ตอนที่ 2
ตอนที่ ๒ ครั้งนี้มันจะเหลวอีกไหมครับอาจารย์หนึ่งในจำนวนผู้ร่วมคณะสำรวจหันไปทางด็อกเตอร์ชีวิณที่นั่งทำหน้าเคร่งมองแผนที่โบราณอยู่ในเต็นท์กลางป่าใหญ่ ด็อกเตอร์ชีวิณสินธุคา นักโบราณคดีหนุ่มพื้นเพเป็นชาวจังหวัดน่านโดยกำเนิดเขาปรารถนาที่จะฟื้นฟูเมืองน่านซึ่งเป็นเมืองเก่าให้เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและยังมีความเชื่อในเรื่องเมืองโบราณที่สาบสูญรอการค้นหาหลังจากเรียนจบ ภารกิจหลักในการกลับสู่บ้านเกิดก็คือการขุดค้นหาเศษซากของเมืองโบราณในลุ่มน้ำน่านตอนบน กระทั่งเขาได้ค้นพบกับสมบัติของชาติอีกชิ้นหนึ่งที่บ่งบอกว่านอกจากวรนครเมืองเก่าน่านที่ดอยภูคาแล้วก่อนหน้านั้นยังมีหลักฐานว่าพื้นที่ในแถบถิ่นดินแดนนี้ยังมีอีกเมืองหนึ่งที่ตั้งมาก่อนหลายเมืองเมืองที่เคยปรากฏความรุ่งเรืองในยุคกว่าพันห้าร้อยปีที่ผ่านมา นั่นก็คือเมืองฮาง ด็อกเตอร์ชีวิณเขียนโครงการเพื่อขอทุนในการสำรวจค้นหาเขาต้องนำเสนอหลักฐานข้อมูลที่มีอยู่น้อยนิดทว่าทำให้น่าสนใจจนกระทั่งทางกรมศิลปากรยอมให้ทุนแล้วจึงนำคณะสำรวจเดินทางสู่พื้นที่ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นที่ตั้งของเวียงฮางในอดีตเวียงฮางที่เคยเป็นเพียงนิทานปรำปราเล่าขานกันมาเนิ่นนานเพื่อพิสูจน์ให้โลกได้รับรู้ว่าที่นี่เคยมีอยู่จริง มันจะต้องไม่เหลวสิอาจารย์เชื่อว่าอีกไม่นานพวกเราจะต้องพบเจอกับหลักฐานบางอย่างที่บอกถึงความเป็นเวียงฮางอย่างแน่นอนด็อกเตอร์หนุ่มเอ่ยพร้อมเงยหน้าขึ้นมองอิทธิพล...อาสาสมัครหนุ่มจากรั้วมหาวิทยาลัยชื่อดังซึ่งขอร่วมเดินทางมาสำรวจในครั้งนี้ด้วย คราวที่เราเข้าสำรวจอำเภอแม่จริมกับอำเภอเวียงสาเราก็เหลวมาครั้งหนึ่งแล้วนะครับอิทธิพลว่า ความตั้งใจคราวแรกซึ่งเหมือนว่ามันจะแรงกล้าไปไหนไปกันบุกป่าฝ่าฟันไม่เกี่ยงทว่าเวลานี้พลังใจที่มีมันกลับลดถดถอยไปมากหลังจากที่งานค้นหาล้มเหลวมาแล้วถึงสองครั้งครั้งแรกที่อำเภอแม่จริม เพื่อนอาสาสมัครหญิงเป็นไข้ป่ากลับมาเกือบเอาชีวิตไม่รอดส่วนครั้งที่สองก็ไม่พบอะไร นอกจากหินเก่าๆ ในเขตป่าแถบชายแดนอำเภอเวียงสาและอำเภอสองของจังหวัดแพร่เท่านั้นแล้วครั้งนี้ล่ะเข้าป่ามาลึกจนเกือบจะข้ามเขตแดนไปยังอีกจังหวัดหนึ่งแล้วทุกอย่างก็ยังคงเดิม ทำงานกับอาจารย์ก็ต้องอดทนสิดูอย่างรุ่นพี่ของเธอพวกเขายังขยันตั้งใจกันถึงมันจะเหลวสักกี่ครั้งแต่เธอรู้ไหมเมื่อความสำเร็จเดินทางมาถึงนายจะรับรู้ถึงความหอมหวามของมันภาคภูมิใจเมื่อสิ่งที่เราการค้นพบถูกจารึกลงหน้าประวัติศาสตร์ อดทนเอานะอีกนิดเดียวเท่านั้น อย่าลืมถึงความตั้งใจของเธอในคราวแรกสิด็อกเตอร์ชีวิณวางมือลงบนบ่าของอาสาสมัครหนุ่มมือใหม่อย่างให้กำลังใจ อิทธิพลนึกย้อนไปถึงประกายแสงอันแรงกล้าของความฝันตนเองใช่...เขาลืมมันไปได้อย่างไรเขาลืมความฝันที่อยากจะค้นหาเมืองโบราณสมบัติของชาติและเป็นหนึ่งในจำนวนนักโบราณคดีที่ค้นพบสมบัติอันล้ำค่าได้อย่างไรกัน...แล้วไฟฝันกำลังจะมอดดับ ก็ค่อยๆ กระพือขึ้นมาทีละน้อยด้วยกำลังใจของด็อกเตอร์ชีวิณผู้ที่มีความฝันเดียวกัน อาจารย์ครับอาจารย์ชายหนุ่มคนหนึ่งวิ่งมาหาด็อกเตอร์ชีวิณด้วยรอยยิ้มดีใจ เจอแล้วครับ เจอแล้ว เสียงหนึ่งที่บ่งบอกถึงความดีใจร้องเรียกขานดังมาให้ได้ยินถึงในเต็นท์พักทั้งอาจารย์และศิษย์หนุ่มต่างมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ เจออะไรกาวด็อกเตอร์ชีวิณถึงกับลุกจากเก้าอี้ผ้าใบด้วยความรู้สึกตื่นเต้นอันเกิดจากความหวังที่ถูกจุดประกายขึ้น เจอภาพสลักบนผนังในถ้ำที่เราสำรวจกันครับ ไหน นำไปสิ ทั้งสามออกจากเต็นท์เดินตามกันไปยังผาหินสูงเสียดฟ้าจนต้องแหงนคอตั้งบ่ามองมีเพียงกลุ่มไม้เล็กๆ เท่านั้นที่ขึ้นอยู่หร็อมแหร็มตามซอกผากลุ่มหินที่พวกเขาเดินตรงไปนั้นเป็นกลุ่มหินที่เพิ่งถล่มลงมาจากการกัดเซาะของน้ำฝนเมื่อหนึ่งเดือนก่อนวางเกะกะขวางเส้นทางผ่านเข้าไปยังผาสูง ที่ปรากฏให้เห็นเป็นปากถ้ำเล็กๆอยู่เบื้องหน้า ทั้งสามเดินติดตามกันเข้าไปภายในสัมผัสถึงความเย็นและความอับชื้นกับกลิ่นมูลค้างคาวจนต้องยกมือขึ้นปิดจมูกกวินฉายไฟไปด้านหน้านำทางดอกเตอร์ชีวิณเข้าไปตามช่องทางอย่างระมัดระวังกว่าสองร้อยเมตรก็พบกลุ่มอาสาสมัครอีกจำนวนหนึ่งยืนออกันอยู่ แสงตะเกียงให้ความสว่างมากพอที่จะมองเห็นรอบๆถ้ำแห่งนั้นโดยไม่ต้องเดินสะดุด ไหนก้อย นายกาวบอกว่าเจอภาพสลักที่ว่ามันอยู่ตรงไหนชีวิณหันไปทางหญิงสาวอีกคนผู้ทำหน้าที่คุมกลุ่มคนสำรวจในถ้ำชั่วคราวแทนด็อกเตอร์หนุ่มที่ออกไปพักผ่อนและหาข้อมูลด้านนอก ใช่ค่ะอาจารย์ ตรงนี้ค่ะ ภาพเขียนลายเส้นขนาดเล็กกลมกลืนไปกับเนื้อหินจนพวกเราเกือบจะมองข้ามก้อยไม่รู้ว่าเป็นภาพอะไร เขียนในสมัยไหน ด็อกเตอร์หนุ่มไม่พูดอะไรต่อเขาเดินตรงดิ่งไปหากลุ่มคนที่หลีกทางเป็นช่องไฟฉายในมือส่องไปยังภาพวาดหรือตัวอักษรที่ขีดลึกลงในเนื้อหินเป็นภาพกลุ่มคนสัตว์และสิ่งของอื่นๆ คล้ายกับภาพแกะสลักริมผาหินในมณฑลเสฉวนประเทศจีนด้วยความสนใจ ไม่ใช้ภาพเขียนสีแต่เป็นภาพแกะสลักลงบนเนื้อหิน..ไม่ได้ของที่ทพขึ้นอย่างแน่นอน ด็อกเตอร์หนุ่มเอ่ยทั้งไล้มือไปตามผนังอย่างแผ่วเบาด้วยความตื่นเต้น ว่าไงนะครับอาจารย์ไม่ใช่ภาพเขียนสีหรอกเหรอครับ อิทธิพลเอ่ยถามด้วยความรู้สึกตื่นเต้นไม่แพ้กันทั้งใช้มือลูบไล้ภาพที่ปรากฏบนผนังนั้นบ้าง ไม่ใช่...เท่าที่ดูเทคนิคการแกะสลักไม่ได้มีส่วนคล้ายที่ปราสาทนครวัด หรือในปราสาทศรีเทพที่เพชรบูรณ์ แต่ลายสลักกลับคล้ายวัฒนธรรมทางจีนตอนใต้มากกว่าเหมือนจะเป็นภาพขบวนแห่อะไรสักอย่าง เก่าแก่มากเลยค่ะอาจารย์ถ้าเป็นอย่างที่อาจารย์คาดคะเน ภาพนี้ก็น่าจะอยู่ในช่วง... ช่วงพุทธศตวรรษที่สิบเอ็ดถึงสิบหกหรืออาจจะมากกว่านั้น ด็อกเตอร์ชีวิณเอ่ยทั้งลูบไล้ฝ่ามือไปตามแผ่นภาพที่ปรากฏจนทั่ว กระทั่งสัมผัสเข้ากับปุ่มหินหนึ่งทั้งกดน้ำหนักลงไปบนนั้นอย่างไม่ตั้งใจ ครืด ด ด เสียงประหนึ่งบางสิ่งบางอย่างลากกับพื้นถ้ำยืดยาวชายหนุ่มชะงักหันไปมองทุกคนที่อยู่ในนั้นแล้วร้องเตือน ทุกคนเพื่อความปลอดภัยอาจารย์ขอให้พวกเธอออกจากถ้ำนี้ไปก่อน แล้วอาจารย์ล่ะคะสาวก้อยถามด้วยความเป็นห่วง ในขณะที่คนอื่นๆ ต่างทยอยออกจากถ้ำหลังได้ยินเสียงผิดปกติและคำเตือน ผมจะรอสังเกตดูอีกสักพัก ถ้าอย่างนั้นให้ผมอยู่ด้วยครับกวินว่าแล้วขยับเข้าไปใกล้อาจารย์ ผมด้วยครับอาจารย์อิทธิพลเสนอตัวบ้าง