Bloggang.com : pp-rada : Interior-ว่าด้วยเรื่องการออกแบบครัว

Interior-ว่าด้วยเรื่องการออกแบบครัว

ห้องแต่ละห้องในบ้านนั้นล้วนมีความสำคัญแตกต่างกันไป ห้องครัวนับเป็นห้องหนึ่งที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปจากห้องอื่นห้องใดในบ้าน โดยมีหน้าที่หลัก 3 ประการด้วยกันคือ

1.เป็นสถานที่เก็บและสะสมเสบียง อาหาร
2.เป็นสถานที่ประกอบอาหารให้กับสมาชิดในบ้าน
3.เป็นสถานที่รับประทานอาหารและประกอบกิจกรรม

หลักการออกแบบห้องครัวให้สวยงามและตามรสนิยมของผู้อยู่อาศัย

1. ครัวงามแบบพื้นบ้านตะวันออก ครัวที่เน้นแบบเรียบง่าย ประหยัด ครบองค์ประกอบด้านการใช้สอย ตกแต่งด้วยวัสดุที่เรียบง่าย เช่น การจัดชั้นวางติดผนังโดยใช้ไม้เพียงไม่กี่ชิ้น การปูพื้นด้วยกระเบื้องซีเมนต์ลวดลายแบบเก่า ชั้นวางของเป็นแบบลอยตัวสามารถเคลื่อนย้ายเปลี่ยนมุมได้
2. ครัวงามแบบพื้นบ้านตะวันตก การออกแบบครัวให้มีความต่อเนื่องกับการใช้งานในส่วนอื่นของบ้าน ให้เกิดความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เน้นส่วนปรุงอาหารอยู่ตรงกลาง วัสดุตกแต่งเน้นสีธรรมชาติคงความดิบของเนื้อไม้ได้อย่างดี มักมีส่วนของห้องเก็บไวน์ ให้ใกล้กับห้องอาหาร บรรยากาศโดยรวมเป็นแบบคันทรี่
3. ครัวงามแบบเรียบหรูดูคลาสสิค วัสดุส่วนมากใช้ไม้ธรรมชาติ ทำสีธรรมชาติ การออกแบบบานตู้นิยมใช้ลายลูกฟักให้เกิดความหรู ทอปหินธรรมชาติ เพดานนิยิมติดบัวเพดานและบริเวณหัวตู้ด้านบน
4. ครัวงามแบบหรูสมัยใหม่ เน้นวัสดุสังเคราะห์ เช่น ฟอร์เมก้า ลามีเนต สแตนเลส เน้นวัสดุอุปกรณ์ที่ทันสมัย การใช้สีที่เพิ่มความสดใส ภายในตู้เลือกใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัย โดยมากเป็นเหล็กชุปหรือสแตนเลส

ข้อพิจารณาในการตัดสินใจ

1. จำนวนผู้ใช้ห้องครัว ใครเป็นผู้ใช้ อาหารที่ชอบประเภทใด อันหมายถึงระยะเวลาของแต่ละบุคคลที่ต้องใช้เวลากับห้องครัว สัมพันธ์ถึงการกำหนดขนาดและพื้นที่ใช้สอยของห้องครัว

2. ความบ่อยในการต้อนรับแขก การประกอบอาหารแบบสดหรือแห้ง สัมพันธ์เรื่องขนาดของตู้จัดเก็บอาหาร ขนาดของห้อง

3. ความถนัดของผู้ใช้งาน ความถนัดซ้ายหรือขวาของผู้ทำอาหาร ส่งผลด้านการออกแบบที่จัดเก็บอุปกรณ์ หรือการวางตำแหน่งของวัตถุดิบ

4. ความบ่อยในการซื้อวัตถุดิบเข้าบ้าน อาหารแห้ง สด อาหารกระป๋อง มีผลต่อขนาดของที่จัดเก็บ ขนาดของตู้เย็น

5. งบประมาณการก่อสร้างและตกแต่ง

6. เครื่องอำนวยความสะดวก เช่น เตาไมโครเวฟ เตาอบ เพื่อสะดวกในการกำหนดขนาดและการใช้งาน

7. รสนิยมเฉพาะตัว การตกแต่งรูปแบบใด

8. ทิศของตำแหน่งห้อง ส่งผลทางด้านแสงสว่าง ความร้อน การระบายอากาศ เสียง กลิ่น ความสะดวกในการเข้าถึง

