวใจมนุษย์ของทุกคนนั่นก็คงต้องมีความเป็น โรคจิต อยู่ในตัวอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าเราจะเลือกแสดงความ โรคจิต เหล่านั้นออกมาในรูปแบบไหน วิธีไหน ก็เท่านั้นเอง บางคนก็เลือกจะแสดงความโรคจิตโดยการแก้เค้น หรือไปลงที่สัตว์ตัวเล็กๆ และหนังยังปิดท้ายด้วยความเชื่อว่าไม่มีมนุษย์คนไหนที่ไม่มีความโรคจิตอยู่ในตัวอย่างแน่นอน พร้อมทั้งสิ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กันของหนัง คงหนีไม่พ้นด้านของ การถ่ายภาพ ที่เรื่องนี้ไม่รู้ผู้กำกับ นนทรีย์ นิมิบุตร แอบไปซุ่มฝึกซ้อมวิชามารึปล่าว เพราะการถ่ายภาพของหนังเรื่อง คน-โลก-จิต นั้นจึงออกมาได้ค่อนข้างโอเค และควบคู่ไปกับ คอนเซปต์ ของหนังที่พูดถึง สภาวะบิดเบี้ยว ของจิตใจมนุษย์ ได้อย่างโอเคในระดับนึงเลยก็ว่าได้ทีเดียวหละครับ แต่ปัญหาหลักๆของ คน-โลก-จิต คงหนีไม่พ้นการที่ผู้กำกับได้คัดเลือกแต่นักแสดงหน้าใหม่มาแทบยกชุด เพราะฉะนั้นการแสดงของนักแสดงจึงออกมาค่อนข้างขรุขระแทบทั้งเรื่อง โดยเฉพาะตัวเอกของหนังอย่าง เขื่อน ที่การแสดงออกมาได้ค่อนข้างเหมือนกับมายืนอ่านท่องบทให้คนดูฟังยังไงยังงั้น แถมในหลายๆฉาก หลายๆตอน ของหนังยังถือว่ามีช่องโหว่รูใหญ่ให้คนดูจับผิดได้อย่างง่ายดายด้วยซ้ำ และท้ายสุดนั้นคือสิ่งที่ได้บอกไปตั้งแต่ด้านบนแล้วว่า หนังไม่สามารถผสมเรื่องราวของ จิตมนุษย์ และ คดีการสืบสวนของหนังออกมาได้อย่างน่าติดตามด้วยสไตล์การตัดแปะฉากที่ไม่ปะติดปะต่อของผู้กำกับ นนทรีย์ นิมิบุตร โดยรวมแล้ว คน-โลก-จิต ยังถือว่าเป็นหนังไทยสืบสวนแนวดาร์กๆ ที่ยังทำออกได้ไม่ถึงใจนัก เพราะว่าส่วนใหญ่ข้อเสียของหนังจะอยู่ที่ การแสดง และ การดำเนินเรื่อง ที่ทำออกมาได้ไม่ค่อยน่าติดตามนัก แต่ยังดีที่จุดหักมุมของหนัง สามารถเสียดสีเกี่ยวกับเรื่องราวของ จิตใจมนุษย์ ออกมาได้ค่อนข้างโอเคเลยนะ เรื่องนี้ผมให้ B- ครับ   Create Date : 24 พฤษภาคม 2555 1 comments Last Update : 24 พฤษภาคม 2555 22:39:56 น. Counter : 3665 Pageviews. Share Tweet

เห็นนักแสดงเล่นกันแล้ว บอกได้อย่างเีดียวว่า "เสียดายบท"   โดย: trufa 9 มิถุนายน 2555 23:26:10 น.