ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
Group Blog
 
 
มีนาคม 2551
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
23 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 

ครั้งแรกของสาวน้อยบนดอยสูง......ภูหลวง(ท่องป่า)

ข้อมูลสำหรับท่านที่ไม่เคยไป ภูหลวงมีสองทางเลือกครับ


1. นอนโคกนกกระบา ขออนุญาตที่กรมป่าไม้ ที่อาคารร้อยปี ด้านใต้ลานจอดรถ อาคาร ส่วนอุทยานฯ


เอาสำเนาบัตรประชาชน ของผู้ไปพัก เด็กเอาสูติบัตร แต่อนุโลมกันได้ครับ ขอ 3 ไป 4 หรือ5ก็ได้


แต่ขอไปเยอะดีกว่า เขาจะได้จัดห้องกว้างๆให้ ห้องหนึ่งนอนได้ 5-7 คน อาหารโทรไปจองกันก่อน เหมาหัว

จ่ายวันกลับ เช้า พวกข้าวต้ม 60 บาท กลางวันข้าวห่อ 60 บาท เย็นข้าวตั้งโต๊ะอาหาร 3-4 อย่าง ผลไม้ 120 บาท

ที่พักไม่ต้องจ่าย เช้า 9.00 น. เจ้าหน้าที่จะพาเดิน ลานสุริยันร์ ส่วนทางด้าน ผาเตลิ่น ผาสเด็จ เดินเองได้ครับ


เบอร์ที่ หน่วยโคกนกกระบา 0852725946

2. นอนที่ด่านสอง แปรงเพาะชำ ไม่ต้องขออนุญาต เอาเต็นท์ ไปกางได้เลย เช้าขับรถขึ้นไปเที่ยว


ขึ้น-ลง ตามเวลาที่กำหนด สามารถทำอาหารเองหรือ ไปสั่งข้าวกินที่ด้านบนได้เช่นกัน

จากด่านสองไป โคกนก 10 กิโล หรือถ้าไม่ค้างคืนก็ขับขึ้นไปเที่ยวได้เลย บ่ายๆก็กลับได้ครับ

ส่วนกรณีจะไปทางโหล่นแต้ ต้องขออนุญาตเป็นกรณี พิเศษไปครับ ไม่รวมกับขอของโคกนกกระบา

แต่ใช้แบบฟร์อมเดียวกัน ทางหน่วยจะจัดเจ้าหน้าที่นำทางไปให้ครับ

ทางไป ภูหลวงที่สะดวก และสั้นที่สุดแล้วคือ สาย 21 ออกจะสระบุรี 4 เลนส์ ตลอดจนถึง หล่มสัก


จะมีทางโค้งตามราบเขา ช่วงด่านซ้ายเท่านั้น เช้าก็เเวะ กินโจ๊กที่ตลาด ภูเรือก่อนครับ

ทางขึ้น ภูหลวงหางตลาด 10 โลเอง ทางซ้ายมือ ตรงบ้านสานตม

เดินทางโดย รถโดยสาร ขึ้นที่หมอชิต กรุงเทพฯ-ภูเรือ เพชรทัวร์ ช่อง 42 หรือ บ.อื่นๆ ขอให้เดินทางไป ภูหลวงอย่างปลอดภัยครับ

หวังว่าคงช่วยท่านที่ต้องการเดินทางไปบ้างน่ะครับ


เมื่อปี 46 ข้าพเจ้าได้ไปสัมผัสกับ ภูหลวงเเห่งนี้มาแล้ว คลิกดูเรื่องเก่าครับ

และครั้งนี้ ได้มีโอกาส พาสาวน้ำค้างไปสัมผัสบาง







เดินทางครั้งนี้ ข้าพเจ้าเป็น พลขับ กว่าจะเลิกงาน ทุ่มครึ่ง เตรียมพร้อมออกจากระยอง

