Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
14 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
เดินทางสู่ศรัทธาและความรัก ตอนที่หนึ่ง











บันทึกการเดินทางสู่ดินแดนศักดิ์สิทธ์ ตอนที่หนึ่ง

การเดินทางไกลอีกครั้งด้วยความตั้งใจ นำความศรัทธาสู่ดินแดนต้นกำเนิดพระพุทธศาสนา มีผู้กล่าวว่าในชีวิตของชาวพุทธ ถ้าสักครั้งได้มาสักการะและตั้งจิตรำลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเป็นความสุขอย่างยิ่งครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้มีโอกาสมาเหยียบดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้.

เมื่อเริ่มต้นการเดินทาง มีให้เลือก 2 เส้นทางคือ ประเทศ เกาหลีหรืออินเดีย เดิมทีเตยเลือกไปเกาหลีอาจจะเป็นเพราะดูหนังเกาหลีมากก็ทำให้อยากไปเที่ยว แต่แล้วก็เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ลังเล เนื่องจากมีคนคัดค้านเตยว่าอากาศที่เกาหลีหนาวมากมีหิมะตกและจะต้องไปพักที่รีสอร์ทเพื่อเล่นสกีท่ามกลางหิมะด้วย เตยสุขภาพไม่แข็งแรงคงจะแย่แน่นอนหากไปเกาหลี ทำให้เตยยกเลิกการเดินทางทั้งหมด คิดว่าคงอยู่ปีใหม่ที่บ้าน

แต่ไม่รู้เป็นเพราะชีวิตนี้ถูกกำหนดไว้ว่าจะต้องได้เดินทางไปชมพูทวีป อยู่ๆก็นึกอยากไปอินเดียขึ้นมา เตยไปปรึกษาเพื่อนๆแล้วลงความเห็นว่าไปอินเดียกันแน่นอน ทุกคนบอกให้เตยเตรียมตัว ทำร่างกายให้แข็งแรง(ก็พยายามอยู่หรอกแต่ช่วงนั้นงานก็มากซะเหลือเกิน นอนดึกๆทุกวัน) จากนั้นก็ติดต่อบริษัททัวร์และเลือกเส้นทางตามรอยพระพุทธเจ้าแต่เนื่องจากเวลาวันหยุดมีแค่ 5 วันทำให้การเดินทางตามรอยพระพุทธองค์ไม่ครบ นอกจากต้องการไปไหว้พระแล้วเตยอยากเห็นประเทศนี้ขึ้นมามากๆเพราะมีศิลปวัฒนธรรมที่สวยงามมาเป็นพันๆปี และอีกที่หนึ่งที่อยากเห็นคือ ทัชมาฮาล

เมื่อตกลงใจว่าไปแน่ๆแล้วคราวนี้ก็ได้รับการบอกเล่าข้อมูลต่างๆมากมายว่า อินเดียไม่สะอาดทั้งอาหาร ผู้คน สถานที่ คนที่เคยไปทำงานที่มุมไบก็บอกว่าท้องเสีย ฝุ่นก็แยะ อากาศก็หนาว จะไปทำไม ทางทัวร์ก็บอกว่าปกติแล้ว อินเดียจะเป็นทางสุดท้ายที่คนจะเลือกไปในช่วงฮอลิเดย์ ส่วนใหญ่ที่ไปก็จะเป็นผู้สูงอายุไปแสวงบุญและจะไปกันมากช่วงเดือนตุลาคม แต่เตยก็ยืนยันจะไปทั้งๆที่ในใจหวั่นๆกับสุขภาพของตัวเองอยู่พอสมควร และในที่สุดก็เดินทางไปจนถึงประเทศอินเดีย.

