Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
10 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 
KASHMIR in Spring #2 ||| GulmarG |||




เหมือนเดิมครับ นำเอากระทู้ที่เคยเขียนไว้ในห้องบลู มาใส่บล็อคตัวเอง

ตอนนี้เราจะไปสัมผัสอากาศหนาวแบบบรรยากาศแบบอินเดียๆกันที่ Gulmarg
Gulmarg จัดว่าเป็นที่ท่องเที่ยวในฤดูหนาวของคนอินเดียเลย เค้าเรียกว่าเป็น the heartland of winter sports in India



หากมาพักศรีนาการ์โปรแกรมทัวร์ก็คงจะไม่หนีกันซักเท่าไหร่
ที่ผมมาเฉพาะศรีนาการ์ 5 วัน 4 คืน โปรแกรมก็จะเป็น Srinagar city tour, Gulmarg, Sonamarg Pahalgam
แต่ถ้าจะไป Leh, Ladakh ก็ต้องบวกไปอีก 2 วันเดินทาง ไม่รวมเที่ยว

เอารูปจากหน้าต่าง houseboat มาก่อนรูปแรก



Gulmarg อยู่ห่างจากศรีนาการ์ 52 กิโลเมตร ขับรถประมาณ 2 ชั่วโมง
จากแผนที่จะเห็นว่าอีกนิดเดียวก็ปากีสถานแล้ว



ก่อนออกเดินทาง กองทัพเดินด้วยท้อง
อาหารเช้าที่เค้าจัดไว้ให้เป็น ไข่เจียว ขนมปังปิ้ง ชา กาแฟ



ที่นี่สามารถจัดโปรแกรมได้ตามใจเรา
ออกเดินทางตอน 9 โมง นึกว่าเราสายแล้ว แต่เวลานี้เป็น rush hour ของเมืองนี้
ถนนแคบๆ เค้าก็ขับสวนกันแบบไม่กลัวชน



นักเรียนที่นี่เข้าเรียนเวลา 9 โมง อีกสาเหตที่ทำให้รถเยอะมาก



ร้านรวงต่างๆเริ่มคึกคักกันแล้ว



ร้านตัดผมอยู่ชั้นสอง ไม่เห็นทางขึ้นเหมือนกันว่าอยู่ตรงไหน



รถยนต์วิ่งไป Gulmarg จะขึ้นเหนือโดยใช้ border road
ถนนสายพรหมแดนระหว่างอินเดีย-ปากีสถาน



ด้วยที่เป็นเขตพิพาท รถทหารก็เลยวิ่งกันขวักไขว่
ทั้งๆที่ตอนไปไม่ได้มีเหตุรุนแรงใดๆ (หรือไม่ได้ยินข่าวก็ไม่รู้)



ตรงไปอีกร้อยกว่ากิโลเป็นปากีสถาน แต่เราเลี้ยวซ้าย ไป Gulmarg



Gulmarg ไปได้ตลอดปีครับ
หน้าหนาวเค้าก็จะเล่นสกีกัน หรือพอหิมะละลายก็จะกลายเป็นกอล์ฟคลับ

ตอนนี้ขับเข้าใกล้ภูเขาหิมะไปเรื่อยๆ



วิวข้างทางสลับกับทุ่งคัสตาร์ทและสวนแอปเปิ้ล ตอนนี้กำลังออกดอกอยู่เลย



ก่อนขึ้นสู่ Gulmarg เค้าบังคับแวะร้านเช่ารองเท้าบูทและเสื้อกันหนาว
พ่อบ้านที่ Houseboat กำชับมาแล้วว่า ให้เช่าแค่รองเท้าก็พอ เพราะหิมะข้างบนยังหนาอยู่

ค่าเช่าคิดว่า 60-100 รูปี จำราคาไม่ได้แหล่ว




ออกจากร้านได้ไกด์ติดมาด้วยหนึ่งคน

พ่อบ้านบอกมาก่อนออกเดินทางแล้วว่าให้จ้างคนนี้
เพราะบน Gulmarg มีไกด์เยอะ เกรงว่าเราจะโดนฟัน


