***การอ่านหนังสือ คือ การเปิดโลกทัศน์ให้กับตัวเอง*** Open Your Mind by Reading***
Group Blog
 
 
กันยายน 2550
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
29 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
ผู้หญิงคนใหม่กับผู้ชายคนเก่า - เรื่องสั้น

เรื่องมันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่นะ….

ไม่ใช่สิ…ความรู้สึกแบบนี้มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่มากกว่า ความรู้สึกกับใครบางคนที่ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยสบตา ไม่เคยสื่อสารกันด้วยวาจา แต่ทว่า..กลับผูกพันลึกซึ้งเสียมากมาย จนอยากรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขา….

“ถ้าคุณคิดว่าสิ่งที่ทำไป ทำให้คุณสบายใจ…ก็ทำไปเถิด แต่ก็ต้องดูด้วยว่าสิ่งนั้นทำให้ตัวเองเดือดร้อนไหม คนรอบข้างเดือดร้อนหรือเปล่า ผิดต่อศีลธรรมไหม…”

ข้อความต่อจากนี้ หาได้ผ่านตาไม่…เพราะหล่อนคลิกเมาส์ปิดกระทู้หน้านั้นไปเสียก่อน แค่นี้ก็เกินพอ…การอ่านข้อความของคนที่มีเพียงเงาในโลกไซเบอร์ ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร…แท้จริงเป็นคนอย่างไร แต่สิ่งที่เขาสื่อออกมาก็โดนใจหล่อน…

หญิงสาวไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไปบ้าง ร้องไห้ฟูมฟายเสียอกเสียใจขนาดไหน หลังจากที่เกิดความผิดพลาดครั้งร้ายแรงขึ้นกับชีวิต…เมื่อต้องตกเป็นผู้หญิงเบอร์สองของผู้ชายคนหนึ่งโดยไม่ตั้งใจ ผู้ชายที่หล่อนยกให้เขาเป็นหนึ่งเดียวในโลกแคบๆของหล่อน เช่นเดียวกับที่หล่อนเข้าใจว่าหล่อนก็เป็นเพียงหนึ่งเดียวในโลกอันกว้างใหญ่ของเขา

เพื่อที่จะพบความจริงในภายหลังว่ามันไม่ใช่…และไม่มีวันใช่…เพราะเขาก็บอกอยู่โทนโท่ว่า สำหรับเขา..ครอบครัวต้องมาก่อน ผู้หญิงอื่นเป็นเพียงน้ำจิ้มที่มาแต่งเติมให้ความเป็นมนุษย์ผู้ชายของเขามีรสชาติขึ้น ทำให้เขารู้สึกได้กำไรชีวิต อย่างที่ผู้ชายโฉดหลายๆคนประพฤติอยู่

นับจากวันนั้น…หล่อนมีโลกส่วนตัวที่ไม่มีใครเข้าถึง มีเพื่อนมากมายให้ปรับทุกข์ ไม่จำเป็นต้องเห็นหน้า ไม่จำเป็นต้องรู้จักกันมาก่อน ทุกคนล้วนเอื้ออาทรกันผ่านเครื่องมือสื่อสาร ซึ่งมีลักษณะเป็นจอสี่เหลี่ยมเล็กๆอันเป็นผลมาจากความหน้าทางเทคโนโลยีสมัยใหม่

หากแต่…เขาเป็นเพียงหนึ่งเดียวที่ทำให้หล่อนรู้สึกเป็นคนพิเศษ เวลาเขาพิมพ์ข้อความส่งผ่านหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็กๆที่อยู่ตรงหน้า…คล้ายกับเขาเจาะจงพูดกับหล่อนเพียงคนเดียว

