งาดำสรรพคุณ เมล็ดธัญพืชเล็ก ๆที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร และสรรพคุณในการบำรุงสุขภาพอนามัยจึงทำให้งาดำขึ้นแท่นหมายความว่าหนึ่งในซูเปอร์ฟู้ดที่คนรักพลานามัยไม่ควรพลาดแต่เคยทราบกันบ้างหรือไม่ว่าในเมล็ดเล็กจิ๋วของงาดำแคปซูลนี้มีสารอาหารอะไรและมีประโยชน์อย่างไรกับสุขภาพบ้าง และ งาดำแคปซูลหาซื้อได้ที่ไหน ลองไปดูพร้อมกันเลยดีกว่าจักได้มั่นใจว่างาดำน่ะดีกับอนามัยจริง ๆ
งาดำ ภาษาอังกฤษ คือ BlackSesame Seeds มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Sesamumindicum Linn. เป็นพืชที่มีที่อยู่กำเนิดในแถบประเทศเอธิโอเปียถูกนำเข้ามาในอินเดีย จีน แอฟริกาเหนือ ด้วยกันเอเชียใต้เมื่อประมาณ 2,000ปีก่อน งาดำเป็นงาชนิดเดียวกับงาขาว แม้ว่าแตกต่างกันที่สีของเม็ดเท่านั้นเอง
ในประเทศไทยงาดำถูกนำมาใช้ประโยชน์ทั้งในด้านยารักษาโรคอาหาร ด้วยกันเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเป็นขนม เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพนำไปเติมลงในอาหาร หรือแม้แต่นำไปสกัดเป็นน้ำมันงาดำเนื่องจากอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาพร้อมทั้งมีคุณลักษณะทางอาหารการกินการ
คนโบราณนิยมใช้น้ำมันงาในงานรักษาตัวเองมานานหลายพันปีมาแล้วทั้งในประเทศอินเดียพร้อมทั้งจีน สรรพคุณต่างๆที่รวบรวมได้มีดังนั้น
ในงาดำยังมีโปรตีนบางชนิดที่เป็นกรดอะมิโนจำเป็น ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ช่วยในเรื่องการนอนหลับทำให้หลับพักผ่อนสบาย ช่วยบำรุงกระดูกดูแลรักษาการเกิดโรคกระดูกเปราะกระดูกพรุน ป้องกันการเกิดโรคท้องผูกบรรเทาอาการริดสีดวงทวาร ต้านทานอาการข้ออักเสบ โรคข้อเสื่อมมีสรรพคุณต้านแบคทีเรีย รา และไวรัส ลดการอักเสบ ลดการเกิดการอุดตันของหลอดเลือดใช้กับโรคเรื้อรัง เช่น ตับอักเสบ เบาหวาน และปวดศีรษะเรื้อรังสกัดการเติบโตของเซลล์มะเร็งผิวหนัง และเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ ต้านอนุมูลอิสระใช้กลั้วคอกับบ้วนปากจะลดเชื้อที่ทำให้เกิดเหงือกอักเสบ เชื้อก่อโรคเจ็บคอ และเชื้อหวัดใช้หยอดจมูก (1-2 หยด) เมื่อเป็นไซนัสพบว่าได้ผลดีใช้ทาผิวผู้เป็นโรคสะเก็ดเงินเหรอเรื้อนกวาง (Psoriasis) พร้อมด้วยผู้มีผิวแห้งใช้ทาผิวพร้อมทั้งเคลือบเส้นผมเพื่อดูแลรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดดพร้อมด้วยลมช่วยจับสารพิษในกระแสเลือด ช่วยรักษาเหา ลดอาการปวดตามข้อได้ชาวธิเบตใช้หยดจมูกข้างละ 1 หยดเพื่อช่วยให้นอนหลับพร้อมกับลดความกระวนกระวาย ช่วยระบายท้อง
คุณลักษณะ
งามีไขมันจำเป็นที่ร่างกายสังเคราะห์เองไม่ได้คือกรดไลโนเลอิก ร่างกายจะนำกรดไขมันดังกล่าวไปสร้างฮอโมนพรอสต้าแกลนดินฮีกันซึ่งทำหน้าที่ที่ทรงคุณลักษณะต่อร่างกายมากมายหลายด้านด้วยกัน อาทิ
1. ช่วยขยายหลอดเลือด
2. ช่วยลดความดันโลหิต
3. ป้องกันเกล็ดเลือด(Plate Ket) เกาะกันเป็นลิ่มถ้าเกาะกันมากอาจอุดตันหลอดเลือดเล็กๆได้
- ถ้าอุดตันหลอดเลือดหัวใจก็จะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