สี่ทุ่ม ถึงตลาด ภูเรือ หกโมงเช้า อากาศหนาวมาก แต่ผู้คนก็มากันเยอะแยะ แวะกินข้าวเช้าที่นี้







ร้านนี้ ขนมปังปิ้งอร่อย โจ๊กก็ใช้ได้ ชื่อร้าน the mail ครับ







นั้งผิงแดดอ่อนตอนเช้าจนถึงสายๆ ได้เวลาขึ้น ภูกันแล้ว





จากตลาด ภูเรือไปอีก 10 กิโล แยกขวาเข้าบ้าน สานตม และต่อไป เขตฯ อีก 20 โล

แปดโมงถึงที่ทำการ โคกนกกระบา ได้ที่พักหลังนี้ครับ บ้านไก่ฟ้าพญาลอ






จอดรถที่หน้าบ้านขนของ เจ้าหน้าที่ คนใหม่เป็นคนจัดบ้านหลังนี้ให้

แก่มารู้ที่หลังว่าผม สนิทกับเจ้าหน้าที่บนนี้ทุกคน เลยมาบ่นกับผมว่าไม่ยอมบอกแก

ไม่งั้นจะจัดบ้านหลังใหม่กว่านี้ให้หน่อย สำหรับผมหลังเล็กใหญ่ไม่สำคัญครับ

มาน้อยคนก็นอนหลังเล็ก








ช่วงนี้กุหลาบแดงกำลังบานเยอะ ต้นนี้ที่หน้าศูนย์ บริการนักท่องเที่ยว

แล้วสามสาวก็เข้าบ้าน นอนเอาแรงกัน กว่าจะตื่นก็บายแก่แล้ว

ข้าพเจ้าโดนกาแฟ เซเว่นเล่นงาน ตาค้าง นอนไม่ได้ครับ เลยสำรวจแถวๆบ้านพัก















จะเป็นพวกไลเคน พองหิน กล้วยไม้ตละกูลสิงโต







ปลุกสามสาวมากินข้าวเที่ยงแล้วก็พาออกสำรวจรอบบ้านพัก ปีนี้เจ้าหน้าที่ทำรั้วกัน

ไม่ให้นักท่องเที่ยว เดินดูกล้วยไม้กันเอง เพื่อป้องกันคนแอบขโมย กล้วยไม้








นักสำรวจตัวน้อย โตขึ้นจะให้เป็นผู้เชียวชาญด้านกล้วยไม้ 5555

แต่ตอนนี้เจอจะเด็ดอย่างเดียวเลย











แถวบริเวณบ้านพักมี สำเภางาม กับ รองเท้านารี อินทนนท์(หน้าเรือนรับเสด็จ)

และพวก สิงโตสยาม สิงโตรวงข้าว







เดินไปได้หน่อยก็ล้ม แกยังเดินไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ ตอนนี้เพิ่ง ขวบ แปดเดือน







