คิดถึงสุนัขตัวหนึงพันอิงลิชค๊อกเกอร์สีน้ำตาลอ่อนออกทอง เธอชื่อ "ซูฉี"
เธอน่ารักมาก แสนรู้เราเลี้ยงเธอมาตั้งแต่เธอยังเล็กๆตัวผอมเราซื้อเธอมาจากจตุจักร ช่วงนั้นอากาศมันร้อนมากมีแม่ค้าคนหนึ่งเอาเธอใส่ไว้ในตะกร้าเล็กๆ เธอยืนสั่นมองหน้าเราเหมือนขอความช่วยเหลือ ตอนนั้นเรากะว่าแค่จะไปเดินเล่นก็ไม่ได้เตรียมเงินไปมาก เราถามแม่ค้าว่าจะให้เราได้เท่าไหร่ แม่ค้าบอก 3000 เราก็นับเงินดูว่าถึงหรือไม่เรากะว่าถ้าไม่มีก็ตัดใจ ปรากฏว่าเรามีแค่ 2000 เราบอกแม่ค้าว่าเราอยากได้เค้าไปเลี้ยงนะ แต่มีแค่ 2000 จะให้เราได้ไหมเค้าบอกตกลง เราดีใจมากเราสงสารเธอมาก เธอผอมจนเห็นกะดูกซี่โครงเลย เราบอกกับเธอว่าเราจะดูแลเธอให้ดีที่สุดไม่ยังงัยเราจะดูแลเธอจนแก่เฒ่า แต่แล้ววันหนึ่งแม่เราบินมาจากอังกฤษมาซื้อบ้านอยู่ที่พัทยาบอกจะให้เราไปอยู่ด้วย เราก็บอกว่าต้องเอาเธอไปอยู่ด้วยแม่ก็ตกลง พอเราย้ายไปอยู่ที่พัทยา เธอซุกซนมาก คุ้ยต้นไม้ อาบน้ำในบ่อบัวเป็นประจำเราก็ว่าเธอน่ารักดี เพราะที่เธอทำมันนิดหน่อยเองต้นไม่ก็ถึงกับหลุดออกมาเธอคุ้ยแค่ข้างๆนิดหน่อย ส่วนบ่อบัวเธอลงไปอาบข้างๆตรงขอบบัวก็ไม่เสียหาย แต่ว่าพอดีน้องชายมาอยู่ด้วยเค้าเป็นรูปครึ่งแม่รักเค้ามากแล้วก็รักสุนัขของเค้าด้วยไม่ว่าสุนัขเค้าจะทำอะไรก็ดีไปหมด วันหนึงเราไม่อยู่บ้านกว่าจะกลับก็ช่วงเย็นพอดี เรากลับมาไม่เห็นเธอออกมารับเรา ก็แปลกใจว่าเธอเป็นอะไรหรือเปล่าเรียกหาเธออยู่นานเราเลยไปถามน้า น้าบอกว่าแม่ยกเธอให้คนอื่นไปแล้ว แล้วคนอื่นคนนั้นก็ไม่สนิทกันเท่าไหร่นักเห็นเค้าบอกอยากได้แม่ก็ยกให้เค้าไปเลย เราได้ยินแล้วแทบทรุดเราเลี้ยงและดูแลเธอมาตั้ง 3-4ปีเราผูกพันธ์กับเธอมากทำไมแม่ใจร้ายกับเรามากเลย ยิ่งเขียนก็ยิ่งคิดถึงเธออย่าบอกไม่ถูกเลย ป่านนี้เธอจะเป็นอย่างไรบ้าง นี่ก็ผ่านไปอีกปีแล้วเราคิดถึงเธอตลอดเลยนี่ก็ครบรอบที่เธอจากไป 3ปีแล้ว...

ทำไมแม่ถึงใจร้ายอย่างนี้ แอบทำลับหลังลูก แย่มากๆ

เรากะแม่ไม่เคยอยู่ด้วยกันมาก่อนคะ เพิ่งจะมาอยู่ตอนเราอายุ 26 ปีเองแม่ทิ้งเราไปตั้งแต่เราอายุได้ 3ขวบ ทิ้งเราไปแต่งงานใหม่กะฝรั่งตาน้ำข้าวแล้วไม่เคยมาหาเราอีกเลยเพิ่งจะมานี่แหละ กลับมาก็มาทำร้ายความรู้สึกกันแบบนี้เลย..

คิดว่า เขาคงดูแลมันอย่างสุขสบาย ..

ก็พยามคิดอย่างนั้นค่ะ เคยไปตามหาที่บ้านเค้า เค้าบอกว่าบินไปเยอรมันกันทั้งครอบครัวแล้ว เราถามคนดูแลบ้านแล้วสุนัขล่ะ เค้าบอกไม่รู้ แล้วคิดยังงัยดีค่ะ....

อ่านแล้วเศร้าจัง...

สงสาร..."ซูฉี"...