ก้อยด้วยค่ะ ตามใจ แต่ต้องระวังตัวให้มากถ้ำนี้ถูกเปิดเพราะฝน ถึงจะเป็นถ้ำเก่าแต่เราก็ไม่รู้ว่ามันจะพังทลายลงมาเหมือนหินผาข้างนอกหรือเปล่า ครับอาจารย์ พวกเราจะระวังอิทธิพลเอ่ยรับปากด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ได้ข้อสรุปแล้วทุกคนจึงหันไปสนใจกับปุ่มหินที่ดอกเตอร์ชีวิณเพิ่งจับจนทำให้เกิดเสียงดังเมื่อสักครู่เขาวางมือลงบนปุ่มหินนั้นอีกครั้งแล้วลงน้ำหนักมือกดลงไปใหม่ ครืด ด ด คราวนี้ชัดเจนเสียงครืดนั้นดังจากการกดมือลงบนปุ่มหินที่ขยับยุบเข้าไปภายใน ครืด ด ด อาจารย์ ระวังครับ กวินคว้าแขนด็อกเตอร์ชีวิณเอาไว้ได้ทันก่อนที่อีกฝ่ายจะถูกชนด้วยแท่งหินขนาดใหญ่เลื่อนออกจากผนังมาตรงหน้าพวกเขาถอยห่างอย่างตะลึงซึ่งถ้าในนั้นสว่างพอที่จะให้เห็นสีหน้าของแต่ละคนก็จะรู้ว่าบนใบหน้าของพวกเขาซีดสนิทไร้เลือดฝาดเพราะความตกใจ พอแท่งหินนั้นเคลื่อนออกจากผนังจนหมดแผ่นลมหอบใหญ่ก็โกรกกันออกมาจากช่องที่หินเพิ่งออกมาพร้อมกับกลุ่มฝุ่นผงเศษหินเศษดินปลิวว่อนเข้าตาจนแสบ สายลมอื้ออึงอยู่ราวสองนาทีทุกอย่างก็สงบทั้งด็อกเตอร์ชีวิณ ก้อยและกวินซึ่งพากันถอยห่างไปจนชิดกับผนังถ้ำอีกด้านและยกมือขึ้นปิดหูปิดตาต่างเปิดหน้าขึ้นมอง นี่มันอะไรกัน... ก้อยอุทานเมื่อภายในถ้ำนั้นไม่ได้มืดมิดเพราะมีแสงสว่างส่องลอดมาจากช่องขนาดคนหนึ่งคนเดินลอดได้สบายซึ่งเกิดจากการเคลื่อนของแท่งแผ่นหินใหญ่ โอ...วิศวกรรมของคนโบราณโอ...น่าอัศจรรย์จริงๆ ด็อกเตอร์ชีวิณอุทานด้วยความรู้สึกทึ่งและยินดีเช่นเดียวกันกับกวินที่จุดยิ้มให้กับการค้นพบครั้งใหม่ของกลุ่มคณะ เหมือนสุสานในพีรามิดที่ประเทศอียิปต์หรือไม่ก็สุสานของจิ๋นซีฮ่องเต้ในจีนเลยนะครับอาจารย์ เราไปดูข้างในกันเถอะ ด็อกเตอร์ชีวิณชวนก่อนจะเดินนำชายหญิงทั้งสองตรงไปยังช่องว่างซึ่งภายในมีถ้ำอีกแห่งหนึ่งซ่อนตัวอยู่ เกิดประกายสว่างวาบประหนึ่งใครกำลังนำกระจกมาส่องสะท้อนแสงอาทิตย์ดึงสายตาทั้งสามคู่ไปยังแท่นหินด้านในสุดของโถงถ้ำ คล้ายแท่นพิธีอะไรสักอย่างด็อกเตอร์ชีวิณว่า ก่อนจะนำคณะสำรวจเข้าไปด้านในแล้วตรงไปยังแท่นหินประหลาดนั่น เหมือนเป็นห้องลับเลยนะคะ ใช่ เหมือนห้องลับโอ...