คนฉลาดเจ้าเล่ห์มักสร้างภาพเพื่อประโลมโลก เพื่อหลอกคนโง่ให้เชื่อตามไป เอาไปทำมาหารับประทาน ถ้าไม่อยากโง่ต้องรู้ให้ทัน ก่อนที่จะโดนหลอกเอาไปเป็นเครื่องมีอของคนฉลาดเจ้าเล่ห์
<<
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
6 พฤศจิกายน 2550

ุคุณ koknam ฝากไว้เตือนสติ

เปิดใจ ต่อเว็บพันทิพห้องศาสนา จากอัตตา

ข้าพเจ้าเป็นเพียงคนธรรมดาที่เข้ามาใช้สถานที่นี่ เพื่อจุดประสงค์บางอย่างซึ่งค่อนข้างเฉพาะแตกต่างจากคนทั่วไป จึงขอให้ท่านทั้งหลายที่เข้ามาอ่านทราบว่า มุมมองของข้าพเจ้าอันออกมาจากอัตตาเต็มๆนี้ เป็นไปภายใต้กรอบของจุดประสงค์บางอย่างนี้เท่านั้น

สมัยที่ข้าพเจ้าเข้ามาที่นี่ใหม่ๆ ตอนนั้นข้าพเจ้าเข้าใจว่า ตัวเองเป็นโสดาบัน เมื่อเข้ามาก็อยากจะหาคนสอนให้ตัวเองก้าวหน้ามากขึ้น ข้าพเจ้าไม่เคยรู้จักว่า อะไรคือเว็บบอร์ด ไม่รู้จักกระทู้ เมื่อเข้ามาได้สองสามครั้ง ก็สงสัยว่านี่มันห้องศาสนาไม่ใช่หรือ คนพวกนี้คุย ถามอะไรกัน ไม่เห็นเกี่ยวกับเรื่องชีวิตจิตใจอะไรเลย คุยกันแต่ข้อความในตำรา ถกเถียงโต้แย้งเอาเป็นเอาตาย ชี้ขาดเอาแพ้ชนะ มีพรรคพวก มีกลุ่มคนที่เป็นอริต่อกัน และมักจะเห็นคนถูกด่าเหน็บแนมเสมอ

ผ่านมา 3 ปี ทุกอย่างก็มิได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

บุคคลที่ศึกษาศาสนา ปรัชญา พูดเรื่องพระ เรื่องเจ้า ทำบุญ สวดมนต์ เข้าวัดวา ตามความเข้าใจของข้าพเจ้าในสมัยก่อน และข้าพเจ้าเข้าใจว่า ตามความเข้าใจของคนทั่วไปในสมัยนี้ น่าจะหมายถึง คนที่มีจิตใจสูงกว่าคนธรรมดา

แต่พันทิพห้องศาสนา สอน หรือ แสดง ให้ข้าพเจ้าเห็นว่า ศาสนาไม่ใช่ สิ่งค้ำจุนจิตใจคน หรือเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ตามที่เรียนมาจากวิชาจริยธรรมสมัยมัธยม คนที่นี่กำลังเอาคำว่า ศาสนา มาอ้าง เพื่อตอบสนองอะไรบางอย่างให้สอดคล้องกับความคิด ความเชื่อของตัวเองต่างหาก

คนที่เป็นอริยะนั้น เพราะ ธรรม มันเปลี่ยนจิตใจของเค้า หรือว่า เค้าเปลี่ยน ธรรม ให้มาเข้ากับใจตน

ถ้าท่านเป็นคนหนึ่งที่ขลุกอยู่กับที่นี่มานาน ลองสำรวจตัวเองดูเถิดว่า ท่านเปลี่ยนไปจากเดิม ก่อนที่จะเข้ามาร่วมระบายสีลงบนผ้าใบ ยี่ห้อพันทิพ หรือไม่ ใจของท่านกระด้างกระเดื่องมากขึ้น หรืออ่อนโยนลงกัน

ท่านกลายเป็นผู้ที่ไม่ยอมลงให้ผู้ใด กลายเป็นผู้ที่ต้องการเห็นทุกอย่างเป็นอย่างใจตนไปแล้วหรือเปล่า หลายๆคนที่นี่มักจะพยายามบอกออกมาโดยผ่านตัวหนังสือว่า “ข้ารู้อะไร ใครที่รู้เห็นเข้าใจไม่ตรงกับข้าสหายของข้า ผู้นั้นผิดหมด”