... ยังไงก็โดนฟันอยู่ดี ก็ให้มันฟันไปตรงนี้ทีเดียวเลยแล้วกัน




วิวข้างทาง....ไกด์ก็พากย์ไปเรื่อย
เค้าเป็นชาวบ้านแถวนี้ คนแถวนี้ ถ้าไม่เป็นชาวสวน ก็เป็นไกด์




ทางเข้า Gulmarg ski resort ไม่ค่อยเป็นระเบียบเท่าไหร่ ขยะเยอะมาก หิมะที่ละลาย ก็เริ่มดำๆโคลนๆแล้ว



ระหว่างทาง ก็มีคนมาเสนอขี่ม้า ขี่ลา ลากเลื่อน เสนอตัวเป็นไกด์ สาระพัด
ก็ดีอย่างที่เราโดนฟันมาแล้วเมื่อกี้ เลยไม่ต้องตัดสินใจอะไรอีก

...เดินหูทวนลมไปเรื่อยๆ




เดินมาจนถึงทางขึ้น Gondola
กับตรงนี้ อากาศไม่หนาวเลยซักนิด




Gondola ที่ Gulmarg เป็นกระเช้าที่มีความสูงที่สุดในโลกครับ
the highest cable car in the world, reaching 3,979 metres



กระเช้ามี 2 step คือ
step 1 จาก the Gulmarg resort at 2,600 m ไปที่สถานี Kongdoori
step 2 จาก Kongdoori ขึ้นไปสู่ยอด Kongdoori Mountain, ใกล้ๆกับ Afarwat Peak 4,200 m

สภาพเก่าไปหน่อย กระจกเหลือง ก็เลยถ่ายรูปไม่สวย




ถึง step 1 Gulmarg hill resort แล้วครับ
ชาวอังกฤษเป็นผู้ค้นพบ มีมาตั้งแต่สมัยอังฤษเข้ายึดครองอินเดียประมาณปี1927




สภาพอากาศของ Gulmarg...
หน้าร้อนอุณหภูมิประมาณ 13(min) - 29(max) Degrees Celsius
และหน้าหนาว 2(min) - 9(max) Degrees Celsius

ตอนนี้ปลายๆเมษา แดดร้อนมาก แต่ยังดีที่ข้างบนนี้หิมะยังไม่ละลายเลย
(แต่ถ้าเปรียบเทียบกับที่อื่นเช่น เกาหลี นิวซีแลนด์ ออสเตรีย หิมะที่นี่มันดำๆยังไงไม่รู้)




ถ้าเราใช้บริการลากเลื่อน ก็จะอารมณ์นี้ เดชะบุญที่ไม่เล่น

ส่วนเวลาเดินก็ระวังกับระเบิดกันซักนิด เพราะเห็นเป็นหลุมๆ
แม้ว่าจะอยู่บนหิมะก็ตาม พี่แขกก็ทำได้



นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่ได้คุยด้วย (เค้ามาคุยกับเราเอง) มาจากอินเดียใต้เกือบทั้งนั้น
ไม่ค่อยมีคนประเทศอื่นๆ หรือคนท้องที่เลย



เห็นอีกเทือกเขานึงอยู่ไกลๆ




นอกจากลากเลื่อน ก็ยังมีสกีให้เช่าด้วย แต่สภาพไม่โอเค
จริงๆสิ่งที่ทำให้อารมณ์เสียมากที่สุดก็คือ มารุมขายของจนเสียบรรยากาศการท่องเที่ยว




สรุปให้สำหรับคนที่จะมา เอาทั้งข้อดีข้อเสีย

ที่นี่เหมาะสำหรับ มาเอาบรรยากาศอินเดียๆ หรือ คนที่มาดูหิมะครั้งแรก
หรือมาเห็นเทือกเขาหิมาลัยกับตา