- ถ้าลิ่มเลือดไปอุดตันหลอดเลือดสมองก็จะป่วยเป็นอัมพาต อัมพฤกษ์ได้
- ถ้าลิ่มเลือดอุดตันจอตาอาจทำให้ตาบอดได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวานต้องระวัง
4. ยับยั้งไม่ให้ร่างกายสร้างคอเลสเตอรอลมากเกินไป
5. งามีแคลเซี่ยมสูงทำให้กระดูกแข็งแรงเพิ่มความหนาให้มวลกระดูก
- งามีแคลเซี่ยมสูงมากกว่าพฤกษ์ทั่วไปถึง40 เท่า ทั้งยังมีฟอสฟอรัสมากถึง 20เท่า สาร 2ตัวนี้เป็นธาตุสำคัญในการเสริมสร้างกระดูกพร้อมด้วยฟันจึงควรให้เด็กกินงาจะได้เจริญเติบโตสูงใหญ่ สตรีวัยหมดประจำเดือนก็ควรกินงามากๆเนื่องมาจากวัยนี้จะเกิดภาวะพร่องฮอร์โมนเอสโตเจนทำให้มีการดึงแคลเซี่ยมาจากกระดูกพร้อมด้วยฟันจึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคกระดูกพรุน กระดูกเสี่อม
นอกจากนี้ในงายังมีวิตามินอีซึ่งเป็นสารต้านมะเร็ง และเป็นยาอายุวัฒนะทำให้ร่างกายสดชื่น ดูหนุ่ม -สาวและแก่ช้าลง ที่สำคัญ งามีเลซิติน ซึ่งเป็นส่วนประกอบไขมันที่สำคัญมากในเซลล์ประสาทต่อมไร้ท่อ สมอง หัวใจ ไต ควรรับประทานวันละ 1-2ช้อนชา แล้วตามด้วยน้ำอุ่น จะทำให้จิตแจ่มใส อารมณ์ดี
เราจะเห็นว่างานั้นมีประโยชน์มากมายแม้แต่ข้าวปลาอาหารหลักของชาวมังสวิรัติยังขาดงาไม่ได้ เพราะโปรตีนของคนเราประกอบด้วยกรดอมิโนประมาณ22 ชนิดแต่กรดอมิโนที่ตัวเราสร้างเองไม่ได้มีอยู่ 9ชนิดด้วยกัน โปรตีนเหล่านี้มีอยู่ในถั่วเกือบครบถ้วน ยกเว้นกรดอมิโนที่ชื่อเมทไธโอนีน ผMethionine) ซึ่งมีมากในเมล็ดงา
งาดำ กินอย่างไรให้ได้ผลดีที่สุด ?
งาดำมีประโยชน์มากมาย พร้อมทั้งสามารถนำไปเติมในอาหารหรือเครื่องดื่มใด ๆก็ได้ แต่ถ้าอยากให้ร่างกายได้ประโยชน์จากงาดำสูงสุดแนะนำว่าเวลาบริโภคควรเคี้ยวงาดำให้แตกก่อนแล้วค่อยกลืนหรือนำมาบดเป็นผงก่อนแล้วจึงนำมาโรยในอาหาร ก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารจากงาดำมากขึ้น
การทานงาดำเพื่อให้มีผลประโยชน์ต่อร่างมากที่สุดก็คือการบริโภคงาดำเป็นอาหาร แทนที่จะทานงาดำที่เป็นสารสกัดโดยวิธีที่ดีที่สุดก็คือการบริโภคด้วยวิธีการเคี้ยวจะได้ค่ามากที่สุดแต่หากเรานำมาโรยใส่ข้าวไม่ก็ใสเครื่องดื่มในบางครั้งเราอาจจะไม่ได้เคี้ยวด้วยซ้ำจึงทำให้ร่างกายดูดซึมได้ไม่ดีเท่าที่ควรหรือดูดซึมไม่ได้เลยซึ่งวิธีการรับประทานก็ง่าย ๆด้วยการนำงาดำมาใส่กับขนมปังโฮลวีตรับประทานทุกเช้าวันละ 10ช้อนสำหรับผู้สูงอายุ แต่สำหรับคนวัยทำงานก็วันละ 3-4ช้อนก็เพียงพอแล้ว หรือจะอยู่ในรูปของน้ำเต้าหู้งาดำก็ได้เช่นกันแต่การบริโภคที่ดีนั้นควรรับประทานอย่างเหมาะสมพร้อมรับประทานให้ครบ 5หมู่เพื่อให้ร่างกายได้รับผลอย่างสูงสุดและหลากหลายนอกจากการรับประทานแล้วเป็นได้นำเอาน้ำมันงามาใช้นวดทาบริเวณที่มีอาการปวดและแวดเส้นเอ็นที่บาดเจ็บ เพราะว่าน้ำมันงามีคุณค่าที่ช่วยนำพาสมุนไพรชนิดอื่นๆที่ถูกนำมาเคล้าคละดูดซึมเข้าไปได้ดีขึ้น
เวปไซต์ thaiherbweb.com
Line ID @THAIHERBWEB
Line code>>//line.me/ti/p/%40thaiherbweb
เบอร์โทร 0973199029, 0805842717, 021387031, 0863515214
EMAIL thaiherbweb@gmail.com