เครื่องบินลงที่กัลกัตตา เมืองหลวงเก่า ซึ่งเก่าสมชื่อและผู้คนก็มากมาย ถนนหนทางเต็มไปด้วยฝุ่นจริงๆ และสุขอนามัยของผู้คนก็ไม่ค่อยสะอาด แต่ที่นี่คืออินเดีย เราถึงประเทศเค้าแล้วก็ยอมรับได้ ผู้คนอินเดียก็มีท่าทีเป็นมิตร และต้อนรับชาวต่างชาติอย่างคนไทยเราด้วยอัธยาศัยดีงาม

ที่นั่นไกด์ชาวอินเดียชื่อคุณระวีได้รอรับอยู่แล้วด้วยรอยยิ้มและใบหน้าหล่อเหลา (ยังกะพระเอกหนังอินเดีย)พร้อมทั้งมีมาลัยดอกไม้สดมาคล้องคอต้อนรับ ทำให้สาวๆกิ๊วก๊าวกันใหญ่ วันแรกที่ไปถึงต้องนั่งรถไฟต่อไปที่พุทธคยาซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 6-7 ชม. แต่การรถไฟอินเดียขึ้นชื่อเรื่องการไม่ตรงเวลา จึงต้องทำใจนั่งรอไป สอง ชม.กว่าๆ ก็นั่งรอพร้อมชาวภารตะทั้งหลาย ที่สถานีรถไฟกัลกัตตาคล้ายๆหัวลำโพงบ้านเราแต่กว้างกว่าและคนค่อนข้างแน่นและพลุกพล่าน เตยเริ่มปวดหัวและมีไข้เพราะอากาศแออัด ต้องดมยาดมตลอด อาการหนักขึ้นเรื่อยๆ จนรถไฟเทียบชานชาลา.

คราวนี้เหรอ ยัยเตย ได้เห็นขบวนมดผู้คนชาวอินเดียที่พรูลงจากรถไฟเดินกันอย่างรีบเร่ง กว่าขบวนของเตยที่ไปด้วยกันสิบสี่ชีวิตจะฝ่าด่านฝูงมดชาวอินเดียไปได้ เตยก็แทบหมดแรง โดนแขกเบียดถูลู่ถูกัง พอขึ้นไปบนรถไฟได้ที่นั่งเป็นตู้นอนแอร์ชั้นสอง เตยคลานขึ้นไปนอนชั้นบน พร้อมกับกินยาพาราเซทตามอลหลับแบบสลบไปทันที

มาตื่นอีกทีราวๆตอนค่ำๆเพราะมีเสียง เรียกมาตามทางทุกที่นอนว่า มาดามๆ breakfast แล้วก็มีมือยื่นถ้วยซุปร้อนๆมาให้ เตยงัวเงียลุกขึ้นมารับ breakfast ของเค้า ที่เค้าเรียกแบบนี้อาจจะหมายถึงอาหารก่อนอาหารหลักก็ได้ เพราะก่อนทานอาหารหลัก คนอินเดียจะต้องกินซุปร้อนๆก่อนทุกครั้ง บรรดาเพื่อนๆที่ไม่ได้นอนหลับก็นั่งขำเจ้าหน้าที่เสริฟอาหารของอินเดียที่แหวกม่านมาปลุกทุกคนให้กินอาหาร นึกในใจว่าเค้าทำหน้าที่อย่างแข็งขันตามที่ได้รับมอบหมายจริงๆ อาหารของการรถไฟอินเดียทุกอย่างอุ่นร้อนๆ และสะอาด ก็กินกันอย่างหิวและนึกชมว่าอร่อยใช้ได้ กินกันแบบไม่กลัวท้องเสีย (มาคราวนี้เอายาต่างๆเช่น แก้ไข้ แก้ท้องเสียมาพอสมควร).

ในที่สุดเวลาประมาณ ห้าทุ่มของอินเดีย(เวลาที่อินเดียจะช้ากว่าเมืองไทย 1 ชม.ครึ่ง) รถไฟก็มาถึงจุดหมายคือพุทธคยา และก็…พอลงรถไฟที่สถานีท่ามกลางอากาศหนาวสั่น ก็ได้เห็นว่าตลอดทางมีผู้คนนอนระเกะระกะเต็มทางเดินไปทั่ว เวลาเดินต้องระวังจะเหยียบไปบนร่างที่นอนห่มผ้าเก่าๆหนาวสั่นและระวังเหยียบขี้วัวด้วยน่ะสิ ขบวนขอทานก็เริ่มมีมาตามขอ(ทั้งๆที่สงสารแต่ก็ต้องเลี่ยงไม่ให้เงินเพราะไกด์สั่งนักสั่งหนาว่าห้ามให้เด็ดขาด มิฉะนั้นจะโดนขอทานรุมทึ้งแน่ๆ) สภาพประชาชนอินเดีย คนจนจะแยะมาก ที่จนก็จนสุดขั้วและที่รวยก็รวยล้นฟ้า ทำให้เห็นความแตกต่างของชีวิตมนุษย์