9. การเลือกใช้ระบบระบายอากาศแบบทางลมธรรมชาติ หรือใช้เครื่องระบายอากาศ

10. ความปลอดภัย

ลักษณะการทำครัว...
ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบทำอาหารและใช้งานห้องครัวหนัก รูปแบบของครัวควรจะเป็นครัวไทย ซึ่งความแข็งแรงจะมีมากเนื่องจากเคาน์เตอร์ที่เป็นโครงสร้างคอนกรีต สามารถตำครก สับ โขลกบนเคาน์เตอร์ได้ นอกจากนี้จะมีเรื่องของกลิ่นเข้ามาเกี่ยวข้อง การถ่ายเทอากาศจึงสำคัญ ถ้าคุณใช้ชีวิตในเมืองหลวงและใช้ครัวทำอาหารง่ายๆเท่านั้น ก็เหมาะกับครัวสมัยใหม่ ใช้งานง่าย มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน และมีความสวยงามเรียบง่าย แต่ถ้าคุณต้องการโชว์ครัวสวยๆและมีพื้นที่ในบ้านเยอะ คุณอาจจะเลือกครัวแบบโชว์ไปเลย ซึ่งครัวประเภทนี้จะมีลักษณะสวยงามโดดเด่น มีเคาน์เตอร์ลอย เปิดโล่งต่อกับส่วนอื่นๆของบ้าน อาจมีเคาน์เตอร์และเก้าอี้สูงสำหรับนั่งรับประทานด้วย แต่ถ้าคุณอาศัยในคอนโดหรืออพาร์ทเมนท์ ห้องครัวจะเป็นแบบสำเร็จรูปหรือกึ่งสำเร็จรูป ซึ่งจะต้องวัดอย่างละเอียดก่อนนำเข้าไปติดตั้งและรูปแบบจะดูกลมกลืนไปกับการตกแต่งอพาร์ทเมนท์

ตำแหน่งของครัว....
ทิศทางของห้องไม่ควรอยู่ในทิศที่อับหรือทึบ ควรมีแสงแดดส่องถึงเพื่อไล่ความชื้นออกไป ที่สำคัญต้องระบายอากาศดีด้วย มีหน้าต่างถ่ายเทลมได้ดี เปิดเห็นวิวทิวทัศน์ได้บ้าง ห้องครัวควรมีตำแหน่งใกล้กับส่วนรับประทานอาหารและอาจอยู่ใกล้กับที่จอดรถเพื่อเอาของที่ซื้อเข้าบ้านได้สะดวกขึ้น หรือถ้าบ้านของคุณมีบริเวณกว้างขวางหรือมีหลายเรือน อาจจะแยกส่วนครัวออกไปด้านนอกตัวบ้าน และทำส่วนเตรียมอาหารหรือที่เรียกว่า Pantry เอาไว้พักอาหารที่มาจากครัวหลักหรือใช้เตรียมอาหารที่ไม่มีขั้นตอนยุ่งยากและไม่มีกลิ่นรบกวน

แสงสว่างในห้องครัว...การทำอาหารถือว่าเป็นการทำงานประเภทหนึ่ง ดังนั้นเรื่องของแสงสว่างจึงเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากแสงที่ให้ความสว่างในห้องแล้ว ยังต้องมีแสงเฉพาะจุดที่ใช้ทำงานซึ่งต้องสว่างเป็นสองเท่าของความสว่างห้อง อาจติดตั้งไว้ใต้ตู้ครัวเหนือเคาน์เตอร์ หรือเป็นไฟห้อยลงมาจากเพดานก็ได้

การวางแปลนของห้องครัว...ด้วยความที่ห้องนี้เน้นประโยชน์ใช้สอยมากเป็นอันดับหนึ่ง การวางตำแหน่งของอ่างล้างจาน เตา และตู้เย็นควรมีรูปแบบการทำงานเป็น 3 ด้าน (Work triangle)โดยเว้นระยะเผื่อไว้สำหรับวางจานอาหารหรือวางของระหว่างอ่าง เตาและตู้เย็นด้วย การวางแปลนสามารถทำได้หลายแบบแล้วแต่ความถนัดและการใช้งานของแต่ละคน

• แบบรูปตัว U: ในลักษณะนี้จะจัดให้ เตา ตู้เย็นและอ่างล้างจาน อยู่ติดผนังแต่ละด้าน เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่เยอะ ครัวลักษณะนี้จะมีความยืดหยุ่นมาก เพราะจะมีพื้นที่สำหรับเป็นตู้เก็บของได้มาก

• แบบรูปตัว L: รูปแบบนี้จะใช้ผนัง 2 ด้านของห้องครัว และมักจะให้ตู้เย็นอยู่ที่ปลายฝั่งยาวของตัว L อ่างจะอยู่ตรงกลางของผนังฝั่งเดียวกันนั้น และตั้งฉากกับเตาที่อยู่ในด้านสั้นของตัว L เหมาะกับบ้านที่มีขนาดปานกลางและไม่ค่อยมีการกั้นห้อง (Open Plan)