ก็อุ้มกันมาจนถึงเรือนรับรองหลังใหม่ ใหญ่โตทีเดียว มองไปเห็นลานสุริยันทร์เลย






วนกลับมาที่บ้านเราและลงไปเรือนรับเสด็จ ก็เจอคนเก่าคนแก่ น้าทองหลาง

เมื่อครั้งไปเดินด้วยกันเมื่อ 5 ปีที่แล้วยังหนุ่มเลย ปีนี้แก่ไปเยอะ









เย็นนี้มารอกินข้าวเย็นแต่หัววัน เพราะคนเยอะมาก มีข้าราชการที่มารับเสด็จ

เมื่อกางวันขึ้นมาพัก กลุ่มใหญ่เลย วุ่นวายมาก น่าสงสารเจ้าหน้าที่







สาวน้อย น้ำค้างหิวจัดโวยเสียงดังจน น้าทองหลางต้องไปเจียวไข่มาให้แกก่อน

สงสารเด็ก หิวแล้วไม่มีให้กิน แก่เป็นคนใจดีครับ เสร็จเรารีบกลับเข้าบ้าน

เอาแรงพรุ่งนี้จะไปเดินท่องป่า เบื่อเสียงขี้เมาทำเพลงด้วยแหละครับ







เช้าตื่นสาย เหมือนอยู่บ้านเลย แม่ครัวจะเก็บข้าวต้มแล้วเราเพิ่งมากินกัน 555

เก้าโมงเหลือน้าทองหลาง กับพี่ สุนทรเท่านั้นเฝ้าหน่วย จะเอาน้าทองหลางไปก้ใช่

ที่แก่แล้ว เลยบังคับพี่สุนทร ไปเดินนำมันเป็นระเบียบครับ ห้ามเดินเอง ที่จริง

แถวนี้ผมเดินเสียจะรู้ทุกเส้นเเล้ว(สมัยก่อนที่ไม่ห้าม)







สาวน้อยพร้อมไปเดินลานสุริยันทร์แล้วครับ แต่งตัวสีเจ็บด้วย





เพียงแค่เริ่มเดินเข้าลาน เหงื่อก็ไหลโชกแล้ว หนูน้อย






















ที่ลานสุริยันทร์ ดอกหรีด จะมีกล้วยไม้พวก สิงโตขยุกขยุย ดอกประทัดแดง

เอื้องสีลา ส้มแปะ เอื้องใบหมาก สิงโตใบพัด สิงโตรวงข้าว








บริเวณนี้เดินเป็นวงรอบ ระยะทาง ประมาณ 2 กิโล ดูกล้วยไม้ไปเพลินไม่เหนื่อยครับ

เดินมั้งอุ้มมั้ง แล้วแต่อารมณ์สาว น้ำค้างเขา







มาถึงิหินนกกระบาแล้ว มาได้ครึ่งทางแล้วครับ ปีนี้แหละที่มันหันหน้ามาทางทิศใต้

เพราะช้างป่ามาดันหมุนมันเล่น คงสนุกเขาแหละ









ได้เวลาเติมพลังแล้วครับ ช่วงนี้คือเวลานอนเขา แต่ไม่ได้นอนขอกินก็ยังดี






ชักออกอาการหงุดหงิดแล้วครับ ไม่ได้นอน ร้อนแล้วด้วย








ก็อุ้มเข้าบริเวณป่าดิบ ทางช่วงเย็นสำบาย ถ้ามาช่วงฝนจะมีน้ำตกไหลตลอด

เมเบิลเป็นดง แต่แดงไปหมดแล้วในช่วง ธันวา เลยเห็นแต่ไปแห้งๆ








พ้นดงเมเบิลก็ออกมาทางเรือนรับเสด็จ ได้เวลาข้าวเที่ยงพอดี ไปที่โรงครัวเลย

เจ้าหน้าที่เขาจัดเตรียมไว้ให้แล้ว ไปถึงก็กินได้เลย บ่ายนี้จะทิ้งแม่กับสาวน้ำค้าง

ไว้กับ น่าทองหลาง ข้าพเจ้ากับน้องสาว จะไปผาเตลินกัน เดินไปกลับ 8 กิโล

คงไม่ไหว







เริ่มเข้าดงป่าแคระกันแล้ว เจอ สำเภางามเยอะครับ มีหลายสีให้เลือกชม







ครึ่งทางแล้วครับ ผาสมเด็จ ปีนี้แล้งเร็ว กุหลาบแดงไม่สวยเท่าไหร่






ที่ผลิบานก็เฉาๆ ที่บานไปแล้วก็แดดไหม้กลีบดอกเกลียม ไม่แจ่มเลย








เอ๋าไป ผาเตลินกันต่อ เชิญพี่นำทาง 555 น้องข้าพเจ้าเริ่มจะกลัวแล้วครับ

เดินกันมาสองคนเอง เงียบเชียว








เดินลงหุบไป เจอรอยพี่ใหญ่ ใหม่ๆเลยครับ เจ้าน้องสาวชักอยากจะกลับเอาตอนนี้แล้ว

ก็ได้แต่บอกว่ารอยเมื่อเช้าแล้ว ป่านนี้ลงไปนอนในหุบแล้วล่ะ เดินต่ออีกนิดก็ จะถึงแล้ว