“ปมปัญหามีไว้ให้เราแก้ บางปมอาจจะหลวมๆง่ายๆ ไม่ซับซ้อน บางปมอาจจะแน่นหนาและยุ่งเหยิง แต่ทุกปม…เราแก้ได้ครับ หากใช้สติ…ใจเย็น ใคร่ครวญหาวิธีที่เหมาะสมเพื่อแก้ปมนั้นให้คลายออกอย่างเรียบร้อยและเราเองก็ไม่เจ็บด้วย”

เพราะเขาคนนี้…ทำให้หล่อนลืมชายคนนั้นไปได้ชั่วขณะ อย่างน้อยก็ชั่วเวลาได้”ฟัง” คำปลอบประโลมและทำให้หล่อนได้เปิดตามองเห็นความเป็นจริงของชีวิต ที่คนเราต้องพบเจอทั้งความสว่างและความมืด…เหมือนโลกที่ต้องมีทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างนั้น

“คุณทำถูกแล้วครับ ที่พาตัวเองออกมาจากวิถีชีวิตของชายผู้นั้นได้อย่างละมุนละม่อม โดยที่ไม่คิดโกรธแค้นอะไรเขา ก็อย่างที่บอกล่ะครับ เขาอาจมีปมบางอย่างในชีวิต ที่ทำให้เขากลายเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัว คิดถึงแต่ความสุขของตัวเอง จนลืมนึกถึงจิตใจของคนอื่น อย่าไปคิดแก้แค้นเขาเลยครับ สักวันหนึ่ง สิ่งที่เขาทำกับคุณอาจจะย้อนกลับมาสนองคนที่เขารักก็ได้ ถ้าเขามีลูกสาว…ใช่ไหมครับ”

อยากเห็นเสียจริงๆว่า…คนที่สื่อความออกมาได้อย่างอ่อนโยนและดูเหมือนจริงใจเช่นนี้ หน้าตาของเขาจะเป็นอย่างไรหนอ เขาช่างพูดราวกับคนมีประสบการณ์ชีวิตโชกโชน…มากพอที่จะกล่าวอ้างถ้อยคำซึ่งทำให้หล่อนลดระดับความคับแค้นใจและเจ็บปวดลงได้บ้าง

ไม่ว่าเขาจะมีหน้าตาเป็นอย่างไรหรืออยู่ในวัยไหน หล่อนก็อยากพบและรู้จักเขา อยากบอกเขาว่าเขาทำให้หล่อนมองโลกสดใสขึ้น…หลังจากที่รู้สึกเหมือนอยู่ในโลกสีเทามาระยะหนึ่ง

“ขอบคุณครับ ที่ให้ความสำคัญกับผมมากถึงเพียงนั้น ผมเพียงพูดไปตามที่คิดและประสบการณ์ที่ผ่านมาเท่านั้นเอง อยากฝากถึงลูกผู้หญิงทุกคนเลยนะครับว่า ชีวิตคุณมีค่าเกินกว่าจะเอาไปแลกกับผู้ชายเลวๆคนหนึ่ง เสมือนฝนที่สาดมาโดนตัวทำให้เราเปียก..เป็นหวัดไม่สบายในชั่วระยะเวลาหนึ่ง และถ้าเราระวังตัวเรา ไม่ให้เปียกฝนอีก เราก็จะไม่เจ็บป่วยซ้ำสอง”

หล่อนยิ้ม ราวกับเขามานั่งพูดอยู่ตรงหน้า จากที่เคยใช้เวลาเพียงน้อยนิดขณะทำงานที่ออฟฟิศเปิดเข้าไปตั้งกระทู้และรอคุยกับเขา ให้เขาชี้แนะสิ่งดีๆให้…หล่อนพบว่าการที่ได้อ่านข้อความดีๆของเขา ต้องใช้เวลาอ่านให้นานขึ้นและซ้ำหลายๆครั้ง หล่อนจึงจะลึกซึ้งจนรู้สึกอิ่มเอมในหัวใจ

