การใช้ Scale ให้เป็นดนตรี

การนำสเกลมาใช้ ไม่ใช่แค่ไล่ขึ้น ไล่ลง แต่ต้องนำมาใช้ให้มี ลีลา มีวลี มีประโยควรรคตอน โดยอาจมีหลักการดังนี้

1. นำ Major Scale มาใช้ตามคอร์ดของเพลง โดยให้เริ่มจากโน้ตในคอร์ดของแต่ละคอร์ดนั้น (Chord Tone) ดู Ex.1 (ต้องเป็นคอร์ดใน Diatonic ที่มาจาก Major Scale ) โดยให้เล่นเป็น Swing Feel แล้วก็ลองคิด Lines เองดูตาม Ex.2 โดยใช้ G Major Scale โดยเริ่มด้วย Chord Tone ในแต่ละคอร์ดที่กำกับไว้ เช่น Gmaj7 Chord ก็มี G, B, D, F# จะเริ่มจากตัวใดก็ได้ ควรเล่นในสัดส่วน Quarter Note ก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนเป็น Eight Note… etc.

2. นำ Major Scale มาใช้ให้เป็น Motif หรือมีลีลามากขึ้นโดยการเปลี่ยนทิศทาง เปลี่ยนระดับเสียง (Octave) แต่ก็ยังเป็นตัวใน Scale ทั้งหมดดู Ex.3 และลองคิดเองใน Ex.4 โดยใช้ F Major Scale และให้ใช้กติกาเดิมตามข้อ 1 และ 2

3. กรณีคอร์ดเปลี่ยน ซึ่งอาจมี Accidentals (# or b) ดู Ex.5 คอร์ดเปลี่ยนจาก Am7 (A, C, E, G) เป็น A7 (A, C#, E, G) ซึ่งเป็น V/II-II-V–I Progression ดังนั้น เวลาเล่นบนคอร์ด A7 ต้องเปลี่ยนโน้ต C เป็น C# ในคอร์ดนี้ (หลักการใช้คอร์ดแบบนี้เรียกว่า Secondary Dominant คือ การสร้าง Dominant Chord ขั้นที่สองในสเกลขึ้น เพื่อสร้างสีสันให้มากขึ้นจาก Diatonic) ลองเล่น Ex.6 และ Ex.7 ดู

II-V Lines

Ex.8 เป็นตัวอย่างการใช้ Chord Tone ของแต่ละคอร์ดจาก C Major Scale และมีการใช้ Half Step Approach ซึ่งเทคนิคหนึ่งของ Jazz Guitar

Ex.9 มีการใช้ Slide, Hammer-on, Pull-off และมีการเล่นบางตัวในสเกลที่ไม่ใช่ Chord Tone แต่เป็นตัวใน Scale เช่น Beatที่ 1 ในคอร์ด Dm7 ใช้โน้ต E ซึ่งเป็นตัวที่ 9 ของคอร์ด Dm7 และเป็นโน้ตใน C Major Scale ด้วย สังเกตดูทุกคอร์ด จะไม่เริ่มด้วย Root

Ex.10, 11 เป็นการนำเอง Arpeggio มาใช้แทนสเกล หรือ คิดแบบ Small Picture นั่นเอง Focus ไปที่ คอร์ดต่อคอร์ดเลย โน้ตที่วงกลมก็คือ Chord Tone ส่วนโน้ตตัวอื่นๆก็เป็นลักษณะ Half-Step ของสเกลบ้าง เทคนิคการ Slide, Slur บ้าง พยายามเปลี่ยน Key ให้ได้ในทุกๆ Key

Create Date : 13 มิถุนายน 2555		0 comments
Last Update : 13 มิถุนายน 2555 19:35:45 น.
Counter : 10288 Pageviews.
Share Tweet