หันกลับมอง ผาสมเด็จที่เราเดินผ่านมา เมื่อต่ะกี้ ไกลเหมือนกันน่ะ






มุ่งสู่ป่าแคระ ไม่ต้องกลัวช้าง ถึงมีก้เห็นกันก่อนจะจวนตัว








กองหินด้านหลังนั้นแหละครับ ผาเตลิน หลังจากที่เดินมาได้ 2 โลกว่า ถึงซะที







หน้าผาเหมือนกำแพงเมืองจีน ที่ ภูกระดึงเลย







วันนี้ท้องฟ้าสดใส เมฆสวย ลมพัดเย็นสำบาย ที่เดินมาเหนื่อยๆหายเลย















ภาพย้อนแสงจากผาเตลิน ไปช่วงบ่าย เลยออกมาไม่แจ่มเท่าไหร่









เมื่อก่อนกุหลาบแดงต้นนี้บานสวยมาก บานพร้อมกันทั้งต้นเลย แต่ปีนี้ไม่เป็นเช่นนั้น






เดินลงมาจากผาเตลินเวลายังเหลือเลยพา น้องสาว ไปดูรอยเท้า ไดโนเสาร์ มีประมาณ 5 รอย






เทน้ำลงไปจะเห็นรอยได้ชัดเจนยิ่งขึ้น






กลับมาสาวน้ำค้างอาบน้ำรอแล้ว สองคนที่น้องเลยไปอาบมั้ง ไปดูพระอาทิตย์อัสดง

ที่ผาเยื่องกัน เย็นเหลือเพียง เรากับป้าๆอีก สองหลังบน ภูคืนนี้






คืนนี้ทั้งคืน บนภูหลวงก็เงียบสงบ มีทั้งเสียง กวาง หมาไน และช้าง ร้องอยู่รอบ้าน








เช้าเจอป้า บอกพวกแกกลัวมากเลย จะมาชวนเราไปนอนด้วยแล้ว แต่ไม่กล้าลงมา

เสียง กวาง เสียงหมาไน ผมน่ะชินเสียแล้ว แต่เสียงพี่ช้างนี้ไม่ค่อยไว้ใจ แต่เขาก็ไม่เคยเข้าเขตบ้าน

เลยสำบายใจได้่







สายแล้วเราไป ภูกระดึงต่อ ค้างที่นี้อีกคืน พาสาวน้ำค้างไปลองสถานที่ก่อน ไว้จะมาเดินกัน

ปีนี้ฝากไว้ก่อนน่ะ แม่เดินไม่ไหว น้ำค้างก็ยังขาอ่อนอยู่






ปีหน้า น้ำค้างจะตามรอยเท้าข้าพเจ้าแน่ จะพาน้องต้นน้ำไปด้วย






สำบายดี ภูกระดึง แล้วจะมาใหม่ รอทีมงานครบก่อน 55555



ฉบับ ภูหลวง(กล้วยไม้) ตามต่อครับ คลิกเลย




 

Create Date : 23 มีนาคม 2551
0 comments
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2552 1:17:17 น.
Counter : 2383 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


นาย วิท
Location :
ระยอง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีครับ blog นี้นำเสนอสถานที่ท่องเที่ยว และข้อมูลเล็กๆที่ ข้าพเจ้าชอบ
เพื่อจะเป็นแนวทางให้บุคคลทั่วไปได้เอาไปใช้บ้างครับ
Friends' blogs
[Add นาย วิท's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.