เมื่อท่านตั้งกระทู้ ตอบกระทู้ ใจของท่านพะว้าพะวงหรือไม่ ว่าใครจะมาตอบ จะมาแสดงความเห็นขัดแย้งชื่นชมอย่างไรต่อข้อความของท่าน ใจท่านยึดติดผูกพัน แม้ยามนอนยามกิน จำนวนตัวเลขท้ายกระทู้ก็หลอกหลอนคาดคะเนหรือเปล่า

เมื่อท่านเห็นใครถามคำถาม ที่ท่านพอจะช่วยได้ ท่านตอบออกไปด้วยใจที่หวังดี จริงแท้หรือไม่ หรือนั้นเป็นเพียงการกระทบกระเทียบเย้ยหยันกบในกะลาหัวอ่อน

เมื่อท่านเห็นใครเริ่มผิดพลาด แม้เป็นคนที่ท่านหมายหัวเหม็นขี้หน้า เท้าของท่านพร้อมจะเหยียบทับลงไป พร้อมกับความสมน้ำหน้า ท่านรู้สึกดีเมื่อได้ฟาดหัวอริด้วยคำพูดแสบสันแทงใจ ปรีดาพองโตเมื่อหมอนั้นหมดทางโต้สยบเงียบ



สิ่งเหล่านี้ไม่ต้องตอบเลย มันแสดงตัวผ่านจิตวิญญาณของเว็บพันทิพห้องศาสนามาตลอดตราบเท่าที่ข้าพเจ้ารู้จัก ขอเพียงคนเดียวใครก็ได้บอกข้าพเจ้าออกมาทีว่า มันมีในพระคำภีร์ว่า สภาวะจิตใจอย่างนี้ จะเกิดกับผู้ที่เข้าถึงธรรม หรือเป็นผู้ศึกษาพุทธศาสนาอย่างตรงทาง ข้าพเจ้าจะปัสสาวะใส่พระไตรปิฎก แล้วหันหลังให้พุทธศาสนาทันที



ในช่วงวัยรุ่นต้นๆ คุณพ่อของข้าพเจ้ามักกล่าวติดตลกให้ฟังเล่นๆว่า “ในชีวิตนี้ไม่มีอะไรจะซวยเท่ากับการเกิดเป็นคนไทยอีกแล้ว” ตอนนั้นข้าพเจ้าไม่ได้คิดอะไรมาก แต่มาวันนี้คำพูดนี้ชักจะไม่ตลกเสียแล้ว ดูแล้วมันเหมือนจะเป็นเช่นนั้นจริง คนไทยนั้นเก่ง แต่ก็โง่พอๆกับความเก่งที่มี

เรามักพูดว่า เราโชคดีที่มีพ่ออยู่หัวที่แสนประเสริฐ แต่เป็นความซวยของท่านที่ได้เหล่าประชาชนที่ตีกันเองอย่างนี้ พวกท่านไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆหรือ หรือว่าจิตสำนึกเกิดแว็บๆเวลาดูโฆษณา แล้วก็ลืมเลือนไป

สีขาวเป็นแถบหนึ่งของธงไตรรงค์ ถ้าข้าพเจ้าจำไม่ผิดมันหมายถึงศาสนามิใช่หรือ แต่รากฐานทางความเข้าใจของคนไทยส่วนใหญ่ต่อศาสนา กลับมิได้แสดงออกถึงความเป็นหนึ่งในสามสีนั้นเลย ขนาดคนที่ทำตัวเป็นผู้ศึกษาศาสนา ที่วนเวียนไปมาหาสู่ที่นี่ ยังมีจิตใจที่ระดับตรงนี้ คงไม่ต้องพูดถึงการถ่ายทอดสู่ เน็กเจเนอเรชั่น เลย ใครจะไปอยากเอาอย่างกัน ยิ่งศึกษาจิตใจยิ่งหันกลับ จะทำบุญสร้างวัดให้รกแผ่นดินอีกหรือ ในเมื่อมีแต่จำนวน แต่การสอนวิธียกระดับจิตใจไม่ได้ทวีตามจำนวนวัดด้วย ตัวเองยังยกระดับจิตใจตัวเองไม่ได้ จะเอาอะไรไปสอนคนอื่นได้ เมื่อมีคำสอนใดที่ดูเหมือนจะเข้าท่า เราก็พึงพอใจที่ได้ฟัง สุดท้ายเราก็ลืมและมิได้นำไปใช้