อาจารย์ครับ หรือว่าเราจะพบขุมสมบัติของคนโบราณเข้าให้แล้วกวินว่าพร้อมกับเบิกตาโตสำรวจไปรอบถ้ำ เหนือขึ้นไปสูงลิบจนต้องแหงนคอตั้งบ่าเป็นช่องลมขนาดเล็กมีกลุ่มต้นไม้ขึ้นอยู่หรอมแหรมส่วนด้านล่างไล่เรื่อยลงมามีกลุ่มไม้พุ่มเล็กๆ ออกอยู่ตามแง่งหินต่ำจนระดับสายตามีอัจกลับเล็กๆ ซ่อนตัวอยู่ตามช่องหินนับสิบ พึ่บ! เสียงประหนึ่งร่มกระตุกกางอย่างแรงก่อนดวงไฟบนแท่นหน้าวัตถุประหลาดสองดวงพร้อมกลิ่นหอมคล้ายกำยานจะโชยตามลม นั่นครับอาจารย์กวินชี้ไปยังจุดที่ก่อแสงสว่างบอกด็อกเตอร์ชีวิณและสาวก้อยให้มองตามอย่างตะลึง ไปดูกันเถอะค่ะ ก้อยชวนแล้วเดินตามนายชีวิณที่ออกเดินนำตรงไปยังแท่นปริศนาทั้งสามเบิกตามองอย่างอัศจรรย์ใจกับบางสิ่งบางอย่างที่วางนิ่งสนิทบนนั้นวัตถุที่มีกลุ่มฝุ่นผงเกาะหนาเตอะ ใยแมงมุมพันระโยงวัตถุที่ไม่กลายสภาพเป็นฟอสซิลทั้งๆที่คงอยู่มาเนิ่นนานนับพันปี เหมือนพิณหรือไม่ก็กระจับปี่เลยนะครับอาจารย์อิทธิพลเปรย คล้ายกู่เจิงเหมือนกันนะ กวินออกความเห็นบ้าง แต่ผมว่าไม่ใช่ทั้งสามอย่าง ซึงหรือคะ ก้อยถามอีกขยับตามด็อกเตอร์ชีวิณที่เอื้อมมือปัดเส้นไยเหนียวขาวของแมงมุมและฝุ่นออก พลันนั้น!!ภายนอกถ้ำ... ท้องฟ้าเหนือขุนเขาใหญ่กลับมืดทะมึนกลุ่มนักสำรวจและนักโบราณคดีคนอื่นต่างแหงนเงยขึ้นมองความผิดปกติที่จู่ๆ ก็เกิดขึ้นหลายคนมองเข้าไปยังจุดที่เพิ่งจากมาอย่างเป็นห่วงทั้งสามคนซึ่งยังอยู่ในถ้ำ จะเอายังไงกันดีล่ะอาจารย์กับพวกนั้นยังอยู่ข้างใน นี่ฝนก็ดูท่าจะตกลงมาด้วย นั่นสิ จะมีใครอาสาเข้าไปดูไหม บัดดลลมหอบใหญ่ก็พัดเคลื่อนผ่านอย่างแรงพร้อมหูหลายคู่สดับยินเสียงดนตรีสวรรค์ดังลอยมากับสายลม ตึง...เตรง ง ง ปรื๋อออ...ใครจะเข้าไปก็ตามสบายนะ ฉันขอบายล่ะเสียงดนตรีมาจากไหนก็ไม่รู้กลางป่ากลางเขาแบบนี้ ได้ยินแล้วขนลุกอีกคนในกลุ่มนั้นเอ่ย ทั้งถอยกูดออกจากบริเวณ เอ้ยจะไปไหน... ไม่อยู่แล้ว...