ตลอดค่ำคืนอันเงียบเหงาหลังจากได้รู้จักเขาในโลกไซเบอร์เพียงหนึ่งสัปดาห์…หล่อนจึงมีเขาเป็นเพื่อนก่อนนอนทุกคืน เป็นความสุขของผู้หญิงที่โงหัวขึ้นจากความทุกข์ได้เพราะเขาแท้ๆ..ชายผู้ซึ่งมีแต่เงารางเลือนในใจหล่อน

“อย่าไปคิดทำร้ายหรือแก้แค้นเขาเลยนะครับ ผมรู้ว่าคุณเจ็บ…แต่เจ็บแล้วจำเป็นบทเรียนดีกว่าเจ็บแล้วคิดอาฆาต เพราะมันจะยิ่งทำให้คุณไม่มีความสุข เชิดหน้าขึ้น…มองไปข้างหน้าแล้วคุณจะพบอนาคตสดใสรอคุณอยู่ บางที…ขณะนี้อาจจะมีผู้ชายดีๆคนหนึ่งกำลังรอผู้หญิงดีๆอย่างคุณอยู่ก็เป็นได้”

ผู้ชายดีๆคนนั้นอยู่ที่ไหนหนอ หล่อนอยากถามเขาอย่างนั้น ใบหน้าขาวใสไม่มีสีสันแต่งแต้มยิ้มออกมาอย่างนึกขำ…ก่อนจะค่อนขอดตัวเองว่าเพ้อไปแล้ว นิ้วเรียวงามพิมพ์ข้อความบางอย่างลงไป ก่อนจะเหลียวดูนาฬิกา…น่าจะถึงเวลานอนเสียที

หากแต่เมื่อหลับตาลงครั้งใด ภาพความสุขที่เคยมีกับหนุ่มผู้ไร้อิสระคนนั้นก็ยังคงวนเวียนอยู่ในห้วงนึก ช่างเหมือนภาพฝันที่ติดตาตรึงใจหล่อนอยู่ไม่รู้เลือนหาย ทุกที่ที่หล่อนเคยไปล้วนมีเขาอยู่เคียงข้าง และหล่อนก็ยังต้องผ่านพบสถานที่เหล่านั้น…เพียงลำพัง…ความเงียบเหงาเดียวดายช่างช่วยตอกย้ำความเจ็บปวดไม่มีสิ้นสุด…ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จึงจะหลุดพ้นความรู้สึกนี้ไปได้ ทั้งรักทั้งแค้นจนอยากจะทำให้ผู้ชายคนนั้นเจ็บเหมือนที่เขาทำกับหล่อนบ้าง

อะไรบางอย่างเสียดขึ้นมาตามโพรงจมูก แล้วแล่นลิ่วขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนรู้สึกร้าวทั้งบริเวณกระบอกตา หยาดน้ำอุ่นค่อยๆทะลักล้นจากข้างในอก…ออกมาคลอเต็มดวงตาสองข้าง

มื่อหล่อนปิดเปลือกตาลง…หยดน้ำตาก็เล็ดลอด…ไหลพรูลงมาอาบแก้มเลอะไปถึงหมอนด้านที่แก้มข้างนั้นแนบอยู่…ไหลไม่ขาดสายเหมือนที่เคยเป็นมาทุกค่ำคืน นับตั้งแต่รู้ว่าหล่อนไม่ใช่หนึ่งเดียวของผู้ชายที่ดูเหมือนจะอบอุ่นคนนั้น

“อย่าคิดทำในสิ่งที่จะทำให้ตัวเองเดือดร้อนภายหลังเลยนะครับ ผมว่าคุณควรหาทางระงับทุกข์ทั้งหลายด้วย”ใจ” ของคุณเอง ใจที่สงบ สว่างอย่างที่พระท่านว่าไว้ คนที่ประสบเหตุอย่างคุณมีอีกมากมาย เพราะฉะนั้น ปล่อยวางมันเถิดครับ แบกเอาไว้ก็หนักเปล่าๆ …”