ถ้าท่านต้องการเป็นครูของคนบนถนนสายนี้ สิ่งที่ท่านจะต้องแสดงให้เห็นคือ สภาวะจิตของท่านที่เข้าทะลวงจิตใจตัวเองก่อน มิใช้คำพูดคำคมไร้น้ำหนักที่เข้าทะลวงใจคนอื่น

ถ้าธรรมเป็นการถ่ายทอดโดยตรงจากใจสู่ใจ ตามที่เซนว่าไว้ คงไม่ผิดเพี้ยนเลย ใจที่หยาบได้ถ่ายทอดสู่ใจที่หยาบให้ปรากฏเป็นรูปธรรม ณ ที่นี่อย่างชัดเจน คนที่แสดงตัวเหมือนจะเป็นผู้รู้ ไม่ได้แสดงออกให้เห็นเลยว่า ใจของเค้านั้นเข้าถึงความรู้ของเค้านั้นด้วย

ท่านอาจต่อต้านลัทธิต่างๆ ที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้อง และทำทุกอย่างเพื่อแสดงให้เห็นว่า สิ่งที่ท่านคิดนั้นถูก ผลสุดท้ายท่านอาจเป็นผู้ชนะ หรือไม่ก็อาจบาดเจ็บทั้งคู่ แต่ท่านได้หลงลืมไปแล้วว่า ผู้ที่มีใจสูงนั้น เป็นผู้ที่ข้ามพ้นความถูกผิด ดีชั่ว มิใช่หรือ

ปัญหาง่ายๆของท่านก็คือ ท่านแบกรับภาระใหญ่หลวงนัก เป็นภาระที่ท่านสร้างขึ้นเอง กำลังขาของท่านต้องแบกรับสิ่งที่ไม่มีตัวตนมานานแค่ไหนแล้ว ถ้าท่านยังไม่สามารถบังคับใจตนได้ในทุกทุกเรื่อง ท่านจะเอาอะไรไปบังคับใจคนอื่น ถุงบ้าๆหนักอึ้งนี่ไม่มีทางลงจากหลังท่านได้ ถ้าท่านไม่วางมันลงด้วยตัวเอง




อย่างไรก็ตามข้าพเจ้าได้รู้จักคนหลายคนจากที่นี่ ซึ่งนับว่าไม่เลวนัก จงสังเกตตัวท่านและมิตรของท่านให้ดี มิตรของท่านมีจิตใจที่ระดับใด มันมีแนวโน้นที่เป็นไปได้มากว่า ท่านจะมีจิตใจที่ระดับเดียวกันนั้น คุณลักษณะอย่างหนึ่งของมนุษย์ คือ มันจะดึงดูดสิ่งที่คล้ายกันเข้ามา

ถ้าท่านไม่หวนลงมองจิตใจของท่านเองโดยเร็ว แล้วทวนกระแสทุกสิ่งที่เป็นท่านทั้งหมด ห้องศาสนานี้คงพินาศก่อน ทุกวันนี้มันก็พินาศอยู่แล้ว เพียงแต่ท่านมองไม่ออกเอง ตามด้วยการล่มสลายของแผ่นดินที่ท่านอาศัย ยืน เดิน นั่ง นอน

ข้าพเจ้าไม่อาจจิตนาการได้เลยว่า มันต้องใช้ความกล้าหาญมากสักแค่ไหนนะ ที่ใครซักคนจะก้าวออกมายอมรับการกระทำของตัวเอง แล้วบอกว่าสิ่งที่ผมทำมาตลอดนั้นผิดพลาดไปแล้ว ผมจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่างไร ถ้าท่านขึ้นมาเหยียบบันไดขั้นนี้ได้ จะมีบันไดขั้นไหนที่ท่านก้าวข้ามไม่ได้อีก





วันนี้จะสวยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับท่านเอง

จากคุณ : koknam - [ 6 พ.ย. 50 21:38:41 ]




 

Create Date : 06 พฤศจิกายน 2550
0 comments
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2550 22:16:12 น.
Counter : 7952 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


campaign
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




   
[Add campaign's blog to your web]