นี่คือการมาสัมผัสอินเดียด้วยศรัทธาที่จะมาเห็นและทำจิตใจให้ปลอดโปร่งกับสัจธรรมชีวิตว่าทุกอย่างมีทั้งสองด้าน เตยดีใจที่คิดไม่ผิดที่มาอินเดีย แม้ว่าจะเป็นประเทศที่ไม่สะดวกสบาย และมีแต่คนจน ฝุ่นและกลิ่นไม่พึงปรารถนา แต่มองให้ลึกลงไปจะเห็นความจริงของชีวิตมนุษย์ปรากฏอยู่ แล้วเตยก็เดินหนาวยะเยือกในยามดึกไปขึ้นรถบัสที่ทางทัวร์อินเดียจัดมาพาไปยังวัดไทยพุทธคยา ก็ล่วงเลยไปเวลาประมาณ เที่ยงคืนครึ่งเข้าไปแล้ว

นี่คือวันแรกของการเดินทางสู่ชมพูทวีป ในตอนเหนือของประเทศอินเดีย และเตยจะบันทึกการเดินทางวันต่อๆไปตามมาเรื่อยๆค่ะ.









ตรงนี้อยู่บริเวณประเทศพม่า มองจากท้องฟ้าอะไรๆก็สวยไปหมด





ภายในสถานีรถไฟเมืองกัลกัตตา เตยและเพื่อนๆต้องขึ้นไปนั่งรอบริเวณที่นั่งรอผู้โดยสารชั้น 2 ชมวิวถนนแถวๆนั้นไปพลางๆ





ซุ้มร้านค้าชาวภารตะขายของทั่วไปพวกขนม น้ำเปล่า และบรรดาคิวแท็กซี่อินเดีย รถรุ่นเก่ามาก เมืองไทยหาไม่มีแล้วละรุ่นนี้



ตู้รถนอนแอร์ชั้น2 จะมีที่นอนสองชั้น เจ้าหน้าที่จะเดินแจกผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ปลอกหมอนที่ซักรีดใหม่ แลดูสะอาดตา เตยปีนขึ้นมาหลับบนนี้แหละ



Breakfast ที่เจ้าหน้าการรถไฟอินเดียมาเรียกสะกิดปลุกแทบทุกคนให้กินอาหาร ก่อนหน้านี้จะเป็นซุปร้อนๆหนึ่งถ้วยก่อนแล้วตามด้วยถาดนี้ มี ขนมปัง ชา น้ำผลไม้ แล้วก็ขนมอินเดียรสเหมือนเยลลี่ผลไม้แต่หวานจัง



อีกประมาณ 20 นาทีต่อมา breakfast ของอินเดียยังไม่ทันย่อย Dinner ก็ตามมาอันประกอบด้วย ข้าวผัด ปลาทอด จาปาตี(โรตี) แกงมัสมั่นไก่และผลไม้ มีช้อนส้อมมาครบ พวกเรากลัวไม่มีช้อนกิน ก็เอาช้อนติดตัวกันไปด้วย แต่ไปถึงไม่มีปัญหาเรื่องช้อนเลย (อ่านจากอินเตอร์เนต เค้าบอกให้เตรียมไปหลายอย่าง) รสชาดอาหารก็พอทานได้ เตยทานไปไม่มากเนื่องจากยังอิ่มและยังเพลียๆอยู่จากพิษไข้ แต่ที่ตบท้ายนี่สิ อร่อยที่สุดเลยก็คือ ไอศครีมนมสด คนอินเดียจะนิยมทานกันมาก ไกด์บอกยี่ห้อที่ฮิตคือ Amul อร่อยจริงๆเพราะทำจากน้ำนมสดๆ ก็เมืองเค้ามีวัวแยะนี่นา ขนาดวัวเดินไปทั่วเมือง ไม่เว้นแม้แต่สี่แยกไฟแดง











Create Date : 14 มกราคม 2552
Last Update : 5 ตุลาคม 2552 17:20:12 น. 12 comments
Counter : 841 Pageviews.