ดนตรีผีชัดๆ แล้วคนบางคนในคณะต่างวิ่งตามกันกลับที่พักจะมีเหลืออยู่ไม่กี่คนที่ยังคงยืนรอบุคคลที่ยังหลงเหลืออยู่ในถ้ำด้วยความเป็นห่วง... ภายในถ้ำทุกร่างต่างยืนนิ่งตะลึงหลังอาจารย์หนุ่มยกวัตถุชิ้นซึ่งทำจากไม้ขนาดใหญ่ทั้งท่อนผ่าครึ่งเจาะคว้านไส้ในคล้ายท้องกระดูกงูเรืออีกชิ้นขนาดเล็กกว่าต่อส่วนยาวราวศอก ด้านบนขึงด้วยเส้นโลหะบอกลักษณะว่าเป็นเครื่องดีดที่อัศจรรย์ไปกว่านั้นมอดไม้ต่างไม่เจาะกินให้วัตถุชิ้นนั้นเสียหาย จะใช่เตหน่าของปะกาเกอะยอหรือเปล่าคะอาจารย์ก้อยว่าอีก เพราะไม่ว่าอะไรเธอก็ทายไม่ถูกสักที ไม่น่าจะใช่ เตหน่าเป็นอีกแบบหนึ่ง ด็อกเตอร์ชีวิณพลิกดูวัตถุชิ้นเหมาะมือนั้นแล้วถือโอกาสกรายนิ้วลงบนเส้นโลหะประหนึ่งหมายใจให้เกิดเสียงเพลง เตรง ง ง ครืด ด ด ผนังถ้ำโดยรอบเริ่มเกิดปฏิกิริยาอีกครั้งก่อนจะมีกลุ่มหินก้อนเล็กก้อนใหญ่ร่วงกราวลงมา ผมว่าเรารีบออกจากที่นี่กันเถอะครับอาจารย์อิทธิพลร้องบอก ไม่ต้องให้เตือนซ้ำสองทั้งหมดก็ถลาออกจากตรงนั้นไปอย่างรวดเร็วแต่ด็อกเตอร์ชีวิณมิวายคว้าเครื่องดนตรีชิ้นนั้นติดมืออกมาด้วย อย่างทุลักทุเลก่อนที่ทั้งก้อนดินก้อนหินมากมายจะพังครืนปิดทับโพลงถ้ำจนไม่สามารถจะเข้าไปได้อีก สายฝนร่วงหล่นราวฟ้าเท เช่นเดียวกับสายลมแรงที่พัดจนเต็นท์ไหวเพยิบประหนึ่งเกิดอาเพศขึ้นบนลานเขาสูงลูกนั้น! อาจารย์จะเอายังไงต่อไปครับฝนตกแบบนี้การทำงานของพวกเราคงไปต่อไม่ได้แน่เด็กหนุ่มคนหนึ่งขอความเห็น ผมว่าพวกเรารีบลงเขากันก่อนที่มันจะเทลงมามากว่านี้เถอะครับไหนๆปากถ้ำก็ถูกปิดตายไปแล้ว ประเดี๋ยวผมจะติดต่อชาวบ้านให้เอารถมารับ อีกคนเสริมเพราะเห็นว่าถ้าอยู่นานเต็นท์อาจจะปลิวไปกับลมหอบใหญ่ได้แล้วเครื่องไม้เครื่องมือที่เป็นแผงอิเล็กทรอนิกส์ก็อาจจะเสียหาย รอสักครู่ก่อนถ้าสักชั่วโมงมันยังไม่หยุดเราค่อยอพยพกลับ ด็อกเตอร์ชีวิณเงยหน้ามองฟ้ากว้างที่มัวสลัวไปด้วยเม็ดฝน เขาถอนใจก่อนจะมองกลับมายังท่อนไม้ที่มีเส้นโลหะขึงอยู่ด้านบนประหนึ่งเครื่องสายของดนตรีไทยทว่าความไม่เหมือนกับเครื่องดีดชิ้นใดยิ่งทำให้ชายหนุ่มนึกงง หรือนี่จะเป็นเครื่องดนตรีโบราณ...