เขาตอบข้อความที่หล่อนเปรยกับเขาผ่านจอสี่เหลี่ยมนั้นในวันต่อมา หล่อนอ่านแล้วนิ่งคิด คงจะจริงอย่างที่เขาว่า หล่อนแบกทุกสิ่งไว้จนล้า เพียงแค่วางได้…ทุกอย่างก็เบาสบาย

ย้ำอ่านในสิ่งที่เขาพร่ำบอก ย้ำคิดในสิ่งที่เขาพร่ำพูดผ่านตัวอักษร…แล้วหล่อนก็ทำได้จริงๆ เพียงชั่วไม่นาน หล่อนก็รู้ว่าความเจ็บปวดที่ดูเหมือนจะยิ่งใหญ่เป็นแค่รอยมีดบาดเล็กๆ…แต่ทว่าความรู้สึกใหม่ที่ย่างกรายเข้ามาแทนที่ความรู้สึกเดิมๆ กลับกลายเป็นการรอคอยที่จะได้ติดต่อสื่อสารพูดคุยกับเขา ผู้สร้างโลกทัศน์ใหม่ให้หล่อน

“ผมก็อยากพบคุณ …”

ประโยคสั้นๆประโยคแรกของข้อความที่ตามมาอีกยาวเหยียด ซึ่งล้วนแต่เป็นข้อความที่สร้างความชุ่มชื่นให้แก่หัวใจอันแห้งแล้งโหยหาของหญิงสาว….รอยยิ้มอย่างคนมีความหวังใหม่ในชีวิตปรากฏขึ้นบนใบหน้าใสกระจ่างตา…พรุ่งนี้…พรุ่งนี้จะเป็นวันที่หล่อนได้พบกับคนที่ทำให้หล่อนตื่นจากฝันร้ายแล้วสินะ…


เรือนร่างสูงสง่าที่กำลังเดินตรงมาหา…ดูช่างคุ้นตาเหมือนคุ้นเคยมานานหลือเกิน หญิงสาวที่นั่งอยู่บนม้านั่งยาวใต้ต้นไม้ในสวนสุขภาพ ที่ร่มรื่นด้วยแมกไม้น้อยใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ เผลอยกมือขึ้นลูบผมทรงใหม่ของตัวเอง

ชายหนุ่มหน้าตาดีคนนั้นกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้เรื่อยๆ หล่อนรู้ว่าเป็นเขา เพราะเขารู้ว่าหล่อนรอเขาอยู่ที่นี่…เวลานี้…ช่วงแดดร่มลมตกหลังเลิกงานในพื้นที่ที่ถือว่าเป็นปอดของเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยมลพิษแห่งนี้

ช่างคุ้นจริงๆ…เมื่อหล่อนเห็นหน้าเขาชัดเจนขึ้น เขาที่หล่อนคาดว่าจะเป็นชายคนใหม่

รอยยิ้มที่ส่งมาแต่ไกลค่อยๆเลือนหาย เมื่อเขาสบตาหล่อนได้ในระยะใกล้ ชายคนใหม่…ปรากฏให้เห็นในร่างของชายคนเก่า คนที่ให้บนเรียนที่แสนเจ็บปวดกับหล่อนนั่นเอง

หล่อนลุกขึ้นยืนช้าๆ สูบลมหายในเข้าเต็มปอด น่าแปลก…ความเจ็บปวดที่เคยมีหายไปสนิท เพราะใครคนหนึ่งในโลกไซเบอร์…หล่อนยิ้มให้เขาอย่างสดชื่น ขณะที่อีกฝ่ายทำหน้าผะอืดผะอมและเผือดสี เขาคงรู้สึกอัศจรรย์ใจไม่แพ้หล่อน ทั้งสองยืนประจัญหน้ากันในระยะห่างพอได้ยินการสนทนาอย่างชัดเจน

