ชั้นคือ Desperate Housewife
ขอบ่นหน่อยนะ
และแล้วก็แห้วงานนี้ อยากทำมากถึงขีดสุด ก็รู้ตัวความสามารถไม่ถึง สอบข้อเขียนก็ง่อนแง่น ตอนสัมภาษณ์ก็ไม่เซลฟ์ แต่แหมขอโอกาสหน่อยไม่ได้เหรอ
แต่เราก็เข้าใจ บริษัทระดับนี้เค้าคงมีตัวเลือกเยอะแหละ ไม่จำเป็นจะต้องมาเสียเวลากับคนที่ไม่ใช่
เลยมีอาการเหมือนคนอกหัก ซึมเศร้า เบื่ออาหาร ส่งผลให้น้ำหนักลดลง ทั้งๆ ที่วันทั้งวันแทบไม่ได้ใช้พลังงานอะไรเลย
รายการอาหารประจำวัน สาย ขนมปังทาเนยถั่วหนึ่งแผ่นกับนมหนึ่งแก้ว บ่าย ปลาทูน่ากระป๋อง (เนื้อล้วนๆ) กับโค้กใส่น้ำแข็งเยอะๆ หนึ่งแก้วใหญ่ เย็น น้ำแครอท ดึก นมเปรี้ยว จบแล้วหนึ่งวัน ฟิ้ววว
ปกติมื้อเย็น เราจะรอคุณอ้วนกลับมาจากทำงานแล้วก็ขี่จักรยานไปหาของกินกัน แต่ช่วงนี้คุณอ้วนงานยุ่งมากเลยกินมื้อเย็นที่ออฟฟิสซะก่อน แล้วนั่งทำงานต่อถึงห้าทุ่ม
มื้อเย็นที่เรารอคอยก็เลยเหลือแค่ น้ำแครอท เพราะไม่อยากไปฟู้ดคอร์ทคนเดียว
จะให้ทำอาหารเองก็เบื่อ ที่ผ่านมาก็วนๆ เวียนๆ อยู่แค่ผัดกะเพรา ยำไข่ดาว ไข่น้ำ ต้มยำไข่เจียว (คิดไปคิดมามีแต่เมนูไข่นะเนี่ย)
ก็เพราะอะไรล่ะ ก็ซุปเปอร์มาร์เกตแถวบ้านเรามันไม่อลังการเลยอ้ะ มุมผักก็มีอยู่กระจึ๋งนึง ส่วนมุมเนื้อนี่ เลยช่วงเย็นไปก็โล่งเหลือแต่ชั้นเปล่าๆ เลยซื้อมาตุนได้แค่ ไข่
ถ้าจะไปซุปเปอร์ใหญ่ๆ ก็ต้องนั่งรถไปน่ะ เดินไปรอรถ นั่งรถ ซื้อของ จ่ายเงินเสร็จ รอรถ นั่งรถกลับ ถึงบ้าน เตรียมของ ลงมือทำ ทำเสร็จ เก็บเครื่องครัวล้าง โหยยย กว่าจะได้กิน
เนี่ยน๊า ไม่มีคุณสมบัติเป็นแม่บ้านที่ดีเลยเรา ถึงได้พยายามหางานทำอยู่นี่ไง
ตอนไปสัมภาษณ์งาน คนสัมภาษณ์บอกว่าเรานี่เป็นพวก tai tai housewives เราก็ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร แม่บ้านคนไทยเหรอ เค้าก็อธิบายว่า เป็นลักษณะของแม่บ้านที่สามีมีรายได้มาก ก็ไม่ต้องทำอะไร เที่ยว ช็อปปิ้ง รับส่งลูก รอสามีกลับบ้าน
จะบ้าเหรอ ไม่เคยมีไลฟ์สไตล์แบบนั้นเลย อย่างแรกชั้นยังไม่มีลูกให้รับส่ง อย่างที่สองชั้นไม่เคยได้ช็อปปิ้งอย่างสบายใจเลยช่วงที่ไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง แบบว่าเห็นรองเท้าหรูหรากลามัว ก็อยากได้ แต่คิดไปคิดมาจะใส่ไปไหนฟะ เลยได้มาแต่รองเท้าแตะไว้ใส่ไปชายหาด ง่าาา อยากซื้อเครื่องสำอางก็ไม่รู้จะแต่งไปทำไม จะโบ๊ะหน้าไปฟู้ดคอร์ทก็เสียดายแป้ง
บ่นบ่นบ่น ไม่รู้ว่าอยากจะทำงานจริงๆ หรืออยากจะมีงานไว้เป็นข้ออ้างเรื่องช็อปปิ้ง มีงานไว้ปัดความรับผิดชอบเรื่องงานบ้านกันแน่
เมื่อคืนคุยกับคุณอ้วนว่าเราควรจะเปลี่ยนแนวทางการเลือกสมัครงานดีมั้ยเพราะมันก็ยากที่จะเปลี่ยนสายงานในตอนนี้ เราเรียนมาก็จริงแต่ไม่มีประสบการณ์ทำงานด้านนี้เลย แถมเรายังเป็นคนต่างชาติอีก พูดจีนก็ไม่ได้
จริงๆ เราควรเริ่มหางานในสายงานที่เรามีประสบการณ์ก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนอีกที ตอนจบโทแล้ว จะดีกว่ามั้ย
พอคุยกันถึงตรงนี้ จิ้งจกก็ร้อง จิ๊กๆๆ จิ๊กๆๆ เราก็นึกในใจ จิ้งจกทักแล้ว (แปลว่าดีหรือไม่ดีนะ)
คุณอ้วนเงียบไปพักนึง แล้วก็ถามว่า "ได้ยินเสียงอะไรมั้ย มีนกอยู่ในห้องเหรอ นกเข้ามาได้ไง"
เจ้าข้าเอ๊ย คนญี่ปุ่น ไม่เคยได้ยินเสียงจิ้งจก ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เราก็บอก "ไม่ใช่นก ก็ตัวที่ชอบเกาะกำแพงไง"
คุณอ้วนก็ "เหรอ ตัวที่ตาแป๋วๆ มันร้องได้ด้วยเหรอ"
เรา "เฮ่อ"
คุณอ้วน "น่ารักจัง ตาแป๋วๆ ปากแหลม แล้วก็ร้องเหมือนนก ตัดสินใจเลี้ยงตัวนี้แหละ มันกินแมลงใช่มั้ย"
!!! จากวิสัยทัศน์คุณสามี เราคงไม่มีโอกาสเป็น tai tai housewife แล้วแหละ เป็นได้แค่ Desperate Housewife
Create Date : 19 มิถุนายน 2551 |
|
6 comments |
Last Update : 19 มิถุนายน 2551 15:05:35 น. |
Counter : 449 Pageviews. |
|
|
|
ท้อได้แต่อย่าถอยค่ะ สมัครไปเรื่อย ๆ สักวันนึง โอกาสมันต้องเป็นของเรา
เป็นกำลังใจให้นะคะ