 
โหเตยจะพาไปดูง๋อคงร๋อ
อ๋อทริปนี้เรียกว่าทริปง๋อคงผจญภัยร๋อ
ดูจากที่หลับที่นอนที่กินก็รู้ว่าสบาย
เที่ยวแบบสบายๆแบบนี้ดีนะ ไม่เหนื่อยดี
เที่ยวไปนอนเอาแรงไป
ฉานชอบอินเดีย
ฉานรักอินตะละเดี๋ย
ฉานจะรออ่านตอนต่อไปนะนาย
ตอนนี้ขอบังไปขายถั่วทอดก่อนนะนาย

โอ..ถั่วๆๆๆ ถั่วทอดหม่ายๆจ้า
อินี้ฉานทอดเองนะนาย


โดย: maczy วันที่: 15 มกราคม 2552 เวลา:17:57:50 น.  

 
ตามคุณเตยไปเที่ยวอินเดียด้วยคนค่ะ

อาหารเครื่องดื่มเพียบเลยค่ะ
คงอร่อยแน่ๆเลยใช่เปล่าคุณเตย


โดย: แม่น้องKevin and Jasmin วันที่: 23 มกราคม 2552 เวลา:15:15:05 น.  

 
น่านสิคุณเตยอากาศหนาวๆรักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ


โดย: แม่น้องKevin and Jasmin วันที่: 30 มกราคม 2552 เวลา:4:21:30 น.  

 
อยากไปจังเลยน่ะแต่ผู้หญิงไปไม่ค่อยปลอดภัยค่ะ ดูแลตัวเองด้วยน่ะค่ะ


โดย: ni (ชีวิตจริง ) วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:52:55 น.  

 
กลับมายังค่ะเนี้ย อยากรู้จักตอนนี้อยู่ที่ไหนเนี้ย ไปไกลหรือเปล่า


โดย: ni (ชีวิตจริง ) วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:7:17:10 น.  

 
ตามอ่านอยู่ค่ะ


โดย: ni (ชีวิตจริง ) วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:18:48:21 น.  

 
แวะมาชวนคุณเตยไปตะลุยหิมะบนเขาด้วยกันค่ะ
คุณเตยสบายดีนะค่ะ


โดย: แม่น้องKevin and Jasmin วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:4:20:40 น.  

 
จ๋าก็เขียนมาจากใจเลยอะ ขอบคุณค่ะที่ยังแวะไปค่ะ


โดย: ni (ชีวิตจริง ) วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:12:52:08 น.  

 
โห......คุณเตยไปผจญภัยในแดนบุญ
ตอนนี้กลับมารึยังคะเนี่ย


แต่อ่านแล้วก็เป็นห่วงมากๆ เลยค่ะ
ยังไงก็ขอให้เดินทางอย่างราบรื่น พบความสุขสงบตามที่หวัง
และกลับมาบ้านอย่างปลอดภัย
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ


โดย: กี๋พกแป้ง วันที่: 12 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:20:53 น.  

 
มาบอกว่าวันก่อนกี๋กินกาแฟกะข้าวต้มมัดเหมือนคุณเตยเลยแหละ

ไส้เผือกด้วยอ่ะค่ะ หล่อยๆๆ อยากกิงอีก


โดย: กี๋พกแป้ง วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:2:56:20 น.  

 
เมื่อไหร่อัพซะทีอ่ะ
อัพพร้อมกานมะ กั่กๆๆๆ


โดย: maczy วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:19:25:07 น.  

 
อัพบ๊อกกานม๊า
อัพม๊า อัพม๊า


โดย: maczy วันที่: 4 มิถุนายน 2552 เวลา:20:44:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

terrynop
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นลูกพระอาทิตย์ อยากไปเดินท่อมๆ หลายๆแห่งในโลกนี้ ไปมามั่งแล้วละ แต่ก็ยังอยากไปอีกเรื่อยๆ

Visitors








Friends' blogs
[Add terrynop's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.