• แบบรูปตัว G: รูปแบบนี้จะมีเครื่องใช้ 2 ชิ้นอยู่ที่มุมผนังแต่ละด้านและเครื่องใช้ที่ 3 จะอยู่ที่เกาะกลาง (Peninsula) ซึ่งมักจะเป็นอ่างล้างจานหรือเตา ครัวลักษณะนี้ช่วยในการแยกส่วนทำอาหารกับส่วนทานอาหารหรือห้องนั่งเล่นออกจากกันแต่ยังดูเชื่อมต่อกันอยู่ เหมาะกับผู้ที่ต้องการโชว์อุปกรณ์ครัว

• แบบรูปตัว I: เป็นครัวที่ขนาบทางเดินตรงกลาง ทุกอย่างในครัวนี้ จะอยู่ใกล้มือมาก จึงอำนวยความสะดวกได้ดี เหมาะสำหรับการทำครัวที่ไม่ต้องการพื้นที่มาก

• แบบแถวยาวตลอด (One Wall Kitchen): เป็นครัวที่มีการจัดวางเป็นแบบแถวเดียวชิดผนังหมด เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่น้อย แต่ความสะดวกจะน้อยกว่าแบบอื่นๆ

ไม่ว่ารูปแบบลักษณะการจัดวางจะเป็นแบบใด องค์ประกอบหลักของเครื่องใช้ในครัว Pantry 3 อย่าง (Appliances) ที่ขาดไม่ได้คือ
-หัวเตาแก๊สไฟฟ้า
-อ่างล้างจาน
-ตู้เย็น
ทั้งนี้ตำแหน่งที่ตั้งของเครื่อง ใช้ทั้ง 3 ส่วนนี้ จะ ต้องอยู่ในระยะ ที่เหมาะสม กับการใช้งานไม่ อยู่ในระยะ ที่ใกล้หรือไกลเกินเอื้อม
รูปแบบของตู้ครัว Pantry ประกอบด้วย
-ตู้ Cabinet ตัวล่างที่ใช้สำหรับ ประกอบอาหาร และ เป็นที่เก็บของ
- ตู้ลอยซึ่งเป็น ตู้แขวนติดผนัง ใช้สำหรับเก็บของ ที่ไม่มีน้ำหนักมากเกินไป

วัสดุที่ใช้ในการทำตู้โดยทั่วไปสามารถแบ่ง ออกเป็น 2 ประเภท คือ
-ตู้ที่มีโครงสร้างเป็นไม้สังเคราะห์ ซึ่งไม่มีโครง สร้าง ภายในได้แก่ ไม้ MDF และParticle Board ตู้ครัว ประเภท นี้เราจะเห็นได้ทั่วไปตาม ร้านขายเฟอร์นิเจอร์ สำเร็จรูปทั่วไป ข้อดีของตู้ครัว ประเภทนี้คือเป็นครัว ประเภท ถอดประกอบ ( Knock Down ) สะดวกรวดเร็ว และง่ายต่อการติดตั้ง แต่จุดด้อยของตู้ครัวแบบนี้คือไม่ สามารถ ทนความชื้น ซึ่งเกิดจากน้ำได้ เพราะไม้ Particle Board และ ไม้ MDF จะเกิดการพองตัว ซึ่งไม่สามารถ ทำ การซ่อมได้

-ตู้ครัว ที่มีโครงสร้าง เป็นไม้จริง และปิดผิวด้วยไม้ อัดหรือไม้จริง และจะมี ความคง ทนกว่า แบบ แรก เนื่อง จากมีโครงสร้างเป็นไม้จริง และไม่มีข้อกำหนดในการ สร้าง เป็น ครัวที่จัดทำขึ้นมาโดยเฉพาะ ไม่ใช้ชุดครัวสำเร็จรูป ตามแบบ ประเภทแรก

วัสดุที่ใช้ในการทำเคาน์เตอร์ top ครัว Pantry มีอยู่ 7 ชนิด ได้แก่
1.top ที่ใช้หินแกรนิต
2.top ที่ใช้หินอ่อน
3.top ที่ใช้หินสังเคราะห์
4.top ที่ปูด้วยกระ เบื้องเซรามิก
5.top ที่ใช้พลาสติกลามิเนต
6.top ที่ใช้สเตนเลสสตีล
7.top ที่ใช้ไม้จริง

Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2554

Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2554 23:45:30 น.

0 comments

Counter : 17751 Pageviews.