ต้นตระกูลของเครื่องสายของไทย ถึงนั่นก็เถอะมันน่าจะเสียหายจากระยะเวลาที่ล่วงผ่านมาบ้างแต่นี่ทุกอย่างยังครบพร้อมสมบูรณ์ราวสวรรค์สรรเสกให้มุ้งแก้วครอบเอาไว้อีกชั้น อีกด้านกวินและก้อยบอกกล่าวถึงเหตุการณ์ภายในถ้ำกับความอลังการของความคิดบรรพบุรุษที่สร้างถ้ำซ้อนถ้ำโดยใช้แท่งหินแผ่นใหญ่เป็นกลไกเปิดเชื่อมหากัน นี่แสดงว่าชาวบ้านคนอื่นๆ ไม่รู้ว่าในถ้ำนั่นมีถ้ำอีกถ้ำซ่อนอยู่หญิงสาวคนหนึ่งยกมือขึ้นทาบอกยามสดับฟังคนบรรยายถึงความแปลกประหลาดและงามวิจิตรไม่แม้กับกลไกจุดอัจกลับหน้าแท่นพิธี เหมือนว่าสิ่งที่อาจารย์ได้มาจะเป็นวัตถุบูชาสินะ ใช่เพราะจากที่ดูแล้วคืออยู่บนแท่น มีอัจกลับสองอันตั้งอยู่เหมือนเทียนยังไม่พอตรงกลางยังมีกระถางดินเผามีทรายอยู่ข้างในคล้ายกระถางธูป ถ้าอย่างนั้นก็น่าจะเป็นของบูชาเทพหรือผีบรรพบุรุษ สมมติว่านี่เป็นศิลปะของชาวฮางจริงๆก็ต้องเป็นการบูชาผีมากกว่าเทพเพราะสมัยนั้นตามประวัติศาสตร์ที่พอจะทราบกันมาชาวฮางเป็นชนเผ่าหนึ่งที่อพยพลงมาทางตอนใต้สู่ดินแดนน่านเจ้าน่าจะอยู่ในยุคสมัยราวพุทธศตวรรษที่สิบหรือสิบเอ็ด ร่วมสมัยกับทวารวดีเลยหรืออีกคนถาม น่าจะประมาณนั้นหรือมากกว่านั้น แปลก ถ้าเป็นแบบนั้นจริงทำไมไม้ถึงไม่ผุพังบ้างล่ะหรือไม่มันอาจจะเพิ่งถูกสร้างเพื่อตบตาพวกเราราวปีสองปีนี้ก็ได้ หรือไม่ก็ทายางไม้หรือสารเคมีบางอย่างที่พวกมดมอดหรือแมลงไม่สามารถเจาะได้ ถ้าอย่างนั้นภูมิปัญญาของคนสมัยก่อนก็เยี่ยมมากสิก้อยว่าอย่างนึกทึ่ง เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริง มันก็น่าทึ่งมากเลยนะ ขณะที่ทั้งหมดกำลังวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่นั้นบรรยากาศเบื้องนอกยิ่งอึมครึมหมู่ไม้ใหญ่น้อยโบกโยกตามแรงลมประหนึ่งพายุร้ายจะถล่มพื้นที่แห่งนั้นให้ราบคาบ เวลานั้น! เปรี๊ยะ เปรี้ยง!! ยอดไม้ไม่ห่างจากเต็นท์หักโค่นเสียงฟ้าผ่าดังสนั่นหวั่นไหวกลุ่มบรรดาหญิงสาวยกมือขึ้นปิดหูปิดตากรีดเสียงร้องแข่งกัน
Create Date : 19 มิถุนายน 2557 |
Last Update : 19 มิถุนายน 2557 11:56:17 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1040 Pageviews. |
|
|