“นึกว่าใคร พ่อพระในดวงใจของฉัน “

หล่อนเอ่ยทักเสียงใสมีแววยั่วล้อ ในขณะที่เขายังคงนิ่งด้วยไม่รู้จะพูดอย่างไรดี สายตาคู่นั้นมีแววหวั่นไหวด้วยความละอายขึ้นมาวูบหนึ่ง ในขณะที่ดวงตาคมของหล่อนกลับแน่วนิ่งด้วยใจที่มั่นคง

“ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนใหม่ทางเน็ต คุณให้ข้อคิดดีๆแก่ฉันมากเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นบทเรียนแรกหรือบทเรียนสุดท้ายที่แสนมีค่า ทำให้ฉันกลายเป็นคนใหม่... แต่ฉันก็หวังว่าเราคงจะไม่ได้พบกันอีกไม่ว่าจะในโลกของความเป็นจริง หรือโลกของคนที่รู้จักกันเพียงเงา ลาก่อน”

หญิงสาวเดินจากมาพร้อมรอยยิ้ม …ด้วยรู้สึกถึงความแข็งแกร่งในหัวใจที่เพิ่มขึ้นมากมาย ถึงอย่างไร…เขาก็มีส่วนที่ทำให้หล่อนแกร่งได้เช่นนี้ หลังจากที่ทำให้หล่อนซวดเซสิ้นแรงมาแล้ว…

แต่ไม่ว่าจะรู้จักเขาในความเป็นชายคนเก่าหรือชายคนใหม่ หล่อนก็จะถือว่าเขาเป็นครูของหล่อนนั่นเอง ครูที่ทำให้หล่อนได้เรียนรู้บทเรียนชีวิตสองแบบที่ต่างกันอย่างสุดขั้ว หล่อนเจ็บปวดนักเมื่อสัมผัสกับความเป็นตัวตนจริงๆของเขา หากแต่..เมื่อรู้จักกันเพียงผิวเผิน หล่อนกลับรู้สึกดีและเป็นสุขอย่างล้นเหลือ


จบ










Create Date : 29 กันยายน 2550
Last Update : 18 ตุลาคม 2553 20:59:49 น. 5 comments
Counter : 551 Pageviews.

 
โอ เอาไปเลยเต็ม100 เริ่ดมากค่ะ เขียนได้สละสลวยมากมาย


โดย: ต.เต่าหลังตุง (pintakai ) วันที่: 30 กันยายน 2550 เวลา:19:42:07 น.  

 
ขอบคุณค่ะ คุณ ต.เต่าหลังตุง คุณทำให้ดิฉันมีกำลังใจมากมายเช่นกัน

จุ๊บ ๆ (ด้วยความเอ็นดูค่ะ)


โดย: wanalee วันที่: 30 กันยายน 2550 เวลา:19:53:30 น.  

 
โดนครับ โดนจนเจ็บจี๊ดๆ ไม่ใช่ว่าเคยมีประสบการณ์อย่างนั้นหรอกนะครับ แต่ว่า.....คึคึคึคึคึ มันโดนอ่ะ


โดย: No.06 วันที่: 2 ตุลาคม 2550 เวลา:10:31:09 น.  

 
โดนใจดำ หรือโดนใจเฉยๆคะ คุณ .No 6 ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์มาเยี่ยม


โดย: wanalee วันที่: 2 ตุลาคม 2550 เวลา:21:37:48 น.  

 
555555555555555 โดนใจ.... เฉยๆ ครับ


โดย: No.06 วันที่: 10 ตุลาคม 2550 เวลา:13:51:18 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

wanalee
Location :
ระยอง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




คนธรรมดาที่กำลังพยายามละกิเลส เพื่อลดความอยากและไม่อยากให้มากที่สุด (ยากนะ แต่จะพยายาม)
New Comments
Friends' blogs
[Add wanalee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.