แต่ถ้าคนเคยเห็นหิมะแล้ว อยากมาเล่นสกีที่นี่ ผมว่าคงไม่สนุก



ที่ท่องเที่ยวแถวๆนี้ก็มี gulmarg shiva temple และ gulmarg church
ซึ่งขาลงเค้าก็จะมา (รุม) เสนอให้ขี่ม้าไปดูมั้ย แต่ผมว่าไม่ต้องหรอก เดินไปก็ได้ หรือมองไกลๆก็เห็นครับ

แวะกินอาหารกลางวันร้านอาหารระหว่างทาง




ระหว่างทางกลับศรีนาการ์



มัสยิดระหว่างทาง สถาปัตยกรรมออกมาแนวนี้หมดเลย



ร้านค้า 2 ชั้น ที่ไม่รู้ว่าจะขึ้นไปซื้อของชั้น 2 ตรงไหน




แม่น้ำนี้เค้าบอกว่าไหลเข้าประเทศปากีสถาน



รถประจำทางระหว่างเมือง รถพวกนี้เข้าเมืองศรีนาการ์ทั้งนั้น




ชอบบรรยากาศของเมืองศรีนาการ์มากที่สุด
ไม่สามารถหาเจอได้ที่ไหน




เวลายังเหลือ โชเฟอร์เลยพามาเที่ยวในเมืองศรีนาการ์ต่อ
Jama Masjid มัสยิดที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองนี้



สำหรับผู้หญิง ต้องโพกหัวก่อนเข้าไปข้างในครับ
เสียค่ากล้องถ่ายรูปด้วย แต่จำไม่ได้แล้วว่าเท่าไหร่




เสร็จแล้วแวะซท้อของอีกนิดหน่อย แล้วก็กลับบ้านเรือ

Nagin Lake เวลาน้ำนิ่งๆ จะใสเหมือนกระจกเลยครับ
อย่างที่บอก ว่าคนน้อยและเงียบกว่า Dal Lake มาก



สิ่งที่น่าสนุก (หรือน่ารำคาญสำหรับบางคน) คือพ่อค้าที่พายเรือมาขายของครับ
คุณอาจจะใช้วิชาการต่อราคาได้ที่นี่ พ่อค้าบางคนพูดไทยได้ด้วยนะ

สินค้าเกือบทุกอย่างมีอยู่ในตลาดในศรีนาการ์ ซึ่งราคาถูกกว่า
และบางอย่างก็มีอยู่ที่เดลี ซึ่งราคาถูกกว่ามาก

สินค้าที่มีชื่อเสียงของที่นี่คือ traditional Kashmiri handicrafts หรือ paper mache



จริงๆแล้วศรีนาการ์ไม่อนุญาตให้ดื่มของมึนเมา ซึ่งเป็นปกติของเมืองศาสนาอิสลาม
แต่ก็ผ่อนผันให้เป็นบางพื้นที่ เช่นแถวย่านนักท่องเที่ยว
สำหรับ houseboat เค้าจะถามว่า จะดื่มกี่ขวด ซึ่งเค้าจะไปซื้อมาเตรียมไว้ให้ ราคาขวดละ 200 รูปี (ทีอย่างงี้ล่ะ จำราคาแม่นเชียว)



สำหรับวันต่อไปแพลนไว้ว่าจะไป Sonamarg ซึ่งสวยกว่า Gulmarg มาก
และแพลนไว้ว่า จะตื่นเช้าๆเพื่อที่จะมาดูเรือขายดอกไม้ด้วยครับ



แถมรูปทะเลสาป Nagin Lake ยามเย็นครับ






Create Date : 10 กรกฎาคม 2554
Last Update : 13 มกราคม 2556 15:44:38 น. 0 comments
Counter : 1124 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

titleboi
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]





Friends' blogs
[Add titleboi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.